8 น้ำตบเซราไมด์ รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567

เมื่อคุณค้นหาสิ่งของบางอย่างที่ร้านค้าออนไลน์ คุณจะพบว่าคุณจะได้เจอสินค้าที่คุณมองหาอย่างง่ายดาย สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้ ผ่านโมบาย แอปพลิเคชั่น ดีๆที่เราแนะนำ
คุณภาพดี ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ น้ำตบเซราไมด์  สินค้าออนไลน์  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง น้ำตบเซราไมด์  ไป ราคาถุกกว่าร้านอื่นๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ ส่งไว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อน้ำตบเซราไมด์แต่ละชนิดนั้นมีทั้ง น้ำตบเซราไมด์ นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในน้ำตบเซราไมด์อีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ น้ำตบเซราไมด์แบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

เซราไมด์ (Ceramide) จัดเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อผิว เพราะทำหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลน้ำระหว่างเซลล์ผิวและรักษาความชุ่มชื้นบนผิว ลดการสูญเสียน้ำและความแห้งกร้านบนผิวอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวอ่อนแอตามมาได้ ช่วยจัดระเบียบเคราติน (Keratin) บนผิวทำให้ผิวของคุณนั้นยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์ และเป็นเกราะป้องกันผิวของคุณจากสิ่งเร้าหรือมลภาวะภายนอกต่าง ๆ เพื่อให้ผิวของคุณแข็งแรง ไม่เกิดการแพ้ได้ง่าย


ในปัจจุบันมีน้ำตบหลายยี่ห้อที่ใช้เซราไมด์เป็นส่วนผสมเพื่อให้คุณได้บำรุงผิวอย่างเข้มข้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกหลังการล้างหน้า ทั้งนี้น้ำตบเซราไมด์นั้นมีหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น Curel, Paula's Choice  และอื่น ๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกและรวบรวม 10 อันดับน้ำตบเซราไมด์ที่ขายดีเป็นที่นิยมมาให้ได้อ่านกันอีกด้วย

มาดูกันดีกว่าค่ะว่าวิธีการเลือกน้ำตบเซราไมด์ให้เหมาะกับผิวของคุณจะมีอะไรบ้าง

เซราไมด์นั้นมีหลายประเภทได้แก่

1. Human Ceramide

2. Natural Ceramide

3. Plant Ceramide

4. Synthetic Pseudo Ceramide


โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราต้องศึกษาให้ดีว่าชนิดไหนที่จะทำงานเข้ากับสภาพผิวของเราได้ดีที่สุด

Human Ceramide เป็นเซราไมด์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเซราไมด์บนชั้นผิวของเรามากที่สุด จึงไม่ทิ้งความเหนียวเอาไว้บนผิว ปลอดภัยแม้กระทั่งในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ส่วนผสมเซราไมด์ที่จัดอยู่ในประเภทนี้มักจะมีเลขตามหลัง Ceramide เช่น Ceramide 1 หรือจะเป็นตัวอักษรตามหลังอย่าง Ceramide NP ก็ได้


ในขณะที่ Natural Ceramide เป็นเซราไมด์ที่ได้จากน้ำมันม้าและมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Human Ceramide ซึ่งสามารถซึมลงสู่ผิวได้ง่ายเช่นกัน แต่มักจะมีราคาค่อนข้างสูง ส่วน Plant Ceramide เป็นเซราไมด์ที่ได้จากพืช เช่น ถั่วเหลือง ข้าวและข้าวสาลี เป็นต้น ทั้งนี้ใครที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายอาจจะต้องระมัดระวังการแพ้เซราไมด์จากพืช


ส่วน Synthetic Pseudo Ceramide นั้นมีคุณสมบัติที่แม้จะด้อยกว่าเซราไมด์ประเภทอื่น แต่เพราะมีราคาที่ถูกกว่าเซราไมด์ประเภทอื่น ๆ เช่นกัน จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้เซราไมด์บำรุงผิวในปริมาณที่มาก

Ceramide 1, 2, 3 และ 6 หรือที่บางครั้งเราก็เรียกว่า Ceramide OP, NG, NP เป็นเซราไมด์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ ในกลุ่มของ Human Ceramide ซึ่ง Ceramide 1 นั้นมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและเป็นเกราะป้องกันผิวได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ Ceramide 2 นั้นมีปริมาณมากที่สุดในผิวหนังของเรา ซึ่งมีหน้าที่ในการเติมเต็มน้ำให้กับผิวและเป็นเกราะเสริมผิว


ส่วน Ceramide 3 เป็นเซราไมด์ที่เกี่ยวกับเรื่องริ้วรอยเนื่องจากสามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับริ้วรอยที่เกิดจากความแห้งกร้านได้ Ceramide 6 นั้นมีผลในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวให้เกิดความเรียบเนียน

นอกจากเซราไมด์แล้ว ยังต้องมองหาส่วนผสมอื่น ๆ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ควรจะมีอยู่ในตัวน้ำตบด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกรดไฮยาลูโรนิค คอลลาเจน กรดอะมิโน รวมทั้ง Lipidure® ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นมากกว่ากรดไฮยาลูโรนิคได้มากถึง 2 เท่า ซึ่งโดยปกติ Lipidure® จะถูกระบุในรูปของ Polyquaternium-51 / Polyquaternium-61 ที่ตรงส่วนผสมของผลิตภัณฑ์

ส่วนผสมบางชนิดสามารถก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวและทำให้ผิวนั้นเกิดความแห้งกร้านได้ ดังนั้นเราจะต้องระมัดระวังส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์เพราะนอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพของเซราไมด์ในผลิตภัณฑ์นั้นด้อยลงไปแล้ว ยังทำให้ผิวของคุณเกิดอาการแพ้ตามมาได้ เช่น น้ำหอม สี รวมถึงแอลกอฮอล์อีกด้วย

เซราไมด์นั้นเป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน จึงมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่หนาและหนักสำหรับผิว ดังนั้นใครที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะหรือมีผิวมันมาก ๆ ควรจะเลือกชนิดที่เป็นเนื้อโลชั่น วิธีการเลือกน้ำตบจากเนื้อผลิตภัณฑ์ควรจะเลือกโดยการอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ได้น้ำตบที่เหมาะสมถูกใจเรามากที่สุด

หลังจากที่รู้จักวิธีการเลือกน้ำตบเซราไมด์ให้เหมาะกับผิวของเราแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า 10 อันดับ น้ำตบเซราไมด์ที่เป็นที่นิยมและสามารถหาซื้อออนไลน์ได้จะมียี่ห้อไหนกันบ้าง

น้ำตบตัวนี้มีส่วนผสมของ Ceramide 3 ที่สามารถดูดซึมลงสู่ผิวได้อย่างดีเยี่ยม ทำงานเสริมควบคู่ไปกับวิตามินบี 12 ที่มีพลังในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวของคุณนั้นดูกระจ่างใสและดูเปล่งปลั่ง แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้านและป้องกันผิวเกิดการเสื่อมสภาพก่อนวัย


ความเห็นผู้ใช้ชื่นชอบที่เนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบาซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่าย แก้ปัญหาผิวแห้งเป็นขุยได้อย่างดี แต่ในผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของวิตามินเอ หากใครที่มีผิวบอบบาง ควรหลีกเลี่ยง

นาทีนี้ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักและคุ้นเคยกับน้ำตบสาเกตัวนี้ที่ไม่ได้มีดีแค่ส่วนผสมของสาเกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมี Ceramide 3 และ 6 เป็นส่วนประกอบซึ่งจัดได้ว่าเป็น Human Ceramide ซึ่งสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างดี ยังมีส่วนผสมของ Arbutin ช่วยในเรื่องความกระจ่างใส และ Placenta Extract ช่วยป้องกันเรื่องริ้วรอยได้อีกด้วย


ความเห็นผู้ใช้นั้นชื่นชอบปริมาณที่มากอัดแน่นเต็มขวดถึง 500 ml ของน้ำตบตัวนี้ ทำให้สามารถใช้งานได้นานและมีราคาที่ไม่แพง สามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม แต่บางส่วนติงในเรื่องของกลิ่นที่ค่อนข้างฉุนและเนื้อสัมผัสที่หนักจนอาจทำให้หน้ามันเยิ้มได้

น้ำตบตัวนี้ทาง LANEIGE แบรนด์ดังจากเกาหลีได้ใช้ส่วนผสมเซราไมด์พิเศษที่คิดค้นขึ้นมาให้มีโครงสร้างคล้ายกับเซราไมด์ธรรมชาติ ให้สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างดียิ่งขึ้น มีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate ที่บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน มีสารสกัดฟลาโวนอยด์ที่ให้ผิวกลับมามีชีวิตชีวา


ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ชอบเนื้อสัมผัสเจลบางเบาของน้ำตบที่ซึมลงสู่ผิวได้ง่าย แต่ก็ยังสามารถเคลือบรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้อย่างดี แต่ตัวน้ำตบไม่ได้เป็น Hypoallergenic เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ดังนั้นใครที่มีผิวบอบบาง เกิดความระคายเคืองได้โดยง่าย ควรจะหลีกเลี่ยง หรือทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง

น้ำตบตัวนี้มีทั้งส่วนผสมของ Curel Ceramide ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกับเซราไมด์ตามธรรมชาติที่สามารถเสริมชั้นผิวและยังใช้ Sebum Control Technology ที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ไร้สิวเสี้ยน สิวอุดตัน


ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชื่นชอบเนื้อน้ำตบที่มีความบางเบา สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันผิวก็ยังดูนุ่มชุ่มชื้น พบว่าปัญหาความส่วนเกินบนใบหน้าระหว่างวันลดน้อยลง อีกทั้งยังชอบที่น้ำตบเป็นสูตร Hypoallergenic ปราศจากน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และไม่อุดตันรูขุมขน ที่เป็นมิตรต่อผู้มีผิวบอบบาง

น้ำตบแบรนด์ดังจากอเมริกาที่ใช้ส่วนผสมหลักคือ Ceramide 3 เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวนั้นดูนุ่มเนียนมากขึ้นกว่าที่เคย ทำให้ผิวที่เคยประสบปัญหาต่าง ๆ กลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น


ผู้ใช้ชื่นชอบเนื้อบางเบาของตัวน้ำตบที่สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลเรื่องความมันเยิ้มที่จะเกิดขึ้นหลังจากใช้ ให้ความรู้สึกเย็นสบายผิว ใช้แล้วเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ใช้ส่วนผสมของน้ำหอมสังเคราะห์ที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวแต่ใช้กลิ่นหอมจากดอกไม้ธรรมชาติที่ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ แทน

แบรนด์ CUREL เป็นเวชสำอางอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เน้นผลิตภัณฑ์ปราศจากสารระคายเคืองต่าง ๆ  เช่นเดียวกับน้ำตบตัวนี้ที่ใช้ CUREL Ceramide ซึ่งเป็นเซราไมด์ที่ทางแบรนด์ได้คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเซราไมด์ธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้สารสกัดจากยูคาลิปตัสมากระตุ้นการสร้างเซราไมด์ในชั้นผิวอีกด้วย


ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชอบที่ตัวน้ำตบไร้กลิ่นและสีต่าง ๆ รวมทั้งแอลกอฮอล์ เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเบาและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวและทุกเวลา หลาย ๆ คนพบว่าผิวดูนุ่มฟูมากขึ้น ไม่ทำให้แพ้หรือระคายเคือง

น้ำตบแบรนด์ดังจากเกาหลีที่ผสานคุณค่าของ Ceramide หลากหลายชนิด รวมไปถึง Ceramide ที่พบได้มากในผิวของเราอย่าง Ceramide 3 หรือ Ceramide NP พร้อมทั้งยังมีกรด Hyaluronic ถึง 3 ชนิดผสมเข้ากับน้ำแร่บริสุทธิ์จากฝรั่งเศส ที่ช่วยเรื่องการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยเฉพาะ


ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบาสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิวและทุกเวลา ไม่ต้องกังวลว่าจะทิ้งคราบความมันเหนอะไว้บนหน้า จัดเป็นน้ำตบที่ส่วนผสมเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ใครที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้

น้ำตบจากแบรนด์ดังเกาหลีตัวนี้มีส่วนผสมที่ประกอบไปด้วย Ceramide เข้มข้นมากถึง 5,000 ppb สามารถเข้าซ่อมแซมและเป็นเกราะป้องกันผิวได้อย่างดี เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวนั้นนุ่มนิ่มเหมือนโมจิ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นอย่างกรด Hyaluronic และสารลดความระคายเคืองอย่าง Centella Asiatica หรือใบบัวบกอีกด้วย


ความเห็นผู้ใช้ถูกใจที่ตัวน้ำตบมีปริมาณไซซ์ใหญ่จุใจถึง 500 ml ในราคาที่ไม่แพงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมทั้งตัวผลิตภัณฑ์มีความเป็น Hypoallergenic ทำให้ผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เนื้อผลิตภัณฑ์มีความหนัก ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถให้ความชุ่มชื้นได้เพียงพอทั่วใบหน้า

หากพูดถึงเซราไมด์แล้วไม่พูดถึงน้ำตบจากแบรนด์ Dr.JART+ ไม่ได้ เพราะน้ำตบตัวนี้ได้ใช้ส่วนผสมอย่าง +5-Cera Complex ซึ่งเป็นการรวมเอาเซราไมด์ที่มีประโยชน์ต่อผิวไว้มากถึง 5 ชนิดกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Ceramide NP, Ceramide AS, Ceramide AP, Ceramide NS หรือ Ceramide EOP


ผู้ใช้ส่วนใหญ่นอกจากจะชื่นชอบจำนวนชนิดของเซราไมด์ที่ใส่มาในน้ำตบแล้ว ยังชื่นชอบที่มีการใส่ส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่าง Sodium Hyaluronate รวมทั้งมี Centella Asiatica Extract หรือใบบัวบก และ Panthenol หรือวิตามินบี 5 ที่ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวได้เป็นอย่างดี เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเข้มข้นแต่สามารถซึมลงสู่ผิวได้เป็นอย่างดี หลายคนพบว่าหลังใช้แล้ว ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น

น้ำตบตัวดังที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ถึง 3 ชนิด ได้แก่ Ceramide 1, 3, 6II ที่สามารถซึมลงบำรุงผิวได้ เสริมสร้างเกราะป้องกันชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น และแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอย่าง Niacinamide ที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้ ทำให้ผิวเนียนเรียบมากขึ้น ควบคุมความมันส่วนเกินได้อย่างดี


น้ำตบตัวนี้ได้รับคำชมอย่างล้นหลามในเรื่องของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาและสามารถซึมลงสู่ผิวได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ คนยังชื่นชอบที่น้ำตบมีสารลดอาการแดงและอักเสบของสิวได้ อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระถึงหลายตัว ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ปราศจากสารระคายเคืองต่าง ๆ ดังนั้นใครที่มีผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้

หลังจากที่รู้ถึงวิธีการเลือกน้ำตบเซราไมด์ไปแล้วมาดูกันดีกว่าค่ะว่าน้ำตบเซราไมด์มีวิธีการใช้อย่างไร

การล้างทำความสะอาดผิวหน้าควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่สามารถขจัดความสกปรกและความมันบนใบหน้าได้อย่างหมดจด ในขณะเดียวกันก็ควรจะต้องมีความอ่อนโยนต่อผิวและไม่ทำให้ผิวเกิดความแห้งตึงจนทำลายความชุ่มชื้นบนผิว และไม่ควรถูผิวหน้าอย่างรุนแรงในขั้นตอนการทำความสะอาด ควรตีโฟมล้างหน้าให้เป็นฟองและใช้ฟองนี้ในการดึงสิ่งสกปรกออกมา ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีกว่าการใช้มือถูกับผิวหน้าโดยตรงเพราะอาจจะทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยได้


ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่านได้แนะนำให้ใช้น้ำอุ่น ๆ ในการล้างทำความสะอาดผิวหน้า โดยอุณหภูมินั้นควรจะอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส เพราะความมันส่วนเกินบนผิวหน้านั้นสามารถหลุดสลายจากผิวหน้าของเราที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และไม่ควรจะใช้น้ำที่ร้อนมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้านได้

หลังจากล้างหน้าและทาน้ำตบเซราไมด์ลงบนผิวแล้ว ให้ใช้มือของเราลูบและตบนวดเบา ๆ บนผิวเพื่อให้น้ำตบเซราไมด์สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างดีที่สุด หลีกเลี่ยงการเช็ดถูและตบอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้ผิวของคุณเกิดความระคายเคืองหรือริ้วรอยได้

หากอยากให้น้ำตบเซราไมด์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Serum หรือครีมบำรุงในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเดียวกัน เพื่อให้การบำรุงดูแลผิวของคุณนั้นมีประโยชน์สูงที่สุด เพราะผู้ผลิตมักจะออกแบบกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาอย่างคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงานเข้ากันเป็นอย่างดี และไม่มีส่วนผสมที่ทำงานขัดแย้งกัน

หากคุณไปใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ นอกกลุ่มที่ผู้ผลิตออกแบบมา อาจจะมีส่วนผสมที่ไม่สามารถทำงานเข้ากันได้ จนทำให้การใช้น้ำตบเซราไมด์นั้นไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวัง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับน้ำตบเซราไมด์ที่เราได้นำเสนอทั้งวิธีการเลือก เคล็ดลับการใช้ และ 10 อันดับน้ำตบเซราไมด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตามเว็บออนไลน์ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ เราก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้คุณใช้ในการเลือกซื้อน้ำตบเซราไมด์มาใช้ดูสักขวดนะคะ รับรองได้ว่าผิวของคุณจะนุ่มชุ่มชื้นและแข็งแรงมากขึ้น


การใช้น้ำตบเซราไมด์เป็น 1 ในขั้นตอนการบำรุงผิวที่ควรต้องทำควบคู่ไปกับการการดูแลรักษาความสะอาดของผิว และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆ ไปด้วยอย่างเหมาะสม อีกทั้งอาหารที่รับประทานและพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็มีผลต่อผิวของเราด้วยเช่นกัน ดังนั้นขอแนะนำให้คุณศึกษาเพิ่มเติมถึงวิธีการดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพียงเท่านี้การมีผิวสวยใสก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป