สาว ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ‘อายครีม’ แตกต่างจากครีมทาหน้าทั่วไปอย่างไร และทำไมถึงต้องใช้? ทาแค่ครีมทาหน้าอย่างเดียวไม่ได้เหรอ? คำตอบ คือ ควรจะทาค่ะ ! เพราะผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางและแห้งง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ทำให้เกิดรอยคล้ำหรือริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น จึงต้องการครีมที่มีความเข้มข้น ความชุ่มชื่นและอุดมไปด้วยสารสกัดที่มีประโยชน์ในปริมาณที่มากกว่าครีมทาหน้าทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในท้องตลาดทุกวันนี้เต็มไปด้วยอายครีมจากหลากหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละรุ่นถูกพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาที่ต่างกัน เช่น ช่วยลดความหมองคล้ำ ลดเลือนริ้วรอยและความเหี่ยวย่น ซึ่งทั้งหมดนี้อาจสร้างความสับสนให้กับเหล่ามือใหม่ที่ไม่เคยซื้อเอาได้
ในครั้งนี้ ทีมงานของเราจึงรวบรวมบทความดี ๆ ที่มีประโยชน์กับสาว ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อด้วยกัน นั่นคือ “วิธีการเลือก” และ “10 อันดับ อายครีม ยอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งคุณสมบัติ ราคาและจากรีวิวผู้ใช้จริง เพื่อให้สาว ๆ ได้มีข้อมูลไว้ศึกษาก่อนการตัดสินใจเลือกซื้ออายครีมสักหนึ่งชิ้น
อายครีม คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับทาเพื่อให้ความชุ่มชื้นผิวบริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะ สาว ๆ บางคนอาจคิดว่าการนำครีมมอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไปที่ใช้ทาหน้า มาทาตาก็น่าจะได้ผลเหมือนกันไม่เห็นต้องใช้อายครีมเลย แต่ทราบไหมคะว่า ผิวรอบดวงตามีความบอบบางมาก พูดให้เห็นภาพ คือ มีความหนาแค่ 1 ใน 3 ของผิวปกติ ดังนั้น จึงต้องการการดูแลที่อ่อนโยนมากกว่าปกติค่ะ
หากผิวรอบดวงตาเกินความแห้งกร้าน นอกจากจะแต่งหน้าไม่ติดแล้ว ริ้วรอยตีนกาจะตามมาในไม่ใช้ หากคอยดูแลด้วยการใช้อายครีมที่เหมาะสมกับสภาพผิวรอบดวงตาก็จะช่วยชะลอปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นสัญญาณแห่งวัยได้ อย่าลืมลองหาอายครีมมาใช้ควบคู่ไปกับการดูแลผิวหน้าส่วนอื่น ๆ นะคะ
ตามที่เกริ่นไว้ในตอนต้น อายครีมแต่ละยี่ห้อมีสรรพคุณที่แตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งแรกที่สาว ๆ ควรจะรู้ก่อนการซื้อเลยคือ ‘ปัญหาของเราคืออะไร’ และอายครีมแบบไหนที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุด ซึ่งจะมีวิธีการเลือกอย่างไรนั้น ตามมาดูกันค่ะ
ความชุ่มชื้นถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอายครีม เพราะอย่างที่กล่าวไปขั้นต้นว่าผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางและแห้งง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ทั้งยังปกป้องได้ยากที่สุดเพราะมักถูกทำร้ายด้วยปัญหาและมลภาวะที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เช่น อายุที่ล่วงเลย แสงแดด การใช้ดวงตามากเกินไป หรือแม้แต่ความอ่อนล้า ดังนั้น การเลือกอายครีมที่มีความชุ่มชื้นสูง จึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นได้ดีที่สุด สาว ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ‘แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอายครีมมีความชุ่มชื้นสูง’ สามารถดูได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เราสังเกตชื่อสารเหล่านี้ว่ามีในส่วนประกอบหรือเปล่า
- ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวรอบดวงตา
Ceramide, Proteoglycan, Glycosphingolipid, Hyaluronic Acid, Amino Acid, Lipidure (Polyquaternium-51, 61), Peptide ต่าง ๆ , Collagen, Glycerin, BG, DPG,PCA-Na เป็นต้น
นอกจากนี้ การศึกษาจากเว็บทางการของผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ๆ หรือฟังจากรีวิวของผู้ใช้ก็จะช่วยให้เราได้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ช่วยให้พิจารณาเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นค่ะ
เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทุกวันเนื้อสัมผัสของอายครีมจึงมีความสำคัญมาก สาว ๆ ควรเลือกเนื้อครีมที่ตัวเองรู้สึกว่าเกลี่ยง่ายและอ่อนโยนต่อผิวรอบดวงตา เพราะต่อให้ประสิทธิภาพของอายครีมเลิศเลอแค่ไหนถ้าทาแล้วเกลี่ยยากหรือทำให้รู้สึกระคายเคืองตาก็จะไม่สามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเนื้ออายครีมก็มีหลายประเภทให้เลือกทั้งแบบเข้มข้นที่เกาะติดผิวได้ดี รักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน แต่ถ้าหากไม่ชอบครีมที่หนักผิวก็มีเนื้อครีมแบบเจลที่มีความใสกว่าให้เลือกใช้ หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอายเซรั่มไปเลยก็ได้
ส่วนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ก็มีให้เลือกหลายหลาก ทั้งแบบกระปุก แบบหลอด แบบแท่ง นอกจากนี้ บางผลิตภัณฑ์ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทาอายครีมหรือแอพลิเคเตอร์มาให้ด้วย เราสามารถใช้แอพลิเคเตอร์นี้ในการนวดรอบดวงตาได้ด้วย ลองเลือกซื้อตามความถนัดในการใช้ของตัวเองดูนะคะ
ไปดูกันค่ะว่าการจะเลือกอายครีมเพื่อดวงตาที่อ่อนเยาว์นั้นเราต้องมองหาส่วนผสมอะไรบ้างถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ว่าแต่สาว ๆ อย่าลืมสังเกตที่แพ็กเกจทุกครั้งที่เลือกซื้อนะคะ
หากรู้สึกถึงการหย่อนคล้อย หมองคล้ำและอ่อนล้าของผิวบริเวณรอบ ๆ ดวงตา เราต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความเต่งตึง กระชับและเพิ่มความแข็งแรงสดใสให้ผิว โดยให้มองหาส่วนผสมดังต่อไปนี้ค่ะ
- ส่วนผสมเพื่อความเต่งตึงของผิวรอบดวงตา
Retinol, Human Oligopeptide-1, 13, 14, 4, Acetyl Hexapeptide-3, 8, Palmitoyl Pentapeptide-4 (ชื่อเดิม Palmitoyl Pentapeptide-3), Fullerene, Coenzyme Q10, Platinum เป็นต้น
- ส่วนผสมเพื่อผิวรอบดวงตาที่แข็งแรงสดใส
อนุพันธ์ Vitamin C, Dipotassium Glycyrrhizate, Allantoin เป็นต้น
หากผิวรอบดวงตามีปัญหาถึงขั้นมีริ้วรอยถามหา ไม่ว่าร่องลึกจากวัยที่เพิ่มขึ้นหรือร่องตื้นที่มาจากความแห้งกร้านของผิว ให้มองหาอายครีมที่ระบุไว้ชัดเจนว่าช่วยจัดการปัญหาริ้วรอย อย่างไรก็ตาม แต่ละผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรแตกต่างกัน ความสามารถในการแก้ไขปัญหาผิวก็มีประสิทธิภาพแตกต่างกันไป ให้อ่านรีวิวต่าง ๆ ประกอบก่อนเลือกซื้อนะคะ
ตัวนี้ฮิตกันมากในไทย หิมาลายา อันเดอร์อายครีม ครีมทารอบดวงตาที่มีสารสกัดจากส่วนผสมจาก Cipadessa Baccifera และ Winter Begonia ทำให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียนและสว่างกระจ่างใสขึ้น ทางเจ้าของแบรนด์เคลมว่าสามารถลดรอยคล้ำใต้ตาลง 80 % ในเวลาแค่ 4 สัปดาห์
นอกจากนี้ยังให้ความชุ่มชื่น บริเวณใต้ดวงตา ลดเลือนริ้วรอย มีคนรีวิวไว้เยอะว่าได้ผลจริง ๆ แต่เราว่าไม่ค่อยช่วยเรื่องถุงไต้ตาเท่าไรจากที่เคยใช้ เพราะแอดมีปัญหาเรื่องถุงใต้ตาเป็นหลัก แต่จะช่วยเรื่องริ้วรอยและแพนด้าได้เพราะใช้แล้วดูมันนุ่มขึ้น แถมราคายังถูกมากด้วย ยิ่งถ้าใครไปอินเดียนี่ต้องซื้อมาเลย คิดเป็นเงินไทยถูกจริง ๆ
อายครีมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาของเพื่อน ๆ ดังนั้นจึงสามารถช่วยลดปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาได้ แต่สำหรับในแต่ละวัย อาจจะต้องการการบำรุงที่ไม่เท่ากัน มายเบสท์จึงมีบทความอายครีมตั้งแต่สำหรับวัย 30 ถึงวัย 50 ไว้ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อกันค่ะ
หลังจากที่เรารู้วิธีการเลือกอายครีมให้เหมาะกับปัญหาของตัวเองไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าอายครีมยอดฮิตขายดีในปัจจุบันนี้มีอะไรกันบ้าง เผื่อว่าสาว ๆ จะได้ลองนำข้อมูลไปศึกษาก่อนการเลือกซื้อ
Oriental Princess แบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางของคนไทย มุ่งเน้นเผยความงามของโลกตะวันออก ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติทำให้อายครีมรุ่น ‘Natural Power C’ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยอนุพันธ์วิตามิน C ช่วยให้ผิวใต้ตากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถลดเลือนริ้วรอยได้เล็กน้อยและช่วยป้องกันการเกิดถุงน้ำใต้ตา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ช่วงวัย 20-30 ปี ผู้ที่มีปัญหารอยคล้ำสีน้ำตาล
ข้อเสียของอายครีมรุ่นนี้ คือ ให้ความชุ่มชื้นได้ไม่มากนัก สาว ๆ ที่มีปัญหาผิวแห้งร่วมด้วยอาจต้องมองหาผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นใช้ควบคู่กัน แต่ถ้าใครมีสภาพผิวธรรมดาหรือมัน และมีปัญหาตามที่กล่าวมา ตัวนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจเลยค่ะ
อายครีมจากแบรนด์ที่สาวไทยหลายคนคงคุ้นเคยกันดี โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่มีส่วนผสมของโปรไซเลนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว สารสกัดจากเมล็ดกาแฟช่วยให้ผิวเต่งตึงและรู้สึกสดชื้น และอะดีโนซีนช่วยลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ยังมีกลีเซอรีน ช่วยให้ความชุ่มชื้น และซิลิก้าที่ทำหน้าที่ควบคุมความมัน เหมาะกับสาว ๆ ผู้มีปัญหาเรื่องริ้วรอย ใต้ตาหย่อนคล้อย และต้องการความชุ่มชื้นให้กับผิวในปริมาณที่พอเหมาะ
แพ็กเกจของอายครีมรุ่นนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะถูกออกแบบให้อยู่ในหลอดที่มีปากเป็นหัวกลมมน ทำให้สาว ๆ สามารถบีบแล้วปาดที่ใต้ตาได้ทันที นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการพกพาอีกด้วย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านอกจากครีมทาหน้าแล้ว Olay ยังมีอายครีมที่คุณสมบัติค่อนข้างน่าสนใจด้วยเหมือนกัน โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ผสม Retinyle Propionate สารในกลุ่มเรตินอล มีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและป้องกันไม่ให้เกิดเพิ่ม ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับสาว ๆ วัย 30-40 และผู้ที่มีรอยคล้ำสีน้ำเงิน นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของกลีเซอรีนและไนอะซินาไมด์ ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึง
ในส่วนของเนื้อครีมและแพ็กเกจ ผู้ใช้หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่าเนื้อเนียนละเอียด ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถซึมซับเข้าผิวได้เร็ว แพ็กเกจมาในแบบหลอด ทำให้พกพาสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน
เป็นอายครีมจากแบรนด์ซึ่งเริ่มต้นมาจากคลีนิกความงามที่มาแรงมากในเกาหลีโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อายครีม มีความพิเศษตรงที่ความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสแต่กลับซึมซับเข้าสู่ผิวได้ง่าย อัดแน่นไปด้วยคุณค่าส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง สารสกัดจากรากของต้นเรดซาลเวีย สารสกัดเข้มข้นจากข้าว บวกกับกรดไฮยาลูรอนิค ให้ผลลัพธ์ที่สามารถดูแลปัญหารอบดวงตาได้ครบวงจรทั้งความแห้งกร้าน ความหมองคล้ำ หรือริ้วรอยแห่งวัย ปรับให้ผิวรอบดวงตาคุณกระจ่างใสแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
สาว ๆ ที่เคยเอามอยส์เจอไรเซอร์ทาหน้ามาทาครีม ให้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพราะเป็นอายครีมที่อ่อนโยนต่อผิวบอบบางอย่างดวงตาแต่นำมาทาหน้าได้ด้วย ยิ่งสะดวกสุด ๆ เมื่อพกพาเดินทาง สาวขี้เกียจยังใช้ต่อเนื่องได้ยาว ๆ แน่นอน
อายครีมจาก L’OREAL PARIS อายครีมรุ่นนี้จึงเหมาะสมกับสาว ๆ วัย 20-30 ผู้ที่ยังไม่มีปัญหารอบดวงตามากนัก ที่เริ่มมีริ้วรอยรอบดวงตา และต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ Dermalift Technology มีจุดเด่นอยู่ที่ส่วนประกอบที่อุดมไปด้วย Pro-Retinal A ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย
นอกจากนี้ยังมี Centella Asiatica ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ เร่งการผลัดผิว ลดความเสี่ยงที่ผิวจะแห้งตึงอันเป็นสาเหตุนำไปสู่การเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทางแบรนด์เคลมว่าสามารถลดการเกิดตีนกาได้ภายใน 14 วัน ช่วยฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตา ให้ความชุ่มชื้นตลอดวัน
อายครีมของ Himalaya Herbals เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เลื่องลือในโลกโซเชียล ด้วยส่วนผสมหลักที่สกัดจาก Cipadessa baccifera ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาให้มีความชุ่มชื้น และ Winter Begonia ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดริ้วรอย ลบเลือนความหมองคล้ำใต้ตาและปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยคล้ำสีน้ำตาล เหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหาริ้วรอยไม่มากนักหรือต้องการป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
สาวที่ใช้จริงชื่นชอบในเนื้อครีมที่เข้มข้นแต่ซึมซับเข้าสู่ผิวได้ง่าย อ่อนโยนต่อผิว ไม่เกิดการระคายเคือง มาในปริมาณเยอะเมื่อเทียบกับราคา นอกจากนี้หากทาอายครีมรุ่นนี้ก่อนลงคอนซีลเลอร์ทับ จะรู้สึกว่ารอยดูตื้นขึ้นและช่วยปกปิดข้อบกพร่องได้ดี
เวชสำอางอายุกว่า 100 ปี ตัวดังจากเยอรมัน สกินแคร์ผ่านการวิจัยและทดลองทางวิทยาศาสตร์ มั่นใจได้ว่าปลอดภัย โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายแบบขั้นสุด ด้วยนวัตกรรม Aquaporin Booster และ BioActive เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
และยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติ ได้แก่ Ginseng Extract, Licochalcone A และ Panthenol ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยให้ผิวเต่งตึงและกระชับ ดูสุขภาพดี เรียบเนียนยิ่งขึ้น แพ็กเกจมาในรูปแบบหลอดเล็ก ทำให้สะดวกในการใช้งาน ที่สำคัญยังพกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย แม้ราคาจะแรงกว่าอายครีมรุ่นอื่นไปบ้าง แต่สำหรับคนผิวแพ้ง่าย แล้วควรซื้อมาติดบ้านไว้ค่
หากเคยใช้เซรั่มชาเขียวตัวดังของแบรนด์จากเกาหลีแบรนด์นี้ ก็ไม่ควรพลาดอายครีม ก็ดีไม่แพ้กัน โดยอายครีมรุ่นนี้มีส่วนผสมจาก Beauty Green Tea ที่สกัดมาจากน้ำชาเขียวและน้ำมันจากเมล็ดชาเขียว ที่เข้มข้นกว่าชาเขียวปกติถึง 3.5 เท่า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว บอกลาผิวแห้งกร้านรอบดวงตาได้ทันที เหมาะสำหรับสาวผู้ที่มีปัญหาผิวรอบดวงตาแห้งขาดความชุ่มชื้น
นอกจากนี้ ยังให้ปริมาณมาแบบจุใจ แต่อายครีมตัวนี้มีส่วนผมของปราศจากแอลกอฮอล์ อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ส่วนในเรื่องเทคเจอร์ของครีม ผู้ใช้จริงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อเนียนละเอียด ทาแล้วไม่รู้สึกระคายเคืองเลยค่ะ
อายครีมจากแบรนด์น้ำตบเห็ดชื่อดัง ที่สาวผิวแพ้ง่ายควรโดนค่ะ เพราะปราศจากส่วนผสมของพาราเบน มีส่วนผสมซึ่งอุดมไปด้วย Panax Ginseng ช่วยบำรุงผิวและกระตุ้นให้ผิวกลับมาเต่งตึง กาแฟบริสุทธิ์จากธรรมชาติ มอบความชุ่มชื้น และ Magnolia Extract และ Natural Optic Brighteners ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ
จากรีวิวผู้ใช้จริง ทางแบรนด์เคลมว่า 86% ผิวรอบดวงตากระจ่างใส เนียนนุ่มขึ้น เนื้อครีมนุ่ม เนียนละเอียด ซึมซับสู่ผิวได้ง่าย มาในแพ็กเกจแบบหลอด ลักษณะปากกลมมน ทำให้สามารถกดแล้วทาหรือนวดเบา ๆ รอบดวงตาได้ทันที
มาถึงอันดับหนึ่ง อายครีมจากแบรนด์ Hi-End อย่าง Estee Lauder ที่เอาใจทั้งสาวไทยและต่างชาติ โดยรุ่นนี้เน้นมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้กับผิวหนังใต้ดวงตาที่แห้งหรือเหนื่อยล้า พร้อมฟื้นฟูรอยคล้ำที่เกิดจากการนอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอให้ลดเลือน สว่างและกระชับมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้จริงหลายท่านยังพบว่าใช้แล้วถุงใต้ตาลดลงแต่ต้องอาศัยเวลาสักระยะหนึ่ง เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหาตาแพนด้าทุกช่วงวัย
เนื้อครีมมีลักษณะคล้ายเจล เข้มข้น ซึมซาบสู่ชั้นผิวได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วรู้สึกเหมือนมีชั้นฟิล์มมาเคลือบผิว แถมยังให้สัมผัสที่ผ่อนคลาย แม้จะมีราคาค่อนข้างสูงแต่เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีสำหรับคนนอนดึกเลยทีเดียว
หากได้พบเจอกับอายครีมที่ถูกใจแล้ว ขั้นต่อไป คือ การนำอายครีมมาใช้อย่างถูกต้องถูกวิธี สิ่งสำคัญที่ควรจดจำให้ได้เพื่อผิวรอบดวงตาที่กระจ่างใสมีอะไรบ้างนั้น ไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
เวลาทาอายครีมต้องทาอย่างระวังนะคะอย่าถูไปมา แม้คิดว่าจะเป็นการนวดตาแต่จริง ๆ แล้วเป็นการสร้างแรงเสียดสีอันเป็นการทำร้ายผิวหนังที่บอบบางรอบดวงตาได้ ให้สาว ๆ ลูบเบา ๆ จากหัวตาไปหางตาช้า ๆ ให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวก็พอค่ะ
อายครีมแต่ละแบรนด์อาจจะเสนอลำดับในการใช้แตกต่างกันไปแต่โดยทั่วไปลำดับในการลงอายครีมก็คือจะลงเป็นตัวสุดท้ายหลังจากเสร็จสิ้นการลงผลิตภัณฑ์สกินแคร์ตัวอื่น ๆ หมดแล้ว อย่างเช่น น้ำตบ→เซรั่ม→ครีมทาหน้า→อายครีม เป็นต้นค่ะ ก่อนนอนคืนนี้อย่าลืมเอาไปทำตามกันนะคะ
ตอนนี้สาว ๆ คงได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนการเลือกซื้ออายครีมดี ๆ สักชิ้นหนึ่งแล้ว เห็นไหมคะว่าไม่ยากเลย เพียงแค่เราสังเกตใต้ตาของเราว่ามีปัญหาอย่างไร แล้วเลือกซื้ออายครีมที่มีส่วนผสมในการช่วยแก้ปัญหานั้นให้ตรงจุด อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับแก้ปัญหาผิวที่มีสาเหตุมาจากมลภาวะภายนอก หากใครที่มีรอยคล้ำใต้ตาจากภูมิแพ้หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่เฉพาะทางจะดีกว่า
เมื่อเราได้อายครีมดี ๆ สักหนึ่งชิ้นแล้ว อย่าลืมปรับพฤติกรรมของเราควบคู่กันไปด้วยนะคะ เช่น หลีกเลี่ยงการใช้สายตานาน ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นทาครีมกันแดดค่า SPF น้อย ๆ บริเวณใต้ตาอยู่เสมอ เพื่อให้เรามีสุขภาพผิวใต้ตาที่ดียั่งยืนค่ะ
