สำหรับครอบครัวใดก็ตามที่มีน้องแมวร่วมอาศัยอยู่ด้วย สิ่งที่จะขาดไม่ได้อย่างแน่นอนเลยก็คือ "อาหารแมว" โดยปกติแล้วอาหารแมวจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ อาหารแมวแบบแห้งที่มาในรูปลักษณ์ของอาหารเม็ดสุดคลาสสิก และอาหารแมวแบบเปียกที่มาในรูปแบบอาหารซองหรืออาหารกระป๋อง ทั้งสองแบบนี้ล้วนแล้วแต่มีวางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งอาหารแมวมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน และแต่ละเจ้าก็ขยันพัฒนาสูตรต่าง ๆ ออกมาให้ทาสแมวทั้งหลายได้ทดลองเลือกไปให้น้องแมวได้ทดลอง ซึ่งจะเลือกยี่ห้อไหน รสไหนดีนั้น อาจจะทำให้ทาสทั้งหลายเกิดอาการสับสนได้
แต่วันนี้ทางทีมงานได้รวบรวมข้อมูลในการเลือกซื้ออาหารแมวมาอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับน้องแมวของคุณ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าวิธีในการเลือกอาหารแมวจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
ก่อนที่จะนำอาหารแมวแต่ละยี่ห้อมาเปรียบเทียบกัน เพื่อดูว่ายี่ห้อไหนน่าหยิบจับมากที่สุด มาดูกันว่า 6 สิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึงเสมอก่อนที่จะเลือกซื้ออาหารแมวค่ะ
ตามที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น ว่าอาหารแมวว่ามีอยู่ด้วยกันหลัก ๆ 2 แบบ มาดูกันดีกว่าว่าคุณสมบัติที่โดดเด่นของแต่ละแบบคืออะไรบ้าง
ถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาและความสะดวกในการเก็บรักษาแล้วล่ะก็ อาหารแมวแบบแห้งคือคำตอบของคุณค่ะ ! ด้วยความที่อาหารแมวประเภทนี้มีราคาไม่สูงมาก ทำให้แม้ว่าน้องแมวที่บ้านจะกินเก่งแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าเปลือง แถมยังสามารถเก็บรักษาเอาไว้ได้นานแม้ว่าจะบรรจุภัณฑ์จะถูกเปิดใช้งานแล้ว
ข้อดีอีกหนึ่งอย่างก็คือ อาหารเม็ดมีสารอาหารจำเป็นสำหรับน้องแมวอย่างครบถ้วน ทำให้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทานในปริมาณที่สูง แต่น้องแมวจะไม่ขาดสารอาหารแน่นอน เจ้าของเพียงต้องคอยควบคุมปริมาณอาหารเม็ดที่น้องแมวควรได้รับต่อวัน ไม่เช่นนั้นน้องแมวอาจจะลงพุงได้ แถมถ้าน้องกินเก่งเกินไป หากทาสคนใดงบไม่หนาพอ จากที่ควรจะประหยัดงบก็จะกลายเป็นว่าเปลืองงบแทนได้นะคะ
ถ้าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องของรสชาติ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับร่างกายของน้องแมวว่าจะขาดน้ำหรือไม่ เราขอแนะนำให้คุณเลือกอาหารแบบเปียก ที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำถึง 80% ในขณะที่อาหารแห้งมีอยู่เพียง 10% เท่านั้น อาหารแมวแบบเปียกมักมีกลิ่นและรสสัมผัสที่ดี น้องแมวหลงรักได้ง่ายและเป็นแบบที่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับแมวที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ
อาหารเปียกนั้นอยู่ในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบกระป๋อง แบบถาด หรือแบบซอง คุณสามารถเลือกรูปแบบที่ชอบได้ตามความต้องการ ข้อเสียที่เด่นชัดที่สุดของอาหารแมวแบบนี้คือ หลังจากที่เปิดบรรจุภัณฑ์แล้วจะบูดเร็ว ควรให้น้องแมวกินให้หมดในคราวเดียว ที่สำคัญคือมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับเจ้าของที่งบน้อยสักเท่าไร
การให้น้องแมวกินแต่อาหารเปียกอย่างเดียว ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากให้แต่อาหารแห้ง น้องก็จะพานเบื่อเสียเปล่า ๆ เพราะฉะนั้นการให้ทั้งสองแบบควบคู่กันไป จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว โดยคุณอาจจะใช้อาหารแมวทั้ง 2 แบบผสมกัน ด้วยการใช้อาหารแห้งรองไว้ด้านล่าง แล้วโปะด้วยอาหารเปียกไว้ด้านบน หรือจะสลับสับเปลี่ยนรูปแบบในการให้แต่ละวันก็ได้ ขอเพียงแค่อย่าลืมคำนวณอัตราส่วนในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้น้องแมวเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารหรือลงพุงจนเกินไปก็พอค่ะ
อาหารแมวมีการผลิตออกมาในสูตรที่แตกต่างกัน เพื่อให้รองรับต่อความต้องการของน้องแมวแต่ละตัว เพราะแม้จะเป็นแมวเหมือนกัน แต่ก็มีสภาพร่างกายที่แตกต่างกันออกไป เจ้าของจึงต้องให้ความสำคัญในการเลือกสูตรอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับน้องแมว
หากต้องการให้น้องแมวมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ควรเลือกใช้อาหารแมว "สูตรสารอาหารครบถ้วน" เป็นอาหารมื้อหลักให้กับน้องแมวในทุก ๆ วัน อาหารแมวสูตรสารอาหารครบถ้วนนั้น จะช่วยให้น้องแมวสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยอาศัยแค่น้ำและอาหารเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีอาหารเสริมอื่น ๆ ให้วุ่นวายใจ แต่เจ้าของควรศึกษาให้ดี ว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อมีความน่าเชื่อถือได้จริง โดยอาจเลือกจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียงไว้ใจได้ ปกติแล้ว อาหารสูตรนี้มีวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบของแบบแห้งและแบบเปียก เจ้าของจึงสามารถเลือกซื้อตามที่ต้องการได้เลย
หากคุณต้องการช่วยให้น้องแมวปลอดภัยห่างไกลจากโรคต่าง ๆ คุณควรเลือกอาหารแมวสูตรสำหรับโภชนบำบัด คุณสามารถหาซื้ออาหารสูตรนี้ได้เอง ตามร้านทั่วไปหรือในระบบออนไลน์ แต่เราขอแนะนำให้คุณซื้อผ่านทางโรงพยาบาลสัตว์โดยเข้ารับคำแนะนำของสัตวแพทย์ก่อน หากคุณให้อาหารสูตรนี้กับน้องแมวโดยไม่มีองค์ความรู้ประกอบ น้องแมวอาจได้รับผลข้างเคียงจากการทานอาหารอย่างผิด ๆ จนเกิดเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราแนะนำให้คุณซื้อกับทางโรงพยาบาลโดยตรง
อาหารสูตรโภชนาบำบัด มีวางจำหน่ายในหลากหลายสูตรด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สูตรบำรุงระบบขับถ่าย, บำรุงตับ, บำรุงไต ตลอดจนสูตรไดเอทสำหรับลดน้ำหนักของน้องแมว
อาหารสูตรทั่วไปนี้ เราอาจใช้คำว่า "ขนมแมว" เรียกแทนได้ เพราะเป็นสูตรที่ไม่ได้มีสารอาหารอะไรเป็นพิเศษ แต่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่ยั่วยวนใจต่อน้องแมวเป็นอย่างมาก เรามักใช้อาหารสูตรนี้เพื่อเป็นท็อปปิ้งในอาหารปกติของน้อง ช่วยให้น้องแมวรู้สึกอยากอาหาร หรือใช้ในตอนที่เราอยากจะให้รางวัลกับน้องแมว เวลาที่เราฝึกน้องให้ทำตามคำสั่ง ซึ่งรูปแบบของขนมแมวที่แนะนำคือ แบบเปียก
ข้อควรระวังคือเราไม่ควรให้ขนมแมวกับน้องบ่อยจนเกินไป เพราะส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีสารอาหารที่จำเป็นเหมือนอย่างอาหารแมวสูตรอื่น ๆ แม้ว่าน้องจะชอบมากและทานได้ง่าย แต่อาหารแมวที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนก็ยังถือว่าให้คุณค่าทางอาหารได้อย่างครบถ้วนแล้ว
อาหารแมวหลากหลายยี่ห้อได้ให้ความคำนึงถึงช่วงอายุของน้อง ๆ เป็นสำคัญ หากคุณเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เอาใจใส่ในจุดนี้แล้วล่ะก็ เรามาเลือกอาหารให้เหมาะสมสำหรับช่วงวัยของน้องแมวมากที่สุดกันเถอะค่ะ !
อาหารแมวสูตรสำหรับลูกแมว อุดมไปด้วยโปรตีนและแคลเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของน้อง ๆ แต่ลูกแมวที่พึ่งหย่านมจะยังไม่คุ้นเคยกับอาหารแมวทั่ว ๆ ไปเท่าไหร่นัก เราจึงต้องค่อย ๆ ให้น้องทำความคุ้นเคยกับอาหารแบบใหม่เสียก่อน โดยเริ่มต้นจากการป้อนอาหารเปียกสูตรสำหรับลูกแมว ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนไปให้อาหารเม็ดภายหลัง อาจจะต้องค่อย ๆ เปลี่ยนโดยการนำมาผสมกับอาหารเปียก แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณอาหารเม็ดขึ้นเรื่อย ๆ จนน้องเริ่มชินค่ะ
น้องแมวมีความเร็วในการเจริญเติบโตที่ไม่เท่ากัน แต่เมื่อน้อง ๆ ก้าวเข้าสู่ช่วงอายุ 1 ปี ก็จะถือว่าน้องอยู่ในช่วงวัยของแมวโต ซึ่งอาหารสำหรับแมวโตนั้นมีวางจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด เจ้าของสามารถเลือกซื้อยี่ห้อที่ชอบให้กับน้องแมว ตามความต้องการของตนเองได้เลยค่ะ
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงอายุ น้องแมวจะมีความเสี่ยงที่จะป่วยจากโรคต่าง ๆ มากมาย แถมด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิม ทำให้น้องลดการเคลื่อนไหวร่างกายลง จนเสี่ยงที่จะมีปริมาณแคลอรี่ในร่างกายสูง อาหารที่เหมาะสำหรับน้องแมวในวัยนี้ ต้องเป็นอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะป่วย มีไขมันต่ำ โดยเจ้าของควรเปลี่ยนจากสูตรอาหารแมวโตปกติ มาเป็นสูตรสำหรับแมวแก่ทันที เมื่อน้องแมวเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 7 ปี เพื่อให้น้องรู้สึกคุ้นเคยกับอาหาร รวมถึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพของน้องด้วยค่ะ
นอกจากการคำนึงถึงเรื่องช่วงวัยของน้องแมวแล้ว สภาพร่างกายและลักษณะการใช้ชีวิตของน้องแมว ยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คุณสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์เพื่อเลือกอาหารให้กับน้องได้ เจ้าของที่ดีควรเข้าใจสภาพร่างกายและการใช้ชีวิตของแมวตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมสำหรับน้องแมวค่ะ
อาหารแมวทั้งสองสูตรมีจุดที่เหมือนกัน นั่นคือมีปริมาณแคลอรี่ต่ำทั้งคู่ แต่มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยอาหารแมว "สูตรสำหรับแมวในบ้าน" มีไว้ให้น้องแมวที่อยู่แต่ในบ้านและไม่ค่อยวิ่งเล่น จนเสี่ยงที่จะลงพุง ส่วน "สูตรไดเอท" มีไว้ให้สำหรับน้องแมวที่ปัจจุบันอ้วนลงพุง แล้วต้องการลดน้ำหนักนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม น้องแมวแต่ละตัวก็มีสภาพร่างกายและพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น อย่าลืมคำนวณปริมาณในการให้อาหารน้องแมวของตัวเองทุกครั้งด้วยนะคะ
เจ้าของมักจะพาน้องแมวเข้ารับการคุมกำเนิดหรือผ่าตัดทำหมัน หลังจากที่น้องแมวเริ่มมีอาการฮีทครั้งแรก ตอนอายุราว ๆ 6 เดือน ซึ่งหลังการคุมกำเนิดหรือผ่าตัดทำหมัน จะส่งผลทำให้ฮอร์โมนในร่างกายของน้องเสียสมดุล เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว น้องแมวจะเสี่ยงต่อการลงพุงมากยิ่งขึ้น เจ้าของจึงควรที่จะควบคุมน้ำหนักของน้องทันที หลังจากที่มีการคุมกำเนิดหรือผ่าตัดทำหมัน เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของน้องแมว ด้วย "อาหารสูตรแคลอรี่ต่ำ" ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับน้องแมวในกรณีนี้ แต่ควรระมัดระวังว่าถ้าหากเปลี่ยนสูตรอาหารปุบปับน้องอาจจะไม่ปลื้มได้ เพราะฉะนั้นจะต้องค่อย ๆ เปลี่ยนสูตรอาหารเพื่อให้น้องเคยชินด้วยนะคะ
น้องแมวเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบการเลียขนตัวเอง บางครั้งจึงทำให้น้องสำรอกเอาก้อนขนตัวเองออกมา ยิ่งเป็นแมวพันธุ์ที่ขนยาวมากเท่าไร ก็ยิ่งพบกับปัญหานี้มากเท่านั้น หากเจ้าของพบว่า น้องกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ เราขอแนะนำให้ใช้อาหารแมวสูตรที่ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง เพื่อช่วยขจัดก้อนขนที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ของน้อง เจ้าของจะต้องพึงระวังว่าถ้าเอาใจใส่กับปัญหานี้ไม่เพียงพอ เมื่อเวลาผ่านไปน้องแมวก็จะมีก้อนขนสะสมในลำไส้เพิ่มมากขึ้น จนเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายตามมาได้นะคะ
ร่างกายของน้องแมวถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แม้ว่าจะได้รับน้ำในปริมาณที่น้อยต่อวัน นั่นจึงเป็นเหมือนดาบสองคมสำหรับตัวน้อง เพราะเมื่อไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำมากก็ได้ ทำให้แมวบางตัวที่ไม่ชอบดื่มน้ำ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดกับอวัยวะของระบบขับถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น กระเพาะปัสสาวะ, ไตหรือท่อไต ฯลฯ
อาหารสูตรนี้จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้น้องแมวเสี่ยงต่อปัญหาทางด้านอวัยวะของระบบขับถ่าย ด้วยการปรับเปลี่ยนปริมาณของแมกนีเซียมและส่วนประกอบอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการบำรุงและดูแลอวัยวะเหล่านั้น หากเจ้าของต้องการเริ่มใช้อาหารสูตรนี้ ควรมีการปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน เพื่ออ้างอิงประวัติด้านสุขภาพและความเจ็บป่วยของน้องก่อนหน้านี้ จะได้ให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะได้
เพื่อให้น้อง ๆ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ความรู้และเข้าใจในวัตถุดิบที่ถูกหยิบมาปรุงเป็นอาหารแมวก็สำคัญ แต่สำหรับผู้บริโภคแล้ว การจะเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องบางครั้งอาจเป็นเรื่องที่ยาก เพราะข้อมูลที่เราได้อาจไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องเสมอไป เพราะฉะนั้นเรามาเรียนรู้เรื่องของวัตถุดิบ โดยอ้างอิงข้อมูล 2 ส่วนหลัก ๆ ดังต่อไปนี้กันดีกว่า
สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงในเรื่องของวัตถุดิบหลักคือ "อาการแพ้" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาหารแมวมักมีการใช้เนื้อไก่หรือเนื้อวัวเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งทั้งสองตัวนี้ก็สามารถก่อให้เกิดอาหารแพ้ในแมวบางตัวได้
อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ อาหารแมวจำพวกที่ปราศจากธัญพืช (Grain Free) ก็กำลังเป็นที่นิยมอยู่เช่นกัน เพราะนอกจากจะใช้กับน้องแมวที่มีอาการแพ้ธัญพืชได้ดีแล้ว น้องแมวปกติก็สามารถเพลิดเพลินกับอาหารแมวรูปแบบนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่ย่อยง่ายและใช้ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ดีนั่นเอง
หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับอาหารที่มีการแต่งเติมด้วยสารเติมแต่ง และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ (ทำจากเศษอาหาร ของเหลือ) เพราะคิดว่ามีอันตรายต่อร่างกายของน้อง แน่นอนว่าคุณสามารถหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ได้ ด้วยการเลือกซื้ออาหารแมวที่ปราศจากสารเติมแต่ง แต่อาจจะมีราคาสูงกว่าอาหารแมวปกติ ยกตัวอย่างเช่น อาหารแมวแบบแห้ง จะต้องมีการใส่สารกันบูดและสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้สามารถจัดเก็บที่อุณหภูมิห้องได้นาน ดังนั้น คุณไม่ควรกังวลเกี่ยวกับการเติมแต่งด้วยวัตถุเจือปนมากเกินไป
หรืออาหารใดก็ตามที่ถูกผลิตขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ผลพลอย ที่ทำจากเศษอาหาร ของเหลือ เช่น เศษปลา เนื้อส่วนที่ถูกหั่นทิ้ง ก็ไม่ได้อันตรายเสมอไป กลับกันมันเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนและแร่ธาตุที่จำเป็นเสียด้วยซ้ำ อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นแหล่งอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโภชนาการทางอาหารเป็นอย่างยิ่งอีกตัวหนึ่งเลยล่ะค่ะ
น้องแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เบื่อง่าย โดยเฉพาะเมื่ออาหารไม่มีความดึงดูดมากพอ น้อง ๆ ก็จะกินทิ้งกินขว้าง หากเจ้าของกังวลว่าน้องแมวจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เจ้าของจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับความชอบและรสนิยมของน้องแมว โดยอ้างอิงจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
สัตว์จะให้ความสำคัญกับเรื่องของกลิ่นเป็นสำคัญ ดังนั้น อาหารที่มีกลิ่นแรงจึงสามารถดึงดูดใจน้องแมวได้เป็นอย่างดี เจ้าของจึงควรเลือกซื้ออาหารแมวที่มีกลิ่นแรง อย่างเช่น อาหารรสเนื้อหรืออาหารรสปลา เพื่อให้น้องแมวรู้สึกเจริญอาหาร
ช่วงที่ผ่านมา อาหารแมวที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไร้สารเจือปน กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนเลี้ยงแมวมาก เพราะเจ้าของรู้สึกว่าสามารถให้ความไว้วางใจในเรื่องคุณภาพได้ แต่บางกรณี อาหารแมวประเภทนี้กลับไม่มีกลิ่นแรง ๆ ที่จะดึงดูดใจน้องแมวได้ เจ้าของจึงอาจจะต้องช่างเลือกสักหน่อย เพื่อให้น้องแมวมีความสุขกับมื้ออาหารที่สุด
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่าแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เบื่อง่าย ดังนั้น น้องจึงอาจเบื่ออาหารรสชาติเดิม ๆ ที่ได้กินอยู่ตลอด เจ้าของต้องลองเปลี่ยนรสชาติอาหารของน้องในแต่ละวันบ้าง เพื่อให้การกินอาหารของน้องเกิดความน่าสนใจอยู่ตลอดเวลา กรณีอย่างนี้ การเลือกซื้ออาหารแมวที่มีหลากหลายรสชาติในหนึ่งผลิตภัณฑ์ จะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ
แต่ต้องระวังด้วยนะคะ เพราะน้องแมวอาจจะไม่ปลื้มกับการเปลี่ยนรสชาติอาหารแบบปุบปับ ดังนั้น หากเจ้าของกำลังคิดที่จะลองวิธีนี้ ก็ขอให้ลองซื้ออาหารสูตรใหม่มาในปริมาณน้อย ๆ ก่อนค่ะ
ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วนะคะ ที่เราจะมาจัดอันดับยี่ห้ออาหารแมวแบบต่าง ๆ โดยเราจะแบ่งออกเป็นอาหารแบบแห้ง 5 อันดับ และอาหารแบบเปียกอีก 5 อันดับ รวมเป็น 10 อันดับค่ะ เราจะมาเริ่มจากอาหารแบบแห้งกันก่อนนะคะ จะมีอาหารแบบแห้งยี่ห้อโปรดของคุณถูกจัดรวมอยู่หรือไม่ ต้องมาลุ้นกันนะคะ
อาหารแบบแห้งสูตรสำหรับแมวทำหมัน ที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไปจาก Royal Canin มีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน ประการแรก ช่วยให้ระดับแคลอรี่ของน้องแมวไม่สูงจนเกินไป ด้วยสูตรไขมันต่ำ (12%) แล้วยังมีแอลคาร์นิทีน ที่ช่วยเผาผลาญไขมันอีกด้วย ประการต่อมาคือ เรื่องของโปรตีนที่สูง ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้กับน้องแมว เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รูปร่างสมส่วน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยบำรุงเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ด้วยปริมาณแร่ธาตุในอัตราส่วนที่เหมาะสม หากที่บ้านใครมีน้องแมวที่ผ่านการคุมกำเนิดหรือทำหมันมาแล้ว ต้องไม่พลาดตัวนี้ค่ะ
อย่าปล่อยให้น้องแมวมีปัญหาก้อนขนอุดตัน หันมาใช้อาหารสูตรป้องกันและขจัดก้อนขนอย่าง Me-O Persian กันดีกว่า ! เพราะอาหารแมวตัวนี้เขาอัดแน่นไปด้วยไฟเบอร์จากธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบีทพัลพ์ ข้าวโพด กากถั่วเหลือง และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นขนจากแฟลกซ์ซีด ที่ช่วยให้ขนไม่หลุดร่วงง่าย มีโอเมก้า 3 และ 6 ช่วยทำให้ขนของน้องนุ่มสลวย เงางาม สามารถใช้ได้กับน้องแมวขนยาวทุกสายพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องแมวพันธุ์เปอร์เซียค่ะ
ความพิเศษของอาหารแมวตัวนี้คือ วัตถุดิบหลักประกอบด้วยเนื้อสัตว์แท้ ๆ ถึง 75% ซึ่งเนื้อสัตว์ในที่นี้คือ เนื้อไก่ ที่ได้จากไก่ Free-Run หรือไก่ที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ทำให้ Canagan Free-Run Chicken เป็นอาหารแมวที่มีแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมถึงเป็นอาหารแมวสูตรปราศจากธัญพืช ช่วยให้ย่อยง่าย กระเพาะอาหารไม่ทำงานหนัก ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ธัญพืชของน้องแมว เป็นอาหารแมวที่จัดว่าคุณภาพอัดแน่น แถมยังกินได้ทุกเพศทุกวัย เจ้าของน้องแมวทั้งหลายคงต้องหันมาลองใช้ดูบ้างแล้วล่ะค่ะ
เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารจำเป็นสำหรับน้องแมว ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนจากไก่ กรดไขมันจำเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ล้วนแล้วแต่ช่วยให้น้องแมวสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง แล้วยังมีส่วนผสมของวิตามิน A และทอรีน ช่วยในการบำรุงสายตา เพิ่มคุณภาพในการมองเห็นให้กับน้องแมว ทีเด็ดสำคัญอยู่ที่รสชาติ เพราะมาในรูปแบบของรสชาติรวมมิตรอันเกิดจากการรวมกันของปลา เนื้อสัตว์ รวมถึงผัก ช่วยให้น้องสามารถกินอาหารสูตรนี้ได้อย่างไม่มีเบื่อในทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเม็ดรสผัก ที่เมื่อลิ้มลองแล้ว น้องจะรู้สึกเหมือนได้ไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าข้างนอกในทุก ๆ วันเลยล่ะค่ะ
มาถึงยี่ห้ออันดับหนึ่งกันแล้วนะคะ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง "วิสกัส รสปลาทู" โดยคนไทยมีค่านิยมว่าแมวจะต้องชอบกินปลาทู รสนี้จึงเป็นรสที่ขายดีอย่างมากเลยล่ะค่ะ แต่วิสกัสไม่ได้มีดีแค่รสและกลิ่นของปลาทูเท่านั้น ในเรื่องของสารอาหารก็ยังครบถ้วน ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรงสมวัย น้องแมวสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของวิสกัสได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ เพราะวิสกัสผ่านการปรุงอาหารเม็ดอย่างพิถีพิถัน จนได้ออกมาเป็นในรูปแบบ "พ็อกเก็ต" ที่เมื่อน้องแมวกัดเข้าไปก็จะเจอกับซอสรสปลาทูอยู่ด้านใน ซึ่งเป็นรสชาติที่น่าค้นหาและช่วยให้น้องเจริญอาหารอย่างมากเลยล่ะค่ะ
อันดับต่อไป ก็ถึงเวลาที่เราจะมาจัดอันดับให้กับอาหารแบบเปียกกันแล้วนะคะ ซึ่งจะมีทั้งสูตรที่เป็นอาหารมื้อปกติและสูตรสำหรับใช้เป็นท็อปปิ้งค่ะ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็เหมาะที่จะนำมาใช้เรียกความหิวให้กับน้องแมวทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ
ซื้อใจน้องแมวได้ทุกมื้อ ด้วยอาหารเปียกรสซีฟู้ดในน้ำเกรวี่จากเบลลอตต้า โดยผู้ผลิตที่เป็นกูรูด้านปลาทูน่าที่สุด ใช้วัตถุดิบหลักคือปลาทูน่าจากธรรมชาติ ไม่มีการแต่งเติมสารกันบูด จึงรับประกันได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้มีสารสกัดลูทีนจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงสุขภาพประสาทตาของน้องแมว ให้มองเห็นได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว มีโอเมก้า 6 และวิตามิน E ที่สกัดำได้จากน้ำมันดอกทานตะวัน ช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขนของน้องให้เรียบรื่น เงางาม
จะดีกว่าหรือไม่ หากคุณสามารถใช้ขนมแมวเลียเพื่อใกล้ชิดกับน้องแมว แล้วยังช่วยให้น้องแมวสามารถมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีก ด้วยขนมแมวเลียจาก Me-O ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างสุขภาพของน้อง ไม่ว่าจะเป็นโอเมก้า 3 ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทอรีน ช่วยบำรุงสายตา โมเอก้า 6, สังกะสี และ DL-Methionine ช่วยบำรุงผิวหนังและขน หรือคุณยังอาจใช้เพื่อเป็นท็อปปิ้ง เพื่อให้น้องแมวไม่รู้สึกเบื่ออาหารก็ยังได้ แต่ห้ามใช้เป็นอาหารมื้อหลักและควรเตรียมน้ำเปล่าสะอาดเอาไว้ เพื่อให้น้องแมวดื่มหลังจากการกินขนมแมวเลียตัวนี้ด้วยนะคะ เพราะเนื้อสัมผัสค่อนข้างเหนียว น้องแมวจึงอาจจะรู้สึกฝืดคอได้ค่ะ
อีกหนึ่งขนมแมวคุณภาพดี ส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่จะมาทำให้เจ้าของแก้ไขปัญหาการเบื่ออาหารของน้องแมวได้แบบ 100% โดยสูตรนี้นอกจากจะมีสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว ยังมีส่วนผสมของชาเขียว ที่ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากของเสียของน้องแมวอีกด้วย เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับแมวที่เลี้ยงในบ้าน เพราะบางครั้งอากาศอาจถ่ายเทไม่พอ จนทำให้กลิ่นของเสียของน้องแมวลอยคละคลุ้งได้ ลองหันมามอบ Churu สูตรปลาทูน่าเนื้อขาวนี้ให้กับน้องแมวของคุณ เพื่อให้เป็นรางวัลในความน่ารักของน้อง ๆ และเพื่อประโยชน์ต่อตัวเจ้าของเองด้วยนะคะ
หากคุณเลือกซื้ออาหารเปียกตัวนี้ น้องแมวของคุณจะได้ฟินกับชิ้นปลาแซลมอนและปลาทูน่าแบบเน้น ๆ โดยที่เจ้าของสามารถมั่นใจในด้านของคุณภาพและความปลอดภัยได้ เพราะ Sheba เขาพิถีพิถันในขั้นตอนการผลิตอย่างแท้จริง ทำให้นอกจากจะกักเก็บเอาความอร่อย สดใหม่ ไว้ในซองเดียวได้แล้ว ยังได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทั้งช่วยดูแลสุขภาพร่างกายและขนของน้อง ให้ออกมามีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ สมวัยเป็นที่สุด นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลว่าน้องแมวจะมีอาการขาดน้ำ เพราะเขาใส่น้ำซุปใสรสชาติที่รสชาติเข้ากันกับเนื้อปลามาให้ด้วย เป็นอาหารเปียกที่ครบเครื่องสุด ๆ ไปเลย
อันดับที่ 1 ของอาหารเปียกก็ยังคงหนีไม่พ้นวิสกัสนะคะ แต่คราวนี้มาในรสชาติปลาแซลมอนที่ผสานกับปลาทูค่ะ วิสกัสใช้เนื้อปลาทูและปลาแซลมอนแท้ ๆ มาทำให้อยู่ในรูปของเจลลี่ จะได้ช่วยกักเก็บความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาเอาไว้ก่อนจะถึงมือน้องแมว เพื่อให้มั่นใจว่าน้องแมวจะได้กลิ่นหอมและรสสัมผัสที่ดีที่สุดจริง ๆ และด้วยความที่เป็นสูตรสารอาหารครบถ้วน เจ้าของจึงไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพของน้องเลยล่ะค่ะ เพราะวิสกัสมาพร้อมกับคุณค่าทางสารอาหาร ที่จำเป็นสำหรับน้องแมวถึง 41 ชนิดเลยนะคะ จัดเต็มในเรื่องโภชนาการขนาดนี้ ไม่หาซื้อก็ไม่ได้แล้วสินะคะ
หลังจากที่เราได้แนะนำเกี่ยวกับอาหารแมวในรูปแบบต่าง ๆ กันไปแล้ว เราก็มาเข้าสู่เรื่องราวน่ารู้เพิ่มเติมที่เกี่ยวกับอาหารแมวกันเถอะค่ะ โดยในหัวข้อนี้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เจ้าของแมวควรศึกษาเอาไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถดูแลเรื่องอาหารการกินของน้องแมวได้อย่างถูกหลักที่สุดค่ะ ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะคะ? หากสงสัยแล้วว่ามีอะไรบ้าง ก็ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ !
แม้ว่าอาหารที่มีอยู่จะคุณภาพดีสักแค่ไหน แต่ถ้าหากเจ้าของให้ไม่ถูกวิธี อาหารที่ควรจะดีก็อาจส่งผลกลับตาลปัตรได้ ดังนั้น เจ้าของจึงควรศึกษาการให้อาหารน้องแมวอย่างถูกวิธี เพื่อการให้อาหารอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
เกณฑ์ที่ดีที่สุดที่เราใช้คำนวณความถี่ในการให้อาหารน้องแมวก็คืออายุ อย่างเช่นแมวโตที่เราจะให้อาหารน้องราว ๆ 1-2 ครั้งต่อวัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ชีวิตของน้อง
ในส่วนของลูกแมวนั้น เนื่องจากเป็นช่วงหลังหย่านมแม่ ลูกแมวจะค่อนข้างกระตือรือร้นและหิวบ่อย เราจึงควรให้อาหารน้องในความถี่ที่มากกว่าแมวโต ซึ่งก็คือ 3-4 ครั้งต่อวัน จากนั้นจึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนความถี่ ตามการเจริญเติบโตต่อไปค่ะ
ในบ้านที่เลี้ยงแมวแบบระบบเปิด เจ้าของหลาย ๆ คน จะเทอาหารไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้แมวสามารถเดินไปกินด้วยตัวเองได้สะดวก ถ้าหากแมวรู้จักเวลาและปริมาณที่เหมาะสมในการกินของตัวเอง เจ้าของก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลในเรื่องการกินของน้องแมว
อย่างไรก็ตาม เจ้าของจะต้องมั่นใจว่าน้องแมวกินอาหารในเวลาและปริมาณที่เหมาะสมจริง ๆ ซึ่งเจ้าของอาจจะทดลองด้วยการให้อาหารในปริมาณ x กรัม แล้วจับเวลาตั้งแต่ y ชั่วโมง ถึง z ชั่วโมง แล้วคอยเช็คดูเรื่อย ๆ ก็ได้ อย่าลืมว่าเจ้าของไม่ควรปล่อยอาหารทิ้งเอาไว้นานเกินไป ไม่อย่างนั้นอาหารอาจจะบูดหรือเสื่อมสภาพจนน้องแมวไม่ควรจะกินอีกต่อไป
แม้ว่าอาหารแบบแห้งจะถูกระบุเอาไว้ว่าสามารถเก็บได้นานในอุณหภูมิห้อง แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บรักษา คือภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่มีการเปิดบรรจุภัณฑ์ ดังนั้น หากมีการกักตุนอาหารแห้งในปริมาณที่มากเกินไป แล้วไม่สามารถให้น้องแมวกินหมดภายใน 1 เดือนได้ อาหารอาจเกิดการออกซิเดชัน ทำให้สูญเสียความน่ากินหรือเหม็นหืนจนกินไม่ได้ในที่สุด
ส่วนอาหารเปียก แม้ว่าจะสามารถเก็บในตู้เย็นได้หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์ แต่ถ้าหากเก็บไว้นานเกินไป อาหารจะสูญเสียความสดใหม่ และน้องแมวก็จะไม่อยากกินอาหารที่เหลืออีก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ควรให้น้องกินอาหารเปียกให้หมดทันที หลังจากที่มีการเปิดบรรจุภัณฑ์ ในตอนที่ซื้ออาหารเปียก เจ้าของก็ควรเลือกแบบที่สามารถให้น้องกินหมดต่อมื้อได้ด้วยนะคะ
เจ้าของแมวหลาย ๆ คน มักมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินของน้อง เพราะไม่มีความรู้ในด้านนิเวศวิทยา (Ecology) ของแมวที่มากพอ เพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ เรามาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันดีกว่านะคะ
แมวมีภาพลักษณ์ว่าเป็นสัตว์ที่ "ชอบกินปลา" แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสียทีเดียว อย่างในฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ผู้คนแถบนั้นจะติดภาพของแมวที่ชอบกินตับกันมากกว่า หรืออาหารประเภทที่ทำจากเนื้อไก่เอง ก็ถือเป็นของชอบอีกอย่างของน้องแมวเหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เจ้าของจึงควรดูว่าน้องแมวของตัวเองชอบกินอะไร แล้วก็จัดซื้อให้เหมาะสมกับความชอบของน้องจะดีที่สุดนะคะ
แมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ "กินแค่ตอนที่อยากกิน" "กินแค่ของที่ชื่นชอบ" และ "อยากกินเท่าไรก็กินเท่านั้น" พอเป็นอย่างนี้แล้ว ในบางครั้งเราจะเห็นว่า น้องอาจจะดูชอบกินสิ่งนี้เยอะมากในวันก่อน แต่วันต่อมาน้องอาจจะไม่ค่อยอยากกินแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะการที่ไม่ได้ผลีผลามรีบกินให้หมดทันที ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่โปรดปรานอาหารนั้น ๆ หลังจากที่เจ้าของได้เข้าใจเกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยา (Ecology) นี้ของน้องแมวแล้ว หวังว่าทุก ๆ คน จะสามารถจัดสำรับได้ถูกเวลาและถูกใจน้องแมวมากขึ้นกันนะคะ
อาการที่น้องแมวเกิดไม่อยากอาหารขึ้นมา เจ้าของเกือบทุกคนน่าจะเคยประสบพบเจอกันมาแล้ว ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากอาหารที่ไม่มีความดึงดูดเพียงพอ สามารถแก้ไขได้ด้วยแนวทางดังต่อไปนี้ค่ะ
ในกรณีของอาหารเม็ด การเติมน้ำอุ่นลงไปผสม ไม่ได้ช่วยให้เนื้อสัมผัสของอาหารนุ่มลงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหารอีกด้วย ซึ่งจะทำให้เรียกความหิวของน้องแมวได้มากเลยทีเดียวเชียวล่ะค่ะ
ในส่วนของอาหารเปียกเองก็เช่นกัน หากนำไปเสิร์ฟแบบอุ่น ๆ ก็สามารถช่วยยกระดับความน่ากินขึ้นได้นะคะ ยิ่งกับน้องแมวที่อายุมากแล้ว ความสนใจในอาหารก็ลดลงตามไปด้วย หากให้น้องกินอาหารที่อุ่นแล้วในทุกมื้อ จะสามารถช่วยให้น้องเจริญอาหารขึ้นได้ค่ะ
ถ้าหากว่าหนวดของน้องแมวชนกับขอบชามบ่อย ๆ อาจจะส่งผลทำให้น้องไม่อยากกินอาหารจากชามนั้นได้นะคะ เจ้าของจึงควรเช็คให้แน่ใจว่าระหว่างที่กำลังกิน หนวดของน้องชนเข้ากับชามอาหารหรือไม่ ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ขนาดของชามเองก็มีผลเช่นกัน โดยเจ้าของจะต้องดูว่าชามอาหารสูงเกินไปไหม เตี้ยเกินไปหรือยาวเกินไปหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นน้องแมวอาจจะไม่ชอบได้เหมือนกันค่ะ
ถ้าเจ้าของรู้ว่าน้องแมวชอบขนมอันไหน สามารถนำมาใช้เป็นท็อปปิ้งให้น้องรู้สึกอยากอาหารมากขึ้นได้นะคะ แม้ว่าโดยปกติแล้วเราจะไม่ควรให้น้องแมวกินอาหารในลักษณะนี้ เพราะต้องคอยกังวลเรื่องปริมาณแคลอรี่ แต่ถ้าเจ้าของสามารถควบคุมปริมาณอาหารต่าง ๆ ให้เหมาะสมได้อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในจุดนี้ค่ะ
อาหารแมวนั้น มีส่วนก่อให้เกิดคราบพลัคได้มากกว่าปกติ เจ้าของจึงควรเอาใจใส่ในด้านความสะอาดของช่องปากน้องแมวหลังการกินอาหาร เพื่อสุขภาพของช่องปากที่ดีค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการแนะนำเรื่องราวของอาหารแมวแบบต่าง ๆ หากพูดกันตามตรงแล้วมันค่อนข้างยากเลยล่ะค่ะ ที่จะตัดสินว่าอาหารยี่ห้อใดดีกว่ากัน เพราะว่าน้องแมวแต่ละตัวก็มีความแตกต่างกันออกไปอย่างมากมากเลยทีเดียว แต่ถ้าหากเจ้าของค่อย ๆ พิจารณาการเลือกอาหารแมวไปทีละขั้นตอน โดยอ้างอิงจากความต้องการของน้องแมวตนเองเป็นหลัก
ทางเราก็เชื่อว่าคุณเจ้าของจะสามารถตัดสินใจเลือกอาหารแมวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณเองได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ ขอเพียงแค่เจ้าของนำแนวทางที่เราได้แนะนำ มาพิจารณาถึงพฤติกรรมและความชอบต่าง ๆ ของน้องแมวให้ทะลุปรุโปร่ง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยให้น้องสามารถกินอาหารอย่างมีความสุข ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้แล้วล่ะค่ะ