บลัชออนเนื้อแป้ง เป็นเมคอัพไอเทมชิ้นสำคัญที่สาว ๆ หลายคนจะต้องมีติดไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งหรือพกติดตัวเอาไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอาง เพราะการปัดแป้งบลัชออนจะช่วยทำให้พวงแก้มของเราดูมีสีสันและมีเลือดฝาดอย่างคนมีสุขภาพผิวดี เพิ่มมิติให้กับโครงหน้าและทำให้ใบหน้าของเรานั้นดูเด็กลงได้อีกด้วย บลัชออนเนื้อแป้งได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะใช้งานง่าย สามารถเติมลงบนแก้มเมื่อไหร่ก็ได้ และสีที่ออกมาก็ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
แต่บลัชออนเนื้อแป้งที่วางจำหน่ายทั่วไปนั้น มีมากมายหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Nars, Maybelline New York, 4U2, Canmake เป็นต้น แถมยังมีมากมายหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู สีพีช, สีส้ม, สีส้มอิฐ และสีแดง จึงทำให้หลายคนสับสนไม่รู้ว่าจะเลือกยี่ห้อไหน หรือควรใช้บลัชออนแบบไหนดี วันนี้ทางทีมงานจึงนำทั้งวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้งและเคล็ดลับวิธีใช้บลัชออนมาฝากกัน และใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อบลัชออนเนื้อแป้งยี่ห้อไหนดีก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราได้รวบรวม 10 อันดับ ยี่ห้อ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่ขายดีและได้รับความนิยมจากสาว ๆ จากเว็บรีวิวต่าง ๆ มาให้เป็นไอเดียในการเลือกซื้ออีกด้วยค่ะ
อย่างแรกเลย เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า สิ่งสำคัญ 3 สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถเลือกบลัชออนเนื้อแป้งได้อย่างเหมาะสมที่สุดนั้นมีอะไรบ้าง
บลัชออนเนื้อแป้งที่ดีและเหมาะกับคุณนั้น จะต้องให้ฟินิชลุคที่เป็นธรรมชาติ เพราะเมื่อคุณอยากจะเน้นสีที่เด่นชัดบนแก้ม แต่บลัชออนที่คุณใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองแล้วล่ะก็ อาจทำให้การเมคอัพทั้งหมดของคุณออกมาดูไม่ดีตามที่ต้องการได้ค่ะ
เราแนะนำให้คุณเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีเนื้อสัมผัสเนียน สามารถเกลี่ยบนผิวหน้าได้ง่าย โดยสีของบลัชออนควรจะกระจายบนผิวแก้มอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติค่ะ
หากคุณเลือกบลัชออนที่มีคุณภาพไม่ดี สีของบลัชออนก็จะกระจุกตัวกันเป็นก้อน จนทำให้สีนั้นเข้มเกินกว่าที่จะดูกลมกลืนไปกับผิวธรรมชาติของเรา หรือบางครั้งอาจทำให้เนื้อแป้งของบลัชออนไม่เกาะติดกับผิว จนทำให้เมคอัพของเรานั้นหลุดจางลงไปในระหว่างวันได้ค่ะ
โทนสีผิวตามธรรมชาติของคุณก็เป็นสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเวลาที่จะเลือกเฉดสีของบลัชออน คนที่มีสกินโทนอุ่น หรือ Warm Undertones นั้น ควรจะเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีเฉดสีไปทางโทนเหลืองส้ม เช่น สี Coral, สีส้ม หรือสีพีช ส่วนคนที่มีสกินโทนเย็น หรือ Cool Undertones ควรจะเลือกบลัชออนเฉดสีโทนเย็นหรือ Bluish เช่น สีม่วงหรือสีบานเย็นค่ะ
นอกจากนี้ เฉดสีของบลัชออนที่ต่างกันก็เหมาะกับ Makeup Look ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
บลัชออนสีแดง : ให้เมคอัพลุคแบบเซ็กซี่ เหมาะสำหรับแต่งหน้าไปเดท หรือแต่งหน้าไปงานเลี้ยงที่ต้องจัดเต็ม
บลัชออนสีชมพู : ให้เมคอัพลุคแบบหวานและน่ารัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนลุคให้ดูอ่อนเยาว์
บลัชออนสีส้ม : ให้เมคอัพลุคแบบสาวสดใสมีสุขภาพดี เหมาะกับการแต่งหน้าในวันสบาย ๆ
บลัชออนสีม่วง : เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มสีสันให้ผิวที่ซีดดูมีชีวิตชีวา
บลัชออนเนื้อแป้งนั้น ถ้าแบ่งตามการใช้งานจะมีอยู่ 2 แบบ แบบที่ 1 คือ Single Color ที่มีเพียงแค่สีเดียวใน 1 ตลับ จึงใช้งานง่ายเหมาะกับมือใหม่หัดแต่งหน้า และคนที่ต้องการแต่งหน้าลุคง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลามาก แบบที่ 2 Multi-Colored เป็นบลัชออนที่มีหลายสีใน 1 ตลับ เวลาใช้งานจะต้องใช้แปรงปาดวนทุกเฉดสีในตลับ ซึ่งบลัชออนแบบนี้จะสามารถช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับมือโปรหรือคนที่แต่งหน้าจนชำนาญแล้วค่ะ
จะเห็นได้ว่าบลัชออนเนื้อแป้งทั้ง 2 แบบนั้นมีข้อดีที่ต่างกันออกไป ดังนั้น คุณจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การใช้งานนะคะ
หากคุณเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีคุณภาพไม่ดี เนื้อแป้งก็จะไม่สามารถเกาะติดบนผิวและหลุดลอกออกได้ง่าย คุณจึงควรเลือกบลัชออนที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นสูง เพื่อที่เนื้อแป้งจะได้ติดบนผิวหน้าของคุณได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บลัชออนเนื้อแป้งที่เกาะติดบนแก้มได้นานส่วนใหญ่ มักจะกันเหงื่อและกันน้ำได้ดีอีกด้วย เพื่อให้คุณสามารถเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราขอแนะนำให้คุณอ่านรีวิวของผู้ที่ใช้ประกอบควบคู่กันไปด้วยก่อนตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ
ต่อให้บลัชออนเนื้อแป้งจะมีคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าบรรจุในแพ็กเกจที่ไม่มีคุณภาพแล้วล่ะก็ อาจทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลงกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบให้ดีว่า พาเลตต์ที่ใส่บลัชออนนั้นมีความแข็งแรงทนทาน และตัวตลับบลัชออนมีฝาปิดมิดชิดด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เวลาตกแล้วบลัชออนแตกกระจาย นอกจากนี้ คุณไม่ควรเลือกใช้บลัชออนที่เนื้อแป้งร่วงกระจายเป็นผงได้ง่าย เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการหกเลอะเทอะค่ะ
ส่วนแพ็กเกจของบลัชออนเองก็ควรที่จะใช้งานง่าย ฝาปิดตลับต้องไม่เปิด-ปิดลำบากจนเกินไป ใช้งานได้ทันใจเวลาที่เร่งรีบ รวมทั้งควรมีขนาดที่เหมาะสม สามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา
สุดท้าย นอกจากความทนทานแล้ว แพ็กเกจบลัชออนควรมีอุปกรณ์ครบถ้วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นแปรงและกระจกที่ควรจะมาคู่กันเพื่อทำให้คุณสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น และอย่าลืมตรวจสอบคุณภาพของแปรง หรือกระจกด้วยนะคะว่ามีคุณภาพเหมาะสมกับราคาหรือไม่ จะได้ใช้งานไปนาน ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ให้เสียเงินค่ะ
หลังจากที่เราได้นำเสนอเรื่องวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้งให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเมคอัพลุคของคุณไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า 10 อันดับ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายมากมายมาการันตี จะมียี่ห้อไหนกันบ้าง
บลัชออนเนื้อแป้งฝุ่นตัวนี้ เป็นรุ่นที่ขายดีมายาวนานของแบรนด์ จุดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้ชื่นชอบ คือ แพ็กเกจจิ้งที่มีหัวแปรงมาพร้อมกับตัวบลัชออน ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายพกพาไปไหนได้อย่างสะดวก สีของบลัชออนจะมีประกาย Shimmer แฝงมาด้วยเพื่อทำให้พวงแก้มดูสวยสว่างขึ้น นอกจากนี้ ยังมีความติดทนในระดับปานกลาง แต่อาจจะมีบางคนที่ไม่ประทับใจในขนของแปรงที่มากับบลัชออนสักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกถึงความแข็งกระด้าง ใช้แล้วอาจจะทำให้รู้สึกบาดผิวค่ะ
การแต่งหน้าแบบ Ombre หรือการไล่ระดับเฉดสีกำลังมาแรง ทางแบรนด์ Cute Press จึงได้ผลิตบลัชออนรุ่นนี้มาตอบโจทย์คนที่ต้องการแต่งหน้าลุคที่ดูโกลว์เป็นธรรมชาติ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก เพราะ 2 เฉดสีที่มาใน 1 ตลับของบลัชออนรุ่นนี้สามารถสร้างมิติให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แก้มดูมีสีสันระเรื่อแบบคนมีสุขภาพดี แต่บลัชออนตัวนี้มีโทนสีที่ค่อนข้างเข้มจึงต้องเบามือเวลาปัดแก้ม
บลัชออนเนื้อแป้งตัวนี้มีจุดเด่นที่ทำให้สาว ๆ หลายคนตัดสินใจซื้อคือ เนื้อแป้งที่เนียนละเอียด สามารถปัดติดสีบนใบหน้าและเกลี่ยทั่วบริเวณแก้มได้อย่างง่ายดาย สีของบลัชออนนั้นมีความเด่นชัด มีประกาย Shimmer เพียงเล็กน้อยที่ช่วยเพิ่มความฉ่ำให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นบลัชออนที่มีเฉดสีที่สามารถใช้ได้ในทุกโทนสีผิวและทุกเมคอัพลุค แต่เนื้อบลัชออนอาจจะไม่สามารถติดทนได้นาน ทำให้ต้องเติมระหว่างวันค่ะ
บลัชออนเนื้อแป้งตัวนี้ เหมาะสำหรับคนที่มองหาบลัชออนที่ให้ Finish Look แบบ Matte เพราะรุ่นนี้มี 2 เฉดสี ที่มีเนื้อเนียนละเอียดไม่มีประกาย มีคุณสมบัติในการกันเหงื่อและควบคุมความมัน จุดเด่นที่ทำให้หลายคนประทับใจ คือ ความเด่นชัดของสีบลัชออนที่ไม่ต้องปัดซ้ำไปมาหลายครั้ง และความคุ้มค่าใน 1 ตลับที่คุณสามารถใช้บลัชออนแยกเป็น 2 สี หรือจะเบลนด์ทั้ง 2 สีผสมกันเพื่อสร้างมิติและเพิ่มความโดดเด่นให้กับแก้มด้วยก็ได้
โดดเด่นกว่าใครด้วยบลัชออน 5 เฉดสีในตลับเดียว ! จะใช้แยกแต่ละสี หรือใช้รวมกันเพื่อช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าก็ได้ ทำให้เป็นที่ถูกใจของสาว ๆ ที่อยากจะเพิ่มลูกเล่นให้กับแก้มสุด ๆไปเลยค่ะ โทนสีของบลัชออนก็เน้นเมคอัพลุคแบบสาวหวาน มีประกาย Shimmer ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ แถมหลายคนยังชอบที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นจึงติดทนบนผิวได้นาน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม คนผิวบอบบางจึงสามารถใช้ได้อีกด้วย
แบรนด์ NYX เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของเมคอัพอยู่แล้ว ซึ่งบลัชออนตัวนี้ก็ได้รับความนิยมล้นหลาม เพราะแป้งบลัชออนมีความนุ่มเนียนละเอียดแบบครีม ที่มีความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ จึงสามารถเกาะติดบนผิวให้สีที่เด่นชัดกับแก้มและมีความติดทนยาวนาน แถมสาว ๆ หลายคนยังติดใจที่บลัชออนนั้นเกลี่ยง่าย กระจายเม็ดสีได้อย่างดี นอกจากนี้ บลัชออนรุ่นนี้ยังมีหลายเฉดสีให้เลือกตามโทนสีผิวและตามเมคอัพลุคที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วยค่ะ
กำลังเป็นที่ฮอตฮิตกันมากทั่วโลกเลยค่ะสำหรับบลัชออนตัวนี้ ข้อดีที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อบลัชออนตัวนี้ คือ เรื่องของเนื้อแป้งบลัชออนที่มีความนุ่มและเนียนละเอียด จึงสามารถปัดติดสีบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดีและเกลี่ยได้ง่าย จึงทำให้สีของบลัชออนนั้นกระจายตัวทั่วถึงและเด่นชัด อีกทั้งยังมีเนื้อที่บางเบาจึงทำให้ Finish Look ที่ได้ออกมานั้นมีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับมีเฉดสีให้เลือกหลายเฉดสี แต่ส่วนใหญ่จะเหมาะกับคนที่อยากได้เมคอัพลุคแบบธรรมชาติสำหรับโอกาสทั่วไป
หากพูดถึงบลัชออนแล้วไม่มียี่ห้อ Nars ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะบลัชออนตัวนี้ได้รับความนิยมมายาวนาน ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้บลัชออนตัวนี้ได้รับความนิยม คือ ความแน่นของเม็ดสีที่สามารถติดสีบนผิวได้อย่างเด่นชัด เพียงปัดไปแค่นิดเดียว เนื้อแป้งบลัชออนยังมีความโปร่งใส และเนียนละเอียดทำให้เกลี่ยกระจายเม็ดสีได้ทั่วบริเวณแก้ม สีของบลัชออนที่ออกมาจึงมีความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ หลายคนยังชื่นชอบที่บลัชออนมีสีและเนื้อสัมผัสให้เลือกหลากหลายตาม Finish Look ที่ต้องการได้ด้วยค่ะ
บลัชออนตัวนี้ ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและนอกประเทศ โดยจุดเด่นที่สร้างความนิยมเป็นอย่างมาก คือ เรื่องของเฉดสีที่มีให้เลือกถึง 20 เฉดสี รวมทั้งมี Finish Look ให้เลือกกันทั้งแบบ Matte และ แบบ Shimmer ที่สำคัญ คือ มีราคาไม่แพง ซึ่งความเห็นของผู้ใช้นั้นติดใจในเรื่องของเม็ดสีบลัชออนที่มีความแน่นและเด่นชัดเมื่อปัดลงบนแก้ม และหลายคนยังรักที่บลัชออนตัวนี้มีสารกันแดดมาให้อีกด้วย จึงทำให้บลัชออนตัวนี้มีได้รับความนิยมสุด ๆ เลยค่ะ
สิ่งที่ทำให้ทุกคนรักในบลัชออนรุ่นนี้ คือ เม็ดสี (Pigment) ที่เด่นชัด สามารถปัดติดสีบนแก้มได้ง่าย และยังมีถึง 3 เฉดสีในตลับเดียว ช่วยให้คุณสามารถแต่งเติมสีสันบนแก้มได้ออกมาดูมีมิติ และไล่ระดับสีอย่างระเรื่อและเป็นธรรมชาติ จุดเด่นอีกเรื่องของบลัชออนตัวนี้ คือ เรื่องของแพ็กเกจจิ้งที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นกระจกและแปรง ทั้งหมดถูกบรรจุในตลับที่มีความทนทานและขนาดกะทัดรัดพกพาได้สะดวกค่ะ
หลังจากที่เราได้รู้ถึงวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้งและ 10 อันดับ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่ได้รับความนิยมไปแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า วิธีการทำให้เมคอัพของคุณดูดียิ่งขึ้นด้วยบลัชออนเนื้อแป้งนั้นมีอะไรบ้าง
การปัดบลัชออนเนื้อแป้งที่ถูกต้อง ควรจะทำหลังจากที่ลงรองพื้นบนใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่ารองพื้นที่คุณใช้จะเป็นแบบเนื้อแป้ง, Liquid หรือครีมก็ตาม เพราะบลัชออนเนื้อแป้งจะมีลักษณะเป็นแป้งฝุ่น ดังนั้น จึงต้องอาศัยรองพื้นเพื่อช่วยให้เนื้อแป้งเกาะติดบนผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถปัดสีของบลัชออนได้แน่นและเห็นชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย
หลาย ๆ คนอาจเคยประสบปัญหาเกลี่ยสีบลัชออนได้ไม่สม่ำเสมอทั่วแก้ม ซึ่งเคล็ดลับในการแก้ปัญหาดังกล่าวก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่หลังจากที่คุณแตะแปรงปัดแก้มลงไปบนบลัชออนแล้วอย่าเพิ่งปัดลงบนแก้มโดยตรง ให้เกลี่ยสีให้ทั่วแปรงบนหลังมือของคุณหรือบนทิชชู่ก่อน แล้วค่อยนำแปรงดังกล่าวปัดลงไปบนแก้ม เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถเกลี่ยสีของบลัชออนเนื้อแป้งบนแก้มของคุณได้อย่างสม่ำเสมอแล้วค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความติดทนของบลัชออนเนื้อแป้ง เราแนะนำให้คุณลองใช้ควบคู่ไปกับบลัชออนเนื้อครีม โดยคุณสามารถลงบลัชออนเนื้อครีมบนแก้มก่อน แล้วค่อยปัดบลัชออนเนื้อแป้งทับลงไปค่ะ
ลำดับขั้นตอนในการแต่งหน้านั้นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของรองพื้นที่คุณใช้ ดังนี้
ถ้าคุณใช้รองพื้นแบบแป้ง : เมคอัพเบส > บลัชออนเนื้อครีม > รองพื้นแบบแป้ง > บลัชออนเนื้อแป้ง
ถ้าคุณใช้รองพื้นแบบครีมหรือ Liquid : เมคอัพเบส > รองพื้นแบบครีมหรือ Liquid > บลัชออนเนื้อครีม > บลัชออนเนื้อแป้ง
เพราะบลัชออนเนื้อครีมจะมีความเหนียวจากเนื้อสัมผัส จึงทำให้แป้งของบลัชออนเกาะติดบนผิวแก้มได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น หากวันไหนที่คุณต้องการให้เมคอัพติดทนอยู่บนใบหน้า ก็ขอให้ลองใช้วิธีตามเคล็ดลับนี้ดูนะคะ รับรองได้เลยว่า สีแก้มของคุณจะไม่ซีดลงในระหว่างวันแน่นอน
หากใครอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ บลัชออนเนื้อครีม เพิ่มเติม ทางทีมงานมายเบสท์ก็มีบทความที่รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้คุณแล้วค่ะ
หลังจากอ่านบทความนี้ คุณผู้อ่านหลายคนก็คงจะได้รู้จักบลัชออนเนื้อแป้งกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ? เราหวังว่าความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้ง และเคล็ดลับในการใช้บลัชออนเนื้อแป้งอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณเห็นถึงข้อดีของการใช้บลัชออนชนิดนี้นะคะ และหากคุณจะลองตัดสินใจเลือกซื้อบลัชออนเนื้อแป้งมาใช้ดูสักตลับเราก็แนะนำให้คุณลองใช้ 10 อันดับ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่เราได้รวบรวมมาเป็นไอเดียในการช่วยตัดสินใจได้เลย
การจะปัดแก้มออกมาให้ดูดี นอกจากจะเลือกจากบลัชออนแล้ว ยังต้องเลือกจากเมคอัพไอเทมและอุปกรณ์ในการแต่งหน้าชนิดอื่นมาช่วยเสริมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมคอัพเบสที่จะช่วยให้บลัชออนของคุณเกาะตัวบนผิวหน้าได้ยาวนาน หรือการเลือกแปรงปัดแก้มที่จะช่วยให้การเกลี่ยสีบนผิวเป็นไปอย่างเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ เราจึงอยากให้คุณได้ลองศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนี้ดูนะคะ