ผู้เขียนปิ๊งไอเดียนี้ตอนที่กำลังนั่งมองรอยแตกลายที่หัวเข่าตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นมานานมากเป็น 10 ปีแล้ว จู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ว่า “ทำยังไงให้หายไปดีนะ” ประจวบกับอีกไม่กี่วันต่อมามีนัดหมอผิวหนังพอดีเลยปรึกษาคุณหมอว่ามีวิธีรักษายังไงบ้าง ได้คำตอบกลับมาว่า “เลเซอร์ได้ แต่ไม่รู้จะได้ผลไหม” ก่อนจะอธิบายต่อว่า “เป็นเพราะรอยเก่าแล้วเลยรับประกันไม่ได้” วันนี้ผู้เขียนเลยอยากเขียนบทความนี้ เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ หาครีมรักษาทากันทันก่อนที่จะแก้ไขไม่ได้กันค่ะ
ในส่วนแรกจะอธิบาย “วิธีการเลือกซื้อ” จากนั้นมาอ่าน “8 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคาและรีวิวเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ช็อปปิ้งสินค้าที่มีคุณภาพ ส่วนจะมียี่ห้อไหนดี รุ่นไหนคนใช้เยอะ ไปอ่านกันเลยค่ะ
แน่นอนว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้คงรู้จักลักษณะรอยแตกลายอยู่แล้ว แต่คุณรู้จักเธอดีหรือยังเอ่ย เพราะถ้ายังรู้จักไม่ลึกซึ้งพอ อาจทำให้คุณรับมือไม่ถูกจุดหรือหาทางรักษาไม่ได้ก็ได้นะจ๊ะ วันนี้เราเลยสรุปเนื้อหาคร่าว ๆ มาให้อ่านกัน
รอยแตกลาย คือ แผลชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังแท้ (ผิวหนังชั้นกลาง) ที่มีการยืดขยายมากเกินไป มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มและลดลงอย่างรวดเร็ว เช่น คนท้อง คนที่กำลังลดน้ำหนัก วัยรุ่นเพราะฮอร์โมนแปรปรวน รวมไปถึงการยกน้ำหนักมาก และผู้ที่ทานยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นเวลานาน เพราะสารดังกล่าวจะทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น
รอยแตกลายไม่ใช่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นสีขาวเลยค่ะ แรกเริ่มจะเป็นริ้วสีแดงก่อน จากนั้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีออกม่วงแล้วจึงเป็นสีขาว ในที่สุด ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลานาน และเมื่อมาถึงระยะสุดท้ายเมื่อไร บอกได้คำเดียวว่า “สายเกินแก้” ไม่ว่าจะทาครีมแพงแค่ไหนก็ไม่ชัวร์ว่าจะจางลงค่ะ หรืออาจจะเห็นผลเล็กน้อย แต่ไม่มีวันหายไป เช่นเดียวกับการเลเซอร์ที่ไม่สามารถทำให้หายไปหมดได้ แค่ปรับให้ดูจางในระดับที่ถ้ามองไกล ๆ แล้วจะดูเรียบเนียน แต่ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายก็สูงมาก บางวิธีมากถึงหลักแสนเลยค่ะ
จากหัวข้อก่อนหน้า เพื่อน ๆ คงรู้แล้วว่าควรหมั่นเช็คผิวส่วนต่าง ๆ ของตัวเองอยู่เสมอว่ามีริ้วรอยแตกลายขึ้นมาบ้างไหม เพื่อที่จะรักษาได้ทันการณ์ ส่วนจะมีวิธีอะไรบ้าง ผู้เขียนได้ลิสต์เป็นข้อ ๆ ให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ
- ขัดผิว : การขัดผิวเบา ๆ จะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทน ทำให้ผิวดูยืดหยุ่นมากขึ้น
- ทาครีมบำรุง : รอยแตกลายต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ จึงควรทาครีมที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูงมากบริเวณนั้นเป็นประจำ
- ทาว่านหางจระเข้ : นอกจากว่านหางจระเข้จะมีความชุ่มชื้นแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยฟื้นฟูให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินสูง : หลักการคล้ายกับว่านหางจระเข้เลยค่ะ เพียงแต่ใช้การทานแทนการทา
หลังจากทำความรู้จักกับเธอไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่หลายคนอยากรู้ตอนนี้คือเราจะเลือกซื้อครีมอย่างไรให้ได้คุณสมบัติครบตามที่ต้องการ ผู้เขียนได้แบ่งการอธิบายออกเป็นหัวข้อให้อ่านกันง่ายขึ้นที่ด้านล่างนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ขออนุญาตแบ่งผู้ใช้ออกเป็น 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือ กลุ่มคนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ส่วนกลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่ตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องเลือกซื้ออย่างพิถีพิถันนิดนึง เพราะครีมที่คุณสามารถใช้ได้จะต้องไม่มีส่วนผสมของ “วิตามินเอสังเคราะห์” เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก เป็นเหตุให้ถึงขั้นพิการได้เลย ทางที่ดีควรซื้อสูตรที่ระบุว่า “For pregnancy” จะปลอดภัยมากกว่าค่ะ ส่วนกลุุ่มคนที่ไม่ได้ตั้งท้อง คุณไม่ต้องกังวลอะไรมากเป็นพิเศษค่ะ คำนึงถึงส่วนผสมและคุณสมบัติอื่น ๆ ตามที่เราจะกล่าวต่อไปนี้ก็พอแล้ว
บนโลกนี้มีสารบำรุงต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ แต่สารใดบ้างที่มีสรรพคุณช่วยรักษารอยแตกลายได้โดยตรง ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
ส่วนใหญ่เรามักจะรู้จักวิตามินซีในฐานะตัวช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส กันใช่ไหมคะ แต่อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญคือมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจน ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยแดง ดังนั้นเมื่อเราบำรุงด้วยวิตามินซี คอลลาเจนที่ได้รับความเสียหายบริเวณรอยแตกก็จะถูกซ่อมแซมให้กลับมาดีขึ้น ในที่สุดรอยจึงดูเรียบเนียนจากเดิม
Growth Factor คือสารธรรมชาติที่เซลล์ใช้สื่อสารกันเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต ซ่อมแซม และการเปลี่ยนไปของเซลล์เฉพาะ ซึ่ง FGF จัดเป็นหนึ่งในนั้น มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสสร้างคอลลาเจน จึงมีคุณสมบัติเป็น anti-aging และช่วยกระตุ้นให้รอยแผลจางไวขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid สารที่มีคุณสมบัติเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์อีกด้วยค่ะ
หนึ่งใน Growth Factor เช่นเดียวกับสารก่อนหน้านี้เลยค่ะ ตามโครงสร้างประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 53 ตัวยึดกันด้วยพันธะ 3 พันธะ มีบทบาทในการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาส และเซลล์ผิว ทำให้รอยแผลและรอยไหม้ฟื้นฟูเร็วขึ้น
จัดเป็นหนึ่งในกรดอะมิโน พบได้มากในเมือกของหอยทาก มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการเพิ่มของจำนวนเซลล์อย่างรวดเร็ว และตรงเข้าซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้สมบูรณ์ ทำให้รอยแตกลายดูดีขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งสารที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาเลยค่ะ
ซิลิโคนที่อยู่ในสารดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย โดยเฉพาะรอยแตกขณะตั้งครรภ์ ทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวของคุณแข็งแรงขึ้น จึงสัมผัสได้ว่าผิวมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่เคย
นอกจากการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายแล้ว “การสร้าง” ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะจะช่วยทำให้รอยดูจางลง ผิวจึงกลับมาเรียบเนียนเหมือนแต่ก่อน ซึ่งปกติแล้ว Folate มักจะถูกผสมอยู่ในอาหารเสริม แต่เมื่ออยู่ในสกินแคร์จะใช้เป็นส่วนผสมในรูปของ Folic acid แทนค่ะ
เมื่อชั้นผิวหนังแห้ง เนื้อเยื่อก็จะบางลง ทำให้ยิ่งมองเห็นรอยแตกชัดขึ้น ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อครีมที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูง โดยมีส่วนผสมของสารที่มีคุณสมบัติดังกล่าว เช่น Ceramide, Hyaluronic Acid, Trehalose, Squalane, Uric Acid, Glycerin และสารสกัดจากพืชบางชนิด เพื่อช่วยเติมน้ำให้กับผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นานขึ้น
ตามที่เกริ่นไปแล้วว่า “รอยแตกลายเกิดขึ้นที่ผิวหนังชั้นใน” แต่ครีมบำรุงทั่วไปจะบำรุงแค่ผิวชั้นนอกเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเช็คให้ดี ๆ ว่ารุ่นนั้น ๆ สามารถซึบซาบได้ถึงใต้ผิวชั้นนั้นหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่าซึมไวไหม เพราะถ้าช้าสารบำรุงต่าง ๆ ก็จะทำงานช้าตาม แถมยังรู้สึกเหนอะหนะผิวอีกด้วยค่ะ
ไม่ว่าคุณจะเป็นคุณแม่หรือคนโสดก็ตาม สภาพผิวของคุณก็สามารถบอบบางอ่อนไหวต่อสารเคมีได้เหมือนกัน แนะนำว่าเลือกซื้อสูตรที่ไม่มีสารดังต่อไปนี้จะดีกว่า ได้แก่ สารลดแรงตึงผิวกลุ่ม Petroleum, Paraben, Ethanol, Mineral Oil, ตัวดูดซับรังสี UV (อยู่ในรุ่นที่มีคุณสมบัติเป็นครีมกันแดดด้วย), สีสังเคราะห์ และน้ำหอม
เกร็ดน่ารู้ : คุณแม่ที่เกิดรอยแตกลายมีแนวโน้มที่ผิวจะแพ้ง่ายกว่าคุณแม่ที่ไม่เป็นนะจ๊ะ ให้ระวังกันด้วย
ครีมลดรอยแตกมีหลายกลิ่น และหลายเนื้อสัมผัส แต่ละเนื้อก็ให้ความรู้สึกตอนใช้ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถรู้ได้จากแค่การอ่านคำอธิบายของสินค้านั้น ๆ แต่ต้องอ่านจากรีวิวของเพื่อน ๆ เอา ก่อนจะซื้อรุ่นไหน อย่าลืมโฟกัสที่จุดนี้ด้วยนะจ๊ะ
เกร็ดน่ารู้ : ครีมลดรอยแตกจะมี 3 เนื้อสัมผัสใหญ่ ๆ ได้แก่ แบบออยล์, ครีม และโลชั่น ซึ่งมีความหนาหนักไม่เท่ากัน แบบออยล์จะทาง่ายหน่อย เพราะเนื้อเหลวเหมือนน้ำ แต่ทำให้มือมันค่ะ ส่วนครีมก็ต้องเกลี่ยนิดนึง ในขณะที่โลชั่นค่อนข้างใช้ง่ายเลยเมื่อเทียบกับเนื้ออื่น ๆ
ตัวนี้นำเข้าจากเยอรมันเลยทีเดียว ถือเป็นตัวเด็ดอีกตัวที่บล็อกเกอร์หลาย ๆ คนแนะนำ คุณเขาไม่ได้เก่งเฉพาะเรื่องรอยสิวเท่านั้น เขาช่วยได้ทั้งแผลจากอุบัติเหตุ แผลผ่าตัด แผลไฟไหม้ ผิวแตกลาย แผลจากอิสุกอิใส คีรอยด์ ฯลฯ ใช้ได้ทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ ซึ่งผลลัพธ์จากการลองใช้เป็นที่น่าพอใจ ประมาณ 2-4 สัปดาห์ก็เห็นผล เนื้อเจลใส ซึมช้านิดหน่อย หลังทาแอบทิ้งฟิลเตอร์ไว้เงา ๆ ทาแล้วไม่มีอาการแสบลอกคันใด ๆ
วิธีใช้ : ทาบาง ๆ บริเวณที่ต้องการ วันละ 2-3 ครั้งเป็นประจำทุกวัน ใครที่ต้องการแต่งหน้าไม่แนะนำตัวนี้ เพราะกว่าครีมจะซึมสนิทดีใช้เวลาค่อนข้างนาน หากใจเย็นไม่พอรอไม่ได้ หรือหากเผลอปาดแป้งแรง ๆ จะมีโอกาสเป็นขุยสูงมาก
สำหรับคุณแม่ ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ โดยเฉพาะในผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะมีท้องขนาดใหญ่ เช่น ท้องแฝด การใช้ครีมลดรอยแตกลายอย่างเดียวอาจจะยังมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ เราจึงมีผลิตภัณฑ์เสริมความชุ่มชื้นพิเศษอย่าง "น้ำมันป้องกันท้องแตกลาย" มาให้คุณพิจารณาด้วย ไปดูกันค่ะว่ามีสินค้าตัวไหนสรรพคุณน่าใช้งานบ้าง !
คราวนี้มาช็อปปิ้งกันดีกว่าค่ะ ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจและสรุปรีวิวของแต่ละรุ่นมาให้อ่านกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนรุ่นไหนจะได้อันดับใด และใครจะคว้าที่หนึ่งไปครอง ไปอ่านกันเลยค่ะ
ออยล์เซรั่มที่สกัดเย็นใบบัวบกญี่ปุ่นที่ถูกปลูกแบบออร์แกนิคบนเกาะฮอนชู แดนอาทิตย์อุทัย จึงมั่นใจได้ว่าปลอดสารเคมีทุกขั้นตอน ปลอดภัยจากลูกน้อย และยังคงคุณค่าของสารบำรุงต่าง ๆ อย่างครบถ้วน มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวลึกถึงระดับบเซลล์ ทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดรอยแตกลายอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเนื้อออยล์มีกลิ่นหอมละมุนไม่เวียนหัวและซึมซาบไว
เกร็ดน่ารู้ : จะเห็นผลได้ดีเมื่อใช้ตั้งแต่เริ่มรู้ว่าท้องหรือหลังลดน้ำหนักได้ไม่นาน
ใครรู้สึกว่า 2 อันดับก่อนหน้ามีราคาแรงไปนิดนึง ขอประหยัดงบลงมาหน่อย ลองเปลี่ยนมาดูรุ่นนี้กันดูค่ะ มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติมากมาย เช่น ใบบัวบก, ว่านหางจระเข้, ดอกคาโมไมล์ และโรสฮิป ตรงเข้าบำรุงถึงผิวชั้นใน ช่วยคืนความยืดหยุ่นและสมานรอยแตกลายให้เรียบเนียนขึ้น ผ่านการทดสอบจากแพทย์แล้วว่าไม่แพ้ ส่วนเนื้อสัมผัสมีสีขาว ค่อนข้างเข้มข้น หอมละมุนอ่อน ๆ และทาแล้วซึมซาบไว
เกร็ดน่ารู้ : สำหรับรอยแตกลายใหม่ ๆ จะเห็นผลชัดใน 8 สัปดาห์
รุ่นนี้เป็นสูตร “ปกป้องและลดเลือน” เลยค่ะ เหมาะมากสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องหรือหลังคลอดใหม่ ๆ สกัดจากส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เมล็ดถั่วเขียว โกโก้บัตเตอร์ , คาร์โมไมล์, เชียร์ บัตเตอร์ และว่านหางจระเข้ ผสานด้วย Rutin และเปปไทด์ (โปรตีน) ตรงเข้าจัดการรอยแตกลายถึงระดับเซลล์ ช่วยลดริ้วรอยให้กลับมาเรียบเนียนมากขึ้น
บอกเลยว่าตัวนี้น่าใช้มากเลยค่ะ สาว ๆ ที่อเมริกาเขาฮิตกันหนักมาก ไม่ว่าจะคนท้องหรือวัยรุ่นก็สามารถใช้ได้หมด โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นสูตรพิเศษ ซึมซาบไว ไม่เหนอะหนะ อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย ได้แก่ โกโก้บัตเตอร์, วิตามินอี, Cetesomate-E, งา, คาโนลาและโรสฮิป ช่วยคืนความชุ่มชื้น ลดเลือนรอยให้จางลงและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน ส่วนสัมผัสขณะใช้ เนื้อเนียนลื่นลูบไล้ง่าย มีกลิ่นหอมโกโก้
เกร็ดน่ารู้ : ปราศจาก Mineral Oil, Parabens และ Phthalas
ครีมลดรอยแตกสูตรพิเศษที่ได้รับการพัฒนาจาก Vistra Laboratories INC USA อุดมไปด้วยคุณค่าของสารสกัดจากพืชนานาชนิด เช่น Calendula, Linden, Cornflower, Hypericum และ Chamomile Ext ช่วยสมานเซลล์ผิว ฟื้นฟูการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ริ้วรอยแลดูจางลง และลดการระคายเคืองต่าง ๆ อย่างอ่อนโยน มาดูสัมผัสการใช้งานกันบ้าง เนื้อมีสีขาว ค่อนข้างหนัก กลิ่นหอมชัดเจน เกลี่ยง่าย ซึมซาบไวและไม่ทิ้งความมันไว้
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากสาว ๆ ไม่ว่าจะที่กำลังมีเบบี๋หรือกำลังโสดอยู่ก็ตาม เพราะเป็นสูตร “ลดเลือนแผลเป็น” โดยเฉพาะ ด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาตินานาชนิด เช่น คาเลนดูล่า, ลาเวนเดอร์, โรสแมรี่ และคาโมไมล์ อุดมไปด้วยวิตามินเอและอี นอกจากนี้ยังมี PurCellin Oil™ ทำให้มีเนื้อที่บางเบาซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย พร้อมเติมแต่งด้วยกลิ่นกุหลาบ ช่วยให้ผ่อนคลายเวลาใช้
เกร็ดน่ารู้ : จะยิ่งเห็นผลได้ดีหลังใช้ทันทีที่รู้ว่าตั้งท้องหรือหลังเกิดแผลเป็นใหม่ ๆ
สกัดมาจากพืชธรรมชาติหลายชนิด เช่น Crowberry, Centella Asiatica และ Gotu Kola ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นมาใหม่เพื่อลดการเกิดรอยแตกลายใหม่ ทำให้รอยเก่าที่เพิ่งเกิดไม่นานจางลงเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มและมีชีวิตชีวามากกว่าที่เคย ส่วนสัมผัสเวลาใช้เนื้อครีมซึมซาบไว กลิ่นไม่ฉุน เมื่อสัมผัสเหงื่อแล้วไม่ระคายเคือง เหมาะสำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 8 สัปดาห์ขึ้นไป
ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เขาฮิตหนักมากจริง ๆ มีสาว ๆ รีวิวตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ไว้มากมายเลยค่ะ โดยมีส่วนประกอบของวิตามินอีตามธรรมชาติ โปรตีนจากไหม โปรตีนจากข้าว และ Oat Kernel ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับรอยแผล ทำให้รอยแตกลายจางลง พร้อมช่วยลดการเกิดใหม่และยกกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้น ด้านสัมผัสตอนใช้สาว ๆ บอกว่าเนื้อแน่นแต่ไม่หนัก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วซึมไวและไม่ทิ้งความมันไว้ ที่สำคัญราคาสบายกระเป๋าด้วยค่ะ
จบกันไปแล้วกับบทความในวันนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย เชื่อว่าหลายคนคงได้รับทั้งความรู้ ความเข้าใจและสินค้าที่น่าสนใจกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนที่คุณจะกดโอนเงินไป เรามาทวนวิธีการเลือกซื้อสักนิดว่าคุณซื้อถูกหรือเปล่า อันดับแรกให้เช็คจากวัตถุประสงค์การใช้เสียก่อน ต่อมาให้ดูจากส่วนผสม ปริมาณความชุ่มชื้น คุณสมบัติการซึมซาบ และสัมผัสขณะใช้งาน ถ้าทุกอย่างตรงตามที่ต้องการหมดแล้ว ก็กดโอนเงินได้รัว ๆ เลยค่ะ
สำหรับใครที่มีรอยแตกเพราะสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การท้อง แนะนำให้ควบคุมน้ำหนักนิดนึงนะคะ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ส่วนคุณแม่ พยายามหมั่นทาครีมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอนะจ๊ะ แค่นี้ก็จะลดความเสี่ยงได้แล้ว