วันนี้เรามีบทความมาเอาใจสาวกน้องหมาน้องแมวกันอีกแล้วนะคะ ซึ่งเราจะมาพูดถึงเรื่องการดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักให้ห่างไกลและปลอดภัยจากเห็บหมัดตัวร้าย เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวแล้วปล่อยให้ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน จะต้องเคยเจอตัวเห็บหมัดบนตัวของน้องหมาแมวแน่นอน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน บางคนอาจจะคิดว่าเห็บหมัดนั้นสร้างความรำคาญใจให้กับสัตว์เลี้ยงเพียงแค่อาการคันเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว เห็บหมัดสามารถทำร้ายสัตว์เลี้ยงและคนได้มากกว่าที่เราคิดค่ะ เนื่องจากเห็บและหมัดบางชนิดเป็นพาหะนำโรคได้ เช่น โรค Scrub Typhus หรือโรคไข้รากสาดใหญ่, โรคพยาธิเม็ดเลือด และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในสุนัขและแมว นอกจากนี้ น้ำลายของพวกเห็บหมัดยังมีผลกระทบต่อคนอีกด้วย หากถูกกัดจะเกิดอาการคันอย่างรุนแรง และทิ้งรอยดำไว้อีกต่างหาก หรือใครที่แพ้อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะและมีไข้ได้ค่ะ
เห็บหมัดเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็ก เคลื่อนไหวเร็ว และกระโดดได้สูง แต่เราสามารถป้องกันได้ค่ะ ดังนั้น ในวันนี้ทีมงานมายเบสท์จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกยากำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขและแมว เพื่อให้เจ้าของน้องหมาน้องแมวทั้งหลายได้มีแนวทางและทางเลือกในการปกป้องสัตว์เลี้ยงของเราจากเหล่าเห็บหมัดกันค่ะ
ในปัจจุบันมียากำจัดเห็บหมัดของสัตว์เลี้ยงมากมายหลายยี่ห้อ แต่สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญด้วยคือ เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงของเรา ไม่ว่าจะเป็นชนิดของยา อายุ และน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง เพราะหากเลือกใช้ยาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ค่ะ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจเคยสงสัยว่าสุนัขและแมวสามารถใช้ยากำจัดเห็บหมัดร่วมกันได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ควรใช้ค่ะ เนื่องจากสุนัขและแมวมีสรีระและร่างกายที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อจึงผลิตยากำจัดเห็บหมัดที่ใช้ในสุนัขและแมวแยกกัน และมีปริมาณส่วนผสมของตัวยาที่แตกต่างกันอีกด้วย
นอกจากนี้ ยากำจัดเห็บหมัดของสุนัขและแมว ก็ยังต้องแบ่งตามอายุและน้ำหนักตัวอีกด้วย หากเราใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับขนาดตัวของพวกเค้า อาจทำให้เกิดผลค้างเคียงตามมาได้ เช่น มีผื่นขึ้น อาเจียน หรืออาการชัก อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่สุนัขและแมวสามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น ยาแบบสเปรย์ หวีกำจัดเห็บหมัด เป็นต้น
เนื่องจากยาบางชนิดจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยตรง และเราไม่สามารถทราบได้ว่าสัตว์เลี้ยงแพ้สารอะไรในตัวยาหรือไม่ ดังนั้น หลังจากที่เราใช้ยากำจัดเห็บหมัดกับสุนัขและแมวแล้ว ควรจะสังเกตอาการของพวกเค้าด้วยอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากมีอาการผิดปกติ ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีค่ะ
ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดในปัจจุบัน มีมากมายหลายประเภททั้งแบบยาทาน แบบยาหยอด แบบสเปรย์ ไปจนกระทั่งแบบปลอกคอและแบบหวี แต่ที่เราจะพบได้บ่อยที่สุดคือ แบบยาหยอด เนื่องจากมีการใช้งานที่ง่าย เพียงแค่หยดตัวยาลงบนหัวไหล่และคอของสัตว์เลี้ยง ตัวยาจะเกาะตัวอยู่ที่ต่อมเหงื่อของผิวหนัง และออกฤทธิ์ต่อเมื่อเห็บหมัดกัดและดูดเลือดที่มีตัวยาเข้าไป ยากำจัดเห็บหมัดชนิดนี้ส่วนมากมีส่วนผสมของ Fipronil, Methoprene, Imidacloprid ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังของสัตว์ แต่จะอันตรายหากกลืนกินเข้าไป ดังนั้น ควรระมัดระวังด้วยว่า ต้องหยอดในบริเวณที่สัตว์เลี้ยงเลียไม่ถึง หรืออาจจะใส่ปลอกคอกันเลียให้ไว้ในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะบ้านที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวหลายตัวอาจจะต้องหลีกเลี่ยงประเภทนี้ เพราะมีโอกาสที่พวกเค้าจะเลียขนของอีกตัวได้ง่าย
ส่วนยากิน ฟังดูแล้วเหมือนจะค่อนข้างรุนแรง แต่อันที่จริงแล้ว ยากำจัดเห็บหมัดแบบกินมักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติการปกป้องโรคพยาธิหนอนหัวใจอีกด้วย โดยจะมีฤทธิ์ในการกำจัดเห็บหมัดได้ภายใน 1 ชั่วโมงและจะไม่อยู่ตกค้างอยู่ในกระแสเลือดของสัตว์ เพราะจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านการทำงานของตับ และที่สำคัญ ยังปลอดภัยสำหรับแมวหรือสุนัขที่กำลังตั้งท้องหรือให้นมลูกอีกด้วยค่ะ
ยากำจัดเห็บหมัดที่เราพบได้บ่อยรองลงมาจากแบบหยอดและแบบกินคือ แบบสเปรย์ ใช้โดยการฉีดพ่นให้ชุ่มเปียกบริเวณขนและผิวหนังเพื่อไล่เห็บหมัด และเนื่องจากเห็บหมัดนั้นอาจจะมีโอกาสวางไข่ตามบริเวณบ้านได้ เราก็สามารถใช้สเปรย์ฉีดตามบริเวณที่แมวและสุนัขชอบนอนเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของไข่ ตัวอ่อน และเห็บหมัดในระยะที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ได้ด้วยค่ะ
หากสุนัขและแมวของใครที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ก็มีอีกประเภทที่เป็นทางเลือกได้ นั่นก็คือ แบบหวีและปลอกคอ หวีกำจัดเห็บหมัดจะมีการออกแบบเป็นซี่ถี่และใช้ประจุไฟฟ้าช่วยในการกำจัดโดยปราศจากสารเคมี ส่วนแบบปลอกคอจะออกฤทธิ์โดยการปล่อยสารที่เคลือบอยู่บนตัวปลอกคอออกมากำจัดเห็บหมัด โดยไม่ได้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรงเท่ากับประเภทอื่น ๆ ค่ะ
ร้านขายอาหารและยาของสัตว์บางแห่งมีการลักลอบขายยากำจัดเห็บหมัดเถื่อนเพราะมีราคาถูก ซึ่งเราควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เนื่องจากยาเหล่านี้จะใช้ยาฆ่าแมลงที่มีฤทธิ์รุนแรง ทำให้หลายคนวางใจเพราะใช้แล้วออกฤทธิ์ได้ดีและสัตว์เลี้ยงไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ จึงหาซื้อมาใช้อย่างต่อเนื่อง แต่อันที่จริงแล้ว ยาเหล่านี้จะเป็นสารสะสมที่ก่อให้เกิดอาการป่วยตามมาได้ โดยเฉพาะโรคตับ-ไต ดังนั้น หากเจ้าของต้องการหาซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดควรเลือกที่ราคาไม่ต่ำจนเกินไป และดูที่มียี่ห้อและตัวยาระบุชัดเจน ที่สำคัญ ให้ดูที่ทะเบียนยาและการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะปลอดภัยที่สุด
อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยคือ ซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้แล้วไม่ได้ผล เห็บหมัดยังคงอยู่บนตัวน้องหมาน้องแมวเต็มไปหมด นั่นอาจเป็นเพราะเราใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับน้ำหนักของพวกเค้า หรือตัวยาอาจไม่เหมาะกับชนิดของสัตว์เลี้ยง ในกรณีนี้ ขอแนะนำให้ปรึกษาสัตวแพทย์หรือให้สัตวแพทย์เป็นผู้หยอดยาให้กับสัตว์เลี้ยงของเราโดยตรง เนื่องจากเวลาที่เราไปหยอดยาที่โรงพยาบาลสัตว์ จะมีการชั่งน้ำหนักและคำนวณปริมาณตัวยาได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากกว่า
อาการคันที่พบบ่อยในสุนัขนั้น บางครั้งอาจไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากเห็บหมัดอย่างที่เราคิด เพราะอาการคันนั้นยังสามารถเกิดได้จากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียอันเป็นปัญหาสุขภาพผิวของสุนัขที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ และการรักษาโดยทั่วไปมักจะใช้แชมพูยานำมาผสมอาบน้ำให้กับสุนัขแทน ซึ่งการเลือกชนิดแชมพูให้ถูกกับอาการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะ เพื่อไม่ให้พลาดเป็นการทำร้ายผิวน้องหมาเอง ทั้งนี้คุณสามารถศึกษาข้อมูลได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดมักจะแยกการใช้งานกันระหว่างสุนัขและแมว เรามาเริ่มกันที่สุนัขก่อนเลยค่ะ ว่ามีผลิตภัณฑ์แบบไหนที่เป็นที่นิยมกันบ้างในตอนนี้
รุ่นนี้ใช้ได้ทั้งน้องหมาและน้องแมวเลยค่ะ สำหรับใครที่มีน้องหมาน้องแมวที่มีผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะแพ้สารเคมี เราขอแนะนำให้ลองใช้สเปรย์สูตรนี้เลยค่ะ เนื่องจากมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่างเปลือกส้ม จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้ และสารตัวนี้ออกฤทธิ์ได้นาน 3-4 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ทั้งสุนัขแมวเพราะเป็นสูตรปราศจากสารเคมี ใช้ฉีดบริเวณตัวของสัตว์เลี้ยงหรือตามมุมบ้านที่น้องหมาน้องแมวชอบไปนอน ที่สำคัญ เหมาะกับสัตว์เลี้ยงทุกช่วงวัย และตัวยาไม่ทำให้ขนสวย ๆ แข็งกระด้างอีกด้วยค่ะ
น้องหมาที่มีปัญหาเห็บหมัดรุนแรงหรือโดนกัดจนเกิดอาการคัน ต้องลองยากำจัดเห็บหมัดสูตรนี้เลย เพราะมีคุณสมบัติในการกำจัดวงจรของเห็บหมัดทุกระยะ เพียงแค่นำตัวยาผสมน้ำแล้วฉีดพ่นลงบนตัวสุนัขก็สามารถกำจัดได้อย่างหมดจดเพราะตัวยาออกฤทธิ์ได้โดยตรง ทั้งยังช่วยป้องกันการติดซ้ำอีกได้นานถึง 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังใช้ฉีดพ่นบริเวณบ้านและที่อยู่อาศัยของน้องหมา เพื่อยับยั้งการวางไข่ของเห็บตัวเมียได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อทั้งคนและสัตว์ รับรองว่าหมดปัญหาเห็บหมัดกวนใจอย่างแน่นอนค่ะ
ยาหยอดสูตรนี้สำหรับน้องหมาพันธุ์เล็กน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม ทำงานโดยการเข้าไปออกฤทธิ์ที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง และฤทธิ์ยาจะทำงานภายใน 12 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถป้องกันได้เป็นเวลาถึง 1 เดือน ตัวยาสำคัญคือ Fipronil ซึ่งมีคุณสมบัติกำจัดเห็บหมัดที่โตเต็มวัย และ S-Methoprene ที่ช่วยกำจัดไข่และตัวอ่อน และเนื่องจากตัวยาออกฤทธิ์ใต้ผิวหนัง หากน้องหมาโดนฝนหรือตัวเปียกก็ไม่ทำให้ตัวยาเสื่อม ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการวิจัยมาแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยสำหรับน้องหมาของเราอย่างแน่นอนค่ะ
ใครที่กำลังมองหาวิธีการกำจัดเห็บหมัดแนวใหม่อยู่ เราขอแนะนำประเภทปลอกคอเลยค่ะ ปลอกคอนี้จะทำงานโดยการปล่อยสารออกมาในรูปแบบผงทั่วขนและผิวหนังเมื่อสัตว์มีการเคลื่อนไหว มีสารประกอบ 2 ตัวที่สำคัญคือ Flumethrin และ Propoxur ซึ่งมีฤทธิ์ต่อระบบประสาทของเห็บหมัด ทำให้เกิดอัมพาต ซึ่งสารเหล่านี้จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จึงปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงและสะดวกต่อการใช้งานด้วย เพียงแค่สวมใส่ก็สามารถปกป้องน้องหมาจากเห็บหมัดตัวร้ายได้ยาวนานถึง 5-6 เดือนเลย นอกจากนี้ ปลอกคอยังกันน้ำได้จึงหมดห่วงเรื่องความอับชื้น แต่อย่างไรก็ควรถอดออกทุกครั้งที่อาบน้ำนะคะ
ใครที่เลี้ยงน้องหมาพันธุ์ใหญ่ต้องยากินตัวนี้เลย สูตรนี้ไม่เพียงแค่ออกฤทธิ์กำจัดเห็บหมัดแบบรวดเร็วภายใน 8-12 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันน้องหมาของเราจากการเกิดโรคพยาธิหนอนหัวใจ และการติดเชื้อพยาธิตัวกลมในทางเดินอาหารอีกด้วย แถมตัวยายังออกฤทธิ์ยาวนานถึง 1 เดือน ส่วนผสมหลักที่ใช้คือ Afoxolaner และ Milbemycin Oxime ซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดวงจรเห็บหมัดอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตัวยาจะไปกำจัดทั้งไข่และตัวอ่อน นอกจากนี้ ยังแก้ไขปัญหาเห็บหมัดดื้อยาได้อีกด้วยค่ะ
มาถึงส่วนของการดูแลน้องแมวกันบ้างนะคะ ไปดูกันเลยค่ะว่า มีผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดสำหรับน้องแมวแบบไหนที่น่าสนใจบ้าง
ยาหยอดเห็บหมัดสำหรับแมวรุ่นนี้บอกได้เลยว่าหยอดครั้งเดียวแต่ได้ประโยชน์ถึง 2 อย่าง เนื่องจากเขามาพร้อมกับตัวยาถึง 4 ชนิดได้แก่ Fipronil, S-Methoprene, Eprinomectin และ Praziquantel ที่ไม่เพียงแค่ช่วยกำจัดและหยุดการพัฒนาของตัวอ่อนและไข่ของเห็บหมัดได้ภายใน 1-2 วันเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นยาถ่ายพยาธิเพื่อป้องกันไรในหู ไรขี้เรื้อน พยาธิหนอนหัวใจและพยาธิอีกหลายชนิดโดยที่เราไม่ต้องบังคับให้น้องแมวกินยาถ่ายพยาธิเพิ่มให้ยุ่งยากอีกด้วยค่ะ
ยาหยอดตัวนี้สามารถป้องกันเห็บหมัด ป้องกันไรหูและโรคเรื้อนได้ด้วย นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อป้องกันพยาธิหัวใจและพยาธิตัวกลมที่มักจะพบได้ในแมวส่วนใหญ่ มีฤทธิ์ต่อเนื่องได้นานถึง 1 เดือนอีกด้วย ตัวยาจะเข้าไปทำงานหลังจากซึมเข้าสู่ต่อมใต้ผิวหนัง โดยจะออกฤทธิ์หลังจากหยอดยาเพียง 2 ชั่วโมง หากต้องการอาบน้ำให้แมว หรือน้องแมวไปเล่นข้างนอกแล้วโดนฝน ก็ไม่ทำให้ตัวยาเสื่อมสภาพลง สินค้าน่าเชื่อถือและปลอดภัย ปกป้องน้องแมวได้หลายโรคอย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว
นอกจากยาหยอดของน้องหมาแล้ว FRONTLINE เค้าก็มียาหยอดสำหรับน้องแมวเช่นกัน โดยสูตรนี้สามารถใช้ได้กับแมวทุกสายพันธุ์ที่มีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ตัวยาสำคัญคือ Fipronil ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดหมัดที่โตเต็มวัยได้อย่างราบคาบ และ S-Methoprene ที่ช่วยกำจัดไข่และตัวอ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการตัดวงจรการเกิดซ้ำของเห็บหมัดได้เป็นอย่างดีและป้องกันการกลับมาติดซ้ำ ตัวยาจะออกฤทธิ์ในต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จึงทนต่อการเปียกน้ำเปียกฝนได้ แต่ก็ไม่ควรอาบน้ำให้หลังการหยอดยา 1 สัปดาห์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
บ้านไหนที่เลี้ยงทั้งสุนัขและแมว ต้องมีสเปรย์กำจัดเห็บหมัดรุ่นนี้ติดบ้านไว้เลยค่ะ เพราะเป็นสูตรที่ใช้ได้กับทั้งสุนัขและแมว ตัวยามีส่วนผสมของ Fipronil 0.25% สามารถออกฤทธิ์ได้ต่อเนื่องยาวนาน โดยตัวยาจะไปสะสมอยู่ในน้ำมันที่เคลือบผิวหนัง หลังจากที่ตัวยาแห้งประมาณ 10-15 นาทีแล้ว สัตว์สามารถเลียขนได้โดยไม่เป็นอันตรายค่ะ นอกจากนี้ แนะนำให้ฉีดพ่นบริเวณที่อยู่หรือตามพื้นที่พวกน้องหมาน้องแมวชอบนอนด้วย เพื่อป้องกันการพัฒนาไข่หรือตัวอ่อนของเห็บหมัด สูตรนี้ยังสามารถใช้ฉีดให้น้อง ๆ ได้ทุกวันโดยไม่เป็นอันตราย แต่ต้องเป็นการฉีดภายนอกเท่านั้นนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหายาหยอดเห็บหมัดให้กับเจ้าเหมียวตัวเล็กที่มีน้ำหนักเบา ลองพิจารณาตัวนี้เลย เพราะเป็นสูตรที่ผลิตมาเพื่อน้องแมวที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 4 กิโลกรัมโดยเฉพาะ และไม่เพียงช่วยกำจัดและป้องกันเห็บหมัดเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาการติดพยาธิตัวกลมในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงพยาธิไส้เดือน พยาธิหัวใจ และพยาธิปากขอ นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาไรในหู ขี้เรื้อนทั้งแบบแห้งและแบบเปียกได้อีกด้วยค่ะ เรียกว่าป้องกันได้หลายโรคมาก ๆ ในผลิตภัณฑ์เดียว
จากการแนะนำอันดับสินค้า ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าผลิตภัณฑ์ควบคุมเห็บหมัดนั้นจะมีตัวยาที่แตกต่างกัน และยังมีส่วนผสมย่อยอื่น ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยอีกมากมาย ดังนั้น เราจึงไม่อาจทราบได้ว่าสุนัขและแมวของเราแพ้ตัวยาหรือสารใดบ้าง และถึงแม้ว่าเราจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมีทะเบียนยาครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่ยากำจัดเห็บหมัดก็คือ ยาฆ่าแมลงชนิดหนึ่ง สัตว์เลี้ยงของเราจึงอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาการขนร่วง เป็นผื่นแดงบริเวณที่โดนยา น้ำลายไหลและเบื่ออาหาร ดังนั้น เพื่อความมั่นใจ เราขอแนะนำให้อ่านฉลากและวิธีใช้อย่างเคร่งครัด และที่สำคัญ ควรเฝ้าดูอาการหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบพบสัตวแพทย์ทันทีค่ะ
ปัญหาเห็บหมัดบนตัวสัตว์เลี้ยงและการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ควบคุมเห็บหมัดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเป็นสิ่งที่มีผลต่อสุขภาพร่างกายของน้องหมาน้องแมวของเรา ฉะนั้น เราควรคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยมาใช้เพื่อสุขภาพที่ดีของพวกเค้า และเพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณและสมาชิกในบ้านด้วย ทีมงานมายเบสท์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความในวันนี้จะช่วยให้เจ้าของทั้งหลายได้ความรู้ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดที่เหมาะสมกับน้ำหนักและสภาพร่างกายของน้องหมาและน้องแมวไปได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ฝากไว้อีกสักเล็กน้อยสำหรับเรื่องสุขภาพของน้องหมาแมว เมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงก็ต้องให้ความรักและการดูแลอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากการหยอดยาเป็นประจำเพื่อรักษาปัญหาเห็บหมัดและพยาธิอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลดการเกิดปัญหาซ้ำแล้ว อย่าลืมพาน้อง ๆ ไปตรวจสุขภาพประจำปีและฉีดวัคซีนกันด้วยนะคะ การตรวจสุขภาพและคำแนะนำจากสัตวแพทย์จะทำให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้เหมาะสมกับพวกเค้ามากยิ่งขึ้นค่ะ
