“ดินสอกด” หนึ่งในเครื่องเขียนที่นักเรียน นักศึกษาทุกคนต้องมี เพราะร่องรอยคำผิดถูกลบง่ายและรวดเร็วกว่าปากกา เพียงแค่มียางลบดี ๆ สักหนึ่งก้อน เท่านี้งานของเราก็จะสะอาดสะอ้านไร้ที่ติ แต่เพื่อน ๆ เคยเป็นกันไหมคะ “ใช้ดินสอแล้วปวดนิ้วบริเวณที่เจ็บหรือนิ้วด้าน” ที่เป็นอย่างนั้นอาจเป็นเพราะรุ่นที่ใช้อยู่นั้นไม่เหมาะกับการเขียนเป็นเวลานาน ๆ ค่ะ ดังนั้น การรู้หลักของ “วิธีการเลือก” จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีดินสอกดมากมายหลายแบรนด์หลายรูปแบบ จะให้ชาว mybest ไปนั่งทดลองใช้หรือนั่งอ่านรีวิวทุกรุ่นก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ในครั้งนี้ทีมงานของเราจึงได้จัด “10 อันดับ ดินสอกดยอดฮิตขายดี” ซึ่งผ่านการเปรียบเทียบทั้งเรื่องของราคา, คุณสมบัติและรีวิวจากผู้ใช้จริง มาให้เพื่อน ๆ ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ หวังว่าข้อมูลของเราจะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าดินสอกดนั้นมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ซึ่งสำหรับนักเรียน นักศึกษาอย่างเรา ๆ มักต้องมีการเขียนที่ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้น เราจึงต้องเลือกดินสอกดที่ถูกออกแบบมาให้จับได้ถนัดมือเพื่อถนอมนิ้วมือของเรา
ขนาดของหัวดินสอกดมีอยู่หลายขนาดให้เลือกใช้ โดยขนาดเล็กสุดจะอยู่ที่ 0.2 มม. ไปจนถึงขนาดเท่าดินสอไม้ทั่วไปคือ 2.0 มม. ซึ่งแต่ละขนาดนั้นก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขนาดหัวแบบไหนจะเหมาะกับการใช้งานแบบใดได้ดีที่สุด เราไปดูกันเลยค่ะ
หากคุณต้องเขียนหนังสือเป็นหลายสิบหน้าอยู่บ่อย ๆ อย่างเช่น การเขียนรายงาน หรือการลอกแบบหนังสือเรียนลงสมุดโน้ตแล้วละก็ ขอแนะนำให้ใช้ไส้ดินสอที่มีขนาดที่เล็กกว่า 0.5 มม. เพราะงานเขียนแนวนี้จำเป็นต้องเขียนโดยใช้ตัวอักษรขนาดเล็กจำนวนมากภายในบรรทัดขนาด 5 หรือ 6 มม. ฉะนั้น ถ้าเป็นไส้ที่มีขนาดใหญ่แล้วละก็ จะทำให้ทั้งการเขียนและการอ่านยากขึ้นกว่ามากเลย
แต่ไส้ที่มีขนาดเล็กก็จะมีข้อเสีย คือ เปราะบางและหักง่าย ดังนั้น สำหรับคนที่ติดนิสัยการเขียนหนังสือแบบกดเส้นลงหนัก ควรระวังเรื่องการกดไส้ไม่ให้ออกมามากจนเกินไป หรืออาจจะเปลี่ยนไปใช้ไส้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยประมาณ 0.4 มม. ก็ได้ค่ะ
สำหรับใครที่เน้นการเขียนตัวเลขหรือเขียนงานภาษาอังกฤษเป็นหลักแล้วละก็ ขอแนะนำให้เลือกดินสอกดที่มีไส้ขนาดมากกว่า 0.5 มม.ไว้ เพราะด้วยเส้นที่ใหญ่ จะทำให้ตัวอักษรเด่นชัด อ่านง่าย แม้ใช้แรงกดก็ไม่หักง่าย เขียนได้ลื่นมือสุด ๆ ไปเลยค่ะ
และหากใครที่กำลังมองหาดินสอไปใช้วาดรูปเรขาคณิตหรือใช้สำหรับฝนข้อสอบ แนะนำให้เลือกใช้ขนาด 1.3 มม. เลยค่ะ เพราะเส้นจะหนา ทำให้ฝนได้เร็วกว่า ช่วยประหยัดเวลา หมดปัญหา “ทำข้อสอบไม่ทัน” อย่างแน่นอน
เพื่อน ๆ ทราบกันไหมคะว่า Grip ของดินสอกดนั้น มีอยู่ 2 ชนิด คือ แบบนิ่มและแบบแข็ง ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เรามาทำความรู้จักแต่ละแบบ เพื่อเลือกด้ามจับที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรากันค่ะ
เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยเจอปัญหา “เจ็บนิ้ว” เวลาที่ต้องเขียนหนังสือนาน ๆ หรือรู้สึกเมื่อยมือเวลาเขียน” กันอย่างแน่นอน วิธีที่จะมาช่วยป้องกันอาการเหล่านี้ได้ก็คือ การใช้ดินสอที่มี Grip แบบนิ่ม โดยทั่วไปแล้ว Grip แบบนิ่มนั้นจะทำมาจาก Silicone Rubber หรือ Gel ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยลดการเมื่อยมือเวลาเขียนไปนาน ๆ เท่านั้น แต่ยังสามารถป้องกันการเกิดตาปลาแข็งบริเวณข้อนิ้วที่เกิดจากการเสียดสีระหว่างดินสอกับนิ้วของเราได้อีกด้วย
Grip แบบนิ่มจะทำให้ดินสอมีลักษณะที่อ้วนขึ้นมาบริเวณด้ามจับ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ไม่เกิดความเมื่อยล้ามือ แม้จะใช้แรงจับมากก็ตาม แต่เพราะความนิ่มนี้ หากใช้แรงจับดินสอที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงเวลาเขียน และตัวอักษรอาจบิดเบี้ยวได้ เพราะฉะนั้น จึงมี Grip แบบนิ่มที่ใช้วัสดุยางค่อนข้างแข็งออกมาวางจำหน่ายอยู่บ้างในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้คุณนำดินสอมาลองเขียนดูก่อนซื้อจะดีที่สุดค่ะ
สำหรับ Grip แบบแข็ง จะไม่ได้ใช้ Silicone Rubber หรือ Gel เป็นวัสดุในการทำ ซึ่งมีข้อดีคือ แม้จะเขียนเร็ว ตัวอักษรก็ยังมั่นคง ไม่มีบิดเบี้ยว ดังนั้น สำหรับใครที่ชอบเขียนตัวหนังสือให้ออกมาดูสวยตามใจสั่งแล้วละก็ ขอแนะนำประเภทนี้เลยค่ะ แต่ตัวด้ามดินสอจะมีลักษณะเรียว ไม่เหมือนแบบนิ่ม จึงไม่ควรใช้แรงในการจับมากค่ะ
แม้ว่าแบบแข็งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บนิ้วได้เมื่อต้องเขียนเป็นเวลานาน ๆ แต่แรงจากนิ้วสามารถส่งผ่านไปยังตัวดินสอได้ง่าย จึงสามารถลากเส้นตรงได้อย่างแม่นยำเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับ Grip แบบนิ่มแล้ว แบบแข็งจึงเขียนได้ลื่นกว่ามาก ดังนั้น แนะนำให้เลือกดินสอกดที่ Grip มีความโค้งเว้าหรือมีรูปร่างตามนิ้วมือ เพราะจะช่วยให้จับถนัดมากขึ้นและยังเป็นการป้องกันดินสอหลุดมือขณะเขียนได้อีกด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อดินสอกด คือ น้ำหนักของตัวดินสอ ถ้าเป็นดินสอกดที่มีน้ำหนักประมาณ 20 กรัม จะมีความมั่นคงในการเขียน ไม่ต้องออกแรงจับมากก็สามารถเขียนออกมาได้อย่างราบรื่นเลย
ในทางกลับกัน ดินสอกดที่มีน้ำหนักเบาประมาณ 15 กรัม จะมีจุดเด่นในเรื่องการเขียนได้อย่างรวดเร็ว เพราะหัวดินสอจะเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่า ไม่มีน้ำหนักของตัวดินสอมาเป็นตัวถ่วง จึงเขียนได้สบาย ๆ ไม่มีติดขัด
วิธีที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ลองเขียนที่ร้านก่อนจะซื้อ เพื่อที่คุณจะได้ดินสอกดที่เหมาะมือมากที่สุดค่ะ
สำหรับน้อง ๆ ทั้งหลายที่รักการเรียนหนังสือ ขอแนะนำให้ลองใช้ดินสอกดฟังก์ชันพิเศษ เพียงแค่เขย่า ไส้ก็จะออกมาโดยไม่ต้องเสียเวลากด และยังป้องกันไส้หักและไปค้างอยู่ด้านใน ทำให้กดไม่ออกระหว่างเขียนได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น รุ่นไส้ไม่มีวันหักจากแบรนด์ Zebra Delguard เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาเขียนให้กับน้อง ๆ ได้มากขึ้นเลยค่ะ
หากจะเลือกดินสอกดสักแท่ง เพื่อน ๆ ดูกันที่ตรงไหนคะ ดีไซน์ถูกใจ? ราคาไม่แพง? แท่งเหมาะมือ? ส่วนใหญ่แล้วก็จะเลือกจากปัจจัยเหล่านี้
ดินสอกด Mono Graph รุ่นนี้ได้รับรางวัล Reddot Award ปี 2016 เป็นดินสอใช้หัวโลหะยาวถึง 4 มม. ซึ่งยาวกว่าดินสอกดทั่วไปทำให้ลากเส้นกับไม้บรรทัดได้ดี ยางลบเป็นแบบหมุน ซื้อเปลี่ยนได้ นอกจากนี้การกดจะใช้แบบเขย่าก็ได้หรือกดที่ตัวเสียบก็ได้ และล็อคป้องกันไส้ออกมาได้ด้วย
สิ่งที่ชอบมาก ๆ ของดินสอรุ่นนี้ นอกจากยางลบที่ใช้ดีไม่เสียชื่อ Mono แล้ว ก็คือน้ำหนักของดินสอค่ะ ดินสอกดรุ่นนี้มีน้ำหนักที่ไม่เบาจนต้องเกร็งเวลาจับดินสอ และไม่หนักจนเมื่อยมือ สำหรับใครที่อยากได้ดินสอกดคิวท์ ๆ กว่านี้ Mono ก็จัดหนักเติมความน่ารักให้ในเวอร์ชั่น Sanrio ด้วยค่ะ เพราะแบบนี้ดินสอกดรุ่นนี้ถึงเป็นสิ่งที่จันว่ามือใหม่ขาดไม่ได้ เป็นทั้งดินสอและยางลบจบในแท่งเดียวเลยค่ะ
จากข้อมูลวิธีการเลือกทั้งหมด หลาย ๆ คนคงพอจะรู้แล้วใช่ไหมคะว่า ควรเลือกดินสอกดแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง แต่เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ทางทีมงานของเราได้คัดสรรดินสอกดรุ่นยอดฮิตที่น่าสนใจมาฝากกันอีกด้วย เพื่อที่จะช่วยประหยัดเวลาในการเลือกซื้อให้กับทุกคนและเพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนได้ดินสอที่เหมาะที่สุดกับการใช้ในการเรียนของตัวเอง ว่าแล้วก็อย่ารอช้า รีบไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ!
ใครที่เบื่อเรื่องไส้ดินสอหักบ่อยเวลากดออกมาหรือไส้ชอบหลบเข้าไปด้านใน ขอแนะนำรุ่นนี้เลย เพราะมีเทคโนโลยี “ช่วยต้านการหักของไส้ดินสอ” ด้วยระบบโช้ค ลดแรงกระแทก มีสปริงกระจายน้ำหนักถึง 2 ตัว อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และมีหัวดินสอให้เลือกหลากหลายขนาด ครอบคลุมความต้องการของคนรักการเขียนเป็นส่วนใหญ่ มาพร้อมยางลบลบสะอาด ปัจจุบันมีสีให้เลือกเยอะ ตอบโจทย์ทั้งสาว ๆ ที่ชอบความสดใสและหนุ่ม ๆ ที่เน้นความสุภาพเรียบร้อยเลยค่ะ
อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ยังมีข้อเสียเล็กน้อย คือ ช่องใส่ไส้ดินสอค่อนข้างเล็กและมียางลบปิดรูไว้ หากลบจนหมดจะทำให้ดึงออกมาไม่ได้ เวลาใส่ไส้อาจจะลำบาก
รุ่นนี้หลายคนคงเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง มาพร้อมจุดเด่น คือ “ดีไซน์ที่ทันสมัย” สามารถมองเห็นปริมาณไส้ดินสอด้านในได้ อีกทั้งบริเวณ Grip Zone ยังเป็นรอกคลื่นจึงช่วยให้จับถนัดมือและกระจายน้ำหนักเวลาออกแรงเขียนได้ดี ตัวดินสอมีน้ำหนักเบา มีหัวขนาด 0.5 มม. เพิ่มเติมด้วยคลิปหนีบเพื่อความสะดวกในการพกพาและยังมีหลากสีสันให้เลือกซื้อ
นอกจากนี้ เส้นดินสอที่ได้ยังมีความเข้มสม่ำเสมอ รูใส่ไส้มีขนาดพอเหมาะ มียางลบส่วนหัวที่สามารถถอดออกได้ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ราคาก็ย่อมเยามาก ๆ แถมยังทนทานอีกด้วย ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าติดกระเป๋าไปเรียนไม่น้อยเลยค่ะ
จากแบรนด์เครื่องเขียนที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยกันดี ซึ่งรุ่นนี้ทำออกมาเพื่อเอาใจเหล่านักเรียน นักศึกษาที่ต้องเขียนกราฟหรือเขียนแบบอาคารโดยเฉพาะ ด้วยหัวยาวถึง 4 มม. ช่วยให้ลากเส้นกับไม้บรรทัดได้ดี มาพร้อมยางลบแบบหมุนที่ลบได้สะอาด สามารถถอดเปลี่ยนได้เมื่อหมด มีไส้ดินสอขนาดมาตรฐานและระบบกดไส้ดินสอ 2 แบบ คือ กดได้ทั้งจากคลิปและจากการเขย่าดินสอขึ้นลง นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกหลายสีอีกด้วย
ข้อเสียเล็กน้อยของรุ่นนี้ คือ การเขย่าไส้ต้องออกแรงเล็กน้อยและหัวดินสอเป็นโลหะไม่สามารถหดเก็บได้ จึงไม่เหมาะกับการพกพา หากเสียบกระเป๋าเสื้ออาจเสี่ยงทะลุได้
สำหรับรุ่นนี้ หลายคนเห็นรูปก็คงร้องอ๋อ เพราะเคยใช้หรืออาจจะเห็นเพื่อนใช้มาก่อน มีจุดเด่นอยู่ที่ “ระบบกดไส้ด้านข้าง” เวลาเขียน ๆ ไปแล้วไส้หมด สามารถขยับนิ้วโป้งไปกดได้อย่างง่ายดาย ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ เหมาะสำหรับการจดเลคเชอร์ที่ต้องอาศัยความเร็ว
อีกหนึ่งข้อดี คือ บริเวณ Grip Zone ยังเป็นรอกคลื่น ช่วยให้จับถนัดมือ มาพร้อมคลิปหนีบและหัวขนาด 0.5 มม. ทำให้ได้ขนาดเส้นพอเหมาะ โดยปัจจุบันมีให้เลือกหลายสี ใครเบื่อสีดำหรือน้ำเงินที่แสนจะจำเจ ลองเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้ดูก็ดีนะคะ
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ Dr. Grip จาก Pilot ที่มั่นใจได้เลยว่ายางหุ้มบริเวณ Grip Zone จะช่วยถนอมมือของคุณให้เขียนแล้วไม่เมื่อยมือ ด้วยการออกแบบด้ามจับเป็น 2 ชั้น โดยด้านนอกจะมีซิลิโคนแข็งกว่าด้านใน จึงมีความอ่อนนุ่มพอดีในการจับ ทั้งยังเน้นเรื่องการปรับสมดุลในการเขียนเพื่อไม่ให้ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ จากการเขียนอีกด้วย เพิ่มลูกเล่นสลับเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ มาพร้อม 2 ระบบกดไส้ สามารถกดได้ทั้งแบบปกติและการเขย่าเบา ๆ มีหัวดินสอสั้น ไม่แหลมจนเกินไป
อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้ คือ บริเวณส่วนบนมีรูเล็ก ๆ สำหรับสอดสายพวงกุญแจ เพิ่มความน่ารักกุ๊กกิ๊กให้กับดินสอของเราจนเพื่อน ๆ ต้องทัก เหมาะสำหรับสาว ๆ เป็นอย่างยิ่งค่ะ แถมรุ่นนี้มีให้เลือกหลายลวดลายหลายสีสันด้วยค่ะ
หลายคนเห็นแล้วอาจไม่แปลกใจ เพราะรุ่นนี้เป็นดินสอยอดฮิตสำหรับวัยนักเรียนนักศึกษาเลยค่ะ ด้วย 2 คุณสมบัติเด่น ๆ คือ “ราคาย่อมเยาและคุณภาพดี” ทำจากพลาสติกมีคุณภาพ รูปร่างเรียวบาง ด้ามใส มองเห็นไส้ดินสอภายใน หัวทรงลูกศรช่วยให้ไส้แตกหักยาก บริเวณ Grip Zone เป็นรอกคลื่น เพิ่มความกระชับเวลาใช้ น้ำหนักเบา มีฝาสำหรับปิดพร้อมคลิปหนีบ เพิ่มความสะดวกในการพกพา
ปัจจุบันมีขนาดหัว 0.5 มม.ขนาดเดียว แต่มีหลายเฉดสีให้เลือก เหมาะกับงานเขียนทั่วไป เป็นรุ่นที่หาซื้อตามร้านค้าทั่วไปหรือร้านค้าออนไลน์ได้ง่าย
ดินสอกดจาก Quantum รุ่นนี้มีกลไกช่วยให้ชิ้นส่วนดินสอไม่สั่นคลอนเวลาเขียน ด้วยการใช้โลหะเพียงชิ้นเดียว มาพร้อมสปริงพิเศษในส่วนหัวช่วยให้ไส้หักน้อยลงเมื่อถูกกดออกมายาว ๆ ทั้งยังมีด้ามจับที่ถนัดมือ ช่วยลดอาการเมื่อยเมื่อต้องเขียนนาน ๆ ด้วยยางซิลิโคนบริเวณ Grip Zone ที่ออกแบบให้เข้ากับช่วงการจับของนิ้วมือ ปัจจุบันมีหัวขนาด 0.5 มม.เพียงขนาดเดียว แต่มีหลายสีสันให้เลือกใช้ เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
นอกจากนี้ แม้ว่ารุ่นนี้จะมีน้ำหนักเบา แต่ด้วยเทคโนโลยีพิเศษทำให้รับแรงกดได้ดี สำหรับคนที่ติดนิสัยชอบออกแรงกดในการเขียนหนัก ๆ ก็สามารถใช้ได้ ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าลองไม่น้อยเลยค่ะ
สำหรับรุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมาให้รองรับทั้งงานเขียนทั่วไปที่ติดต่อกันเป็นเวลานานและการเขียนแบบ ด้วยดีไซน์ปลายแท่งหัวโลหะยาว 4 มม. เพิ่มความสะดวกในการตีเส้นกับไม้บรรทัด มียางหุ้มบริเวณ Grip Zone พร้อมเป็นริ้วในตัว จึงช่วยถนอมนิ้วมือขณะใช้ให้เขียนสบาย มาพร้อมคลิปหนีบโลหะ สะดวกในการพกพา นอกจากนี้ยังมีหลายขนาดหัวและหลายสีให้เลือก
เป็นอีกรุ่นที่มีหัวขนาดใหญ่ เหมาะกับการฝนข้อสอบหรือเขียนตัวหนังสือภาษาอังกฤษได้ดี ทั้งยังมียางลบระบบหมุนที่สามารถถอดออกได้ ผู้ที่ลองใช้จริงหลายคนรีวิวเลยว่ารุ่นนี้ลบสะอาดมาก ถือว่าคุ้มกับราคามาก ๆ ค่ะ
ไม่มีใครไม่รู้จักดินสอกดรุ่นนี้ เพราะถือเป็นอีกรุ่นยอดฮิตในตำนานของเหล่านักเรียนนักศึกษาเลยค่ะ ด้วยยางหุ้มบริเวณ Grip Zone ที่ช่วยถนอมมือเวลาใช้ มาพร้อมคลิปหนีบโลหะ เหมาะกับการพกพา อีกทั้งหัวดินสอยังมีความแข็งแรง ป้องกันการแตกหักของไส้ แถมยังกดเก็บซ่อนเข้าไปได้ นอกจากนี้ ยังมีน้ำหนักพอเหมาะ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ปัจจุบันมีขนาดหัว 0.5 มม. เพียงขนาดเดียว แต่มีหลายสีให้เลือกซื้อ
แนะนำเพิ่มเติมว่าให้ใช้ไส้ดินสอของแบรนด์ เพราะถูกดีไซน์ให้รองรับกับตัวดินสอมากกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียน โดยรุ่นนี้เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่ต้องเขียนติดต่อกันเป็นเวลานาน
มาถึงอันดับ 1 ของเรา เชื่อว่าใครหลายคนที่กำลังอ่านอยู่จะต้องเคยเบื่อกับการทู่ของไส้ดินสอ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ลองได้มาใช้รุ่นนี้ ปัญหาเหล่านั้นอาจหมดไปค่ะ เพราะมีระบบหมุนไส้ให้แหลมอยู่ตลอดเวลาขณะเขียน ทำให้ความหนาของเส้นสม่ำเสมอ ดีไซน์ส่วน Grip Zone เว้าเล็กน้อยตามร่องนิ้วเพื่อรองรับน้ำหนักการเขียนได้ดี ง่ายต่อการบังคับมือ ตัวด้ามมีน้ำหนักเบา นอกจากนี้ ยังมีหัวหลายขนาด ครอบคลุมทุกการใช้งานโดยส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ความโดดเด่นเฉพาะของรุ่นนี้ คือ ตัวไส้ดินสอมีส่วนผสมของผงเพชร จึงยิ่งทำให้เขียนได้ลื่นไหล ไม่หักง่าย เพิ่มเติมด้วยหัวดินสอแบบท่อโลหะ จึงช่วยผ่อนแรงกดในขณะเขียน ทำให้บังคับเส้นได้มากขึ้น ถ้าเทียบคุณภาพกับราคาแล้ว ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ
จบกันไปแล้วกับบทความดี ๆ ในวันนี้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ความรู้เกี่ยวกับเลือกซื้อดินสอกดและสินค้าที่น่าสนใจกันมากขึ้น ใครที่ชอบบทความนี้ก็อย่าลืมส่งลิงค์หรือแชร์ต่อไปให้คนสนิททราบกันด้วยนะคะ ทุกคนจะได้มีดินสอคู่ใจใช้ได้ไปนาน ๆ ก่อนจากกันไป นอกจากได้ดินสอกดดี ๆ สักแท่งแล้ว การหาซื้อไส้ดินสอก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพื่อน ๆ อย่าลืมดูขนาดของไส้ให้พอดีกับหัวดินสอ ซื้อมาจะได้ไม่พลาด (เหมือนผู้เขียน) นะคะทุกคน