เมื่อถึงเวลาที่ต้องแต่งหน้า เชื่อว่าสาว ๆ ผิวคล้ำหลายคนต้องเคยเจอกับปัญหาการไม่มีสีของรองพื้นที่เหมาะกับโทนสีผิวของตัวเอง เนื่องจากแบรนด์เครื่องสำอางส่วนใหญ่มักจะออกแบบโทนสีสว่าง ๆ มากกว่า ทำให้หลายคนต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อคอนทัวร์มาผสมกับรองพื้นสีอ่อนเพื่อให้ใกล้เคียงกับสีผิวของตัวเองมากที่สุด แต่ในการเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวคล้ำนั้น นอกจากเรื่องของโทนสีที่ต้องพิจารณาให้ดีแล้ว ยังมีในเรื่องของเนื้อสัมผัส ฟินิชลุคที่ต้องการและความสามารถในการปกปิดที่ควรเอาใจใส่อีกด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วการเมคอัพของเราอาจไม่เป๊ะปัง แถมยังยังดูหมอง ดูเทากว่าเดิมอีกด้วย
สำหรับสาวผิวคล้ำคนไหนที่ยังสับสนอยู่ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะในครั้งนี้เราได้สรุปสาระน่ารู้เกี่ยวกับ การเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวคล้ำ มาฝากกัน แถมยังมีอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั้นก็คือ 10 อันดับ รองพื้นสำหรับคนผิวคล้ำ รุ่นยอดฮิตขายดี เพื่อให้สาว ๆ ทุกคนสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคาและรีวิวของรองพื้นแต่ละรุ่นได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยแต่ละหัวข้อจะมีเนื้อหาเป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ !
รองพื้นถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ของการแต่งหน้า ดังนั้น เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใจซื้อจากแค่การอ่านรีวิวของรุ่นใดรุ่นหนึ่ง เพราะโทนสีผิวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันด้วย คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวคล้ำ
ปัจจัยที่จะมีผลต่อการแต่งหน้าเป็นอย่างมากก็คือ "เนื้อรองพื้น" เพราะถ้าเราเลือกลักษณะของเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือการใช้งานของเรา ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีค่ะ โดยปกติแล้ว เนื้อสัมผัสของรองพื้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
เนื้อสัมผัสประเภทนี้ จะค่อนไปทางเหลวแบบน้ำ ๆ จึงช่วยให้เกลี่ยง่ายเป็นที่หนึ่ง แม้แต่มือใหม่ก็สามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย จึงกลายเป็นลักษณะของเนื้อสัมผัสที่แบรนด์เครื่องสำอางต่างพัฒนาออกมามากที่สุด มีหลายสูตรให้สาว ๆ เลือกซื้อตามสภาพผิวของตนเอง
1. สูตร Oil-free : รองพื้นที่ไม่ผสมน้ำมัน ทาแล้วจึงไม่มีความมันวาว เหมาะกับสาว ๆ ที่มีสภาพผิวมัน
2. สูตร Oil-base : มีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้มีความชุ่มชื้นสูง ช่วยอำพรางริ้วรอย เหมาะกับสาวที่มีสภาพผิวแห้ง ผิวธรรมดาและผิวผสม
3. สูตร Moisturizing-base : มีน้ำเป็นส่วนผสมหลักผสมกับน้ำมัน เนื้อจึงบางเบาที่สุดในบรรดา 3 สูตร มีคุณสมบัติเน้นให้ความชุ่มชื้น ใช้แล้วรู้สึกไม่หนักผิว เหมาะกับผิวมันและผิวธรรมดา
รองพื้นที่มีเนื้อสัมผัสแบบครีมจะมีส่วนผสมของแว็กซ์และน้ำมันสูง ทำให้เนื้อค่อนข้างแน่น แต่ก็มีความชุ่มชื้นสูงกว่าแบบลิควิดทุกสูตร จึงเหมาะกับคนผิวแห้งมากหรือสำหรับใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น วันรับปริญญาหรือวันแต่งงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการปกปิดสูงอีกด้วย ส่วนข้อเสีย คือ เกลี่ยค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยเทคนิค แถมยังมีเนื้อที่หนัก ทำให้เมื่อทาแล้วอาจจะรู้สึกไม่สบายผิวได้ เราจึงขอแนะนำให้ใช้ปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นจะดีกว่าค่ะ
รองพื้นรูปแบบแป้งผสมรองพื้น เป็นประเภทที่ใช้งานง่ายและสะดวกสุด ๆ เพราะมาในรูปแบบตลับ พกพาง่าย ลงเพิ่มได้แม้ในระหว่างวัน เพียงแค่เอาพัฟแต่งหน้ามาปัด ๆ ตบ ๆ ให้ดูสวยงามก็พอ ข้อดีของรองพื้นประเภทนี้ คือ ช่วยให้แต่งหน้าง่ายและรวดเร็วขึ้น เนื้อแป้งจะช่วยดูดซับความมัน ทาแล้วเบาสบายผิว แถมยังสามารถใช้เซ็ตใบหน้าหลังจากลงรองพื้นประเภทอื่น ๆ แล้วได้อีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด จึงบอกได้ว่า รองพื้นแบบแป้งเหมาะสาวผิวคล้ำเกือบทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสาวผิวมันและผิวผสมค่ะ แต่หากเป็นสาวผิวแห้งอาจจะต้องระมัดระวังว่าผิวหน้าจะแห้งเกินไปค่ะ
ถือเป็นอีกข้อที่สำคัญมากทีเดียว เพราะถ้าสาว ๆ เลือกผิดจะส่งผลต่อเมคอัพลุคทั้งหมด จนอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจและไม่กล้าหยิบรองพื้นรุ่นนั้น ๆ ขึ้นมาใช้อีกเลยค่ะ ส่วนฟินิชลุคแบบไหนจะเหมาะกับสภาพผิวใดบ้างต้องติดตามนะคะ
ฟินิชลุคแบบแมตต์นั้นจะทำให้ผิวหน้าไร้ความมันวาว จึงเหมาะกับสาวผิวมันหรือผิวผสมค่ะ เพราะจะช่วยกลบและดูดซับความมันได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าสาวผิวปกติอยากลองใช้ก็ได้เหมือนกันนะคะ แต่ขอแนะนำว่า ให้ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนเพื่อไม่ให้หน้าดูแห้งกร้านเกินไป ส่วนสาวผิวแห้งควรจะหลีกเลี่ยงรองพื้นแบบนี้ไปเลย เพราะจะยิ่งเน้นสภาพผิวที่แห้งลอกให้ดูเด่นชัดมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูไร้ชีวิตชีวาได้
นอกจากนี้ สำหรับสาวผิวมันหรือผิวผสมที่มีริ้วรอยตีนกาเยอะ เราขอแนะนำให้เลือกรองพื้นที่ให้ฟินิชลุคแบบกึ่งแมตต์ หรือลุคแมตต์ที่มีความเป็นธรรมชาติ มีความชุ่มชื้นเล็กน้อย เพื่อช่วยอำพรางริ้วรอยต่าง ๆ เพราะรองพื้นที่แมตต์มากเกินไปจะตกร่องริ้วรอย ทำให้มองเห็นข้อบกพร่องบนผิวหน้ายิ่งเด่นชัดมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ฟินิชลุคแบบนี้จะให้ความชุ่มชื้นฉ่ำวาวแบบผิวแลดูอิ่มน้ำค่ะ แต่รองพื้นที่ให้ฟินิชลุคแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ควบคุมความมัน จึงเหมาะกับสาวผิวแห้งซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้แบรนด์เครื่องสำอางที่มีรองพื้นประเภทนี้มักจะเป็นแบรนด์จากฝั่งตะวันตกค่ะ เพราะด้วยสภาพอากาศทางภูมิประเทศที่ค่อนข้างหนาวเย็น ทำให้สาว ๆ ต้องการรองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้ร้านเครื่องสำอางในไทยต้องนำเข้ามา ผลิตภัณฑ์รองพื้นประเภทนี้จึงมีราคาค่อนข้างสูงและมีรุ่นให้เลือกค่อนข้างน้อยตามไปด้วย
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วในตอนต้นว่า เรื่องโทนสีของรองพื้นนั้นมักเป็นปัญหาจนสาวผิวคล้ำมีความกังวล ดังนั้น อันดับแรกเลย สาว ๆ ควรมองหาแบรนด์ที่มีสีของรองพื้นให้เลือกหลายเฉด ชนิดที่ครอบคลุมทั้งอันเดอร์โทนเหลืองและชมพูเลยนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว แบรนด์ที่มีสีของรองพื้นให้เลือกเยอะมักจะเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์จากประเทศทางตะวันตกค่ะ ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่เพื่อให้ได้เฉดสีที่ตรงกับสีผิวของเราอย่างแท้จริง สาว ๆ จึงต้องลองลงทุนสักหน่อย รับรองว่าคุ้มค่าค่ะ
ส่วนวิธีการเลือกสีก็ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ลองแต้มรองพื้นบริเวณเส้นกรอบหน้าและลากลงมาถึงต้นคอเล็กน้อย เพื่อทดสอบว่าสีใดที่จะกลมกลืนกับผิวของเรามากที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับการสั่งซื้อทางออนไลน์อาจจะไม่สามารถลองแบบนี้ได้ เราจึงแนะนำให้เลือกเบอร์สีที่ใกล้เคียงกับสีรองพื้นที่เคยใช้ หรือไม่ก็ซื้อรุ่นขนาดทดลองมาใช้ก่อนนะคะ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและป้องกันการสูญเสียทุนทรัพย์โดยใช่เหตุค่ะ
โดยทั่วไปรองพื้นจะมีระดับการปกปิดอยู่ 3 ระดับค่ะ แต่ละระดับจะเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1. ระดับบางเบา : ให้การปกปิดเพียงเล็กน้อย ผิวยังคงดูเป็นธรรมชาติ หลังจากทาไปแล้วจะรู้สึกเบาสบาย ไม่หนัก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มากนัก หรือต้องการเน้นเมคอัพลุคแบบธรรมชาติ
2. ระดับปานกลาง : ส่วนใหญ่แล้วเนื้อสัมผัสของรองพื้นที่ให้การปกปิดระดับนี้จะมีความหนาขึ้นมาหน่อย จึงเหมาะกับผู้ที่มีจุดบกพร่องบนผิวหน้าประมาณหนึ่ง แต่ทาแล้วยังคงรู้สึกเบาสบายผิว ซึ่งรองพื้นส่วนใหญ่จะให้การปกปิดที่ระดับนี้ค่ะ
3. ระดับสูงสุด : รองพื้นที่ให้การปกปิดระดับนี้มักจะมาพร้อมเนื้อสัมผัสที่หนาหนัก จึงอาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิวได้ แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพการปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยม จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายจุดค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากอยากได้ลุคผิวที่สวยเป๊ะ แต่ก็ไม่อยากใช้รองพื้นที่ปกปิดสูงเพราะกลัวจะหนักผิว เราขอแนะนำให้ใช้รองพื้นที่ปกปิดระดับกลาง แล้วใช้คอนซีลเลอร์ช่วยอำพรางข้อบกพร่องเฉพาะจุดเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้รู้สึกเบาสบายผิวหน้ามากขึ้นค่ะ
ลำดับต่อไปมาถึงหัวข้อที่สาว ๆ รอคอย เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีรองพื้นรุ่นไหนบ้าง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะซื้อเพื่อน ๆ ควรเช็กให้ดีว่ารุ่นนั้น ๆ เหมาะกับสภาพผิวและความกังวลของเราไหมนะคะ อย่ายึดจากอันดับเพียงอย่างเดียว เพราะรองพื้นที่รีวิวเยอะอาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราก็ได้
เป็นแป้งผสมรองพื้นของ Cute Press ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง โดยรุ่นนี้น่าสนใจตรงที่มีเทคโนโลยี "Instant Retouch" ทำให้อณูแป้งกระจายแสง ใบหน้าจึงดูเรียบเนียนและเปล่งปลั่ง ช่วยบำรุงให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยสารสกัดธรรมชาติจากดอกกุหลาบพันปี แถมยังเป็นสูตร Oil-Free ช่วยควบคุมความมันในระดับหนึ่ง พร้อมช่วยอำพรางรูขุมขน เผยสีผิวสม่ำเสมอ ดูเรียบเนียน กรณีเป็นคนที่มักมีเหงื่อออกหรือเป็นคนผิวมันมาก ระหว่างวันอาจจะเป็นคราบเล็กน้อย แต่ถ้าสาว ๆ อยู่แต่ในห้องแอร์รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ
ถือเป็นรองพื้นตัวเด็ดของแบรนด์นี้เลยค่ะ เพราะพัฒนาเฉดสีให้ครอบคลุมสีผิวของสาวไทยโดยส่วนใหญ่ จึงมีโทนสีเข้มแบบต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย มีเนื้อแบบซาติน ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป ยังคงให้ความรู้สึกบางเบา ให้การปกปิดที่ดี แถมยังเกลี่ยง่ายมาก หลังจากทาแล้วผิวแลดูเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติและชุ่มชื้นด้วยกรดไฮยาลูรอนิค พร้อมช่วยควบคุมความมันในระดับหนึ่ง โดยที่ระหว่างวันไม่เป็นคราบและสีไม่ดรอป แต่สำหรับสาวผิวมัน แนะนำให้ลงไพรเมอร์คุมมันก่อนทานะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ดูเยิ้มมากเกินไปค่ะ
ตัวนี้เป็นรองพื้นสำหรับสาวผิวคล้ำที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะถูกร่ำลือว่า ดีเทียบเท่ากับรองพื้นระดับ Hi-End จากอีกยี่ห้อหนึ่ง มีเนื้อสัมผัสของรองพื้นที่หนืดเล็กน้อย แต่เกลี่ยง่าย มีเทคโนโลยีพิเศษช่วยให้ปกปิดข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้อย่างแนบเนียน บางเบาในระดับหนึ่งจึงไม่รู้สึกหนักผิวมากนัก มาพร้อมกับแร่ธาตุธรรมชาติ วิตามิน E และสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยลดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม ควบคุมความมันนานหลายชั่วโมง ระหว่างวันไม่เป็นคราบและสีไม่ดรอปแน่นอนค่ะ
เป็นรองพื้นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความน่าสนใจจากทฤษฎีสีเฉพาะของแบรนด์หรือ JUSME COLOR ที่การันตีว่าช่วยทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ลดความหมองคล้ำลงไป ตัวรองพื้นสามารถติดทนนานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงด้วยสูตรอิมัลชัน นอกจากนี้ ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติช่วยบำรุงผิวและมีค่า SPF18/PA++ โดยเนื้อครีมเนียนละมุน เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดดี ผิวดูเนียนสวยเป็นธรรมชาติ กันน้ำกันเหงื่อ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน แต่ข้อเสีย คือ ล้างออกยาก จึงแนะนำให้ใช้อายรีมูฟเวอร์ช่วยอีกแรงค่ะ เพราะถ้าล้างไม่สะอาดอาจจะอุดตันผิวหน้าได้
แป้งผสมรองพื้นที่มีเฉดสีให้สาว ๆ เลือกมากถึง 13 เฉด มาพร้อมความสามารถในการปกปิดระดับกลาง-ขั้นสุด ช่วยอำพรางรูขุมขนและริ้วรอย ควบคุมความมันในระดับหนึ่ง แต่ไม่แมตต์แห้งจนเกินไป หลายคนที่ใช้จริงรีวิวว่า เนื้อแป้งเนียนละเอียดไม่บาดผิว ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนสวย สีผิวสม่ำเสมอ ถ่ายรูปสวยขึ้น แต่สีจะดรอปลงเล็กน้อยในระหว่างวัน นอกจากนี้ สำหรับคนที่หน้ามันมาก หากไม่เซ็ตผิวด้วยไพรเมอร์ควบคุมความมันก่อนลงแป้ง หรือต้องอยู่ในที่อากาศร้อนนาน ๆ อาจจะเกิดคราบบริเวณจมูกได้ค่ะ
รองพื้นเนื้อครีมตัวนี้ มาจากแบรนด์ที่มีความโด่งดังเรื่องงานผิวอย่าง LAURA MERCIER ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้ อยู่ที่ความเป็นสูตร Oil-Free ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่อุดตันรูขุมขน และแม้จะเป็นเนื้อครีมแต่มีความบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ต้องใช้แปรงช่วยก็ลงได้เนียนกริบ พร้อมให้การปกปิดระดับปานกลางขึ้นไป เมื่อเซ็ตตัวแล้วจะทำให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติและดูสวยมากขึ้น แม้ว่าราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์แล้วถือว่าเป็นคุ้มค่าเลยค่ะ
เป็นรองพื้นที่มีคุณสมบัติคล้ายคอนซีลเลอร์ เพราะมาในรูปแบบแทง แถมยังให้การปกปิดขั้นสุด แต่รู้สึกเบาสบายไม่หนักผิว เป็นสูตรกันน้ำกันเหงื่อ ติดทนนานหลายชั่วโมง จากเสียงรีวิวบอกว่า เนื้อค่อนข้างแห้งแต่ก็มีความหนึบ ทำให้ไม่เหมาะกับคนหน้ามัน ในขณะเดียวกัน สาว ๆ ที่มีผิวหน้าแห้งมากก็ต้องระวังนะคะ แนะนำให้ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อน หลังรองพื้นเซ็ตตัวแล้วให้ฟินิชลุคงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าใช้แปรงทาผิวยิ่งสวยเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใช้ในการทำคอนทัวร์ได้อีกด้วย จัดว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ
ถือเป็นหนึ่งในรองพื้นที่สาว ๆ ผิวคล้ำต้องหลงรัก เพราะมีหลายเฉดสีให้เลือกซื้อ แถมเนื้อรองพื้นยังเนียนลื่นละมุนผิว เกลี่ยง่าย แห้งไว ทาแล้วรู้สึกเบาสบายผิว ให้การปกปิดแบบบางเบาแต่เป็นแบบ Buildable จึงช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอดูเนียนสวยเป็นธรรมชาติได้ ควบคุมความมันระดับปานกลาง และด้วยความที่เป็นสูตรลิควิด ทำให้สาวผิวผสมกับผิวมันอาจจะไม่เหมาะกับรุ่นนี้เท่าไรนะคะ หรือถ้าอยากใช้จริง ๆ แนะนำให้ลงไพรเมอร์คุมมันก่อนทารองพื้นและใช้สเปรย์ล็อกเมคอัพอีกทีนึงค่ะ
รองพื้นรุ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในรองพื้นระดับตำนาน และยังเป็นอันดับ 1 ของแบรนด์ มีสีให้เลือกเยอะมากถึง 35 สี ไม่ว่าจะมีผิวคล้ำไทนไหนก็หาเฉดสีที่เข้ากับตัวเองเจอแน่นอนค่ะ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ตัวนี้ยังโด่งดังเรื่องความสามารถในการปกปิดขั้นสุด ช่วยอำพรางรูขุมขนได้ดี สีผิวสม่ำเสมอ เนียนสวยและดูเป็นธรรมชาติ แต่ต้องใช้ความชำนาญในการเกลี่ยเล็กน้อยนะคะ เพราะรองพื้นค่อนข้างแห้งไวเลย นอกจากนี้ ยังควบคุมความมันได้ดี สาวผิวมันส่วนใหญ่หลงรักตัวนี้มาก แถมยังติดทนนานตลอดทั้งวันโดยไม่เป็นคราบและไม่ดรอปอีกด้วยค่ะ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรองพื้นที่มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ รับรองว่าสาว ๆ ผิวคล้ำที่เป็นคนช่างเลือกจะต้องรู้สึกฟิน ในด้านของคุณสมบัตินั้น รุ่นนี้เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน แถมมีส่วนประกอบของเพอร์ไลท์และซิลิกา ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินด้วย เนื้อรองพื้นเนียนลื่นเกลี่ยง่าย ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ อำพรางข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้ดี ช่วยให้ผิวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น พร้อมทั้งกันน้ำกันเหงื่อ จึงติดทนนานหลายชั่วโมง ดูดีตั้งแต่เช้าจรดเย็น และยังมีสารกันแดด SPF 15 ในตัว ที่สำคัญ สามารถล้างออกได้ง่ายแม้จะใช้คลีนซิ่งทั่วไปก็ตาม
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ ได้รองพื้นที่เหมาะกับตัวเองหรือยังเอ่ย ? เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงมีรุ่นที่เล็ง ๆ เอาไว้แล้ว แต่ถ้ายังลังเลไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี ลองทบทวนวิธีการเลือกอีกครั้งนะคะ โดยควรจะเริ่มเลือกซื้อจากรุ่นที่มีเนื้อสัมผัส ฟินิชลุค เฉดสีและความสามารถในการปกปิดที่เหมาะกับเรา นอกจากนี้ อย่าลืมคำนึงถึงราคาด้วยก็พอค่ะ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้รองพื้นที่เหมาะกับตนเองแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รองพื้นที่ถูกใจไปแล้ว อย่าลืมหาซื้อแปรงลงรองพื้นหรือฟองน้ำแต่งหน้าด้วยนะคะ เพราะจะช่วยให้เกลี่ยเนื้อรองพื้นได้แนบเนียนมากขึ้น โดยแปรงแต่งหน้าจะเหมาะกับรองพื้นเนื้อลิควิดและแบบแป้งผสมรองพื้นมากกว่าค่ะ ส่วนรองพื้นเนื้อครีมให้ใช้ฟองน้ำแทนค่ะ ดังนั้น เลือกจับคู่อุปกรณ์แต่งหน้าให้เหมาะสมกันด้วยนะคะ