9 อันดับ เบบี้ออยล์ ที่ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง อัพเดทล่าสุดปี 2567

ค้นหาสินค้าคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดังกว่าร้อยแบรนด์ และร้านค้าแนะนำอีกมากมาย แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ช้อปสิ่งที่ชอบ เพิ่มสิ่งที่ใช่ให้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน มาเพิ่มสิ่งที่ชอบได้อย่างไร้ขีดจำกัด
คุณภาพเจ๋ง ราคาที่ไม่แพง เราแนะนำเลยเจ้านี้ เบบี้ออยล์  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง เบบี้ออยล์  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
หากคุณกำลังมองหาเบบี้ออยล์พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมเบบี้ออยล์ชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ เบบี้ออยล์ ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ เบบี้ออยล์ ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

หนึ่งในอุปกรณ์ที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคนขาดไม่ได้เลยก็คือ “เบบี้ออยล์” เพราะนอกจากจะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ช่วยบำรุงผิวเบบี๋แล้ว ยังสามารถใช้เป็นน้ำมันนวดตัวได้เพื่อความผ่อนคลายให้เด็ก ๆ ได้ดีด้วย ความพิเศษไม่หมดแค่นั้น เพราะเบบี้ออยล์นี้ยังสามารถใช้แทนเมคอัพรีมูฟเวอร์ของคุณแม่ได้อีกด้วย เรียกว่าประโยชน์คุ้มค่าต่อการใช้งานสุด ๆ เลยค่ะ แต่ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมายขนาดไหน หลายคนกลับละเลยวิธีการเลือก เพราะมักจะยึดติดกับตัวแบรนด์เสียมากกว่า ในวันนี้ ผู้เขียนจึงอยากจะมาแนะนำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเบบี้ออยล์ให้ทุกคนมากขึ้นค่ะ

สิ่งแรกที่ทุกคนควรจะรู้คือ วิธีการเลือกเบบี้ออยล์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเลือกเบบี้ออยล์สำหรับเจ้าตัวเล็กของคุณ และนอกจากนี้ เรายังได้ทำการค้นหา 10 อันดับเบบี้ออยล์ขวัญใจชาวเน็ต ที่ได้ผ่านการเปรียบเทียบทั้งเรื่องของราคา เรื่องคุณสมบัติ และรีวิว มาฝากกันด้วย เพื่อที่ผู้ปกครองมือใหม่ทุกคนจะได้เลือกซื้อเบบี้ออยล์ที่เป็นมากกว่าเบบี้ออยล์ไปใช้กันได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ
อันที่จริงแล้ว การเลือกซื้อเบบี้ออยล์นั้นมีสิ่งที่ต้องคำนึงมากกว่าที่หลาย ๆ คนคิด การอ้างอิงคุณภาพจากแบรนด์อาจไม่เพียงพอ แต่ต้องพิจารณาไปด้วยว่า รุ่นนั้น ๆ มีคุณสมบัติอย่างไร เหมาะกับวัตถุประสงค์ของเราหรือเปล่า จะมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้น ตามมาอ่านด้านล่างนี้กันเลยค่ะ
หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผิวของเด็กอ่อนมีความบอบบางมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับพวกเค้าจึงต้องอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเบบี้ออยล์ที่ต้องสัมผัสกับผิวโดยตรงและเคลือบผิวได้เป็นเวลานาน เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวเด็กได้ เช่น สีเติมแต่ง, น้ำหอม หรือสารกันเสียพาราเบน
วิธีการดูส่วนผสมนั้น ไม่ใช่แค่การดูที่ด้านหน้าขวดอย่างเดียวนะคะ แต่ต้องอ่านลิสต์ของส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ด้านหลังขวดอย่างละเอียดด้วยเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม รุ่นไหนที่มีกลิ่นหอมนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องใส่น้ำหอมสังเคราะห์อย่างเดียว เพราะบางรุ่นมีกลิ่นหอมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติก็มี ก่อนซื้อจึงควรตรวจสอบให้ชัดเจนค่ะ
หลายคนคงพอทราบอยู่ว่า เบบี้ออยล์นั้นมีหลายสูตรมากมาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานของเรา ดังนั้น ใครที่ซื้อเพราะแบรนด์หรือตามกระแสของคุณแม่คนอื่น ๆ อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของตัวเองนะคะ
ใครที่ซื้อเพื่อการบำรุงผิวพรรณหรือปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ไม่ว่าจะของลูกน้อยหรือจะของตัวเองก็ดี แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์จากธรรมชาติ เช่น Shea Butter และ Ceramide เพราะมีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นที่ใต้ชั้นผิวสูง ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันของผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำและทำให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น ยากที่จะเกิดการระคายเคืองต่อมลภาวะต่าง ๆ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ในช่วงหน้าหนาว
นอกจากนี้ สำหรับใครที่ต้องการความชุ่มชื้นมากขึ้นไปอีก แนะนำให้ใช้ “เบบี้โลชั่น” ควบคู่กันไปด้วยนะคะ โดยทาโลชั่นก่อน รอให้ซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยทาออยล์ทับเพื่อล็อกความชุ่มชื้น เพียงเท่านี้ผิวของคุณหรือลูกน้อยก็จะได้รับความชุ่มชื้นยาวนานแล้วค่ะ
สำหรับสกินแคร์แล้ว Mineral Oil อาจเป็นสารที่หลายคนหลีกเลี่ยง ด้วยการทำงานของมันที่เป็นเสมือนฟิล์มเคลือบชั้นผิว ซึ่งเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจปิดกั้นการถ่ายเทของน้ำและอากาศระหว่างชั้นผิวกับภายนอก ทำให้ผิวไม่สามารถถ่ายเทของเสียอย่างเช่น เหงื่อ ออกมาตามธรรมชาติได้ ในทางกลับกัน คุณสมบัตินี้กลับส่งผลดีต่อการทำความสะอาด เพราะช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างผ้าหรือสำลีที่สัมผัสกับผิวหนัง จึงทำให้เกิดการระคายเคืองน้อย
อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ไม่เหมาะกับการใช้บำรุงผิวนะคะ เพราะค่อนข้างล้างออกยาก อาจก่อให้เกิดการแพ้จนถึงขั้นมีผื่นขึ้นตามผิวหนังจนต้องไปรักษากันยกใหญ่ได้ โดยเฉพาะในเด็กอ่อนที่อายุยังไม่ถึง 3 เดือน ซึ่งจะมีผิวบอบบางมากเป็นพิเศษ
ใครที่ซื้อเพื่อใช้นวดทำสปาให้กับลูกน้อย แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติ เช่น Jojoba, Grape Seed, Almond, Olive และ Camellia เพราะค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว แต่ไม่ควรเลือกรุ่นที่ทำจากธรรมชาติ 100% ขนาดนั้นนะคะ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ได้ นอกจากนี้ เมื่อเปิดใช้แล้วก็ไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะส่วนใหญ่มักจะไม่ผสมสารกันเสีย
ตามที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ทั้งหมด หลายคนคงเห็นแล้วว่ามีพืชพรรณจากธรรมชาติมากมายที่ถูกใช้เป็นส่วนผสมของเบบี้ออยล์ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อการดูแลผิวอย่างล้ำลึก เราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวกันนะคะ
ใครที่กังวลเรื่องผิวแห้งเป็นพิเศษให้เลือกรุ่นที่มีส่วนผสมของ Jojoba Oil เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอและอีที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นได้ดีมาก แต่ถ้าใช้เพื่อปลอบประโลมผิวระคายเคือง แนะนำให้ใช้สูตรที่ผสม Olive Oil แทน ในทางกลับกัน ถ้ากังวลเรื่องความมันมากกว่า ให้เลือกสูตรที่ผสมน้ำมันข้าวโพดหรือ Almond เพื่อป้องกันการเกิดสิว และถ้าใครอยากกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตเพื่อปกป้องผิวจากความเย็นในฤดูหนาว ก็ให้เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของงาหรือ Grape Seed แทนนะคะ
เรื่องบรรจุภัณฑ์นั้นอาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องรอง แต่สำหรับใครที่ซื้อออยล์เพื่อใช้กับลูกน้อย ที่โดยส่วนใหญ่มักจะเอาไว้ทาหลังอาบน้ำหรือหลังขับถ่ายขณะที่เด็กกำลังเปลือย ขอแนะนำให้เลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถจับได้ถนัดด้วยมือเดียว และสามารถกดหรือเทใช้ง่ายใน 1 ปั๊มได้เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
เชื่อว่าหลายคนเวลาเลือกซื้อของ นอกจากส่วนผสมแล้ว มักจะให้ความสำคัญกับปริมาณว่า ยิ่งเยอะ ก็จะยิ่งคุ้ม แต่อย่าลืมนะคะ! ส่วนใหญ่แล้วเบบี้ออยล์มักจะไม่ผสมสารกันเสีย ทำให้มีอายุการใช้งานไม่นานนัก เมื่อเปิดใช้แล้วจึงควรใช้ให้หมดภายใน 2-3 เดือน แต่หากใช้อย่างไรก็ไม่หมดจริง ๆ ในตอนท้ายบทความเราก็มีเคล็ดลับการใช้งานให้คุ้มค่ามาฝากกัน เพราะฉะนั้นเมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจจาก 10 อันดับที่เรานำเสนอไปได้แล้ว อย่าเพิ่งรีบปิดบทความไปนะคะ
การเลือกซื้อเบบี้ออยล์นั้นมีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิดกันใช่ไหมล่ะคะ แต่เพียงแค่นี้ก็อาจจะยังไม่เพียงพอ เรายังต้องเรียนรู้ข้อมูลของสินค้าจากหลากหลายยี่ห้อไว้ด้วย เพื่อที่จะได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเหมาะกับความต้องการของเราและลูกน้อยมากที่สุด ถ้าเช่นนั้น เรามาเริ่มดูผลิตภัณฑ์ที่ทางทีมงานไปคัดสรรมาฝากกันเลยค่ะ
เริ่มต้นกันด้วยแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแบรนด์นี้เค้ามีผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่และเด็กด้วย โดยความพิเศษของรุ่นนี้คือ มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติมากมาย ได้แก่ Grape Seed, Olive, Almond, Wheat Germ และ Avocado Oil จึงอุดมไปด้วยวิตามิน E และ Lanolin ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ

นอกจากนี้ ยังปราศจากสารเคมีอันตรายต่าง ๆ และผ่านการทดสอบโดยกุมารแพทย์เรียบร้อยแล้วว่ามีความปลอดภัยต่อเด็กทารก ผู้ที่ใช้จริงรีวิวไว้ว่ามีเนื้อออยล์ที่เข้มข้น มีสีเหลืองคล้ายน้ำผึ้ง มาพร้อมกลิ่นหอมละมุนแบบธรรมชาติ ใช้แล้วช่วยให้ผ่อนคลาย เหมาะแก่การผสมน้ำอาบหรือสปาลูกน้อยได้ดี แต่เรื่องราคาอาจจะค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจด้วยการผสมผสานด้วยออยล์ธรรมชาติที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีคุณสมบัติเนียนลื่น ใช้ลูบไล้ทาผิวได้อย่างอ่อนโยนและยังซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว พร้อมด้วยสารสกัดจาก Shea Butter ที่นำเข้าจากสวีเดน อุดมไปด้วยวิตามิน A และวิตามิน E ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและปกป้องผิวจากความแห้งกร้านอันเป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองได้

สูตรนี้มีให้เลือกหลายขนาด สามารถใช้ได้ทั้งแม่และลูก แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ยากตามห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติต่าง ๆ แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ควรค่าแก่การตามหา หรือเพื่อความสะดวกสบาย ก็สามารถคลิกผ่านทางร้านค้าออนไลน์นี้ได้เลยค่ะ
หลายคนอาจจะคุ้นชื่อแบรนด์นี้กันมาบ้างแล้วด้วยชื่อเสียงในเรื่องของสกินแคร์โดยเฉพาะ รุ่นนี้มีความพิเศษอยู่ที่ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ได้แก่ Salicorne ที่จะช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำในชั้นผิว, Jojoba Oil ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และ Defensil สารสกัดจากพืช 3 ชนิด ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและฟื้นฟูให้กลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยวิตามมิน E ที่จะมาช่วยเคลือบผิวให้นุ่ม และเติมเต็มความชุ่มชื้นลงไปให้กับผิวอีก ทั้งยังมีเนื้อออยล์ที่บางเบา ทาแล้วซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และอ่อนโยนต่อเด็ก ๆ มีกลิ่นหอมเพื่อเติมความสดชื่นในขณะใช้งานได้ดีอีกด้วย จึงเป็นอีกรุ่นนึงที่คุณลูกใช้ดีคุณแม่ใช้ได้เลยค่ะ
ใครที่ตามหาออยล์สำหรับทำความสะอาดอย่างทะนุถนอมผิว อย่าเพิ่งเลื่อนอันดับนี้ผ่านไปเฉย ๆ นะคะ ไม่อย่างนั้นน่าเสียดายแย่ เพราะรุ่นนี้เป็นสูตร Mineral Oil บริสุทธิ์ ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากคาโมมายล์ ช่วยทำความสะอาดและมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวขณะเช็ดได้อย่างอ่อนโยน ซึ่งผ่านการทดสอบทางผิวหนังแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใด ๆ

นอกจากนี้ ยังมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ มีเนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ สามารถขจัดคราบไคลและทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด จากรีวิวของเหล่าคุณแม่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังใช้กับเจ้าตัวน้อยแล้วรู้สึกถึงผิวของเด็ก ๆ ที่นุ่มและชุ่มชื้นมากขึ้นเลย ถือเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่าค่ะ
สำหรับรุ่นนี้พิเศษด้วยส่วนผสมที่สกัดจากว่านหางจระเข้และ Jojoba Oil จึงอุดมไปด้วยวิตามิน E ที่จะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวไปพร้อมกับการบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพผิวที่แห้งเสียให้เนียนนุ่มขึ้น ลดความแห้งกร้าน โดยเป็นสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน สารซิลิโคน และสารเติมแต่ง แถมมั่นใจความปลอดภัยได้เลยเพราะผ่านการทดสอบทางแพทย์ผิวหนังแล้วว่าอ่อนโยนต่อเด็ก

มีเนื้อออยล์เหลวพอเหมาะ ซึมซาบสู่ผิวไว ไม่ทิ้งความมัน ไม่ทำให้เหนียวตัว และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบธรรมชาติ หากใช้เป็นประจำจะสังเกตได้เลยว่าผิวมีสุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาเช็ดเครื่องสำอางได้ดีโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองใด ๆ เรียกว่าใช้ได้อย่างคุ้มค่าทั้งคุณลูกและคุณแม่เลยค่ะ
Mineral Oil บริสุทธิ์ที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากสารสกัดธรรมชาติอย่างน้ำมัน Almond และกุหลาบ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ จึงช่วยมอบและรักษาความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างอ่อนโยน โดยได้รับการทดสอบทางผิวหนังเรียบร้อยแล้วว่าเสี่ยงต่อการระคายเคืองน้อยมาก นอกจากนี้ ยังมีบรรจุภัณฑ์ที่จับถนัดมือ มีฝาเปิดปิดได้สะดวก แถมยังมีหลายขนาดให้เลือกซื้ออีกด้วย

มาดูผลลัพธ์หลังใช้งานของคนส่วนมากกันบ้าง สูตรนี้มีเนื้อที่บางเบา มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลาย ทาแล้วไม่เหนอะหนะ ทั้งยังสามารถขจัดคราบไคล สิ่งสกปรก และเครื่องสำอางได้ดี ขณะเดียวกันก็ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มไปด้วยในตัว
มาถึง Johnson’s แบรนด์ยอดฮิตตลอดกาลในหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก โดยสูตรนี้สกัดมาจากส่วนผสมของ Mineral Oil บริสุทธิ์ ที่แบรนด์เค้าการันตีว่า ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าปกติถึง 10 เท่าเลย ผสมผสานด้วยคุณค่าจากว่านหางจระเข้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน E จึงช่วยเติมน้ำให้ผิวและปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดการแตกแห้งของผิวหนัง อันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

นอกจากนี้ยังมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ มีกลิ่นหอม ช่วยให้ผ่อนคลายขณะใช้ และมีสัมผัสค่อนข้างจะบางเบาทำให้ซึมซาบไว หลังจากทาแล้วจึงไม่เหนอะหนะผิว พร้อมให้การบำรุงและทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน
รุ่นนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดออร์แกนิคจากธรรมชาติ เช่น ข้าวโอ๊ต, ดอกคาโมมายล์ และว่านหางจระเข้ จึงอุดมไปด้วยวิตามิน E ช่วยคงความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิวได้ดี พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ และลดความหยาบกร้านของผิว โดยปราศจากสารกันเสียพาราเบน ซึ่งได้รับการทดสอบ Hypo-Allergenic Tested โดยแพทย์ผิวหนังเรียบร้อยแล้วไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง

หลายคนที่ใช้ต่างชื่นชอบในประสิทธิภาพ เพราะเนื้อออยล์เข้มข้นแต่ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ หลังใช้แล้วรู้สึกผิวเนียนนุ่มมากขึ้น มีกลิ่นหัวติดตัวได้ตลอดวัน นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังจับถนัดมือและเปิดปิดง่ายอีกด้วย
รุ่นนี้มีส่วนผสมหลักจากออยล์บริสุทธิ์ ผสานด้วยคุณค่าของเอสเซ้นท์จากดอกซากุระขาว จึงอุดมไปด้วยวิตามิน E ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มน้ำให้ผิว ฟื้นฟูให้เนียนนุ่มน่าสัมผัสและป้องกันการแห้งกร้าน ปกป้องและลดการสะสมของแบคทีเรีย โดยปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน สารทำความสะอาด ซิลิโคนและการเจือสี ได้รับการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่าเสี่ยงต่อการระคายเคืองน้อย

เนื้อออยล์ของรุ่นนี้เนียนลื่น มอบสัมผัสที่อ่อนโยน มาพร้อมกลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลาย เมื่อทาแล้วซึมซาบไว จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้ดี นอกจากนี้ยังทำความสะอาดได้ดีอีกด้วย
สูตรนี้ไม่ธรรมดาเพราะถือเป็นขวัญใจของเหล่าคุณพ่อคุณแม่ชาวเน็ตเลยทีเดียว ด้วยส่วนผสมหลักจาก Mineral Oil บริสุทธิ์ จึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มเติมด้วยส่วนผสมของวิตามิน E ที่ช่วยฟื้นฟูผิวและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น นอกจากนี้ยังปราศจากแอลกอฮอล์ จึงใช้เช็ดทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน แต่มีคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องและลดการสะสมของแบคทีเรียได้ดี จึงตอบโจทย์การดูแลเด็ก ๆ ได้ครบสูตร

และเนื่องจากเนื้อออยล์มีอนุภาคเล็ก จึงดีต่อการซึมซับเข้าสู่ผิวได้เร็วและในระดับลึก ทำให้ฟื้นฟูให้ผิวมีสุขภาพดีอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถใช้เช็ดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด แต่คุณแม่คนไหนที่หน้ามัน แนะนำให้ใช้น้อย ๆ นะคะ เพราะถ้าล้างหน้าไม่สะอาดอาจจะอุดตันเอาได้
มาถึงช่วงท้ายนี้ เราจะขอแนะนำเคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้เบบี้ออยล์ โดยจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ติดตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
เมื่อได้เบบี้ออยล์ที่ถูกใจมาแล้ว คุณแม่จะรีบนำมาทาลงบนตัวหรือใบหน้าของลูกน้อยเลยไม่ได้เด็ดขาดเชียวนะคะ ต้องทดสอบการแพ้ก่อนทุกครั้ง ซึ่งขั้นการทดสอบก็ง่ายแสนง่าย ดังต่อไปนี้เลยค่ะ
เริ่มจากทาออยล์ที่บริเวณท้องแขนหรือผิวบริเวณต้นขาด้านใน จากนั้นรอสัก 4-5 ชม. ถ้าไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ให้ลองทาที่ใบหน้าและลำคอต่อในปริมาณน้อย ๆ แล้วสังเกตสภาพผิวบริเวณดังกล่าวอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป 24 ชม. หากไม่มีอาการใด ๆ คุณแม่ก็มั่นใจได้ในระดับนึงแล้วล่ะค่ะว่าปลอดภัย ใช้แล้วไม่แพ้ แต่ถ้าผิวมีอาการแดงหรือผิดปกติไปจากเดิม ให้รีบล้างออยล์ออกด้วยน้ำสะอาดทันที และหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นไปเลยค่ะ
นอกจากจะใช้กับเบบี๋ได้แล้ว เบบี้ออยล์ยังสามารถใช้กับผู้ใหญ่อย่างเราได้ด้วย เพราะเบบี้ออยล์นั้นสามารถใช้เป็นสกินแคร์และแฮร์แคร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนวดขัดสิวเสี้ยนบนจมูก ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเทออยล์ใส่สำลีแผ่นและถูอย่างอ่อนโยนจนกว่าสิวเสี้ยนจะหายไปทั้งหมด หรือจะใช้เป็นคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางก็ย้อมได้ นอกจากนี้ ยังใช้เพิ่มความชุ่มชื้นในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีก เช่น โฟมล้างหน้า, เมคอัพเบส หรือแม้แต่โลชั่น เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ
เช่นเดียวกับคลีนซิ่ง คุณสามารถหยดเบบี้ออยล์ลงในยาสระผมเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะและเส้นผม โดยเฉพาะช่วงที่อากาศหนาว และยังใช้บำรุงผิวหนังรอบเล็บมือให้มีสุขภาพดีได้อีกด้วย เพียงแค่ทาบาง ๆ เท่านั้น เห็นไหมคะว่า เบบี้ออยล์เพียงขวดเดียวก็ใช้งานได้คุ้มค่าทั้งแม่และลูก ใครที่กังวลว่าซื้อมาในปริมาณเยอะแล้วจะใช้ไม่หมด ลองนำเคล็ดลับการใช้งานเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูได้นะคะ
ถ้าใครรู้สึกว่าเบบี้ออยล์ที่ใช้อยู่ดูไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองหรือลูกน้อย หรือแม้แต่ใครที่กำลังตามหามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว ลองนำวิธีการเลือกที่เรานำเสนอไปปรับใช้ดูนะคะ และอย่าลืมคำนึงถึงข้อมูลของสินค้าต่าง ๆ ควบคู่ไปกับอันดับของผลิตภัณฑ์ด้วย เพื่อที่คุณจะได้สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการและได้ผลลัพธ์จากการใช้งานมากที่สุด
การเก็บรักษาก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะตามที่กล่าวไป ทุกคนคงทราบแล้วว่าเบบี้ออยล์มักไม่ใส่สารกันเสีย ทำให้หมดอายุง่าย เวลาใช้จึงไม่ควรเปิดฝาทิ้งไว้นาน ๆ เพราะจะทำให้อากาศหลุดรอดเข้าไปในขวด ซึ่งอาจเร่งกระบวนการให้เสียเร็วขึ้นได้