9 อันดับ เมคอัพเบส สำหรับผิวผสม รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567

เมื่อคุณค้นหาสิ่งของบางอย่างที่ร้านค้าออนไลน์ คุณจะพบว่าคุณจะได้เจอสินค้าที่คุณมองหาอย่างง่ายดาย สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้ ผ่านโมบาย แอปพลิเคชั่น ดีๆที่เราแนะนำ
คุณภาพเจ๋ง ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ เมคอัพเบส สำหรับผิวผสม  สินค้าออนไลน์  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง เมคอัพเบส สำหรับผิวผสม  ไป ราคาถุกกว่าร้านอื่นๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"เมคอัพเบส สำหรับผิวผสม"นั้นโดยมีทั้ง เมคอัพเบส สำหรับผิวผสม แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือเมคอัพเบส สำหรับผิวผสม ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเมคอัพเบส สำหรับผิวผสมดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ เมคอัพเบส สำหรับผิวผสมคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้

“เมคอัพเบส” หนึ่งในไอเทมที่ช่วยปรับสภาพผิวก่อนแต่งหน้าเพื่อฟินิชลุคที่สวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น แต่สาว ๆ รู้ไหมคะว่า เมคอัพเบสลักษณะไหนที่เหมาะกับสภาพ “ผิวผสม” หรือสภาพที่บริเวณแก้มมักจะแห้งลอก แต่ช่วง T-Zone (หน้าผาก, จมูกและคาง) นั้นกลับมันเยิ้ม จะเป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นดี? หรือจะสูตรควบคุมความมันดี? ถ้าใครไม่รู้ล่ะก็ วันนี้เราขอแนะนำข้อมูล “วิธีการเลือก” มาให้อ่านกันเลยค่ะ เพราะจะช่วยให้สาว ๆ หลายคนเข้าใจสิ่งที่ผิวหน้าของตัวเองต้องการมากขึ้น จะได้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

นอกจากนี้ อีกหัวข้อที่สำคัญที่เราจะนำมาฝากกันก็คือ “10 อันดับสินค้า” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งในเรื่องของราคา, คุณสมบัติและรีวิวการใช้งานจริง เพื่อช่วยให้คุณได้สินค้าที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยตามข้อมูลจริง ถือเป็นการประหยัดเวลาช็อปปิ้งไปในตัวด้วย ว่าแล้วอย่าเสียเวลากันอยู่เลยค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเนื้อหาสำคัญอะไรบ้าง!
ตามที่ได้เกริ่นกันไปในตอนต้น สาว ๆ คงพอจะเห็นภาพแล้วว่าลักษณะของผิวผสมนั้นเป็นอย่างไร แต่หลายคนคงยังไม่รู้กันใช่ไหมคะว่า ผลิตภัณฑ์แบบไหนที่เหมาะกับผิวตัวเองมากที่สุด มาค่ะ เราได้รวบรวมคำตอบไว้ที่ด้านล่างนี้เรียบร้อยแล้ว
ลักษณะเด่นของผิวผสมคือ ช่วง T-Zone จะมัน ในขณะที่บริเวณแก้ม, ดวงตาและปากกลับแห้ง แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีนวัตกรรมที่ช่วยแก้ทั้งสองปัญหานี้ไปพร้อม ๆ กันได้ ดังนั้น สาว ๆ จึงควรเลือกสูตรที่ให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแทน
ถ้าคุณเคยเจอปัญหาเมคอัพเบสที่ใช้หลุดง่าย ทำให้เมคอัพติดไม่ทน แนะนำให้เลือก “สูตรคุมความมัน” ที่จะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน ช่วยดูดซับน้ำมันบนผิวหน้า ไม่ให้หน้าเยิ้มจึงไม่ต้องคอยเติมเครื่องสำอางในระหว่างวันบ่อย ๆ
การที่ผิวขาดน้ำจากภายในเป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้งแต่หน้ามัน เพราะต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนังพยายามผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมาเคลือบผิวที่แห้งของเรา ดังนั้น เราจึงต้องเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยเลือกเบสสูตรที่มีมอยส์เจอไรเซอร์สูง
การเลือกเมคอัพเบสสูตรนี้จะใช้ได้ดีกับสาวผิวผสมที่มีปัญหาผิวบริเวณแก้ม ปากและรอบดวงตาแห้ง ซึ่งแตกต่างจากบริเวณ T zone มาก แต่ไม่ต้องกังวลว่าหน้าจะฉ่ำจนเยิ้มนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้มีหลายสูตรจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่พัฒนามาให้มีเนื้อบางเบาและซึมง่ายกว่ารุ่นเก่า ๆ
อีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัวของหลาย ๆ คน คือ “รูขุมขนกว้าง” กรณีนี้แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำพรางหรือปกปิดความไม่สม่ำเสมอของผิว หรือช่วยให้ผิวดูผ่องขึ้น ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่า “เมคอัพเบสไม่สามารถปกปิดได้ 100% ” นะคะ แต่ถ้าเราเลือกสูตรที่ช่วยเบลอได้บ้าง เวลาลงรองพื้นทับ ก็จะยิ่งแนบเนียนมากยิ่งขึ้น
เพราะการมีผิวหน้าบางส่วนที่มันง่าย จึงทำให้มีโอกาสเป็นสิวมากกว่าคนที่มีสภาพผิวแห้งไปเลย ดังนั้น สูตรเมคอัพเบสที่ควรเลือก คือ “สูตรที่ได้รับการรับรองจากทางการแพทย์แล้วว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดสิว (Non-Comedogenic)” หรือเป็นสูตรสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดของผิวและป้องกันปัญหาสิวที่จะตามมาค่ะ
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงเห็นแล้วว่า ไม่มีสูตรสำหรับผิวผสมโดยเฉพาะ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เมคอัพเบส 1 หลอดจะช่วยควบคุมทั้งความมันพร้อมคืนความชุ่มชื้นได้เพียงพอในหลอดเดียว ดังนั้น เราจึงมีวิธีแก้ไขอยู่ 2 วิธีด้วยกันค่ะ

  • คนผิวผสมค่อนไปทางผิวแห้ง : ลงเบสที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า แต่บริเวณ T-Zone ให้ใช้สูตรที่เหมาะกับลักษณะผิวตนเอง

  • คนผิวผสมค่อนไปทางผิวมัน : ทาสูตรควบคุมความมันให้ทั่วใบหน้า บริเวณ T-Zone ให้ใช้สูตรที่เหมาะกับลักษณะผิวตนเอง

หลายคนชอบคิดว่าเมคอัพเบสไม่จำเป็นต้องมีสารกันแดดก็ได้ เพราะยังไงก็ต้องทาครีมกันแดดก่อนลงอยู่แล้ว แต่เพื่อความมั่นใจควรเลือกสูตรที่มีด้วยจะดีกว่าค่ะ เพื่อเสริมเกราะป้องกันไว้อีกขั้น เพราะรังสี UV นี่แหละ ที่เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำลายสมดุลของการผลิตน้ำมันใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวผสมเสียสมดุลมากกว่าเดิม จึงเป็นสาเหตุทำให้ผิวหมองคล้ำและเสื่อมโทรมได้
อย่างไรก็ตาม เมคอัพเบสที่มีสารกันแดดนั้นไม่ได้หมายความว่าต้องทาเฉพาะเวลาจะออกไปข้างนอกหรือช่วงหน้าร้อนอย่างเดียวนะคะ แต่ควรทาทุกวัน เพราะรังสี UV สามารถมาจากแหล่งอื่น ๆ ได้อีก เช่น หลอดไฟหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ สาว ๆ จึงควรเลือกรุ่นที่มีค่าเหมาะกับปริมาณของรังสีที่เราต้องเจอในแต่ละวัน
เกร็ดน่ารู้ : SPF (Sun Protection Factor) คือ ค่าความสามารถในการปกป้องผิวจากการถูกไหม้ด้วยรังสี UVB โดยยิ่งค่าสูงเท่าไรก็จะปกป้องได้นานขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อัตราความสามารถในการปกป้องจะเพิ่มช้าลงจนแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเมื่อค่า SPF สูงตั้งแต่ 25 ขึ้นไป นอกจากนี้ ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย ใครที่ผิวแพ้ง่ายควรจะระวังกันสักนิดนะคะ
สำหรับค่า PA (Protection Grade of UVA) คือ ค่าความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA โดยถูกแทนด้วยเครื่องหมาย + ซึ่งถ้าใครทำงานหรือเรียนอยู่แต่ในที่ร่ม ใช้แค่ PA++ ก็พอแล้วค่ะ
ขั้นตอนแรกที่ขาดไม่ได้ก่อนการลงรองพื้นก็คือการใช้ "ไพรเมอร์" ซึ่งเป็นไอเทมที่สำคัญมาก เมคอัพจะร่วงหรือจะรอดขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เลย จริง ๆ แล้วไพรเมอร์มีหลากหลายสูตรมาก ๆ ไม่ว่าจะสูตรชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้ง สูตรคุมมันหรือพรางรูขุมขนสำหรับคนที่มีผิวมัน-ผิวผสม แต่สำหรับสาว ๆ ผิวมัน ผิงอยากแนะนำตัวนี้เลย เป็นไพรเมอร์ในตำนานก็ว่าได้ ชื่อเสียงเรียงนามไม่ธรรมดา บรรดาบล็อกเกอร์ ยูทูปเบอร์ชอบกันมาก

เนื้อผลิตภัณฑ์ของ Benefit ตัวนี้จะมีความซิลิโคนนิดนึง ช่วยพรางรูขุมขนได้ด้วย ชอบมาก ที่สำคัญคือช่วยคุมความมันตลอดทั้งวัน หน้าไม่เยิ้มแน่นอน
เอาล่ะค่ะ ตอนนี้สาว ๆ คงคันไม้คันมือ รู้สึกอยากเสียเงินกันแล้ว แต่ก่อนอื่นเลย ต้องขอแนะนำก่อนว่า ลำดับต่อไปเป็นการจัดอันดับรวมทั้งเบสและไพรเมอร์ เพราะถือเป็นไอเทมสำหรับเตรียมผิวก่อนลงรองพื้นเหมือนกัน ซึ่งปัจจุบันนี้มีหลายรุ่นที่รวมคุณสมบัตินี้ไว้ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์โดยคำนึงลักษณะผิวของตัวเองเป็นพื้นฐาน แล้วจึงอ้างอิงจากอันดับเสริมกันไปนะคะ
เบสจาก Skinfood หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “เบสองุ่นในตำนาน” โดยรุ่นนี้เป็นแพ็กเกจใหม่ แต่ยังคงคุณภาพทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ เนื้อครีมอุดมด้วยสารสกัดจากองุ่นขาว ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ ทำให้เครื่องสำอางเกาะติดผิวได้ดี ซึ่งหลายคนต่างการันตีว่าใช้แล้วไม่อุดตัน โดยปัจจุบันมีให้เลือก 3 เฉดสี ขึ้นอยู่กับสีของรอยที่ต้องการลดเลือน เหมาะกับทุกปัญหาผิว

รุ่นนี้มีเนื้อค่อนข้างบางเบา ช่วยให้เกลี่ยง่าย สบายผิว แต่เนื้อแห้งไว ควบคุมความมันได้เล็กน้อย และบางคนบอกว่ามีกลิ่นค่อนข้างแรง ดังนั้นใครที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ อาจต้องลองมองหารุ่นอื่นแทนนะคะ
สาวผิวผสมคนไหนที่กังวลเรื่องผิวแห้งมากเป็นพิเศษแนะนำให้ใช้รุ่นนี้เลยค่ะ เพราะเนื้อเจลอุดมไปด้วยวิตามินซี และบี3 ที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและมีสุขภาพดีขึ้นโดยไม่ทำให้หนักหน้าจนเกินไป นอกจากนี้ ยังช่วยเติมเต็มรูขุมขนให้ดูตื้นขึ้นในระดับหนึ่ง ปรับสภาพผิวให้ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้นและยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ไม่ช่วยคุมความมันนะคะ และยังเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวเท่าไร แต่ใครที่มีปัญหาผิวมากก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะยังมีเพื่อนร่วมไลน์สูตรอื่น ๆ ให้เลือกอีก ใครที่สนใจลองไปเลือกดูกันได้นะคะ
ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้ฮอตหนักจริง ๆ ด้วยราคาที่ย่อมเยาแต่คุณภาพเกินคุ้ม โดยเนื้อเบสเป็นเจลครีมสีชมพูอ่อน ช่วยปรับสีผิวให้เปล่งปลั่งขึ้นด้วย Bright Up Pearl พร้อมเทคโนโลยี Anti-Sebum ช่วยดูดซับความมัน ทำให้เมคอัพติดทนนานขึ้น ผสานด้วยคุณค่าจากสารบำรุงต่าง ๆ จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และไม่ทำให้ระคายเคืองเพราะปราศจากน้ำหอมและผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ยังปกป้องผิวจากแสงแดดได้ถึงระดับ SPF50+ PA++++ หลายคนที่ใช้ยังบอกว่าช่วยอำพรางรูขุมขน ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น รอยแดงรอยดำดูจางลง พร้อมให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ ผิวจึงดูสวยกำลังดี เหมาะกับสาวทุกสภาพผิวเลยค่ะ
หนึ่งในไพรเมอร์ลูกรักของสาว ๆ หลายคน แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักกับรุ่นนี้ ต้องบอกก่อนว่าเค้ามีพี่น้องร่วมไลน์เยอะมาก และแทบทุกแพ็กเกจยังมีหน้าตาเหมือน ๆ กันด้วย วิธีเดียวที่แยกออกคือ อ่านข้อความด้านหน้าหลอด โดยจะมีทั้งรุ่นที่ช่วยอำพรางรูขุมขน รุ่นที่เพิ่มความชุ่มชื้นและรุ่นที่ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส แต่ที่แนะนำในวันนี้คือ สูตร Oil-Free ที่ช่วยลดความมันและมีส่วนผสมของ Polymethyl Methacrylate ที่ช่วยเติมเต็มร่องเล็ก ๆ และอำพรางรูขุมขนและริ้วรอย

รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิวอุดตันหรือระคายเคืองเพราะเป็นสูตร Water-Based เนื้อจึงบางเบาและล้างออกง่าย มาพร้อมอนุพันธ์วิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ด้านคุณสมบัติการใช้งาน สาว ๆ รีวิวกันไว้ว่า เนื้อเจลใสเนียนลื่น เกลี่ยง่าย ทาแล้วแมตต์ไปกับผิว แต่รุ่นนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวเยอะนะคะ
สาว ๆ ที่เป็นสายเซลฟี่จะถ่ายรูปลงโซเชี่ยลทั้งทีจะปล่อยให้เห็นรูขุมขนบนใบหน้าได้ยังไงกัน แทนที่จะต้องให้สารพัดแอพเพื่อกลบผิวหน้าให้เรียบเนียน ลองเปลี่ยนมาใช้เบสของ Etude สูตรเบลอรูขุมขนตัวนี้ ที่มาพร้อมสารกันแดดระดับกำลังดีที่ SPF 33 PA++ ดูดีกว่าค่ะ มีเนื้อครีมบางเบา ด้วยเบบี้ พิกเซล พาวเดอร์ และ คัพเวอร์ พาวเดอร์ที่ผสมผสานเพื่อทำหน้าที่สะท้อนแสงทั่วทิศทาง เป็นการอำพรางจุดบกพร่องทั้งหลายของผิว

ฉะนั้น ไม่ว่าจะรูขุมขนหรือจุดด่างดำต่าง ๆ บทผิว ก็ดูเรียบเนียนใสและขาวกระจ่างใสขึ้นอีกโทนแบบธรรมชาติ จากรีวิวสาว ๆ ให้ความเห็นว่าผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ฟินิชลุคแบบผิวฉ่ำเล็กน้อย แต่ไม่ค่อยควบคุมความมันบนใบหน้าสักเท่าไหร่ค่ะ
ใครที่เป็นคนผิวผสมที่ค่อนไปทางผิวแห้ง หรือคนดูหน้าหมองอยากให้ลองพิจารณาเบสตัวล่าสุดนี้ของ Bobbi Brown ดูอีกตัวค่ะ เพราะเป็นสูตรเติมน้ำให้ผิวด้วยส่วนผสมชั้นเลิศอย่างกรดไฮยาลูรอนิค, สควาเลน และสารสกัดจากพืชพันธุ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังใช้ Pearl Pigment อณูละเอียดเพิ่มประกายให้ผิวดูมีสุขภาพดี ปกปิดข้อบกพร่องของผิวไปพร้อม ๆ กัน ให้ลุคสวยใสแบบธรรมชาติ อีกยังทั้งมีสารป้องกันรังสี UVA UVB ในระดับ SPF 35 อีกด้วย

นอกจากสูตรนี้แล้ว แบรนด์ยังมีสูตร Mattifier สำหรับคนที่ผิวค่อนไปทางผิวมัน ต้องการควบคุมความมันอีกด้วย แม้ขนาดปกติราคาจะดูแรงแต่มีไซซ์เล็กให้ลองใช้ก่อนด้วยนะคะ
เริ่มหาซื้อยากแล้วกับเบสคุณภาพที่คุ้มเกินราคา ด้วยสูตร ZERO Weight เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ทาแล้วไม่เหนอะหนะ พร้อมมอบความชุ่มชื้นและช่วยดูดซับความมันส่วนเกินไปในตัวด้วยสารสกัดจากฝ้าย ทำให้เมคอัพติดทนนาน นอกจากนี้ ยังผสานคุณค่าจากโคลนฮาวายเอี้ยน ที่ช่วยปรับสภาพสีผิวให้กระจ่างใสและเติมเต็มความเรียบเนียน พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF 30 PA++

ปัจจุบันมี 2 เฉดสีให้เลือก ขึ้นอยู่กับสีของรอยที่ต้องการอำพราง แต่ด้วยส่วนผสมโคลนรุ่นนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับคนที่ผิวผสมค่อนไปทางผิวมัน เวลาใช้ลองแต้มทีละนิดก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นหน้าอาจลอยหรือเป็นคราบได้ โดยรวมแล้ว ต้องบอกเลยว่าคุณภาพครบเครื่อง พร้อมด้วยราคาที่น่าลองสุด ๆ ค่ะ
เมคอัพเบสสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังมาจากเว็บไซต์ Pantip มีเนื้อครีมที่อุดมไปด้วย Placenta ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ต่าง ๆ เช่น กรด Hyaluronic และ Lipidure, เซราไมด์ (Ceramide) ที่ได้จากผักและสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ผสมผสานกับเทคโนโลยีควบคุมความมัน ซึ่งได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้เกิดสิว หลังใช้แล้วเครื่องสำอางจึงติดทนนานตลอดทั้งวัน พร้อมปกป้องแสงแดดด้วย SPF 26 PA++

ปัจจุบันมีให้เลือก 2 เฉดสี ที่ครอบคลุมสีผิวของคนไทย อย่างไรก็ตาม หลายคนบอกว่ารุ่นนี้เนื้อค่อนข้างหนืด แนะนำให้ลงสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่แห้งก่อนลงเสมอนะคะ
ไพรเมอร์อำพรางรูขุมขนระดับตำนาน เพราะมีบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังรีวิวไว้ว่าเป็นตัวเด็ดในใจของเธอเลย ด้วยเนื้อซิลิโคนที่ช่วยเติมเต็มรูขุมขนและริ้วรอยต่าง ๆ ให้ผิวแลดูเรียบเนียนขึ้นแบบทันใจโดยไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า ได้ฟินิชลุคสุดแมตต์ พร้อมซิลิก้าช่วยควบคุมความมัน ทำให้เมคอัพติดทนนานขึ้นตลอดวัน นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่ให้ความชุมชื้นและปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ

สำหรับรุ่นนี้มีเนื้อสีครีมแต่เมื่อทาไปแล้วจะไม่มีสี จึงเข้าได้กับทุกสีผิว โดย 1 ครั้งไม่ต้องใช้เยอะ แถมทาซ้ำได้อีกระหว่างวันหากรู้สึกว่ารูขุมขนเริ่มเด่นชัดอีกแล้ว แต่ควรลงสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่แห้งมาก ๆ ก่อนทาเสมอด้วย เหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
มาที่อันดับ 1 ในใจของสาว ๆ หลายคนกับไพรเมอร์ที่รวมการเตรียมผิวให้พร้อมในขั้นตอนเดียว ผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดของ Clarins แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของฝรั่งเศส โดยในบ้านเราจะมีให้เลือกถึง 6 เฉดสี เพื่อแก้ไขและอำพรางทุกความบกพร่องของผิวได้ทุกลักษณะ มีส่วนผสมคุณภาพอย่างสารสกัดจากซีลิลลี่ (Sea Lily) ออร์แกนิคที่มีความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานสูงสุดถึง 24 ชม

ในขณะเดียวกันก็มีส่วนผสมของ Pearl Powder และ Soft-Focus Powders ที่ช่วยปรับสมดุลทำให้ผิวดูสดใสไม่มันเยิ้ม ช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบ Oil-Free จึงบางเบา ไม่หนักผิว ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาวแบบผิวสุขภาพดี เหมาะกับทุกสภาพผิว จากความเห็นของสาว ๆ ทราบว่าใช้ปริมาณนิดเดียวก็เพียงพอ และหลายคนถูกใจในกลิ่นที่หอมผ่อนคลายของผลิตภัณฑ์ด้วยค่ะ
นอกจากเมคอัพเบสแล้ว ไอเทมที่ช่วยให้เรามีผิวสวยไร้ที่ติอีกชิ้นคือ “รองพื้น” ซึ่งถือเป็นชิ้นที่สำคัญที่สุด ดังนั้น สาว ๆ จึงควรเลือกสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นที่พอเหมาะกับสภาพผิวหน้า ขณะเดียวกันก็ยังติดทนนาน โดยมีลำดับการลงเครื่องสำอางตามนี้เลยค่ะ เริ่มจากครีมกันแดด (ถ้าเมคอัพเบสหรือรองพื้นมีสารกันแดดเพียงพอ อาจจะไม่ลงก็ได้) > ไพรเมอร์ > เมคอัพเบส > รองพื้น
มาถึงตรงนี้ สาว ๆ ทั้งหลายคงเข้าใจหน้าที่และความสำคัญของเมคอัพเบสกันมากขึ้นแล้ว เจ้าไอเทมชิ้นนี้อาจจะไม่ได้สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนทันทีที่ทา แต่เมื่อทำงานร่วมกับไอเทมชิ้นอื่น ๆ แล้ว จะช่วยให้ฟินิชลุคของคุณสวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ทุกครั้งที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์นี้ ต้องอย่าลืมเลือกตัวที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองกันให้มากที่สุดนะคะ
นอกจากนี้ การเลือกรองพื้นก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ทุกครั้งที่เลือกซื้อ ขอให้คำนึงอยู่เสมอว่า “ต้องมีความชุ่มชื้นพอประมาณ” และ “ควบคุมความมันได้กลาง ๆ ” อย่าเลือกคุณสมบัติใดคุณสมบัติหนึ่งเป็นพิเศษ เพราะผิวหน้าของคุณเป็นแบบผสม ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาให้คุณหนักใจได้ค่ะ