ถ้าพูดถึงการเชื่อมต่อสัญญาณแบบไร้สายแล้ว บลูทูธก็ถือได้ว่าเป็นอีกรูปแบบสำคัญที่สร้างความสะดวกสบายให้กับชาวไอทีในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับหูฟัง ลำโพงหรือกับแป้นพิมพ์ไร้สาย รวมถึงคอมพิวเตอร์ PC ที่ส่วนใหญ่ไม่มีระบบบลูทูธในตัว ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของบลูทูธ อะแดปเตอร์ ไอเทมน่าทึ่งที่จะช่วยเราจับคู่ PC กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อะแดปเตอร์เชื่อมต่อแบบบลูทูธ (Bluetooth Adapter) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ USB Bluetooth เป็นอุปกรณ์ที่มีจำหน่ายทั่วไป ซึ่งถ้าหากใครไม่อยากไปเดินหาที่พันธุ์ทิพย์แล้วล่ะก็ ช่องทางออนไลน์ก็มีแบรนด์ดังมากมายให้เราได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น UGREEN, AVANTREE, ORICO, ASUS, TP-LINK ฯลฯ แต่ด้วยลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้ ทำให้เรายิ่งต้องทำความรู้จักคุณสมบัติเฉพาะของอุปกรณ์มากขึ้น และในบทความนี้ ทางทีมงานก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลสำคัญพร้อมกับ 10 อันดับบลูทูธ อะแดปเตอร์ แนะนำ มาให้ผู้อ่านใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดกันค่ะ
ก่อนที่เราจะเลือกบลูทูธ อะแดปเตอร์นั้น เราต้องทำความรู้จักกับสัญญาณรับ-ส่งข้อมูลอย่างบลูทูธเสียก่อน บูลทูธ (Bluetooth) คือ คลื่นวิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) ที่ใช้เป็นสื่อกลางระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่จำเป็นต้องมีสายสัญญาณ บลูทูธจะใช้การกระโดดเปลี่ยนความถี่ (Frequency hop) ในการติดต่อสื่อสารผ่านช่องสัญญาณความถี่ 2.4 Ghz ภายใต้ระยะทาง 10 เมตร
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการติดตั้งบูลทูธมากับอุปกรณ์บางประเภท แต่กลับพบว่ามีไม่น้อย ที่บลูทูธเหล่านั้นเกิดความขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้น บูลทูธ อะแดปเตอร์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ด้วยลักษณะภายนอกทั่วไปที่คล้ายกัน จนบางครั้งทำให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าบลูทูธ อะแดปเตอร์ทุกตัวใช้งานได้เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว เวอร์ชั่นที่ต่างกันก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นรายละเอียดที่เรานำมาเสนอต่อจากนี้ จะช่วยให้เราได้บลูทูธ อะแดปเตอร์ที่ตรงกับพีซีของเรามากที่สุดค่ะ
เริ่มต้นด้วยสัญญาณความแรงของบูลทูธที่ในปัจจุบันแบ่งเป็น Class ต่าง ๆ ได้ดังนี้
- Class 1: เชื่อมต่อในรัศมี 100 เมตร ใช้พลังงานประมาณ 100 มิลลิวัตต์ เหมาะกับใช้รับ-ส่งข้อมูลในสำนักงานที่มีพื้นที่กว้างขวาง
- Class 2: เชื่อมต่อในรัศมี 10 เมตร ใช้พลังงานประมาณ 2.5 มิลลิวัตต์ เหมาะสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใกล้ตัวที่ใช้กันทั่ว ๆ ไปเช่น หูฟัง โน้ตบุ๊ก
- Class 3: เชื่อมต่อในรัศมี 1 เมตร ใช้พลังงานประมาณ 1 มิลลิวัตต์
- Class 4: เชื่อมต่อในรัศมี 0.5 เมตร ใช้พลังงานประมาณ 0.5 มิลลิวัตต์
ซึ่งโดยทั่วไปสัญญาณใน Class ที่ 3 และ 4 นั้นค่อนข้างอ่อนมาก จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันนั่นเอง
สำหรับเวอร์ชั่นของบลูทูธก็เป็นจุดสังเกตที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง โดยมีเวอร์ชั่นตั้งแต่ 1.0 ไปจนถึง 5.0 แต่เวอร์ชั่นที่เป็นนิยมใช้คือ 3.0 และ 4.0 โดยเฉพาะบลูทูธเวอร์ชั่น 4.0 นั้น เป็นรุ่นมาพร้อมคุณสมบัติประหยัดพลังงาน จึงทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าบลูทูธเวอร์ชั่นก่อน ๆ
อย่างไรก็ตาม บลูทูธจะทำงานร่วมกับเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่าตัวเองไม่ได้ แต่จะทำงานร่วมกันกับเวอร์ชั่นที่เก่ากว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น บลูทูธเวอร์ชั่น 3.0 สามารถรองรับเวอร์ชั่น 2.0 ได้ ซึ่งความเร็วที่ใช้ก็จะเป็นเวอร์ชั่น 2.0 แต่ไม่สามารถทำงานกับเวอร์ชั่น 4.0 ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบเวอร์ชั่นของบลูทูธ อะแดปเตอร์ที่เชื่อมกับพีซีของเราให้ดี ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ
แต่ไม่ใช่เพียงแค่เวอร์ชั่นเท่านั้น ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ในการเลือกบลูทูธ อะแดปเตอร์ นั่นก็คือ “โปรไฟล์” ( Profile ) เพราะบลูทูธถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างหลากหลาย ดังนั้น โปรไฟล์จึงเป็นตัวกำหนดว่า บลูทูธนั้น ๆ สามารถทำงานให้กับอุปกรณ์ใดได้บ้าง ซึ่งตัวอย่างที่หลายคนคุ้นเคยก็มีดังนี้
- A2DP ( Advanced Audio Distribution Profile ) สำหรับอุปกรณ์ส่งผ่านข้อมูลเสียงในแบบ Stereo
- BIP ( Basic Image Profile ) สำหรับการโอนถ่ายภาพนิ่ง
- FTP ( File Transfer Profile ) สำหรับการโอนย้ายไฟล์
- HFP ( Hand Free Profile ) สำหรับโทรศัพท์ผ่าน Headsets เน้นเสียงชัด ไร้เสียงรบกวน
- HCRP ( Hard Copy Cable Replacement Profile ) สำหรับเครื่องพิมพ์ ปริ้นเตอร์
- PAN ( Personal Area Networking Profile ) สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ รูปแบบการทำงานบลูทูธ อะแดปเตอร์ จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ก็ต่อเมื่อทั้ง 2 อุปกรณ์มีโปรไฟล์ที่รองรับซึ่งกันและกัน ดังนั้น บลูทูธ อะแดปเตอร์ ที่ดีที่จะต้องสามารถใช้งานบนอุปกรณ์ได้หลายหลายที่สุดนั่นเอง
ซึ่งหากสังเกตจากชื่อที่เรารู้จักกันอย่าง USB Bluetooth แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ USB เพราะไม่เพียงแต่ระบบการทำงานที่มีหลากหลายเท่านั้น ชิ้นส่วนอย่าง USB ก็ถูกกำหนดมาตรฐานและชนิดที่หลากหลายด้วย ซึ่งที่เราพบโดยทั่วไปในปัจจุบันจะมีแบบ USB 3.0 และ 2.0 แต่ก็ยังมี USB 3.1 ที่เพิ่งได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในท้องตลาด และเลขมาตรฐาน USB ที่สูงขึ้นนี้ หมายถึงประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลของบลูทูธอะแดปเตอร์ที่มีจะเพิ่มขึ้นด้วย
แต่ถึงแม้ว่าบลูทูธ อะแดปเตอร์จะมีมาตรฐานสูงแค่ไหน หากนำไปใช้กับเครื่องพีซีที่มีมาตรฐาน USB ต่ำกว่า ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลก็จะถูกจำกัดอยู่ที่มาตรฐาน USB ที่ต่ำกว่าอยู่ดี ดังนั้นเราจึงต้องตรวจสอบมาตรฐาน USB ของบลูทูธอะแดปเตอร์ไปพร้อม ๆ กับพีซีของตนเองก่อนซื้อนั่นเอง
มาถึงส่วนสุดท้ายที่เป็นบทสรุปของหลาย ๆ ขั้นตอน นั่นก็คือความเข้ากันได้ของบลูทูธ อะแดปเตอร์ กับเวอร์ชั่นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของเรานั่นเอง พูดง่าย ๆ ว่า แม้ว่าเราจะเลือกด้วย มาตรฐาน USB ,โปรไฟล์, เวอร์ชั่น หรือ Class ที่ตรงตามสเปกมาทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่หากระบบปฏิบัติการที่เรามีไม่รองรับ ก็เป็นอันว่าใช้งานไม่ได้ค่ะ
ซึ่งระบบปฏิบัติการที่เป็นที่นิยมในคอมพิวเตอร์ทั่วไปก็มี Windows, Mac OS และ Linux ยกตัวอย่าง Windows ก็มีหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Vista , Windows 7 , 8 , 8.1 , 10 โดยในบางรุ่นก็อาจสามารถใช้ร่วมกันได้ หรือบางรุ่นอาจใช้พื้นที่มาก จนทำให้ไม่ประหยัดพลังงาน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราจะต้องรู้ว่าระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของเราเป็นรุ่นใด และรองรับบลูทูธประเภทไหนได้บ้าง เพื่อให้บลูทูธ อะแดปเตอร์ ที่เราเลือกซื้อมามีคุณสมบัติตรงกับพีซีและใช้งานได้
เมื่อเราทำความรู้จักกับบลูทูธ อะแดปเตอร์กันไปบ้างแล้ว ก็มาถึงช่วง 10 อันดับ บลูทูธ อะแดปเตอร์ ยอดฮิตแห่งปี ที่ไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพดีเท่านั้น แต่ยังสามารถหาซื้อออนไลน์ได้ด้วย ทั้งสะดวกและคุ้มค่าขนาดนี้ จะมีอะไรบ้าง ตามมาชมกันเลย
บลูทูธ อะแดปเตอร์ขนาดเล็กพกพาสะดวก มาในราคาที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ หูฟัง ลำโพง แท็บเล็ตหรือกล้องดิจิทัล ฯลฯ โดยสามารถเชื่อมได้ไกลถึง 20 เมตร โดยมีความสามารถส่งข้อมูลได้ 3MB ต่อวินาที อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ชื่นชอบในราคาสบายกระเป๋า อาจจะต้องยอมรับในเรื่องของสัญญาณ เพราะรุ่นนี้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งถ้าอุปกรณ์อยู่ห่างกัน 3-4 เมตรขึ้นไป อาจจะทำให้สัญญาณสะดุดหรือขาดหายได้ง่ายมาก
ตามมาติด ๆ กับอะแดปเตอร์เวอร์ชั่น 4.0 คุณภาพดีที่ใช้พลังงานต่ำ เริ่มต้นการเชื่อมต่อได้ง่ายเพียงติดตั้งไดรเวอร์ที่มาพร้อมกับแผ่นซีดี และด้วยระบบ Plug and Play ทำให้เราสามารถเสียบเข้ากับช่องรับข้อมูลของพีซีและเริ่มต้นทำงานรับส่งข้อมูลในทันทีได้เลย แถมยังมีอัตรารับส่งข้อมูลที่ 3MB ต่อวินาที ไกลถึง 20 เมตร อย่างไรก็ตามรุ่นนี้รองรับแค่บางระบบปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งถ้าใครที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่นก็อาจจะต้องมองหา บลูทูธ อะแดปเตอร์ ในอันดับอื่นแทน
บลูทูธอะแดปเตอร์รุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นรองรับระบบปฎิบัติการ Microsoft Windows โดยเฉพาะ ใช้งานง่าย มีไดร์เวอร์ให้โหลดในเว็บไซต์ของแบรนด์ เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยากและผู้ที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่องใส่แผ่นซีดี และสำหรับระบบ Windows 8 หรือ 10 สามารถเสียบก็ใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ อย่างไรก็ตาม คุณภาพการเชื่อมต่อกับโปรไฟล์อย่าง A2DP ประเภทลำโพงบลูทูธอาจจะมีติดขัดบ้าง และไม่สามารถใช้งานร่วมกับทีวีหรือลำโพงบลูทูธได้
บลูทูธอะแดปเตอร์พร้อมชิปเซ็ตบลูทูธที่ได้รับความนิยมอย่าง BlueCore® CSR8510™ A10 WLCSP ในรุ่นนี้นั้นสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หลายชนิด เช่น เมาส์, คีย์บอร์ด, สมาร์ทโฟน หรืแม้แต่การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกันก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเร็วรับส่งข้อมูลสูงสุด 3 Mbps และถือเป็นอีกรุ่นที่มีระบบ Plug & Play ซึ่งเสียบแล้วใช้งานได้เลยไม่ต้องติดตั้งไดรฟ์เวอร์ ทั้งนี้แม้ว่าสเปกรุ่นบอกว่ารับส่งสัญญาณได้ไกลถึง 50 เมตร แต่ระยะแนะนำที่ใช้ได้จริงก็ไม่ควรเกิน 20 เมตรค่ะ
มาที่บลูทูธหลากสีจากค่ายจีนอย่าง ORICO กันบ้าง ที่มาพร้อมเสาอากาศขนาดจิ๋วในตัว ทำให้ระยะการรับส่งสัญญาณทำได้ไกล10-20 เมตร รองรับโปรไฟล์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรไฟล์ทั่วไปหรือ HID ที่เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์มือถือ (Hand-held), HID over GATT, GATT, OPP ฯลฯ แถมยังกินพลังงานบนพีซีต่ำมาก ถือว่าใช้ได้คุ้มค่ากับทุกอุปกรณ์เลยทีเดียว และนอกจากจะรองรับ Windows หลายเวอร์ชั่นแล้ว รุ่นนี้ยังรองรับระบบปฏิบัติการ Mac OS ได้ด้วย เรียกว่าตอบโจทย์ผู้ที่ใช้ Apple ด้วย
บลูทูธจาก ASUS นี้เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตสำหรับคนทั่วโลกเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่แค่รองรับโปรไฟล์ประสิทธิภาพสูงได้กว่า 40 ประเภทเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Bluetooth Low energy ช่วยให้ประหยัดพลังงานในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากขึ้น ที่สำคัญสามารถใช้กับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ทันที โดยไม่ต้องทำการติดตั้งไดร์ฟเวอร์ใด ๆ ส่วนเรื่องความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลทุกรูปแบบก็ทำได้อย่างไม่มีที่ติเลยค่ะ
มาแล้วกับบลูทูธที่แม้จะส่งสัญญาณได้ไกล 10 เมตร แต่ก็สามารถโอนถ่ายข้อมูลต่าง ๆ ได้รวดเร็วสุด ๆ รองรับการใช้งานร่วมกับบลูทูธทุกเวอร์ชั่น ให้เสียงคมชัดเก็บทุกรายละเอียด ด้วยระบบสัญญาณที่เสถียรมากจึงใช้งานได้ทั้งในบ้านและในสำนักงาน โดยไม่ต้องลงไดร์เวอร์ก็ใช้งานได้ ที่สำคัญสามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน แต่มีข้อเสียที่ไม่สามารถใช้กับรถได้นั่นเอง นอกจากนี้มีคำแนะนำ เพื่อให้ได้สัญญาณที่สมบูรณ์ ควรใช้งานควบคู่ไปกับโปรแกรมที่ให้มาพร้อมแพกเกจด้วยค่ะ
มาที่บลูทูธพกพาง่ายรุ้นนี้กันบ้าง กับจุดเด่นที่สามารถเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์เข้ากับรถยนต์ได้พร้อมกัน หรือจะใช้เชื่อมทีวี ลำโพง และสมาร์ทโฟนได้ทั้ง iOS และ Android ก็ทำได้ดีทีเดียว โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การถ่ายโอนสัญญาณเสียงแบบ Hi-Fi Music ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีฝาปิดเพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างจัดเก็บให้ด้วย ทั้งนี้สามารถใช้ถ่ายโอนไฟล์ขนาดเล็กได้บ้าง แต่แนะนำให้ใช้กับฟังเพลงเป็นเท่านั้น เพราะหากใช้ดูหนังจะทำให้ภาพไม่ตรงกับเสียงได้
อีกหนึ่งบลูทูธสุดฮิตมาแรง ที่เชื่อมได้สเถียรจนต้องบอกต่อ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 7 เครื่อง ลักษณะถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก เพรียว เพื่อช่วยลดปัญหาบลูทูธยื่นออกมากินพื้นที่ ใช้ระบบ Plug and Play เพียงติดตั้งไดร์ฟเวอร์ที่มาพร้อมอุปกรณ์ก็สามารถใช้งานได้เลย รวมถึงมีการใช้เทคโนโลยีพลังงานต่ำ (Bluetooth Low Energy) เข้ามาช่วยลดการสะสมความร้อนขณะทำงานอีกด้วย แต่ทว่ารุ่นนี้จะรองรับโปรไฟล์แบบ SBC เป็นส่วนใหญ่ และไม่รองรับ APT-X หรือ APT-X HD ค่ะ
มาแล้วอะแดปเตอร์ยอดฮิตอันดับที่ 1 รุ่นนี้รับประกันการใช้งานถึง 2 ปี มาพร้อมเทคโนโลยีลดการดีเลย์ aptX Low Latency ที่ช่วยแก้ไขปัญหาการลิปซิง ให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีคมชัดตรงตามภาพที่แสดงบนหน้าคอมพิวเตอร์ มีดีไซน์โดยคล้ายกับ USB เก็บข้อมูลทั่วไป ทำให้พกพาได้สะดวก ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องลงไดร์ฟเวอร์หรือโปรแกรมใด ๆ สามารถรับส่งสัญญาณได้ดีไม่มีสะดุด ที่สำคัญยังสามารถใช้กับระบบปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ได้ทุกระบบทั้ง Windows, Mac OS และลินุกซ์ หรือจะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อย่าง PS4 หรือ Nintendo Switch ก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหาเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่เราได้ทำความรู้จักกันไป โดยแต่ละอุปกรณ์ก็มีทั้งคุณสมบัติ ดีไซน์และราคาที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เราได้เลือกตามความต้องการ และให้ได้ให้คุ้มค่า ตอบโจทย์กับประเภทอุปกรณ์ที่เราจะใช้งานมากที่สุดค่ะ
เนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีนานาชนิด ต่างก็เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปในอนาคต ดังนั้นถ้าเราได้ศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ในการเลือกซื้ออุปกรณ์ไอทีอย่างรอบคอบแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับเราได้มากที่สุดนั่นเอง