รีวิว 8 ฟลายชีท ใช้จริง ใช้ดี จนต้องซื้อซ้ำ อัพเดทล่าสุดปี 2567

สายช้อปทั้งหลายกำเงินในมือแน่นๆ แล้วไปเตรียมช้อปกันเล้ยย สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
คุณภาพดี ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ ฟลายชีท  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง ฟลายชีท  ไป ราคาถุกกว่าร้านอื่นๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อฟลายชีทแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ฟลายชีท นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในฟลายชีทอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ฟลายชีทแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

การไปเที่ยวแบบตั้งแคมป์นั้น นอกจากจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจแล้วยังเป็นแบตชาร์จพลังใจที่ดีด้วย แต่ถ้าจะไปเที่ยวแบบตัวเปล่าก็คงไม่ดีแน่ ๆ อย่างน้อยก็ต้องมีสัมภาระติดตัวไปบ้าง และหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนมักจะพกไปด้วยเพื่อสำหรับพักพิงก็คือ “ฟลายชีท” นั่นเอง ซึ่งนับว่าเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียวสำหรับเอาไว้การกันแดดร้อน ๆ ในตอนบ่ายหรือจะกันลมกันฝนในตอนกลางคืนเพื่อให้หลับสบายไร้กังวล

แต่แน่นอนว่าสัมภาระในการเดินทางหรือท่องเที่ยวแต่ละครั้งก็มีมากพออยู่แล้ว ซึ่งถ้าจะพกฟลายชีทหลาย ๆ แบบไปด้วยคงไม่ใช่เรื่องสะดวกแน่ ดังนั้น ถ้ารู้จุดประสงค์การใช้งานก็จะช่วยให้เราสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี บทความในวันนี้ ทีมงานของเราจึงได้ไปรวบรวมเอาคุณสมบัติของฟลายชีทที่เหมาะสม รวมไปถึงข้อมูลของฟลายชีทที่ได้รับความนิยมจากหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Vidalido , BLUEFIELD , K2 , KARANA ฯลฯ มาให้นักเดินทางทั้งหลายใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ จะได้ฟลายชีทที่เกิดประโยชน์มากที่สุดไปใช้งานกันค่ะ
การใช้ฟลายชีทควบคู่กันไปกับเต็นท์ก็เป็นสิ่งที่หลายต่อหลายคนลงความเห็นกันว่า สามารถเพิ่มพื้นที่กิจกรรมต่าง ๆ ได้และช่วยให้การแคมป์ปิ้งมีความสนุกสนานและอุ่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเลือกฟลายชีทให้ตอบโจทย์ที่สุดนั้นจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง มาเริ่มกันเลยค่ะ!
เนื่องจากฟลายชีทในท้องตลาดนั้นมีขนาดให้เลือกหลากหลายมาก มีตั้งแต่ขนาดเล็กเพียง 2 เมตร ไปจนถึงขนาด 5 เมตร โดยขนาดเล็กประมาณ 2 x 2 เมตร จะเหมาะกับผู้ใช้ไม่เกิน 2 คน หรือผู้ที่ต้องเปลี่ยนสถานที่กางบ่อย หรืออาจจะชอบความเรียบง่ายเช่น การนอนเปลแทนการกางเต็นท์ แต่ขนาดนี้จะมีข้อเสียคือ กันแดด ฝน ลมหรือน้ำค้างได้น้อยกว่าขนาดอื่น
หากเป็นการใช้งานเพื่อตั้งโต๊ะและเก้าอี้ด้วย ขนาด 4 x 4 เมตร ถือว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมและได้รับความนิยมมากที่สุด สำหรับขนาดกลางประมาณ 4.5 x 4.5 เมตร จะเหมาะสำหรับ 3-4 คน แต่หากเป็นกลุ่มคนจำนวน 5-6 คนขึ้นไป หรือเป็นผู้ที่ชอบเที่ยวหลายวัน ควรเลือกใช้ฟลายชีทขนาดใหญ่ประมาณ 5.5 x 5.5 เมตร อย่างไรก็ตาม ขนาดที่แนะนำนี้เป็นเพียงขนาดเบื้องต้น ซึ่งสามารถปรับเพิ่มลดได้ตามขนาดพื้นที่และปัจจัยอื่น ๆ ได้ตามความสะดวกของผู้ใช้ด้วย
สำหรับน้ำหนักสัมภาระในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งที่เหล่านักเดินทางให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายแคมป์หรือเปลี่ยนสถานที่ ซึ่งในส่วนของฟลายชีทที่มีทั้งผ้าทั้งเสานั้น หากเป็นไปได้ควรเลือกเนื้อผ้าที่มีความเบาและมีขนาดกะทัดรัด ง่ายต่อการพกพาไว้เป็นหลักก่อน รวมถึงคุณสมบัติในการกันน้ำ
ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาเนื้อผ้าอุ้มน้ำในกรณีฝนตกขณะเดินทางหรืออยู่ในสถานที่ที่มีความชื้นสูง ซึ่งการเลือกเซ็ตฟลายชีทที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กิโลกรัมจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่รักการเดินทาง และต้องอุปกรณ์ส่วนตัวที่มีน้ำหนักมากพออยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับแนะนำจากการวิจัยเรื่องการแบกน้ำหนักเป้และอุปกรณ์ในการเดินทางระหว่าง 25-33% ของน้ำหนักร่างกายว่าสามารถช่วยอาการปวดล้ากล้ามเนื้อคอไหล่และสะโพกได้ อย่างไรก็ดี ความเหมาะสมทั้งหมดอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพและอุปกรณ์เสริมของแต่ละคนด้วย
ค่าการกันน้ำหรือ HH (Hydrostatic Head) เป็นการทดสอบการรั่วซึมของน้ำในระดับต่าง ๆ และเป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่าผ้าแต่ละชนิดสามารถทนต่อแรงดันของน้ำที่ระดับความสูงเท่าไหร่ได้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น ฝนตกปรอย ๆ ค่า HH จะอยู่ประมาณ 1,000 mm แต่หากฝนตกหนักลมพัดแรง ค่าก็จะอยู่ราว ๆ 2,000 mm คำถามคือ แล้วเราควรเลือกเท่าไหร่ดี ? ซึ่งการเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานในช่วงใด โดย 1,500 mm มักจะใช้เพื่อพักร้อนทั่วไปหรืออยู่ในช่วงที่ฟ้าปลอดโปร่ง แต่ถ้าหากคุณต้องการใช้ตลอดทั้งปีควรเลือกอย่างน้อย 2,000 mm และถ้าใช้ในฤดูฝนตกหนักอากาศแปรปรวนควรเลือก 3,000 mm เป็นอย่างต่ำ
แน่นอนว่าคุณสมบัติการกันน้ำส่วนใหญ่เกิดจากการเคลือบผิวด้วย Polyurethane (PU) ซึ่งตรงนี้เอง จะทำให้ราคาสูงขึ้นตามอายุการใช้งานและคุณภาพในการกันน้ำที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การเลือกซื้อให้เหมาะกับสถานการณ์และขอบเขตการใช้งานก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร นอกจากนี้ การสังเกตรอยต่อ รอยตะเข็บที่เย็บผ้านั้นนับได้ว่าสำคัญไม่แพ้กัน เพราะควรมีการติดเทปเพื่อป้องกันน้ำเข้าด้วย
การเลือกความหนาของเนื้อผ้าเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่บ่งบอกถึงความสามารถในการกันแดดกันฝนของฟลายชีท ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนิยมทำมาจากไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ และหัวใจหลักในการเลือกซื้อคือทการสังเกตจากค่า 2 แบบของการทอผ้า โดยความหนาของด้ายต่อความยาวที่นำมาทอก็คือ ตัวอักษร D (Denier) ที่ตามหลังตัวเลข ยิ่งเลขหน้ามีค่ามากเท่าไหร่ ความทนทานต่อการฉีกขาดก็จะมากขึ้นเท่านั้น หรือตัวอักษร T (Thread Per Inch) ที่บอกจำนวนเส้นด้ายต่อพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว ถ้ามีค่ามากก็หมายถึงการทอตัวที่ชิดกันมากขึ้นด้วย
สรุปได้ว่าถ้าค่าทั้ง 2 ตัวมากขึ้น ผ้าก็จะทนทานเนื้อเหนียวไม่ยืด แต่จะมีข้อเสียในเรื่องของน้ำหนักที่มากขึ้นตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม 2 ค่านี้เป็นคนละหน่วยกันและฟลายชีทในท้องตลาดก็จะมีให้เราเลือกซื้อเพียงค่าใดค่าหนึ่ง นอกจากนี้ ค่า 70D และ 190T ถือเป็นสเปคเนื้อผ้าที่มีความหนาพอดี สามารถกันแดดกันฝนได้ระดับกลาง ๆ แบบใกล้เคียงกันและเป็นที่นิยมสำหรับใช้ในระยะสั้น 1-2 วันมากที่สุด
นอกจากคุณสมบัติในการกันแดดกันฝนแล้ว ฟลายชีทบางรุ่นยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น การเชื่อมต่อกันเพื่อทำเป็นหลังคาให้กับเต็นท์นอน การออกแบบเนื้อผ้าให้มีความยืดหยุ่นเพื่อใช้เป็นที่รองเต็นท์ การปรับเปลี่ยนความหนาและเนื้อผ้าเป็นแบบตารางเพื่อให้ใช้นั่งชั่วคราวบนพื้นที่มีความชื้นได้ เป็นต้น เหล่านี้ก็เป็นทางเลือกได้เช่นกัน
นอกจากนี้ การเลือกจากขนาดและรูปทรงที่สอดคล้องกับวิธีการกางแบบต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งจะกางอย่างไหนและกางแบบไหนให้เกิดประโยชน์ต่อเรามากที่สุดนั้น เรามีมาฝากกันในช่วงท้ายด้วยค่ะ
จากข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทั้งหมดนี้ ก็ถึงเวลาของการแนะนำฟลายชีทที่มีคุณภาพทั้ง 3 ขนาดกันแล้วค่ะ โดยเรามาเริ่มกันด้วยขนาดเล็ก พกพาง่ายสำหรับสายชิลคนเดียวหรือไปพร้อมกับคนรู้ใจที่รับรองได้เลยว่าถ้ามีติดตัวไปด้วยต้องคุ้มค่าแน่นอน
รุ่นนี้เป็นขนาดเล็กที่เหมาะกับผู้ที่ชอบเดินทางคนเดียวมากที่สุด เพราะเป็นผ้าไนลอนเคลือบซิลเวอร์โค้ท (Silver Coated) ซึ่งสะท้อนรังสียูวีได้ดีและมีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ติดตั้งง่าย มีหูร้อยเชือกเย็บที่ด้วยเทคนิคไขว้ด้ายเพื่อเสริมความแข็งแรงในการใช้เชือกยึดตัวฟลายชีทแทนการใช้เสา แต่เนื่องจากเป็นการออกแบบเพื่อการพกพาทำให้เนื้อผ้าค่อนข้างบาง ซึ่งไม่สามารถใช้กันฝนได้ดีในกรณีที่ฝนตกหนัก
รุ่นนี้มีเอกลักษณ์การออกแบบให้มีส่วนเว้าส่วนโค้งของสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยลดแรงต้านลมได้ดี เนื้อผ้าหนาเพราะผลิตจากโพลีเอสเตอร์ มาพร้อมอุปกรณ์การกางครบ ทั้งเสา สมอบกและเชือกซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้ดี มีการซีลขอบเพื่อช่วยป้องกันน้ำรั่วซึมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริเวณตาไก่ที่เย็บอย่างหนาแน่นยังมีการเสริมแผ่นเหล็กสำหรับเสากลาง 2 จุดไว้ช่วยเสริมความมั่นคงด้วย แม้จะมีราคาสูงกว่ารุ่นอื่นที่มีขนาดเดียวกันแต่ก็ยังคงได้รับเสียงตอบรับที่ดีไม่น้อย
เป็นฟลายชีทขนาดเล็กที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ เนื้อผ้าผลิตจากผ้า Poly Oxford เคลือบกันยูวี มีคุณสมบัติสีไม่ซีดจาง มีความยืดหยุ่นระบายอากาศได้ดีและเหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งยังสามารถช่วยกันการรั่วซึมของฝนในช่วงที่ฝนตกหนักได้ด้วย สามารถกางได้ง่ายโดยใช้เสาสองต้นพร้อมยึดมุมเข้ากับสมอบกอะลูมิเนียมด้วยเชือกพาราคอตที่มีความแข็งแรง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ 1 – 2 คนอย่างยิ่ง
มาต่อกันที่อันดับของขนาดกลางกันบ้าง ที่บอกได้เลยว่าของมันต้องมีจริง ๆ สำหรับสายแคมป์กลุ่มเพื่อน ๆ หรือสายค้างคืนพร้อมสัมภาระ จะถูกใจน่าใช้งานขนาดไหนมาดูกันเลย
สำหรับฟลายชีททรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจาก KARANA ก็ไม่ทำในนักเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ผิดหวัง เพราะมาพร้อมเนื้อผ้าแบบโพลีเอสเตอร์ที่เคลือบกันยูวีและยังกันน้ำได้สูงสุดถึง 3000 mm แถมเพิ่มเติมด้วยการซีลเทปตามรอยเย็บเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม และสามารถใช้คลุมกันเปียกบนเต็นท์นอนสำหรับ 5 คนอีกชั้นได้ด้วย ในชุดมีอุปกรณ์ทั้งเสา เชือก และสมอบกมาให้ครบเครื่อง แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงทำให้การเลือกซื้อจึงต้องพิจารณาด้วยว่าตอบโจทย์ของเรามากที่สุดหรือไม่
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่แตกต่างแต่อัดแน่นคุณภาพมาก เพราะเป็นฟลายชีทเต็มผืนไร้รอยต่อทำจากผ้า Micro Ripstop ซึ่งเป็นผ้าทอแบบตารางทำให้ฟลายชีทมีความยืดหยุ่น เหนียวทนทานป้องกันการฉีกขาดในกรณีเกิดลมกระโชกแรงได้ มีรูร้อยเชือก 8 จุดแถมยังเคลือบกันน้ำด้วยระบบ Super Hydrophobic ซึ่งเป็นลักษณะที่ทำให้น้ำลอยตัวคล้ายกับน้ำบนใบบัว อุปกรณ์เสริมเป็นเชือกสะท้อนแสงและสมอบกอะลูมิเนียมกันสนิม นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นผ้ารองพื้นชั่วคราวได้ด้วย
แม้ว่าในฟลายชีทรุ่นนี้จะมีความบางเบาแต่เป็นเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์เคลือบโพลียูรีเทนและซิลเวอร์โค้ทซึ่งช่วยกันน้ำและสะท้อนความร้อนได้ดีมากและช่วยให้ใต้ฟลายชีทเย็นขึ้น ตัวเชือกสะท้อนแสงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในเวลากลางคืน พร้อมด้วยจุดยึดเชือก 8 จุดรอบด้านสามารถปรับระดับได้ อย่างไรก็ดีในรุ่นนี้จะมีกาวซีลตะเข็บแยกไว้ต่างหากเพื่อให้ผู้ใช้ทาตามแนวตะเข็บตามความต้องการได้ด้วยตัวเอง
สุดท้ายกับฟลายชีทรุ่นใหญ่ยอดฮิตที่ก๊วนเพื่อนไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่ความสนุกสนานแล้วยังมาพร้อมการกันแดดกันฝนได้แบบไร้กังวลอีกด้วย
สำหรับฟลายชีทรุ่นใหญ่จาก Naturehike ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยเนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์เคลือบ PU น้ำหนักพอดีพกพาสะดวกบวกกับอุปกรณ์น้อยชิ้นและเสาค้ำสูง 2 เมตรจำนวน 2 ต้นแต่ติดตั้งได้ง่ายพร้อมใช้งานทันที เหมาะกับนักเดินทางกลุ่มใหญ่ที่ต้องเปลี่ยนสถานที่บ่อย เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดีและช่วยป้องกันรังสียูวีได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงเผื่อกรณีที่อาจจะเจอกับสภาพอากาศแปรปรวนก็สามารถซื้อเสาเพิ่มเพื่อช่วยยึดเกาะได้
เป็นฟลายชีทขนาดใหญ่ที่สีสันสะดุดตาแถมราคาสุดคุ้ม โดยทำจากผ้าไนลอนเคลือบซิลเวอร์โค้ท (Silver Coated) โดดเด่นเรื่องการกันน้ำและมาพร้อมตาไก่ 12 จุดที่เรียกได้ว่าช่วยยึดเกาะได้เต็มที่ แม้ลมจะแรงแค่ไหนก็หายห่วง มีเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และที่สำคัญ ยังสามารถพับเก็บใส่ถุงพร้อมสายรัดที่มีให้โดยเฉพาะได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ดี รุ่นนี้ไม่มีการซีลเทปที่ตะเข็บขอบผ้า ทำให้มีโอกาสที่น้ำจะรั่วซึมได้บ้างหากตากฝนเป็นเวลานาน
สำหรับใครที่ชื่นชอบการออกทริปเป็นระยะเวลานานหรือเดินทางไปกับกลุ่มเพื่อน รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้มากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มขนาดพื้นที่แล้ว ยังเคลือบซิลเวอร์ที่ช่วยกันความร้อนและรังสียูวีได้เป็นอย่างดีด้วย ผลิตจากผ้า Poly Oxford ออกแบบเป็นทรงคางหมูและเว้าขอบเพื่อช่วยลดแรงต้านลม ทั้งยังมาพร้อมสมอบกที่มีความหนาถึง 8 มม.ทำให้ติดตั้งได้อย่างมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มจุกสำหรับติดหัวเสาเพื่อป้องกันฟ้าผ่าให้อีกด้วย
แน่นอนว่าแม้อุปกรณ์จะพร้อมแต่รอยย่นหรือด้านที่ไม่เสมอกันจากการกางตัวของฟลายชีทในรูปแบบต่าง ๆ ก็เป็นปัญหาหนึ่งของผู้ใช้มือใหม่ไม่น้อยทีเดียว รวมไปถึงทิศทางลม ทำเลหรือการสะท้อนของแสงแดด ก็สร้างความลำบากใช้ในการวางตำแหน่งฟลายชีทได้พอสมควร ดังนั้น 4 วิธีต่อไปนี้ จะช่วยให้เราเข้าใจและติดตั้งได้ง่ายมากขึ้น
วิธีที่ 1 แบบ Basic A Frame เป็นแบบที่เห็นได้ทั่วไป ใช้เสา 2 ต้นสำหรับฟลายชีทสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยกางให้ 2 ด้านเท่ากันเป็นโดมรูปสามเหลี่ยม และยึดมุม 4 ด้านเข้ากับสมอลงบนดิน ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยกันลมกันฝนได้เป็นอย่างดี แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยที่น้อยลงและอาจมีน้ำขังบริเวณสมอบกได้
วิธีที่ 2 แบบ Basic Lean To ใช้เสา 2 ต้นสำหรับฟลายชีทสี่เหลี่ยมผืนผ้า กางให้ด้านที่มีลมแรงยาวกว่าอีกด้านและทำมุมกัน 30 องศา มีข้อดีคือ กางได้ง่ายแต่สามารถกันลมกันฝนได้เพียงด้านเดียว
วิธีที่ 3 แบบ Dining Fly ซึ่งใช้เสา 2 ต้นและสมอบก 6 – 10 อัน สำหรับฟลายชีทสี่เหลี่ยมผืนผ้าและคางหมู โดยดึงมุมและกางให้มีจั่วหน้า-หลัง มีข้อดีคือ ช่วยเพิ่มพื้นที่และป้องกันน้ำเข้า แต่เป็นแบบที่ต้องใช้ความชำนาญพอสมควร
วิธีที่ 4 แบบ Dining Fly Upgrade ซึ่งใช้เสา 8-10 ต้นและสมอบก 10 – 12 อัน สำหรับฟลายชีทสี่เหลี่ยมผืนผ้าและคางหมู โดยตอกยึดมุมฟลายชีทด้านข้างกับสมอบกให้มีมุมสูงต่ำสลับเป็นฟันปลา ช่วยให้มีพื้นที่กว้างไม่อึดอัด ไม่มีน้ำไหลเข้าด้านใน แต่เป็นแบบที่ประกอบค่อนข้างยาก ใช้เวลานาน
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคและรูปแบบการกางที่จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกซื้อฟลายชีทพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ตอบโจทย์การกางและความต้องการใช้งานของเรามากที่สุดนั่นเอง
ผ่านไปแล้วสำหรับฟลายชีทคุณภาพทั้ง 3 ขนาด ที่ชาวแคมป์ต่างต้องมีติดตัวไปเพราะเป็นอุปกรณ์สำหรับนักเดินทางที่มีความคุ้มค่าและมีประโยชน์มากทีเดียว และแม้ว่าลักษณะภายนอกของฟลายชีทนั้นเหมือนกันจนแยกไม่ออก แต่คุณสมบัติรวมถึงวิธีการใช้งานกลับมีประเภทที่แยกออกไปหลากหลายมาก
ดังนั้นแล้ววิธีการเลือกโดยอาศัยคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เรามองหาก็เป็นเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้เราประหยัดทั้งเวลา ทั้งเงินในกระเป๋า แถมยังได้พกพาอุปกรณ์ที่เราพอใจไปต่อยอดสร้างความสุขในการพักผ่อนได้อีกด้วย และเมื่ออุปกรณ์พร้อม กายพร้อม การออกไปท่องเที่ยว ตั้งแคมป์หรือทำกิจกรรมก็จะเป็นอีกประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน