เมาส์ไร้สาย รุ่นไหนดี 7 อันดับ ที่น่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2567

ซื้อทุกอย่างที่ร้านออนไลน์ สินค้าดีๆ มากมายรอให้คุณเลือก พร้อมโปรโมชั่นอีกเพียบ สินค้าหลากหลายประเภท ยกทัพมาลดราคา ถูกกว่านี้ไม่มีแล้ว ช้อปง่ายและสะดวก ช้อปปิ้งออนไลน์ ตลาดขายของออนไลน์ บริการ: ซื้อของออนไลน์ ส่งทั่วไทย, โปรโมชั่นเพียบ
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาคุ้มค่า เราขอแนะนำ เมาส์ไร้สาย  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง เมาส์ไร้สาย  ไป ราคาถูกกว่าซื้อห้าง สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งไว คุณภาพเกินราคา ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากเมาส์ไร้สาย มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง เมาส์ไร้สาย และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา เมาส์ไร้สาย วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ เมาส์ไร้สายยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

ปัจจุบันนี้งานส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องเดินทางออกนอกสถานที่ บางคนต้องออกต่างจังหวัดบ่อย ๆ หรือบางครั้งก็ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ ซึ่งในการออกทริปเพื่อการทำงานแต่ละครั้งนั้น อุปกรณ์ของผู้ใช้คอมฯ หรือโน๊ตบุ๊ก ที่ส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่าขาดไม่ได้เลย ก็เห็นจะเป็น"เมาส์ไร้สาย"นี่แหละค่ะ แถมยังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะมีข้อดีคือไม่มีสายรกระเกะระกะ รวมถึงมีการใช้ระบบการเชื่อมต่อ 2 แบบด้วยกัน ทั้งที่ผ่านสัญญาณ Bluetooth และผ่านตัวรับสัญญาณ USB

ซึ่งเมาส์ไร้สายที่จำหน่ายในท้องตลาด ก็มีหลายยี่ห้อมากไม่ว่าจะเป็น Logitech, Microsoft, Xiaomi, Lenovo และบางยี่ห้อยังแบ่งออกเป็นหลาย ๆ รุ่น มีฟังก์ชันที่แตกต่างกัน จนทำให้หลายคนแยกไม่ออก ไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนดี ดังนั้น ในบทความครั้งนี้ ทางทีมงานก็เลยมาพร้อมวิธีการเลือกซื้อ รวมถึงเมาส์ไร้สายยอดฮิตขายดีที่หาซื้อออนไลน์ได้ มาแนะนำกันค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าใครที่อยากเปลี่ยนเมาส์หรืออยากซื้อเมาส์ใหม่ในตอนนี้ ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ

เมื่อพูดถึงจุดเด่นของ "เมาส์ไร้สาย" ก็คงนึกเป็นอย่างอื่นไม่ได้แน่นอน เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าใช้งานได้โดยไม่ต้องมีสาย แถมเจ้าเมาส์ไร้สายเหล่านี้ ยังสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างใจต้องการ ภายใต้ระยะที่มีสัญญาณส่งถึง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่หลาย ๆ รุ่นอาจจะต้องคอยมาเปลี่ยนถ่านหรือชาร์จไฟ โดยเฉพาะเมาส์ที่ใช้ถ่าน ที่เป็นส่วนทำให้คุณต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในค่าถ่านเพิ่มขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อลองเทียบข้อดี-ข้อเสียดูแล้ว พบว่าเมาส์ไร้สายมีประโยชน์ในทางที่ดีมากกว่า โดยเฉพาะในแง่ของความสะดวกต่อการใช้งาน และเป็นสาเหตุสำคัญที่ดึงดูดให้คนส่วนใหญ่ หันมาใช้เมาส์ไร้สายกันมากขึ้น และไม่เพียงแต่คนที่ใช้โน้ตบุ๊กเท่านั้น เมาส์ไร้สายเหล่านี้ ก็ยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งถ้าใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ รับรองเลยว่า ถ้าได้เลือกซื้อไปใช้แล้ว ผู้ช่วยสุดเจ๋งชิ้นนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

ก่อนอื่นเราจะอธิบายถึงวิธีการในการเลือกซื้อเมาส์ไร้สายกันก่อนนะคะ การเลือกซื้อเมาส์สักตัวไม่ใช่แค่ดูที่ขนาดและน้ำหนักอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่ส่งผลต่อการใช้งาน ว่าแต่จะมีปัจจัยอะไรบ้างนั้น เลื่อนลงไปอ่านกันได้เลย

อย่างที่ได้กล่าวไปบ้างแล้วว่า เมาส์ไร้สายมีวิธีการเชื่อมต่อ 2 แบบด้วยกันคือเชื่อมต่อด้วยตัวรับสัญญาณ USB และเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ Bluetooth ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจการเชื่อมต่อแต่ละแบบกันว่ามีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง เพื่อให้การเลือกซื้อครั้งนี้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดค่ะ

เมาส์ไร้สายที่มีการเชื่อมต่อผ่านตัวรับสัญญาณ USB มีข้อดีตรงที่ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอะไรให้ยุ่งยาก ใช้งานได้ไกลสูงสุด 10 เมตร และถึงแม้ว่าตัวรับสัญญาณ USB  จะมีขนาดเล็กกว่าขนาดปกติหรือที่เรียกว่า Micro USB ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรขอเพียงแค่มีตัวแปลงก็สามารถใช้งานได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมาส์ชนิดนี้มักมีตัวรับสัญญาณ USB เพียงแค่ 1 อันเท่านั้น ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ USB หายไป ก็คอนเฟิร์มได้เลยว่า คุณจะไม่สามารถใช้งานเมาส์ได้อีกเลย ดังนั้น ถ้าต้องการพกไปทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ แนะนำให้เลือกเมาส์ที่สามารถเก็บตัวรับสัญญาณ USB ไว้ภายในตัวได้ เพื่อป้องกันการสูญหาย

เมาส์ไร้สายชนิดนี้ใช้สัญญาณ Bluetooth ในการเชื่อมต่อ ดังนั้น ไม่ว่าคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กของคุณ จะมีช่อง USB Port น้อย ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานเมาส์ชนิดนี้ แถมยังมีข้อดีที่สามารถใช้งานกับ Tablet หรือสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย และหากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ได้มีคุณสมบัติ Bluetooth ในตัว คุณก็เพียงแค่ซื้ออุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณ Bluetooth ที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาดมาติดตั้งกับคอมพิวเตอร์ เพียงเท่านี้ก็ใช้งานได้ตามปกติ

ถึงแม้ว่าในระยะเวลาการเชื่อมต่อเมาส์กับคอมพิวเตอร์ของคุณอาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมการใช้งานของอุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง โดยผ่านการใช้เมาส์เพียงอันเดียว เมาส์ไร้สายชนิดนี้ ถือว่าตอยโจทย์เลยค่ะ

ต่อกันด้วยความแม่นยำในการใช้งานของเมาส์ ที่มักจะขึ้นอยู่กับวิธีการรับ-ส่งข้อมูล โดยแบ่งได้ตามลักษณะเซนเซอร์ ที่เป็นสื่อนำได้ 4 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน แต่จะมีประเภทอะไรบ้างนั้น ไปอ่านพร้อมกันเลย

ปัจจุบันนี้เมาส์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วไปจะมีเซนเซอร์ Blue LED ซึ่งเป็นประเภทที่มีความแม่นยำในการรับ-ส่งข้อมูลสูง สามารถแยกพื้นผิวนูนต่ำ ระดับฝุ่นผง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถึงแม้ว่าจะไม่ใช้แผ่นรองเมาส์ ก็ยังสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

โดยเมาส์ชนิดนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้งานบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวที่มีความสว่าง พื้นผิวสะท้อนแสงหรือพื้นผิวที่เป็นผ้า แต่มีจุดอ่อนต่อพื้นผิวที่มีลักษณะโปร่งใส เช่น โต๊ะที่เป็นกระจกใส ซึ่งหากบ้านไหนหรือสถานที่ทำงานใด ใช้โต๊ะทำงานชนิดดังกล่าวควรหาแผ่นรองเมาส์มารองไว้ เพื่อช่วยให้เมาส์ทำงานได้อย่างราบรื่นไม่สะดุดนะคะ

ในสมัยก่อนเมื่อพูดถึงเมาส์ Optical แล้ว ทุกคนจะนึกถึง Red LED เป็นส่วนใหญ่ เมาส์ประเภทนี้จะมีจุดเด่นคือแสงที่เป็นสีแดง ซึ่งหากเปรียบเทียบด้วยเรื่องราคาแล้ว ก็เป็นประเภทที่มีราคาถูกจับต้องได้ หาซื้อได้ง่ายที่สุด อย่างไรก็ตาม เมาส์ชนิดนี้จะไม่ค่อยตอบสนองกับพื้นผิวที่มีความสว่าง สะท้อนแสงมาก หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบสม่ำเสมอ ดังนั้น ใครที่ต้องการใช้งานกับพื้นที่ลักษณะดังกล่าว แนะนำให้หาแผ่นรองเมาส์สักแผ่นมารองช่วยจะดีกว่าค่ะ

แม้ว่าเรื่องความแม่นยำในการส่งข้อมูลจะไม่ได้แตกต่างจากเมาส์ Optical สักเท่าไหร่นักแต่ถ้าเป็นเรื่องประหยัดพลังงานต้องยกให้เมาส์ประเภท IR LED ไปเลยค่ะ เพราะประหยัดขนาดที่ว่า ได้เปลี่ยนถ่านแค่ก้อนเดียวในระยะ 6 เดือน – 1 ปี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้งานบ่อยหรือผู้ที่ทำงานนอกสถานที่เป็นหลัก โดยแนะนำให้ใช้คู่กับแผ่นรองเมาส์เพื่อความแม่นยำในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น

เมาส์ Laser เป็นประเภทที่มีความแม่นยำกว่าเมาส์ Optical เพราะทำงานด้วยแสง Laser ซึ่งตาของคนเราไม่สามารถมองเห็นได้ ใช้งานได้ดีในบริเวณที่เป็นผิวสะท้อนแสง และพื้นผิวที่มีความขรุขระไม่มาก แต่จะไม่ตอบสนองต่อพื้นผิวที่เป็นแก้วเช่นเดียวกับประเภท Blue LED  ดังนั้น หากเลือกใช้เมาส์ชนิดนี้บนโต๊ะทำงานที่เป็นกระจกใส แนะนำให้หาแผ่นรองเมาส์มารองไว้ จะช่วยได้ดีเลยค่ะ

เมาส์ไร้สายจะมี Power Supply หรือแหล่งจ่ายไฟติดตั้งอยู่ในตัว ซึ่ง Power Supply นี้ สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทคือแบบถ่านและแบบชาร์จไฟ

โดยเมาส์ที่ใช้ถ่าน มีข้อดีตรงที่หากถ่านหมด คุณก็สามารถใช้งานต่อได้ทันทีเพียงแค่เปลี่ยนถ่านก้อนใหม่ และแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าในระยะยาว แต่ราคาของเมาส์ชนิดนี้มักถูกกว่าเมาส์ชนิดที่ชาร์จแบตได้ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนมาก ซึ่งในทางกลับกันเมาส์ที่ใช้พลังงานจากการชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็มีข้อดีคือ คุณไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนถ่านใหม่บ่อย ๆ ซึ่งถ้าหากมองในระยะยาว ก็นับว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียวค่ะ

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกเมาส์ไร้สาย คือการคำนึงถึง "ขนาดที่พอดี" กับมือของคุณ เพราะเมาส์ที่มีขนาดพอดีกับขนาดมือผู้ใช้ จะช่วยให้ไม่รู้สึกเมื่อยมือเมื่อต้องใช้งานเป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากเรื่องขนาดแล้ว การตรวจสอบน้ำหนักของเมาส์ก็จำเป็นเช่นกัน เพราะบางคนอาจชอบใช้เมาส์ที่มีน้ำหนักเบา พกง่าย แต่ในทางกลับกันคนชอบเมาส์ที่ค่อนข้างมีน้ำหนักก็มีไม่น้อย ดังนั้น ก่อนซื้ออย่าลืมเช็คให้ดีว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีลักษณะตรงกับความชอบหรือความถนัดในการใช้งานของตัวเองหรือไม่ หรือจะสังเกตจากเมาส์ที่คุณใช้อยู่ตอนนี้ ว่าขาดเหลือคุณสมบัติหรือลักษณะใดบ้าง ซึ่งสามารถช่วยได้ดีเลยล่ะค่ะ

และจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันนี้มีเมาส์ที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระ การวางมือไปจนถึงการเคลื่อนไหวมือมนุษย์มากขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นคนถนัดซ้ายอาจต้องระมัดระวังในการเลือกสักเล็กน้อย เพราะเมาส์ส่วนมาก มักถูกออกแบบมาให้เหมาะกับคนที่ถนัดขวานั่นเอง

จุดต่อนิ้วเชิงเส้น หรือ DPI (Dot Per Inch) และ CPI (Count Per Inch) คือหน่วยวัดความไวของเมาส์ เป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อเคลื่อนที่เมาส์ไปเป็นระยะทาง 1 นิ้ว ตัวชี้ในหน้าจอเคลื่อนที่ไปได้กี่พิกเซล โดยคำแนะนำสำหรับเหล่า Gamer แนะนำให้เลือกซื้อเมาส์ที่มีค่า DPI สูง ๆ เพื่อให้การเคลื่อนที่ตอบสนองได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องขยับมือมากนัก


แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานทั่วไป เช่น เพื่อท่องโลกอินเตอร์เน็ต เมาส์ที่มีค่า DPI อยู่ในช่วง 800-1,600 DPI ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากเมาส์บางยี่ห้อที่มีค่า DPI สูงอาจไม่ได้เคลื่อนไหวตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเหมือนที่ทางผู้ผลิตโฆษณาไว้ ดังนั้นควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงประกอบการตัดสินใจซื้อด้วยจะดีที่สุดค่ะ

ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกข้อหนึ่งคือ เมาส์ไร้สายบางรุ่นจะมีปุ่มลัด (Shortcut) เป็นฟังก์ชันเพิ่มเติมติดมากับตัวเมาส์ด้วย เช่นปุ่ม Back, Enter, หรือปุ่ม Search ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ชอบใช้ฟังก์ชันปุ่มลัดเพื่อความรวดเร็วในการสั่งการ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีปุ่มเหล่านี้ในตัว อย่างไรก็ตาม โดยส่วนมากแล้วบนปุ่มมักไม่มีตัวอักษรหรือข้อความบ่งชี้ว่าเป็นปุ่มอะไร เพราะฉะนั้นก่อนซื้ออย่าลืมตรวจสอบที่คู่มือหรือกับทางผู้ขายให้ถี่ถ้วนว่าปุ่มที่ติดมาด้วยมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง จะได้ไม่พลาดการใช้งาน

นอกจากปุ่มฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ในเมาส์ไร้สาย สมัยนี้ยังมาพร้อมล้อหมุนสำหรับเลื่อนขึ้น-ลง บางรุ่นก็สามารถเลื่อนซ้าย-ขวาได้ด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำตารางข้อมูลใน Excel ชีตแนวนอนยาว ๆ หลายบรรทัด มั้งนี้ ล้อหมุนบางชนิดมักส่งเสียงขณะที่คุณเลื่อนไปมา ดังนั้นหากจะนำไปใช้งานในห้องสมุดหรือในห้องประชุม ควรเลือกรุ่นที่ทำงานได้เงียบที่สุดจะดีกว่าค่ะ

หลังจากได้ศึกษาวิธีการเลือกกันไปแล้ว หลายคนคงเลือกเมาส์ที่ถูกใจไว้ใช้งานกันได้แล้วใช่ไหมคะ และเพื่อให้คุณสามารถใช้งานเมาส์ได้ไหลลื่นถนัดมือมากยิ่งขึ้น เรายังมีบทความแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเลือกแผ่นรองเมาส์ที่เหมาะสมมาเสริมการใช้งานกันอีกด้วย ดูได้จากลิงก์ด้านล่างนี้เลย !

หลังจากที่เข้าใจวิธีการเลือกซื้อเมาส์ไร้สายกันไปแล้ว ถึงตอนนี้ทางทีมงาน ก็ได้คัดเลือกเมาส์ไร้สายยี่ห้อที่มีคุณภาพดี เป็นที่นิยมและหาซื้อออนไลน์ได้ทั้ง 10 อันดับมาฝากกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปเริ่มกันเลย

ถึงแม้จะเป็นเมาส์ทรงแปลกตา แต่ก็มีความเรียบหรูและให้คุ้มค่าสุด ๆ เพราะเมาส์รุ่นนี้รองรับได้ทั้งโหมด Wireless USB 2.4 GHz และ Bluetooth 4.0 สามารถรับสัญญาณได้ในระยะ 10 เมตร โดยอีกลูกเล่นที่น่าสนใจก็คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง สลับการใช้งานได้ เพียงแค้ปรับสวิตซ์ที่หลังตัวเครื่องเท่านั้น และยังใช้ได้กับพื้นผิวที่ป็นพลาสติก อะลูมิเนียม พื้นผิวเรียบทั่วไปและผิวกระจกได้ดีด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกับ Windows 7 เพราะเครื่องจะไม่รองรับระบบ Bluetooth ค่ะ

เมาส์ไร้สายจากแบรนด์ Genius เป็นแบรนด์ที่ราคาไม่แพงแต่มีคุณภาพ เพราะมีความแม่นยำสูงกว่าเมาส์ทั่วไป เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้ง่าย ผ่านทาง USB ทั้งยังมีช่องเก็บ USB ที่ด้านล่าง โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ขนาดเหมาะกับมือใช้ได้ทั้งผู็ที่ถนัดซ้ายและขวา อีกทั้งใช้งานได้เกือบทุก ๆ พื้นผิวแม้พื้นผิวที่ไม่เรียบ ใช้งานได้ไกลถึง 10 เมตร โดยจากความเห็นของผู้ใช้งานส่วนใหญ่ กล่าวว่าใช้งานได้ดี ตอบสนองรวดเร็วแถมยังมีสีสันสดใส เหมาะกับผู้ที่มองหาเมาส์ไร้สายราคาประหยัดอย่างยิ่ง

ใครที่กำลังมองหาเมาส์มีสไตล์ เชิญทางนี้ได้เลยกับเมาส์รางวัลการออกแบบจาก reddot design award ปี 2013 ที่ถึงแม้จะดูเป็นรุ่นเก่า แต่ความทนและลูกเล่นต่าง ๆ ถือว่าใช้ได้เลย เพราะสามารถสลับโหมด Bluetooth และ Wireless ได้ด้วยการเลื่อนปุ่มเล็ก ๆ ที่ด้านขอบให้ไปทางโหมดที่เราต้องการ มีจุดเด่นที่สามารถบิดให้แบนราบเพื่อใช้เป็น Laser Pointer สำหรับพรีเซนต์งานได้อีกด้วย นอกจากนี้ถึงแม่ปุ่มตรงกลางจะแบบเรียบแต่ก็รองรับการสไลด์ขึ้นลงได้เทียบเท่า Scroll Wheel กันเลยทีเดียว

หากคุณเป็นคนถนัดมือซ้าย ลองพิจารณารุ่นนี้ดูค่ะ เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย โค้งรองรับมือทั้ง 2 ข้างได้พอดี แถมดีไซน์บางเฉียบ พกพาง่าย ดูทันสมัยเหมาะกับผู้ที่ใส่ใจเรื่องของ Design เป็นพิเศษ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างลื่นไหลด้วยระบบ Bluetooth 4.0 และมี Blue Track Technology ให้คุณใช้เมาส์ได้ในทุก ๆ พื้นผิว (ยกเว้นพื้นผิวที่เป็นกระจกใส) ส่วนวัสดุก็แข็งแรง  อาจมีจุดอ่อนเล็กน้อยในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้เพียง 6 เดือนนั่นเอง

เกมเมอร์ห้ามพลาด กับเมาส์ดีไซน์โดน ๆ รุ่นนี้ ที่พกของดีมาเพียบ ทั้งการใช้เซนเซอร์คุณภาพสูงอย่าง Pixart 3212 มีปุ่มปรับค่า DPI ได้ รองรับการคลิกได้มากถึง 20 ล้านครั้ง ใช้ระบบ Dual Power Mode ที่สามารถชาร์จและใช้ไปพร้อมกันได้ โดยไม่ต้องกลัวแบตหมด มีไฟ LED แจ้งสถานะการทำงานซึ่งไฟสีน้ำเงินจะหมายถึงพร้อมใช้งาน รวมถึงแบตเตอรี่ก็มีขนาด 400 mAh ทำให้ใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีสวิตช์สำหรับเปิด-ปิด การใช้งานของเมาส์ และ ไฟ RGB ในตัวอีกด้วย

สำหรับเมาส์รุ่นนี้เรียกได้ว่าดีไซน์ออกาได้โค้งมนสวยงามทีเดียว โดยมาพร้อมเทคโนโลยีเด่น Advanced Optical Tracking ที่เคลื่อนไหวบนทุกพื้นผิวได่อย่างแม่นยำและลื่นไหล โดยไม่ต้องใช้แผ่นรองเมาส์ และการลดเสียงให้เงียบลงกว่า 90% ที่ช่วยลดเสียงรบกวนคนรอบข้างได้ดีเยี่ยม ที่สำคัญแบตเตอรี่ที่ใช้ ยังมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 24 เดือน และสามารถเชื่อมต่อกับระบบปฎิบัติการได้ทั้ง Windows, Mac, Chrome OS หรือ Linux อีกด้วย

เป็นเมาส์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในค่ายแอปเปิ้ลโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยการใช้ผิวสัมผัสแบบ Multi-Touch ที่รองรับการใช้คำสั่งนิ้วได้ 360 องศา ช่วยให้ขยับมือน้อยลง แต่เลื่อนดูสิ่งต่าง ๆ ได้ในพื้นที่ที่กว้างขึ้น แถมลดปัญหาอาการปวดมือได้ด้วย ส่วนการเชื่อมต่อก็ทำได้รวดเร็วและง่ายมาก เพราะเมาส์จะสแตนด์บายตลอดเวลา และจับคู่กับ Mac แบบอัตโนมัติในทันที อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้จะสามารถจับคู่ได้เฉพาะ Mac ที่รองรับบลูทูธ และใช้ระบบปฏิบัติการตั้งแต่ OS X v10.11 ขึ้นไปเท่านั้น

สายงานที่ต้องการสมาธิต้องห้ามพลาดตัวนี้เลยค่ะ เพราะเมาส์รุ่นนี้ได้รับการยืนยันจากผู้ใช้ว่า เงียบจริง และเงียบกว่าเมาส์ทั่วไปถึง 90% โดยสิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือระบบ Logitech Flow ที่เมาส์สามารถเลื่อนไปบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ ถึงขนาดสามารถคัดลอก-วางข้อความ ภาพ และไฟล์ จากเครื่องหนึ่งไปยังเครื่องอื่นได้ง่ายในคลิกเดียว ทั้งยังสามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการ  Mac OS X และ Windows ได้ โดยการใช้งานแนะนำให้ใช้แผ่นรองเมาส์ร่วมด้วย เพื่อความลื่นไหลเพิ่มขึ้นค่ะ

รุ่นนี้เป็นเมาส์สุดบาง ที่ได้รับรางวัลด้านการออกแบบปี 2011 ใช้งานง่าย ที่เมื่อปรับให้โค้ง เมาส์ก็จะเข้าสู่โหมดทำงานอัตโนมัติ สังเกตได้จากไฟสีเขียว และถ้าหากพับให้แบนราบ เมาส์ก็จะปิดการใช้งานให้เองเช่นกัน ใช้สั่งงานด้วยการสัมผัส (Touch Strip) ที่สำคัญมี Blue Track Technology ที่ใช้งานได้กับทุกพื้นผิวไม่ว่าจะพื้นเรียบ ขรุขระ ก็ไม่เป็นปัญหา แถมสั่งการได้ไกล 15 ฟุตเลยทีเดียว เหมาะกับผู้ที่ต้องออกนอกสถานที่บ่อย ๆ เพราะพกพาได้สะดวก และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีค่ะ

เป็นเมาส์รูปร่างสุดครีเอทีฟ ที่สร้างความฮือฮาและความประทับใจให้ผู้ใช้ไม่น้อยค่ะ เพราะรุ่นนี้เขาคำนึงถึงหลักสรีระเป็นหลัก จึงทำให้เกิดโครงสร้างที่รองรับรูปทรงฝ่ามือ แถมให้คีย์ลัดมาแบบจุใจ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มล้อเลื่อน คีย์ลัดเดินหน้า-ถอยหลัง ไว้ให้ที่ที่วางหัวแม่มือ และคีย์ลัดสำหรับงาน Photoshop หรืองานเอกสารก็มีให้ครบ นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์พิเศษใช้งานได้ทุกพื้นผิวรวมถึงบนกระจกอีกด้วย ส่วนการชาร์จก็ทำได้ดี เพราะชาร์จเพียง 1 นาที ก็สามารถใช้งานได้ยาว ๆ 3 ชั่วโมงกันไปเลย

เป็นอย่างไรบ้างคะ? สำหรับวิธีการเลือกซื้อและเมาส์ไร้สายยอดฮิตขายดีที่เราแนะนำในครั้งนี้ จะเห็นว่าจุดสังเกตในการพิจารณาเลือกซื้อ มีอยู่หลายข้อด้วยกันไม่ว่าจะเป็นลักษณะการเชื่อมต่อ ความละเอียดในการตอบสนอง น้ำหนัก ฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็มีส่วนทำให้แต่ละรุ่นก็มีข้อดี-ข้อเสียและราคาที่แตกต่างกันออกไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องซื้อเมาส์ที่มีราคาแพงเสมอไปนะคะ เพราะเมาส์ราคาหลักร้อยแต่คุณภาพดีก็มีให้เลือกไม่น้อย เพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองลักษณะการใช้งาน ก็จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มค่าที่สุดแล้วค่ะ


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมาส์ไร้สายส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานนาน แต่ก็มีสาเหตุที่ทำให้เสียหายได้ง่าย ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการทำตกกระแทก ดังนั้นเมื่อได้รับความเพลิดเพลินขณะใช้งานแล้ว ก็อย่าลืมระมัดระวังและคอยดูแลรักษา ให้เมาส์ไร้สายคู่ใจ ได้ใช้งานคู่กับเราได้นาน ๆ กันนะคะ