สุดยอด 8 โทนเนอร์ถูกและดี น่าใช้ เหมาะกับยุคไฮเทค อัพเดทล่าสุดปี 2567

เลือกช้อปสินค้าใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ที่คุณชื่นชอบ รวมทั้งหมดไว้ในที่เดียว ซื้อและขายสินค้าหลากหลายรายการบนตลาดออนไลน์ที่เชื่อถือได้และใหญ่สุดในไทย
วันนี้ถ้าหากท่านสนใจ ราคาที่ไม่แพง เราอยากนำเสนอ โทนเนอร์ถูกและดี  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง โทนเนอร์ถูกและดี  ไป ราคาถุกกว่าร้านอื่นๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ สินค้าดีๆ ราคาถุก จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากโทนเนอร์ถูกและดี มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง โทนเนอร์ถูกและดี และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา โทนเนอร์ถูกและดี วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ โทนเนอร์ถูกและดียี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

ในปัจจุบันการแต่งเติมใบหน้าด้วยเครื่องสำอางเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันของใครหลายคน โดยเฉพาะสาว ๆ ตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน แต่ยิ่งเมคอัพจัดหนักมากเท่าไร การจะทำความสะอาดผิวให้สะอาดอย่างหมดจดก็ถือเป็นเรื่องยากขึ้นเท่านั้น เพราะในแต่ละวันเรายังต้องเจอกับมลพิษและสิ่งสกปรกมากมาย ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดีพอก็อาจจะส่งผลกระทบต่อผิวหน้าของคุณได้ ดังนั้น นอกจากการล้างทำความสะอาดใบหน้าตามปกติแล้ว คุณจึงควรเพิ่มขั้นตอนการดูแลผิวหน้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการใช้ “โทนเนอร์” นั่นเองค่ะ


แต่ด้วยความที่โทนเนอร์ส่วนมากมักมีราคาสูง บางคนจึงไม่กล้าที่จะลงทุนเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์นี้มาใช้ ดังนั้น เราจึงอยากมาแนะนำวิธีการเลือก โทนเนอร์ถูกและดี เพื่อให้คนที่กำลังลังเลอยู่ได้ลองตัดสินใจดูอีกครั้ง พร้อมกันนั้น เรายังมี 10 อันดับ โทนเนอร์ถูกและดี ราคาสุดคุ้ม ทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดหมดจด รูขุมขนกระชับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นต้องไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ




อันดับแรก เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับโทนเนอร์กันก่อนเลยค่ะ เพราะหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อของผลิตภัณฑ์นี้มาก่อน จึงไม่รู้ว่ามีประโยชน์อย่างไรกันแน่ โดย โทนเนอร์ หมายถึง ผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนใบหน้า หลังจากการล้างหน้าตามปกติในทุก ๆ วัน ส่งผลให้ใบหน้าของคุณสะอาดยิ่งขึ้น ช่วย ลดความมันส่วนเกิน และ ลดการเกิดสิว ได้เป็นอย่างดี


แต่ประโยชน์ของโทนเนอร์ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์นี้นอกจากจะช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึกแล้ว ยังช่วย ปรับสภาพผิวหน้าก่อนการทาครีมบำรุงผิว ทำให้ผิวหน้าของคุณสามารถซึมซับครีมเหล่านั้นลงสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญว่า ทำไมเราจึงควรใช้โทนเนอร์เพิ่มเติมถ้าหากอยากให้ผิวหน้ามีสุขภาพที่ดีขึ้นนั่นเองค่ะ

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โทนเนอร์แต่ละประเภทต่างก็มีความแตกต่างกันออกไป การเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะสมกับตนเองจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้กับคุณแล้ว ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ

ประเภทการใช้งานของโทนเนอร์หลัก ๆ มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกันค่ะ แต่ละประเภทต่างก็ให้คุณประโยชน์และแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วตอนต้นว่า สำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าบ่อย ๆ หรือต้องออกไปเจอมลภาวะในแต่ละวันมากมาย การล้างหน้าด้วยโฟมธรรมดาหรือคลีนเซอร์นั้นไม่เพียงพอแน่นอนค่ะ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกใช้โทนเนอร์สูตรที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารต่าง ๆ ที่ตกค้างตามรูขุมขน เพื่อให้มั่นใจว่าผิวหน้าของคุณจะสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ที่มีความมันส่วนเกินบนใบหน้า ก็ยิ่งไม่ควรมองข้ามการเลือกใช้โทนเนอร์สูตรนี้โดยเด็ดขาดนะคะ

โทนเนอร์หลาย ๆ ตัวที่เราพบเห็นตามท้องตลาด ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมเพื่อช่วยในการบำรุงผิวทั้งสิ้น ส่วนมากมักจะเป็นสารบำรุงที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้น แลดูมีชีวิตชีวา เช่น วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 และวิตามินอี เป็นต้น นอกจากนี้ โทนเนอร์บางยี่ห้อยังผสมสารบำรุงอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้โทนเนอร์ด้วย อาทิ โปร-เรตินอล เอ (Pro-Retinal A) สารบำรุงที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยจาก L'Oreal Paris หรือ Acnacidol™ ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการเกิดสิวจาก Smooth E และอื่น ๆ อีกมากมาย


การใช้โทนเนอร์จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำความสะอาดผิวหน้าธรรมดา ๆ แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพผิวไปในตัวด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่มีครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้อยู่ คุณสามารถใช้เพียงโทนเนอร์อย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากมีครีมบำรุงผิวหน้าตัวอื่นร่วมด้วย ก็ยิ่งช่วยให้ผิวหน้าของคุณได้รับการฟื้นบำรุงที่มากขึ้นอีกค่ะ

นอกจากคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและช่วยฟื้นบำรุงเบื้องต้นแล้ว การเช็ดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาด้วยนะคะ เพราะโทนเนอร์บางยี่ห้อมีส่วนผสมของ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือ BHA โทนเนอร์จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำจากรอยสิวต่าง ๆ เพราะสามารถใช้เพื่อบำรุงผิวหน้าให้ดีขึ้นและกลับมากระจ่างใสมากกว่าเดิมได้นั่นเองค่ะ

การเลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะโทนเนอร์บางประเภท อาจมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของบางคน​ ดังนั้น เรามาดูกันเลยค่ะว่า โทนเนอร์ประเภทไหนบ้างที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด


ผิวมัน : เนื่องจากเป็นผิวที่มีการผลิตน้ำมันบนผิวหน้าออกมาเยอะเป็นพิเศษ จึงอาจจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบนผิวหน้าได้ง่าย และเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ดังนั้น คุณควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่เป็นสูตรช่วยควบคุมความมัน กระชับรูขุมขนและเน้นขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าให้สะอาดล้ำลึกมากขึ้นค่ะ


ผิวผสม : เป็นผิวที่ค่อนข้างดูแลยากสักหน่อย เพราะผิวจะมีความมันเป็นพิเศษโดยเฉพาะ T-Zone แต่บริเวณอื่นจะค่อนข้างแห้ง สำหรับโทนเนอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวประเภทนี้ ควรเลือกที่เป็นสูตรเน้นปรับสมดุลผิวที่สามารถควบคุมความมันได้ แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เช่นเดียวกัน


ผิวแห้ง : เป็นผิวที่ขาดน้ำและอาจจะแพ้ง่ายพอสมควร ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรอ่อนโยน รวมถึงไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเน้นสูตรที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์สูง เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวหน้าของคุณไม่ให้แห้งกร้านจนเกินไปนั่นเองค่ะ

สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว ส่วนใหญ่มักจะเกิดมาจากสภาพผิวมันหรือผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ดังนั้น คุณควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ซิลิกอน น้ำหอม พาราเบนและแอลกอฮอล์ เพราะถ้าหากคุณแพ้สารเหล่านี้ ก็จะยิ่งทำให้เกิดสิวมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ


นอกจากนี้ การเลือกโทนเนอร์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันทีทรี, ต้น Witch Hazel, สารสกัดจากหัวหอม (Allium Cepa), ชะเอมเทศ (Licorice) หรือกลุ่มสาร Acnacidol BG ที่ถูกสกัดมาจากนมผึ้ง (Royal Jelly) ก็ยังถือเป็นการช่วยดูแลปัญหาสิวได้เป็นอย่างดี เพราะสารเหล่านี้ต่างก็มีคุณสมบัติในการช่วยฆ่าเชื้อและยับยั้งแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว แถมยังปลอดภัยจากสารเคมีอีกด้วยนะคะ

มาถึงช่วงที่หลาย ๆ คนรอคอยกันแล้วนะคะ ในครั้งนี้ เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลและคุณสมบัติโทนเนอร์ที่มีคุณภาพดี แถมยังมีราคาไม่สูงมากมาฝากกันด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า จะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง

Herb Ministry เป็นโทนเนอร์สูตรออร์แกนิก ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง Tea Tree Oil ซึ่งเป็นน้ำมันที่ถูกสกัดมาจากใบของต้นไม้พื้นเมืองในประเทศออสเตรเลีย มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ทำให้การเกิดสิวหรือรอยสิวมีปริมาณลดลง แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวและควบคุมความมันได้ดี นอกจากนี้โทนเนอร์ยังมีกลิ่นหอมของ Aroma Master ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วยค่ะ

เป็นโทนเนอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันและผิวผสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสูตร Oil Control ที่จะเข้ามาช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนผิวหน้าของคุณไม่ให้มันเยิ้มจนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของ Salicylic Acid มีหน้าที่ยับยั้งการสะสมของแบคทีเรีย พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวหน้าสะอาดและลดอัตราการเกิดสิวต่าง ๆ แต่ข้อเสียของโทนเนอร์สูตรนี้ คือ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย เนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั่นเองค่ะ

โทนเนอร์ของ L'Oreal Paris ตัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผิวตามอายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอย ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม ถ้าหากคุณมีปัญหาเหล่านี้ล่ะก็ ต้องลองใช้โทนเนอร์สูตรนี้ค่ะ เพราะมีส่วนผสมที่สำคัญอย่าง Dermalift Technology และ Pro-Retinal A ช่วยบำรุงผิวหน้าให้กลับมาดูกระชับและผิวพรรณอ่อนเยาว์ขึ้น รวมถึงช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ ให้จางลงได้ภายใน 4 สัปดาห์ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลลัพธ์อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะคะ

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนของไทย ประกอบกับมลภาวะจากฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มากมาย โทนเนอร์ของ KA จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะเข้ามาช่วยทำความสะอาดผิวหน้าของคุณให้ปราศจากสิ่งตกค้างอื่น ๆ ได้อย่างล้ำลึก ด้วยประสิทธิภาพของสารสกัดจากแร่ธาตุธรรมชาติ MALA’KITEที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหินอัญมณีธรรมชาติ ทำให้ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ผิวจึงดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น แถมเป็นสูตรอ่อนโยนเพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ

สำหรับโทนเนอร์ของ Neutrogena สูตรนี้ เป็นสูตรที่ถือว่าอ่อนโยนต่อผิว เพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้งและผิวบอบบางแพ้ง่ายมาก ๆ ที่สำคัญ ยังมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์อย่าง Glycerin ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านจนเกินไป และยังมี Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวและขจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะตกค้างบนผิวหน้าหรือรูขุมขนให้สะอาดมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นโทนเนอร์อีกตัวหนึ่งที่ช่วยเตรียมผิวและบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆ ค่ะ

สำหรับคุณสมบัติของโทนเนอร์จาก Cute Press ตัวนี้ หลัก ๆ แล้วก็จะเน้นในเรื่องของการขจัดสิ่งสกปรกที่อาจจะตกค้างหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า และช่วยปรับสภาพผิวของคุณให้พร้อมบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ผิวหน้าของคุณยังได้รับการบำรุงจากสารสกัด Witch Hazel และ Sodium PCA ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ให้ผิวแลดูอิ่มน้ำ เบาสบายผิว และยังช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง พร้อมกับลดความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ

ตัวนี้จะเป็นโทนเนอร์แบบ Bi-Phase Lotion คือ การผสมผสานระหว่างโทนเนอร์กับผงแป้งนั่นเองค่ะ และส่วนผสมที่เป็นผงแป้งก็ยังถูกสกัดมาจากธรรมชาติอย่างใบ Boreal Tea ซึ่งเป็นต้นชาพันธุ์พื้นเมืองของป่าโบเรียล ในประเทศแคนาดา มีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้าง เพิ่มความกระชับ และสามารถปรับสภาพผิวให้ดูสวยกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับคนที่ผิวมันหรือผิวผสม จะต้องลองใช้ดูสักครั้งนะคะ

สำหรับคนที่มีปัญหาสิวที่เกิดซ้ำซากและไม่หายสักที เราขอแนะนำโทนเนอร์ของ Smooth E ให้กับคุณค่ะ จุดเด่น คือ มีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาผิวได้ถึง 4 ประการภายในขวดเดียว ทั้งช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นกระจ่างใสด้วยส่วนผสมของวิตามินบี 3 และวิตามินอี ช่วยกระชับรูขุมขนบนผิวหน้าให้เรียบเนียนขึ้น ที่สำคัญ ยังมีส่วนผสมของ Sebacic Acid และ 10-HDA Analogue ที่จะเข้ามาช่วยลดการอักเสบของต่อมไขมัน ควบคุมความมัน และต้านเชื้อแบคทีเรียอย่าง P.Acne ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวให้ลดลงไปได้อย่างเห็นผลอีกด้วยค่ะ

โทนเนอร์ของแบรนด์เครื่องสำอางยี่ห้อดังจากประเทศอิตาลี ที่หลายคนอาจจะคิดว่าราคาสูงจนเกินไปตั้งแต่แรกเห็น แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพแล้ว ราคาไม่แรงอย่างที่คิดแน่นอนค่ะ เพราะเป็นโทนเนอร์น้ำกลั่นจากธรรมชาติถึง 95% และมีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกกุหลาบสายพันธ์ุดีถึง 3 ชนิด ได้แก่ Rosa Canina, Rosa Centifolia, Rosa Damascena ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ที่สำคัญ เป็นสูตรอ่อนโยนใช้แล้วไม่แพ้ เหมาะกับสภาพผิวของทุกคนค่ะ

ไม่ว่าใครก็ไม่ควรพลาดขวดนี้ค่ะ เพราะเป็นแบรนด์สกินแคร์จากอเมริการะดับตำนานที่ก่อตั้งมามากกว่า 100 ปีเลยค่ะ และที่สำคัญ ยังเป็นโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของพืชอย่าง Witch Hazel และว่านหางจระเข้ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ต่างก็มีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการอักเสบของสิว ช่วยสมานแผล รวมถึงลดริ้วรอยต่าง ๆ ทั้งรอยสิว จุดด่างดำ และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ดีอีกด้วย แต่คุณค่าดี ๆ ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะตัวนี้ยังเป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากพาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ทำให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความโทนเนอร์ถูกและดีที่ทางทีมงานได้นำเสนอในครั้งนี้ หลาย ๆ คนพอได้ทราบถึงประโยชน์ที่แท้จริงของโทนเนอร์ไปแล้ว แน่นอนว่าคงอยากจะลองซื้อมาเพิ่มบนโต๊ะเครื่องแป้งกันแล้วใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโทนเนอร์แต่ละตัวจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากคุณเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหรือการใช้งานที่ต้องการเน้น รับรองว่าคุณจะได้โทนเนอร์ที่ถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ แต่ถ้าหากยังนึกไม่ออก คุณก็สามารถเลือกจาก 10 อันดับที่เราได้คัดสรรมาได้เลยนะคะ


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อทุกครั้ง คุณควรตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตและส่วนผสมที่มีอยู่ในโทนเนอร์เสมอ หรืออาจจะลองซื้อสินค้าที่เป็นขนาดทดลองมาใช้ก่อนก็ได้ เพราะหากใช้แล้วไม่เวิร์กหรือเกิดการแพ้ขึ้นมา เราจะได้ไม่เสียเงินในกระเป๋ามากจนเกินไปค่ะ และหลังจากใช้โทนเนอร์แล้ว อย่าลืมบำรุงผิวหน้าด้วยครีมอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยนะคะ