สาว ๆ ในยุคนี้ต่างก็หันมาดูแลตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความงามกันมากขึ้น เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยดูแลความสวยความงามออกวางจำหน่ายอยู่มากมาย แน่นอนว่า การบำรุงผิวก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องดูแลทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนอย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากเราจะแบ่งประเภทครีมตามคุณสมบัติที่แตกต่างกันแล้ว ยังแบ่งประเภทตามช่วงเวลาที่ใช้งานด้วย นั่นก็คือ "เดย์ครีม (Day Cream)" หรือครีมที่ใช้สำหรับตอนกลางวัน และ "ไนท์ครีม (Night Cream)" ครีมที่ใช้สำหรับตอนกลางคืน ดังนั้น หลายคนจึงไม่ได้มีครีมบำรุงไว้ใช้เพียงแค่ตัวเดียว
แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ตอนเลือกซื้อครีม เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าครีม 2 ประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร สามารถใช้แทนกันได้หรือไม่ วันนี้เราจึงจะมาไขคำตอบให้กับคุณ พร้อมทั้งแนะนำรายละเอียดในการเลือกเดย์ครีมให้ตรงกับปัญหาผิว เพื่อให้คุณสามารถเลือกบำรุงและแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ถ้าอยากรู้แล้ว ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า ครีมบำรุงผิวหน้าจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ "เดย์ครีม (Day Cream)" และ "ไนท์ครีม (Night Cream)" ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันที่ส่วนผสมและประโยชน์ในการบำรุง หลายคนอาจคิดว่าครีมบำรุงผิวหน้าใช้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะมีความเหนอะหนะ แต่อันที่จริงแล้วยังมีครีมที่สามารถใช้ในตอนกลางวันได้อย่าง "เดย์ครีม" อยู่นั่นเอง ซึ่งครีมประเภทนี้จะมีการปรับส่วนผสมต่าง ๆ ให้เหมาะกับสภาพอากาศในตอนกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นการผสมสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นสาเหตุให้ผิวคล้ำ หรือเพื่อป้องกันผิวจากสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฝุ่นและมลภาวะ นอกจากนี้ เดย์ครีมยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าไนท์ครีม จึงไม่ทำให้หนักหน้าและเหนียวเหนอะหนะผิว
ส่วนไนท์ครีม แน่นอนว่าจะต้องไม่มีส่วนผสมของสารกันแดด แต่จะเน้นที่การบำรุงอย่างล้ำลึก เราจึงสังเกตเห็นได้ว่าไนท์ครีมจะมีเนื้อสัมผัสที่หนักและซึมยากกว่าเดย์ครีม หากนำไปใช้ตอนกลางวันก็อาจทำให้ผิวเกิดการอุดตันและก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมาได้ ดังนั้น เพื่อการบำรุงและการปกป้องผิวอย่างถูกจุด คุณจึงไม่ควรใช้เดย์ครีมและไนท์ครีมแทนกันค่ะ
เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเวลากลางวันมากกว่า ฉะนั้น การบำรุงผิวด้วยเดย์ครีมในช่วงกลางวันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิว เรามาดูกันก่อนเลยค่ะว่า มีสิ่งไหนที่เราต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อเดย์ครีมบ้าง
ก่อนที่จะเลือกซื้อเดย์ครีม คุณจะต้องตรวจสอบสภาพผิวของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้สามารถเลือกซื้อครีมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวของคุณได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวสูงสุดค่ะ
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นอาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหลาย ๆ อย่างตามมา ไม่เพียงแค่ปัญหาผิวแห้งกร้านเท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวของคุณมีความมันส่วนเกินเพิ่มเข้ามาอีกด้วย เพราะเมื่อผิวหนังเกิดการขาดน้ำ ต่อมไขมันจะเร่งผลิตน้ำมันออกมาเพื่อทดแทนความชุ่มชื้นที่หายไป จึงเกิดเป็นความมันส่วนเกินบนใบหน้านั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ หากผิวของคุณขาดความชุ่มชื้นในช่วงตอนกลางวัน ก็อาจทำให้เกิดปัญหาด้านการแต่งหน้า เช่น ทำให้เมคอัพไม่ติดหรือรองพื้นตกร่องได้ ดังนั้น คุณจึงควรเลือกใช้เดย์ครีมที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นเพื่อฟื้นบำรุงผิวที่แห้งเสีย โดยสารดังกล่าว ได้แก่ กลีเซอรีน (Glycerin), เซราไมด์ (Ceramides), กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) และกรดแลกติก (Lactic Acid) เป็นต้น
ความหมองคล้ำเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ, ความเครียด, แสงไฟ ไปจนถึงแสงอาทิตย์ เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกเดย์ครีมที่มีส่วนผสมของ "ไวท์เทนนิ่ง (Whitening)" ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวหรือเมลานิน (Melanin) เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวของคุณค่ะ โดยสารที่ถือเป็นไวท์เทนนิ่ง ได้แก่ อาร์บูติน (Arbutin), วิตามิน C&E (Vitamin C&E) และสารสกัดจากพืช เช่น สารสกัดจากถั่วเหลือง (Soybean Extract)
หรือคุณอาจเลือกครีมที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว อย่างเช่น AHA และ BHA อย่างไรก็ตาม ครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน และที่สำคัญ สารเหล่านี้อาจทำให้ผิวเกิดการไวต่อแสงได้อีกด้วย เราจึงขอแนะนำให้คุณทาครีมกันแดดควบคู่ไปกับการทาครีมสูตรไวท์เทนนิ่งทุกครั้งค่ะ
"ปัญหาริ้วรอย" เกิดจากอนุมูลอิสระที่ทำร้ายคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในผิวหนัง เช่น ฝุ่น, ควัน, แสงแดด เป็นต้น นอกจากอนุมูลอิสระเหล่านี้ อายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกันค่ะ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เซลล์ผิวลดการผลิตคอลลาเจนและโปรตีนในชั้นผิว ส่งผลให้ความยืดหยุ่นในผิวของคุณลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
ดังนั้น หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพผิวแบบนี้อยู่ การเลือกซื้อเดย์ครีมที่มีส่วนผสมสำคัญสำหรับการยกกระชับผิวพรรณ หรือสูตรที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ สารที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ได้แก่ กรดวิตามิน A (Retinoic Acid), วิตามิน C&E, อะมิโนเปปไทด์ (Amino Peptides) และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นต้น
ในการเลือกซื้อครีมสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จะต้องมีการตรวจสอบส่วนผสมต่าง ๆ ให้ดีว่า ปลอดภัยจากสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองและมีความอ่อนโยนต่อผิว โดยหลัก ๆ แล้ว สารเคมีที่คนมีผิวบอบบางแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้ "น้ำหอม" ที่ถึงแม้จะช่วยให้ตัวครีมมีกลิ่นหอมน่าใช้ แต่บางยี่ห้อก็อาจใช้สารสกัดจากธรรมชาติเพิ่มความหอมแทนได้, "พาราเบนหรือสารกันบูด" ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ จนเกิดรอยแดงและมีผื่นคันได้, "สารแต่งสีหรือซิลิโคน" ที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน และ "แอลกอฮอล์" ที่มีผลทำให้ผิวแห้งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาอีกด้วยค่ะ
แสงแดดเป็นสิ่งที่ทำร้ายผิวหนังของคุณได้มากที่สุด โดยเฉพาะรังสี UVA ที่มีผลทำให้ผิวหนังของคุณเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะรังสีชนิดนี้จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังโดยตรง เนื่องจากเม็ดสีผิวหรือเมลานินไม่สามารถป้องกันรังสีชนิดนี้ได้ หากได้รับรังสี UVA เป็นเวลานาน จะส่งผลทำให้ผิวหนังของคุณเกิดการเสื่อมสภาพ จนก่อรอยเหี่ยวย่นและความหยาบกร้านขึ้นได้
นอกจากนี้ ยังมีรังสี UVB ที่ส่งผลเสียต่อผิวหนังของคุณได้เช่นกัน โดยรังสีชนิดนี้จะก่อให้เกิดอาการแสบร้อนและเกิดความดำคล้ำบนผิวของคุณ แต่ผลเสียจากรังสี UVB จะไม่มากเท่ากับผลเสียจากรังสี UVA เนื่องจากเม็ดสีผิวหรือเมลานินของมนุษย์ สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ในะระดับหนึ่งค่ะ ที่สำคัญคือ แม้ว่าคุณจะอยู่ในที่ร่มหรือในอาคารก็ตาม แต่คุณก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสี UV ได้
ดังนั้น การเลือกใช้เดย์ครีมที่มีส่วนผสมของสารกันแดด จึงตอบโจทย์สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการปกป้องตัวเองจากรังสี UV ทุกชนิดนั่นเองค่ะ โดยหากผลิตภัณฑ์ระบุว่า มีค่า SPF หรือ PA ขอให้คุณโน้ตไว้เลยนะคะว่า ค่า SPF จะช่วยป้องกันรังสี UVB ส่วนค่า PA นั้นช่วยป้องกันรังสี UVA ค่ะ เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถเลือกซื้อครีมที่มีส่วนผสมของสารกันแดดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับผิวมากยิ่งขึ้นแล้วค่ะ
โดยปกติแล้ว เราควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าในปริมาณที่เหมาะสม และจะต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้น จึงควรเลือกเดย์ครีมที่มีราคาเหมาะสมตามงบประมาณของตนเอง เพื่อให้คุณสามารถซื้อเดย์ครีมมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะหากคุณเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงเกินไป ก็อาจเป็นผลให้คุณรู้สึกอยากประหยัดเนื้อครีม หรืออาจต้องเลิกใช้ไปก่อนเพราะสู้ราคาไม่ไหว ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ของเดย์ครีมที่ใช้ว่ามีประสิทธิภาพมากแค่ไหน เรียกได้ว่าเสียทั้งเงินและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เลยล่ะค่ะ
ดังนั้น เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เด่นชัดและเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เราขอแนะนำควรเลือกซื้อเดย์ครีมในราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของตัวเองนะคะ
หลังจากที่เราได้แนะนำความสำคัญของเดย์ครีมและวิธีการเลือกที่เหมาะสมกับแต่ผิวของละคนกันไปแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่าควรจะเลือกซื้อเดย์ครีมยี่ห้อไหนมาใช้งานดี ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราได้รวบรวมเดย์ครีม 10 ตัวเด็ดมาไว้ที่นี่ เพื่อให้คุณได้พิจารณาเลือกซื้อกันแล้ว จะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันดีกว่าค่ะ
หมดกังวลเรื่องริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหน้า ด้วยเดย์ครีมสูตรนี้ ที่มีนวัตกรรม [HD] Filler ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการฉีดฟิลเลอร์ ผสานเข้ากันกับไฮยาลูรอนที่มีโมเลกุลหลายระดับ ทำให้ไม่เพียงแค่ช่วยเติมริ้วรอยร่องตื้นและลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเติมความชุ่มชื้นให้ผิวฟูอิ่มน้ำและเรียบเนียนขึ้น ช่วยลดความหมองคล้ำให้ดูจางลง เพิ่มความสว่างกระจ่างใสให้กับผิวหน้าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมี UV Filter ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกด้วยค่ะ
ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องคิดเยอะในการเลือกซื้อครีมแต่ละครั้ง เพราะกังวลเรื่องส่วนผสมที่อาจทำให้แพ้และระคายเคือง เราจึงขอแนะนำครีมตัวนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเวชสำอางจากญี่ปุ่น ช่วยในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าด้วยเซราไมด์ที่สามารถซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นในได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากยูคาลิปตัสที่ช่วยให้ผิวนุ่มลื่นและยืดหยุ่นจากภายใน ทั้งยังทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น และเสริมเกราะป้องกันมลภาวะภายนอก ที่สำคัญยังปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอลล์ด้วยค่ะ
ในวันที่คุณเร่งรีบ หากเลือกใช้สกินแคร์หลายตัวก็อาจทำให้เสียเวลาได้ ซึ่งเดย์ครีมสูตรนี้ช่วยได้ค่ะ เนื่องจากมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผิวได้ถึง 7 ประการในขวดเดียว ช่วยให้ผิวที่ดูอ่อนล้ากลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นและกระจ่างใส นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมหลักเป็นวิตามิน E, B3, B5 และสารสกัดจากใบชาเขียว ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำต่าง ๆ เผยผิวที่ดูเปล่งประกายและอ่อนเยาว์มากขึ้น อีกทั้งยังปราศจากน้ำหอม จึงอ่อนโยนต่อผิวมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
การเติมความชุ่มชื้นในระหว่างวันให้กับผิวที่แห้งเสียและหยาบกร้านนั้นสำคัญมาก ซึ่งเดย์ครีมเนื้อเจลสูตรนี้ ตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา จึงซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว มาพร้อมกับส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เข้มข้น ที่จะคอยเร่งเติมน้ำให้ผิวอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นและอิ่มน้ำนานถึง 48 ชั่วโมง ทั้งยังเร่งสร้างเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงขึ้นพร้อมต่อสู้กับมลภาวะและฝุ่นละอองที่พบเจอในแต่ละวัน ด้วยสารสกัดจากมะกอก แร่ธาตุซิงค์และแมกนีเซียมค่ะ
สำหรับเดย์ครีมสูตรนี้จะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูความกระจ่างใสไปพร้อม ๆ กับการป้องกันไม่ให้ผิวของเราหมองคล้ำมากขึ้น ด้วยพลังของยูซุเลมอนบริสุทธิ์ ที่อุดมด้วยวิตามินซีเข้มข้น สามารถเร่งฟื้นฟูรอยคล้ำ จุดด่างดำและฝ้าให้ดูจางลงและบำรุงให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่มขึ้น นอกจากนี้ เนื้อครีมยังบางเบา ไม่หนักหน้า ซึมเข้าสู่ผิวได้ไวโดยไม่ทำให้อุดตัน มาพร้อมกับสารกันแดด SPF 30 PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดตัวร้ายที่ทำร้ายผิวในระหว่างวันได้เป็นอย่างดีค่ะ
ช่วงนี้หลายคนจะต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ซึ่งฝุ่นละอองเหล่านี้ถือเป็นศัตรูของผิวไม่แพ้กับแสงแดดเลย จึงต้องปกป้องด้วยครีมสูตรนี้ เพราะมีสารสกัดจุลินทรีย์จากธรรมชาติ ช่วยลดการเกาะของฝุ่นบนในหน้า มาพร้อมกับไฮยาลูรอน 3 ขนาด และ AquaxylTM เข้มข้น 3% ทำหน้าที่เติมความชุ่มชื้น และทำให้ผิวอุ้มน้ำไว้ได้นานขึ้น เนื้อครีมซึมลึกสู่ผิวชั้นในได้เร็ว ลดริ้วรอยและอาการระคายเคืองจากภาวะผิวแห้งได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญคือ สามารถใช้แก้ปัญหาผิวแห้งได้ทั้งตัวเลยค่ะ
สำหรับใครที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ต้องบำรุงด้วยเดย์ครีมสูตรนี้ที่มีส่วนผสมของ Melanin-Vanishtm ที่เพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 50 เท่า ตรงเข้าจัดการกับจุดด่างดำและความหมองคล้ำ ให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น มาพร้อมกับอัญมณีสีชมพู ช่วยให้ผิวหน้าสดใส ดูมีออร่าและอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสารกันแดด ช่วยลดการเกิดจุดด่างดำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วรู้สึกสบายผิวหน้าแม้ว่าอากาศจะร้อนก็เอาอยู่ค่ะ
มลภาวะภายนอกเป็นสาเหตุให้เกิดความหมองคล้ำได้ง่าย แต่แก้ไขได้ด้วยเดย์ครีมเนื้อเจลสูตรนี้ ที่มีส่วนผสมหลักจาก Sakura Bright Complex ทำหน้าที่บำรุงให้ผิวกระจ่างใสจากภายใน พร้อมลดเลือนจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ และปัญหาผิวไม่สม่ำเสมอที่เห็นได้จากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังช่วยลดการผลิตเม็ดสีผิวหรือเมลานิน ป้องกันไม่ให้ผิวหมองคล้ำได้ง่ายในอนาคต ผสานกับเทคโนโลยี ReNeura+ ให้ความชุ่มชื้นและเรียบเนียน คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวของคุณอย่างเห็นผลค่ะ
เดย์ครีมสูตรนี้เป็นสูตรที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยโดยเฉพาะ มีการคัดสรรพืชที่มีคุณประโยชน์นานาชนิดมาเป็นส่วนผสมถึง 85% โดยมีส่วนผสมหลักเป็น Kangaroo Flower ที่มีคุณสมบัติฟื้นบำรุงผิว เพิ่มความยืดหยุ่น และยกกระชับใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับนวัตกรรม Anti Pollution Complex ให้ผิวพร้อมต่อสู้กับมลภาวะภายนอก โดยการปกป้องผิวจากภาวะออกซิเดชันบนชั้นผิว เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบได้เร็ว ไม่อุดตัน แถมยังมีกลิ่นหอมผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นโทนเนอร์ดอก Calendula ตัวดังจากแบรนด์นี้มาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งครีมสูตรนี้ก็ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเช่นกัน โดยการผสมสารสกัดจากดอก Calendula มาในปริมาณที่เข้มข้นที่สุด จนได้เนื้อครีมที่บางเบา ไม่หนักผิว แต่ให้ประสิทธิภาพในการคืนความชุ่มชื้นและบำรุงผิวที่อ่อนล้าให้ดูเปล่งปลั่งขึ้นมาได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังลดรอยแดงให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับปัจจัยภายนอกที่กวนใจคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ
มาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านทุกคนคงได้เห็นถึงความสำคัญของเดย์ครีมกันไปแล้วใช่ไหมคะ ? เดย์ครีมนั้น นอกจากจะช่วยปกป้องคุณจากรังสี UV แล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวพรรณของคุณจากฝุ่นละอองและมลภาวะ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว และยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นเมื่อบำรุงในทุก ๆ วัน ดังนั้น การบำรุงผิวด้วยเดย์ครีมจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับใช้ไนท์ครีมในแต่ละวันเลยนะคะ คุณจึงควรหมั่นบำรุงผิวทุกวันเป็นประจำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนี้ ยังเป็นการเติมความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ช่วยให้เราแต่งหน้าได้ง่ายมากขึ้นอีก ยิ่งหากเราต้องทำงานในห้องแอร์ตลอดเวลา การเติมน้ำให้ผิวจะช่วยลดปัญหาเรื่องของริ้วรอยได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ
และอีกสิ่งที่ไม่ควรลืมก็คือ ถึงแม้ว่าเดย์ครีมของคุณจะมีสารกันแดดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดโดยเฉพาะ เพื่อการปกป้องผิวที่ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้นค่ะ เนื่องจากจุดประสงค์ของการใช้เดย์ครีม คือ การบำรุงผิวมากกว่าการป้องกันแสงแดด จึงอาจไม่เพียงพอในการปกป้องคุณจากรังสี UV โดยตรงได้นั่นเองค่ะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้นกันด้วยนะคะ