แนะนำ 8 ลิปสติกเนื้อแมตต์ อัพเดทล่าสุดปี 2567

จากที่ได้เกริ่นกันไปแล้วว่า ในปัจจุบันมีลิปสติกเนื้อแมตต์วางจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกันไปทั้งในเรื่องของประเภทการใช้งานและจำนวนเฉดสี เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า วิธีการเลือกลิปสติกเนื้อแมตต์ให้ถูกใจนั้นจะมีอะไรที่ต้องพิจารณากันบ้าง

ลิปสติกเนื้อแมตต์สามารถแบ่งออกตามประเภทการใช้งานได้ถึง 3 ประเภทได้แก่ ลิปสติกแบบแท่งซึ่งเป็นพื้นฐานดั้งเดิมที่มีมายาวนาน ลิปสติกแบบลิควิดที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน และสุดท้ายลิปสติกแบบคุชชั่นซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีทางความงามรุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาช่วยในการผลิต

ลิปสติกชนิดนี้เป็นลิปสติกที่มีวางขายกันมายาวนาน มาในรูปแบบแท่ง มีเนื้อสัมผัสที่เป็นครีมแมตต์นุ่มเนียน สามารถทาและเกลี่ยได้ค่อนข้างง่าย การใช้งานก็ง่ายดาย เพียงแค่ทาลงบนริมฝีปากนิดเดียวแล้วเม้มปากให้ทั่ว สีลิปสติกก็จะสามารถกลบสีปากได้มิดชิด แนบเนียน โดยส่วนใหญ่แล้วลิปสติกชนิดแท่งยังสามารถเช็ดทำความสะอาดออกได้ง่าย ไม่ค่อยทิ้งคราบเอาไว้อีกด้วยค่ะ

ลิปสติกแบบลิควิดนั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะมีเม็ดสีที่อัดแน่นจัดเต็ม จึงทำให้สีที่ทาออกมาที่เด่นชัดและไม่ผิดเพี้ยน ทาเพียงรอบเดียวก็ให้สีสดเคลือบสีปากได้อย่างเรียบเนียน ลิปสติกชนิดนี้ยังมีเนื้อสัมผัสที่เบากว่าแบบแท่ง ทำให้ทาแล้วไม่ดูหนาเป็นก้อน ถึงจะเป็นเนื้อแมตต์เหมือนกันแต่ลิปสติกแบบลิควิดจะแห้งไวและติดทนได้ยาวนานกว่าแบบแท่ง ลิปสติกชนิดนี้จะมาในรูปแบบของขวดพร้อมพู่กันหรือแปรง จึงช่วยให้คุณสามารถเก็บรายละเอียดและกำหนดรูปปากให้เป็นไปตามต้องการได้อย่างง่ายดาย

ลิปสติกชนิดนี้จะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีทางความงามที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างคุชชั่นมาพัฒนาตัวลิปสติกให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยติดตั้งหัวฟองน้ำไว้บนตัวหลอดลิปสติก ช่วยให้สีลิปสติกที่ออกมานั้นมีความฟุ้งละมุนและดูสวยเนียนเป็นธรรมชาติ เป็นลิปสติกที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน แม้กระทั่งมือใหม่ก็ใช้ลิปสติกชนิดนี้ได้อย่างสะดวกด้วยเช่นกัน

สำหรับการเลือกลิปสติกจากเฉดสี สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องพิจารณาเป็นหลักก็คือ ' โทนสีผิว' ของเรานั่นเอง ก่อนอื่นมาดูกันดีกว่าค่ะว่า สีผิวในแต่ละโทนควรเลือกใช้ลิปสติกเฉดสีไหนบ้างถึงจะเกิดและปังสุด ๆ

ในโทนผิวขาวจะแบ่งได้เป็นผิวขาวอมชมพูและผิวขาวเหลือง ซึ่งใครที่มีผิวขาวอมชมพูต้องขอบอกเลยว่ามักจะได้เปรียบกว่าใครเพื่อนตรงที่ไม่ว่าจะเลือกทาลิปสติกสีไหนก็เกิดแทบทุกเฉดสี แต่สิ่งที่สาวผิวขาวอมชมพูจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ คือ เรื่องของความเข้มและอ่อนของสีลิป โดยดูจากภาพรวมของเมคอัพบนใบหน้าของคุณ ถ้าลิปสติกของคุณมีสีเข้มมาก เครื่องสำอางบนใบหน้าของคุณก็ไม่ควรเข้มตามไปด้วยเพราะจะทำให้คุณกลายเป็นนางเอกงิ้วได้โดยไม่รู้ตัว ควรจะเน้นสีอ่อน ๆ ที่ให้ความสว่างกับใบหน้า แต่ถ้าคุณเลือกใช้ลิปสติกสีอ่อน เมคอัพโดยรวมบนใบหน้าก็ควรมีสีสันมากพอที่จะไม่ทำให้คุณดูป่วยได้

ในขณะที่คนมีผิวขาวเหลืองควรจะหลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีสีอ่อนหรือสีซีดจนเกินไป เพราะจะยิ่งไปเน้นความซีดเหลืองของผิวคุณได้ ควรเลือกเฉดสีที่มีความเข้มขึ้นมาอย่างสีส้มอิฐ สีชมพูเข้ม หรือสีแดง เพื่อขับให้ผิวหน้านั้นดูมีสีสันและมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น

สำหรับสาวผิวสองสีก็เรียกได้ว่าโชคดีเหมือนคนที่มีผิวขาวอมชมพู เพราะด้วยสีผิวที่ผสมระหว่าง 2 โทนสีผิว ทำให้คุณดูเจิดจรัสได้กับลิปสติกทุกเฉดสี แต่เฉดสีที่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับกับสีผิวของคุณก็คือเฉดสีที่มีสีส้ม สีน้ำตาล หรือสีม่วงผสม เช่น สีส้มพีช สีส้มอิฐ สีชมพูน้ำตาล สีนู้ดปนน้ำตาล สีแดงก่ำ หรือสีม่วงเข้มเป็นต้น และอย่าลืมจัดเมคอัพให้เข้ากับสีลิปสติกที่คุณเลือกด้วย รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องดูสวยเด่นน่าชวนมองแน่นอนค่ะ

เชื่อว่าคนผิวเข้มหลายคนอาจจะขาดความมั่นใจในการเลือกสีลิปสติก เพราะคิดว่าสีผิวของคุณจะเข้ากับเฉดสีลิปสติกได้ยาก ขอบอกว่าให้คุณเปลี่ยนความคิดเลยแบบนี้เลยค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วคนผิวเข้มถ้าได้เฉดสีลิปสติกที่เหมาะกับสีผิวแล้วล่ะก็จะช่วยขับสีผิวของคุณให้ดูสวยเด่นได้ไม่ยากเลย โดยเฉดสีที่คุณควรจะมองหาควรเป็นสีเข้ม ๆ อย่าง สีแดงก่ำ สีม่วงหรือสีน้ำตาล คนผิวเข้มสามารถทาสีชมพูหรือสีส้มแล้วก็สวยได้เหมือนกัน ขอเพียงแค่เลือกสีส้มหรือสีชมพูที่มีโทนม่วงหรือน้ำตาลเข้มมาปน พยายามหลีกเลี่ยงสีที่มีความสว่างหรือสะท้อนแสง เพราะจะทำให้ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าของคุณยิ่งดูหมองลงไปได้

ความปลอดภัยของลิปสติกที่ใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน โดยก่อนจะเลือกซื้อลิปสติกแต่ละแท่ง คุณควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ามาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีเลขที่ใบจดแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ เพราะหากคุณซื้อลิปสติกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือลิปสติกปลอมแล้วก็จะทำให้เสี่ยงต่อการได้รับสารอันตรายในลิปสติกที่มักจะปะปนมากับสีที่ใช้ผลิตลิปสติก สารอันตรายเหล่านี้ได้แก่ สารโลหะหนักอย่างสารปรอท สารตะกั่ว หรือสารหนู ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบหัวใจ ระบบประสาทและก่อให้เกิดมะเร็งได้ ดังนั้น อย่ามัวแต่คำนึงถึงแค่เรื่องราคาถูกเพียงอย่างเดียว คุณภาพและความปลอดภัยของลิปสติกนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่ามากเลยค่ะ

นอกจากนี้ ลิปแมตต์อาจจะไม่เหมาะสำหรับบางคนที่มีริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ฉะนั้น ใครรู้ตัวว่ามีริมฝีปากแห้ง ขอแนะนำให้มองหากลิปแมตต์ที่มีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันโจโจ้บา, น้ำมันอาร์แกน ด้วยล่ะก็ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากของคุณได้ค่ะ

หลังจากที่เราได้แนะนำวิธีการเลือกลิปสติกเนื้อแมตต์ให้เหมาะสมและปลอดภัยกับตัวคุณไปแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าลิปสติกเนื้อแมตต์ 10 อันดับที่สาว ๆ ทั้งหลายได้แนะนำกันมาว่าดีและควรมีนั้นจะมียี่ห้อไหนกันบ้าง

เชื่อว่าหลายคนมักจะประสบปัญหาการใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ เพราะใช้แล้วทำให้ริมฝีปากยิ่งดูแห้งตกร่อง ดังนั้นเราจะมานำเสนอเคล็ดลับที่จะทำให้คุณทาลิปสติกเนื้อแมตต์ได้สวยกว่าที่เคย

หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียนอยู่เสมอนั่นก็คือการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป โดยวิธีการก็ง่ายแสนง่ายด้วยของที่คุณสามารถหาได้ในห้องครัวอย่างน้ำตาลและน้ำผึ้ง เพียงแค่ผสมทั้ง 2 สิ่งเข้าด้วยกันในปริมาณที่เหมาะสมก็สามารถนำมาขัดเบา ๆ ที่ริมฝีปากของคุณได้ น้ำตาลจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป ส่วนน้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปากของคุณ แต่ถ้าใครไม่อยากจะใช้ของที่มีในครัว ปัจจุบันนี้ก็มี Lip Scrub หลากหลายยี่ห้อที่วางจำหน่ายให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้ได้ด้วยเช่นกัน

พื้นฐานหลักของการทาลิปสติกเนื้อแมตต์ได้สวยและไม่ตกร่องก็ต้องเริ่มจาก ริมฝีปากของคุณต้องมีความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ ดังนั้นการหมั่นบำรุงเรียวปากของคุณด้วย Lip Care ต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากที่วางขายนั้นก็มีให้เลือกใช้มากมายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น Lip Balm, Lip Serum และ Lip Oil ลองหาซื้อมาไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งและใช้อย่างเป็นประจำนะคะ รับรองได้เลยว่าอาการแห้งตกร่องหลังจากทาลิปสติกจะหมดไป

หลังจากที่บำรุงริมฝีปากของคุณอย่างเป็นประจำแล้ว วิธีการทาลิปสติกเนื้อแมตต์ก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรต้องรู้ เพราะเชื่อว่าหลายคนยังคงใช้กันผิดวิธีกันอยู่

เพราะลิปสติกเนื้อแมตต์นั้นแห้งได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นคุณจึงควรเก็บเอาไว้ใช้ในลำดับสุดท้ายของการแต่งหน้า เพื่อไม่ให้สีลิปสติกนั้นเกิดการแห้งตกร่องในระหว่างที่แต่งหน้าได้ และก่อนที่จะทาลิปสติกเนื้อแมตต์คุณควรจะมีการลงผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากเอาไว้ก่อน เพื่อให้ความชุ่มชื้นที่พอเหมาะก่อนจะลงลิปสติกเนื้อแมตต์ต่อไป

ลิปสติกเนื้อแมตต์นั้นโดยทั่วไปจะมีเม็ดสีที่แน่นและละเอียดอยู่แล้ว ใช้เพียงนิดเดียวก็ให้สีสันที่เด่นชัด ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทาทับกันไปมาหลายชั้นเพื่อให้เกิดสี เพราะจะทำให้ลิปสติกนั้นแห้ง จับตัวเป็นก้อนและซ้อนกันเป็นชั้นหนา จนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ และทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายปากตามมาได้ สำหรับคนที่ทาลิปสติกเนื้อแมตต์ผิดพลาดก็ไม่ควรใช้กระดาษทิชชู่เช็ดออกเพียงอย่างเดียว เพราะนอกจากจะลบลิปสติกไม่ออกแล้ว ยังจะทำให้เกิดคราบขุยลิปสติกตามมาได้ ควรจะใช้คลีนซิ่งและสำลีมาช่วยเช็ดลิปสติกออก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับความรู้เกี่ยวกับลิปสติกเนื้อแมตต์ที่เราได้รวบรวมมานำเสนอกันในวันนี้ เราก็หวังว่าทั้งวิธีการเลือกและ 10 อันดับ ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ได้รับความนิยมในบทความนี้จะช่วยเป็นไอเดียให้คุณสามารถเลือกซื้อลิปสติกแท่งโปรดได้ตรงความต้องการกันมากขึ้นนะคะ

อย่างที่เราได้พูดกันไปในบทความแล้วว่า ลิปสติกเนื้อแมตต์นั้นมีความแห้งสูงและเมื่อทาลงบนริมฝีปากเป็นเวลานานก็จะทำให้ผิวบนริมฝีปากเกิดการสูญเสียความชุ่มชื้นไปได้ รวมทั้งการทำความสะอาดโดยส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้คลีนซิ่งต่าง ๆ มาเช็ดลิปสติกออกไปจากบนปาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่คลีนซิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความแห้งและระคายเคืองขึ้นได้ง่าย ดังนั้นคุณควรจะหมั่นบำรุงเรียวปากของคุณอย่างเป็นประจำด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ กันด้วยนะคะ เพื่อจะได้มีริมฝีปากสวย ๆ ให้หนุ่ม ๆ ได้มองกันค่ะ