" กะทิ " ถือได้ว่า เป็นวัตถุดิบหลักที่อยู่คู่กับขนมไทยและอาหารไทยประเภทแกงมาอย่างยาวนาน เพราะช่วยให้อาหารมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์ หลายคนอาจคิดว่า กะทิเป็นสิ่งที่ทำให้อ้วนและทำลายสุขภาพ แต่อันที่จริงแล้วกะทิก็มีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยดึงไขมันที่สะสมอยู่ไปเผาผลาญ, มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ช่วยลดความเสี่ยงของรคมะเร็งและโรคหัวใจ รวมไปถึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงอีกด้วย
เมื่ออาหารไทยหลายชนิดต้องใช้กะทิเป็นส่วนผสม กะทิจึงถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ต้องใส่ใจในการเลือก ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบันก็มีกะทิหลากหลายรูปแบบวางจำหน่าย ทั้งแบบผง แบบน้ำ หรือแม้กระทั่งแบบออร์แกนิก หากเราเลือกยี่ห้อที่ไม่ได้คุณภาพหรือเลือกรูปแบบที่ไม่เหมาะสมกับเมนูอาหารที่เราจะทำ ก็อาจส่งผลให้อาหารเสียรสชาติดี ๆ ไป วันนี้เราจึงนำ เคล็ดลับในการเลือกกะทิ มาฝากทุกคน รวมถึงมีแนะนำ 10 อันดับ กะทิ ยี่ห้อยอดนิยม ที่คนไทยชื่นชอบมาให้อีกด้วยค่ะ
"กะทิ" คือ ของเหลวสีขาวคล้ายกับนมวัวที่ได้จากการคั้นหรือสกัดเนื้อมะพร้าว โดยกะทิที่คั้นในรอบแรกนั้นเราจะเรียกว่า "หัวกะทิ" ซึ่งจะมีความเข้มข้นมากเป็นพิเศษ ส่วนน้ำกะทิที่ได้จากการคั้นครั้งที่ 2 ที่ 3 เป็นต้นไปเราจะเรียกว่า "หางกะทิ"ซึ่งจะมีความเข้มข้นและไขมันที่น้อยกว่าหัวกะทิ และยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนการคั้นที่มากยิ่งขึ้น
กะทิ ถือเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารคาวหวานในหลาย ๆ ประเทศของโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ เป็นต้น นอกจากนี้ กะทิยังเป็นอาหารทางเลือกของผู้ที่ทานมังสวิรัติที่ต้องการหลีกเลี่ยงนมวัวอีกด้วย เนื่องจากกะทิอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ
ก่อนจะลงมือทำอาหารและขนม เรามาดูกันค่ะว่า ควรเลือกใช้กะทิแบบไหนจึงจะเหมาะสมที่สุดในการทำให้รสชาติของอาหารและขนมอร่อยยิ่งขึ้น
ประเภทของกะทิที่วางจำหน่ายในท้องตลาดจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แบบน้ำและแบบผง ซึ่งส่วนใหญ่กะทิแบบน้ำจะมีปริมาณไขมันมากกว่า จึงเหมาะสำหรับนำมาเป็นส่วนผสมของอาหารคาวค่ะ ส่วนแบบผงจะมีปริมาณไขมันน้อยกว่า จึงเหมาะกับการนำมาทำเป็นขนม แถมยังสามารถเก็บรักษาได้นานกว่า พกพาได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาหารไม่บ่อย แต่ต้องระวังในเรื่องของความชื้น จึงควรเก็บไว้ในภาชนะที่มิดชิดค่ะ
เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้ผลิตกะทิจากหลากหลายยี่ห้อก็ได้ทำการผลิตน้ำกะทิสำหรับทำขนมออกมาแล้ว จึงทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มีทางเลือกในการซื้อกะทิมาใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีก เช่น กะทิกลิ่นใบเตยหรือกะทิอบควันเทียน โดยรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ จะระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ชัดเจนให้เราสามารถสังเกตได้ง่ายและเลือกซื้อได้อย่างสะดวกค่ะ
หลายคนอาจคิดว่ากะทิทุกยี่ห้อที่ขายตามท้องตลาดเป็นสีขาวตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่อันที่จริง น้ำกะทิแท้ ๆ ตามธรรมชาติจะมีสีขาวปนเทาอ่อน ทำให้สีขาวที่เราเห็นจึงเป็นสีที่อาจได้มาจากสารฟอกขาว ที่ทางผู้ผลิตมักเติมลงไปเพื่อให้น้ำกะทิที่ได้มีสีขาวนวล น่ารับประทาน แต่การเติมสารฟอกขาวดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นกังวลขนาดนั้นนะคะ เพราะว่าเป็นสารฟอกขาวชนิดที่มีการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอยู่แล้ว แถมยังอยู่ภายใต้การควบคุมและดูแลอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานของอย. เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับผู้บริโภค ดังนั้น หากคุณเลือกบริโภคกะทิจากแบรนด์ดังที่น่าเชื่อถือก็รับรองได้เลยว่าปลอดภัยหายห่วงค่ะ แต่ถ้าหากคุณกังวลถึงความปลอดภัย คุณก็สามารถเลือกบริโภคเฉพาะกะทิที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ' ปราศจากสารฟอกขาว ' ได้เช่นกันค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณบริโภคกะทิจากแบรนด์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือแบรนด์ที่มีการเติมสารฟอกขาวโดยไม่คำนึงถึงมาตรฐาน ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นต่อร่างกายได้ เช่น มีอาการแน่นหน้าอก, หายใจไม่สะดวก, อุจจาระร่วง และอาจหมดสติได้ เราจึงขอแนะนำให้เลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพและไว้ใจได้เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสารฟอกขาวที่ไม่ได้มาตรฐานนะคะ
กะทิที่มีวางจำหน่ายทั่วไปอาจมีสารเติมแต่งอย่างสารเพิ่มความคงตัว สารเพิ่มความข้น รวมไปถึงสารกันบูดหรือโซเดียมเบนโซเอต (Sodium Benzoate) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสารเหล่านี้ไม่ได้ถือว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายมากนัก แถมยังมีประโยชน์ในการช่วยยืดอายุและคงรสชาติดั้งเดิมในอาหารอีกด้วย แต่หากใครที่กังวลเกี่ยวกับวัตถุเจือปนในอาหาร และมีความต้องการที่จะใส่ใจในสุขภาพของตนเองเป็นพิเศษ เราขอแนะนำให้เลือกกะทิแบบที่ระบุไว้ชัดเจนเลยว่า ' ปราศจากวัตถุเจือปน ' ค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีกะทิอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ นั่นก็คือ กะทิแบบออร์แกนิก ที่ปราศจากสารเติมแต่ง และใช้ส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิก ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงสักหน่อย แต่ก็สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยค่ะ
เพื่อการทำอาหารและขนมให้ได้รสชาติอร่อย ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมกะทิยี่ห้อดัง ที่ไว้ใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยมาฝากทุกคนอีกด้วย ไปดูกันเลยค่ะ
กะทิยี่ห้อนี้ นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ที่โดดเด่นด้านการปลูกมะพร้าวไม่แพ้ประเทศไทยเลย คัดสรรแต่มะพร้าวคุณภาพดีมาคั้นโดยไม่ใส่วัตถุกันเสีย, ไม่เจือสี และไม่แต่งกลิ่น ปราศจากคอเลสเตอรอลและไขมันทรานส์ แต่อุดมไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัว MCT ที่พบเฉพาะในมะพร้าว ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งยังใช้กะลามะพร้าวเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดขยะอีกด้วย เรียกได้ว่านำทุกส่วนของมะพร้าวมาใช้ประโยชน์เลย
สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ และต้องทำอาหารเอง หากคิดถึงอาหารไทยขึ้นมา การหากะทิในต่างแดนอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือเจอในราคาที่สูง ดังนั้น พกกะทิผงยี่ห้อนี้ไปรับรองว่าไม่ลำบากแน่นอนค่ะ แถมยังไม่เสียเอกลักษณ์ของรสชาติไทย ๆ อีกด้วย เพราะมีส่วนผสมของน้ำกะทิแท้ ๆ ถึง 85.20% ได้ความอร่อยเหมือนกับกะทิคั้นสด ๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังพกพาสะดวก เก็บรักษาได้นาน ใส่ใจผู้บริโภคด้วยการไม่ใส่วัตถุกันเสียค่ะ
กะทิยี่ห้อนี้ มีเชฟระดับมาสเตอร์อย่างเชฟเอียนเป็นพรีเซนเตอร์ จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพและความปลอดภัย คัดสรรมะพร้าวพันธุ์ดีจากทั่วประเทศไทยมาคั้นใส่กล่องบรรจุด้วยระบบ Cold Aseptic ที่ปลอดเชื้อ กะทิจึงคงความหอมมันไว้เหมือนกับเพิ่งคั้นสด ๆ นอกจากนี้ ยังผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนและระบบที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน ปราศจากวัตถุกันเสีย เพียงแค่มีกะทิกล่องนี้ ก็ปรุงอาหารคาวหวานให้อร่อยเหมือนเชฟระดับโรงแรมได้ง่าย ๆ แล้วล่ะค่ะ
สำหรับใครที่ชอบทำทั้งอาหารคาวและขนมหวาน ก็ต้องขอแนะนำกะทิกล่องนี้เลยค่ะ เพราะเขาคั้นจากมะพร้าวสดคุณภาพดี 100% ปราศจากวัตถุกันเสียและสารปรุงแต่ง จึงให้กลิ่นที่หอมธรรมชาติชวนรับประทานทุกเมนู แม้แต่มือใหม่ก็สามารถทำอาหารรสชาติอร่อยกลมกล่อมได้ง่าย ๆ บรรจุในกล่องขนาดพอดีต่อการทำอาหาร 1 ครั้ง ใช้งานง่าย ผ่านการผลิตที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน พร้อมบรรจุด้วยระบบ UHT จึงเก็บไว้ได้นานก่อนเปิดใช้ค่ะ
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงขนมไทย ก็ต้องนึกถึงกลิ่นอบควันเทียนซึ่งมีที่มาจากในวัง ให้ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และในการทำขนมแต่ละครั้งหากเราต้องมาอบควันเทียนเองก็คงเสียเวลาน่าดู กะทิกล่องนี้ จึงตอบโจทย์เราได้ดีมาก ๆ เพราะได้คัดสรรมะพร้าวอย่างดีพร้อมกลิ่นดอกไม้ชั้นเลิศบรรจุลงในกล่อง UHT ที่สด สะอาด และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ว่าใคร ก็สามารถทำขนมให้อร่อยและมีกลิ่นหอมแบบไทยแท้ได้ง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ
การอบควันเทียนที่จะทำให้กลิ่นขนมของเราหอมน่ารับประทาน จะต้องคำนึงถึงชนิดของดอกไม้ด้วย ซึ่งกะทิยี่ห้อนี้ ได้คัดสรรดอกไม้หอม 5 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นดอกมะลิ, ดอกนมแมว, ดอกชมนาด, ดอกกุหลาบมอญ และดอกกระดังงา นำมาอบควันเทียนแบบโบราณ ทั้งยังเลือกสรรแต่มะพร้าวพันธุ์ดีมาคั้น จึงได้กะทิที่หอมหวานตามแบบฉบับชาววัง บรรจุใส่กล่องพร้อมใช้ รับรองว่าใช้กะทิยี่ห้อนี้แล้ว รับรองว่า การทำขนมไทยของเราจะต้องถูกปากและมัดใจทุกคนได้แน่นอนค่ะ
เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ก็หันมาเข้าครัวและทำอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น ซึ่งกะทิขวดนี้ตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ ด้วยแพคเกจรูปแบบขวด PET ที่ทันสมัย มีฝาเปิด-ปิดแบบเกลียวใช้งานได้ง่าย และจัดเก็บสะดวกเมื่อใช้งานไม่หมดในทันที ในส่วนเรื่องของรสชาติก็ยังคงความเป็นไทยแท้ตำรับโบราณ ด้วยการคัดสรรมะพร้าวสดอย่างดี ผ่านการคั้นอย่างพิถีพิถัน ได้น้ำกะทิที่ขาว ข้น หอม มัน โดยไม่ปรุงแต่งใด ๆ ที่สำคัญ มีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการของผู้บริโภคค่ะ
ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่า การจะทำอาหารให้อร่อย ไม่ได้มีเพียงแค่ฝีมือ แต่ยังต้องใช้วัตถุดิบที่ดีด้วย ซึ่งกะทิยี่ห้อนี้ ไม่ว่าเราจะรังสรรค์เมนูคาวหวานก็สามารถทำให้อร่อยได้ง่าย ๆ เพราะผลิตจากมะพร้าวสดใหม่ นำมาคั้นได้หัวกะทิอย่างดี ขึ้นชื่อเรื่องของความเข้มข้น หอม มัน ช่วยให้อาหารอร่อย กลมกล่อมมากขึ้น การผลิตและบรรจุได้มาตรฐานสากล GMP และ HACCP ปราศจากวัตถุกันเสีย วางใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังเก็บรักษาได้นานโดยไม่ต้องใส่ไว้ในตู้เย็นด้วยนะคะ
"ชาวเกาะ" เป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นหูกันดี เพราะอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ถือได้ว่าเป็นกะทิ UHT เจ้าแรกของไทย กะทิทุกกล่องล้วนนำมะพร้าวจากเกษตรทางภาคใต้ มาผ่านกระบวนการคั้นและบรรจุด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้ความร้อนสูงถึง 130 องศา และฆ่าเชื้อเพียง 20 วินาที เพื่อให้กะทิคงความสดใหม่ทุกกล่อง ไม่ว่าจะทำเมนูไหนก็อร่อยถูกปาก ที่สำคัญ กะลามะพร้าวยังไม่ปล่อยทิ้งเป็นขยะ แต่นำมาเป็นเชื้อเพลิง เพื่อลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองอีกด้วยค่ะ
โรงงานผลิตกะทิยี่ห้อนี้ตั้งอยู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นแหล่งมะพร้าวคุณภาพดี ถือได้ว่าเป็นผู้ส่งออกมะพร้าวรายใหญ่ และยังมีผลิตภัณฑ์มะพร้าวแปรรูปอย่างกะทิ ที่โดดเด่นด้วยการคัดสรรมะพร้าวอย่างดี ผ่านกระบวนการผลิตที่สั้นเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเพื่อคงความสดใหม่ คั้นทันทีหลังกะเทาะเปลือก ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้มะพร้าวสัมผัสอากาศหรือเชื้อแบคทีเรีย และคงรสอร่อยแบบธรรมชาติไว้ การันตีด้วยรางวัลแบรนด์ยอดนิยมประจำปี พ.ศ. 2561 ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากเข้าครัวไปทำเมนูอร่อย ๆ แล้วหลังจากที่ได้อ่านบทความของทางเรา อย่างไรก็ตาม อย่าลืมนะคะว่าในการเลือกซื้อกะทิมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของประเภทของกะทิ, การคำนึงถึงสารฟอกขาวและวัตถุเจือปนที่มีอยู่ในกะทิ เพื่อให้คุณและคนในครอบครัวได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากการบริโภคกะทิค่ะ
นอกจากนี้ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วนะคะว่าการทานกะทิจะทำให้อ้วน เพราะที่จริงแล้วกะทิจะถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานโดยไม่สะสมเป็นไขมัน และที่มาของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นเพราะปริมาณน้ำตาลในอาหารและขนมมากกว่าค่ะ และขอเน้นย้ำถึงประโยชน์ของกะทิอีกสักนิดนะคะว่า นอกจากกะทิจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้านแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นอีกด้วย เพราะกะทิอุดมไปด้วยวิตามิน B และ C แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างจะต้องบริโภคอย่างพอดี ถ้ามากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ทั้งนั้นค่ะ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด เป็นต้น ดังนั้น อย่าลืมเอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพให้ดีด้วยนะคะ