“อายแชโดว์เนื้อครีม” คือไอเทมที่ช่วยแต่งแต้มสีสันบนเปลือกตาของคุณให้ดูโดดเด่น ได้ฟินิชลุคผิวฉ่ำแวววาว และที่สำคัญให้สีที่ติดทนนานมากกว่าแบบฝุ่น เรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่สาว ๆ ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้สักชิ้นสองชิ้นเลยล่ะค่ะ อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์อายแชโดว์เนื้อครีมจากหลายแบรนด์หลายรุ่นมากมายเหลือเกิน แถมบทความแนะนำวิธีการเลือกและจัดอันดับสินค้าชนิดนี้ก็มีอยู่น้อยมาก ทำให้สาว ๆ ไม่ค่อยมีข้อมูล ซึ่งอาจหลงไปซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่เหมาะกับตัวเองได้ วันนี้ทีมงานของเราจึงไปรวบรวมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับอายแชโดว์เนื้อครีมมาฝากกันโดยเฉพาะเลยค่ะ
ลำดับแรก ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “วิธีการเลือก” ที่สามารถเรียนรู้กันได้ง่าย ๆ และหลังจากนั้นเราจะไปดูกันว่า “10 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งเรื่องราคา, คุณสมบัติและรีวิวนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อที่สาว ๆ ทุกคนจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนการซื้อที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามเนื้อหากันเลยดีกว่าค่ะ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับอายแชโดว์แบบครีมกันสักนิด หลังจากนั้นไปดูวิธีการกันค่ะว่าเลือกอย่างไรเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณอย่างเต็มอิ่มตรงนี้แล้วค่ะ
จุดเด่นของอายแชโดว์เนื้อครีมนั้นมีมากมาย สามารถเกลี่ยบนเปลือกตาได้ง่ายแม้ใช้ปริมาณน้อยก็ได้ลุคที่สวยงาม ยึดเกาะผิวได้ดีทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน และช่วยให้เราปรับความอ่อนเข้มเวลาทาได้ง่าย แม้ใช้แค่สีเดียวก็เกลี่ยแบบไล่สีเป็น Gradation ได้ และเนื่องจากเนื้อของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบมีประกาย ที่นอกจากจะช่วยสร้างความเปล่งปลั่งให้ผิวได้แล้ว ยังใช้เป็นเหมือนไฮไลท์ทาตรงสันจมูกหรือโหนกแก้มในการสร้างแสงและเงาให้โครงหน้าดูโดดเด่นได้อีกด้วย เหนือสิ่งอื่นใดคือ สามารถรักษาความชุ่มชื้นให้เปลือกตาของเราได้ดีกว่าอายแชโดว์แบบแป้ง ทราบแบบนี้แล้วสาว ๆ ทั้งหลายคงอยากได้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ไว้สักตัวกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้างั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า วิธีการเลือกซื้อครีมอายแชโดว์นั้นมีหลักการสำคัญอะไรบ้าง
ตามที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นว่าฟินิชลุคของเนื้ออายแชโดว์แบบนี้จะทำให้เปลือกตาแวววาวและขับให้ดวงตาดูโดดเด่นน่าค้นหามากขึ้น แต่ความแวววาวของอายแชโดว์ชนิดนี้ไม่ได้มาเป็นแพทเทิร์นเดียวกันเสมอไป บางตัวก็แวววาวเล็กน้อยเพื่อเน้นความเป็นธรรมชาติ บางตัวก็แวววาวมากเพื่อเพิ่มเมคอัพลุคให้ดูหรูหรา แล้วเราควรเลือกอย่างไรให้ตรงกับลุคที่ต้องการ ไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
อายแชโดว์เนื้อครีมส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมให้ลุคผิวมีความเปล่งประกายเป็นส่วนประกอบอยู่ ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบผสมชิมเมอร์หรือประกายมุกที่เนื้อผลิตภัณฑ์จะละเอียดหน่อย เมื่อทาลงบนเปลือกตาแล้วจะล่อแสงตกกระทบได้ดี ทำให้ดวงตาดูเปล่งประกาย น่าค้นหามากกว่าเดิม
กับอีกแบบคือ แบบผสมกลิตเตอร์ที่จะให้เกิดประกายวิบวับมากขึ้น เนื้อผลิตภัณฑ์จะมองเห็นเป็นเกล็ดระยิบระยับชัดเจน มีความละเอียดน้อยกว่าแบบชิมเมอร์ เหมาะกับการแต่งหน้าในโอกาสที่ต้องการสร้างความโดดเด่นให้กับดวงตา อย่างเช่นตอนไปออกงานกลางคืน เป็นต้น
อายแชโดว์เนื้อครีมแบบแมตต์หรือเนื้อธรรมดาจะเหมาะสำหรับลุคธรรมชาติ เหมาะกับสาว ๆ ที่ใช้แต่งหน้าในวันปกติ เช่น แต่งหน้าไปทำงานหรือแต่งหน้าไปเรียน มีเนื้อที่ติดทนนาน หลุดยาก ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเติมหน้าระหว่างวันบ่อย พร้อมได้ลุคที่มีมิติอีกด้วย นอกจากนี้เนื้อแบบไม่มีประกายนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อใช้เป็นเฉดดิ้ง แต่งหน้าให้คมเหมือนลูกครึ่งก็ยังได้
มองเผิน ๆ อายแชโดว์เนื้อครีมอาจดูคล้ายกันไปซะหมด แต่ความจริงแล้ว ไอเทมนี้เค้าก็มีเนื้อสัมผัสหลายประเภทอยู่เหมือนกันค่ะ ซึ่งแต่ละประเภทนั้นยังมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไปด้วย เราจึงควรศึกษาเอาไว้เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะกับตัวเองค่ะ
เนื้อครีมเป็นชนิดที่มีส่วนผสมเป็นน้ำมันอยู่มาก ช่วยปกป้องดวงตาจากความแห้งกร้านเหมาะกับสาวผิวแห้งเป็นที่สุด และถือเป็นเนื้อที่ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาวที่สุดในบรรดาเนื้อสัมผัสทั้งหมด ทำให้ดวงตาของสาว ๆ ดูสุขภาพดี น่ามอง น่าค้นหา แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เปลือกตามีความมันอยู่แล้ว การใช้อายแชโดว์แบบเนื้อครีมมีโอกาสจะทำให้อายแชโดว์เปื้อนหรือตกร่องได้ง่าย กรณีนี้ก่อนใช้จึงขอแนะนำให้สาว ๆ ทาอายแชโดว์เบสหรือลงแป้งที่เปลือกตาก่อนลงครีมอายแชโดว์ก็จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ
ถือเป็นการผสานข้อดีของเนื้อสัมผัสทั้ง 2 แบบเข้าไว้ด้วยกัน โดยเนื้อลักษณะนี้เมื่อทาตอนแรกจะชุ่มชื้นเหมือนแบบครีมแต่เมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นเนื้อฝุ่นทำให้ได้ฟินิชลุคกึ่งแมตต์ เหมาะกับคนที่มีผิวมันเพราะจะช่วยไม่ให้อายแชโดว์เปื้อนเยิ้มหรือตกร่อง แม้ว่าจะให้ความฉ่ำวาวของผิวไม่เท่าแบบครีมแต่ถ้าเลือกชนิดที่มีประกายมุกผสมอยู่ก็จะเพิ่มความเปล่งประกายให้ดวงตาได้มากขึ้นค่ะ
แบบแท่งเป็นชนิดที่เรียกว่าทาได้ง่าย ใช้ได้ตรงจุดที่ต้องการมากที่สุด แค่ทาตรง ๆ ลงบนเปลือกตาเลยแล้วใช้นิ้วเกลี่ยตามก็จบ หากเป็นตัวที่สีเข้มหน่อยจะนำมาใช้เป็นอายไลเนอร์ก็ได้ หากเลือกสีที่อ่อน ๆ หน่อยก็นำมาใช้ทาใต้ตาเพื่อสร้างมิติเหมือนมีถุงน้ำตา ก็จะได้ลุคที่อ่อนเยาว์แบบง่าย ๆ เช่นกัน บรรจุภัณฑ์ก็มีจำหน่ายกันทั้งในรูปแบบดินสอที่ต้องเหลาและแบบมีไส้หมุนได้เหมือนลิปสติก มีความนุ่มของเนื้อหลายระดับให้เลือก อีกทั้งยังพกพาไปไหนมาไหนได้ง่ายด้วยค่ะ
เริ่มมีให้เห็นในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ กับอายแชโดว์แบบน้ำที่มีเสน่ห์ไม่แพ้แบบอื่น ๆ โดยเนื้อชนิดนี้เป็นเนื้อเหลวที่สุดในบรรดาทั้งหมด ทำให้กะปริมาณในการทาได้ง่ายและแค่ปริมาณนิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วเปลือกตา ให้ฟินิชลุคดูฉ่ำน้ำแลดูเป็นธรรมชาติไม่หนักตา ถ้าอยากได้ลุคที่โดดเด่นขึ้นมาอีกหน่อยก็สามารถทาเป็นเลเยอร์ทับลงไปได้ ผลิตภัณฑ์มักมาในรูปแบบหลอดหรือขวดแบบมีก้านทาที่ใช้ง่ายพกสะดวกเช่นกันค่ะ
แน่นอนว่าอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเลือกซื้ออายแชโดว์ก็คือเรื่องของ “เฉดสี” การมีติดไว้หลาย ๆ สีก็จะช่วยให้สะดวกในการใช้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมคำนึงถึงเมคอัพลุคที่ต้องการด้วย ควรเช็ควัตถุประสงค์ของตัวเองก่อนว่า ต้องการนำอายแชโดว์ไปทำอะไร โดยเราขอแนะนำว่าถ้าคุณจะใช้ทาเป็นเบสหรือเฉดดิ้ง ก็ให้เลือกโทนสีที่เข้ากับผิวได้ดีอย่างเช่นสีเบจหรือสีน้ำตาลเข้าไว้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณอยากใช้เพื่อเพิ่มสีสันให้กับดวงตา ก็ให้เลือกโทนสีที่จัดจ้านมากขึ้น ส่วนกรณีที่ต้องการแค่การแต่งหน้าไปทำงาน ก็ให้เลือกสีน้ำตาล สีเทาที่ไม่ต้องมีประกายมากก็จะเหมาะสมที่สุดค่ะ
สำหรับการแต่งตาเจ้าสาว แนะนำเลยว่าการใช้อายแชโดว์เนื้อครีมลงที่เปลือกตาก่อนแต่งตานั้นช่วยให้สีของอายแชร์โดว์แบบฝุ่นติดทนและสีชัดเจนขึ้น LAURA MERCIER CAVIAR STICK EYE COLOUR เป็นอายแชโดว์เนื้อครีมที่มาในรูปแบบแท่ง ใช้งานง่ายมากแค่หมุนขึ้นลงแล้วทาลงไปบนจุดที่เราต้องการได้เลย ใช้ได้ทั้งเปลือกตาบนและขอบตาล่าง ผลิตภัณฑ์มีเม็ดสีแน่น เนื้อสีชัดเจน เกลี่ยง่ายมาก ใช้นิ้วหรือแปรงเกลี่ยก็ได้
สีที่นิยมในวันสำคัญของเจ้าสาวแนะนำสองสีคือสี Rosegold เป็นสีโทนแชมเปญ และสี Copper เป็นสีทองที่สวยมาก ๆ ไม่ส้มหรือเหลืองจนเกินไป แนะนำว่าหากเจ้าสาวกำลังมองหาเบสให้เปลือกตา อายแชโดว์สติ๊กตัวนี้แนะนำมาก ๆ เป็น Must Have อีกชิ้นที่ควรต้องมี ลงเบา ๆ ให้ทั่วเปลือกตาแล้วตามด้วยฝุ่นอายแชโดว์ รับรองว่าเปลือกตาสีชัดแน่นตลอดงานแน่นอน หรือจะเอามาทาที่หัวตาเพื่อให้หัวตาวิ้งวาวเล่นแสงก็สวยมาก ๆ ค่ะ
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงมีลักษณะของอายแชโดว์เนื้อครีมที่ต้องการไว้ในใจกันบ้างแล้ว ต่อไปเรามาดูข้อมูลสินค้าที่น่าสนใจ ที่ได้รับความไว้วางใจจากสาว ๆ หลายคนในโลกออนไลน์กันดีกว่าค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่า ควรเลือกโดยใช้ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการอ้างอิงอันดับของสินค้าจะดีที่สุดค่ะ
สำหรับสาวคนไหนที่มีงบประมาณและชอบใช้ครีมอายแชโดว์บ่อย ๆ อยู่แล้ว เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ของ Tom Ford ค่ะ เนื้อครีมมาในกระปุกที่ดูเรียบหรูน่าใช้ ในบ้านเรามี 4 สีให้เลือก อาจจะไม่เยอะ แต่ทุกสีพิกเมนต์ชัดจึงไม่ต้องใช้ปริมาณมากในการทา และเป็นสีคลาสสิกที่ใช้ได้ทุกโอกาสไม่ว่าจะออกงานหรือในชีวิตประจำวันก็ใช้ได้
เนื้อครีมมีความวิบวับก็จริงแต่ก็ละเอียดเนียนแนบไปกับผิวเป็นอย่างดี ตัวชิมเมอร์ไม่หลุดร่วงและไม่สร้างรอยแยกตรงเบ้าตา แม้ราคาจะสูงไปสักหน่อย แต่ปริมาณที่ให้มามีถึง 5 ml ก็สามารถใช้ได้นานคุ้มค่าอยู่ทีเดียวค่ะ
ผลิตภัณฑ์จาก L’Oreal Paris รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ เพราะแพ็กเกจมี 2 หัว ด้านหนึ่งเป็นเนื้ออายแชโดว์หัวเรียวเล็กคล้ายดินสอ ส่วนอีกด้านเป็นแปรงสำหรับเบลนด์ ทำให้ใช้ง่ายและพกพาสะดวก ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 8 เฉดสี 2 ฟินิชลุค (แมตต์กับเมทัลลิก) โดยสาว ๆ ส่วนใหญ่ที่ใช้ต่างรีวิวไว้ว่าเม็ดสีสวย เนื้อเนียนลื่น ช่วยให้เกลี่ยง่าย
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียเล็กน้อยคือไม่ค่อยทนต่อความมัน สาว ๆ คนไหนที่เปลือกตามันมาก แนะนำให้ลงอายไพรเมอร์ก่อนใช้นะคะ นอกจากนี้เนื้อสียังไม่แน่น ทำให้ต้องปาดหลายครั้ง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเปลือกตาบอบบางระคายเคืองง่าย แต่ถ้าไม่มีปัญหาดังกล่าวถือว่าน่าลองทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชอบแต่งตาลุคสโมกกี้อาย ขอบอกว่าอายแชโดว์รุ่นนี้เหมาะกับคุณมากค่ะ
สาวยุคใหม่ ใช้ชีวิตรีบเร่งแต่ก็ไม่อยากหยุดสวย น่าจะสนใจผลิตภัณฑ์ตัวนี้จาก NYX แน่นอน มาในรูปแบบแท่งเหมือนสีเครยอนจึงพกพาง่าย มีสีสันให้เลือกหลากหลายเฉดสี เนื้อครีมไม่นิ่มหรือแข็งเกินไป จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็น Multi-Tasking สามารถเป็นได้ทั้งอายแชโดว์และอายไลเนอร์ไปด้วยได้ในแท่งเดียว สร้างลุค Smokey Eyes ได้รวดเร็วทันใจ
เวลาใช้อาจจะยุ่งยากหน่อยตรงที่ต้องมีกบเหลา แต่ราคามิตรภาพขนาดนี้ ต่อให้ซื้อใช้หลายสีก็ไม่สบายกระเป๋าค่ะ แถมใช้เปลี่ยนลุคได้หลากหลายแบบ ช่วยให้คุณสนุกกับการแต่งตาได้มากขึ้นในทุกโอกาส
จากที่เมื่อก่อนอายแชโดว์แบบเนื้อลิควิดแบบนี้ แทบจะหาไม่เจอในตลาดบ้านเรา มาวันนี้หลาย ๆ แบรนด์ได้ออกผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มาให้สาว ๆ เลือกใช้กันมากขึ้น รวมทั้งแบรนด์ใกล้ตัวอย่าง IN2IT ก็ได้ออกสินค้าน่าใช้ ที่ราคาเป็นกันเองแต่คุณภาพเกินความคาดหมายอย่างอายแชโดว์เนื้อน้ำตัวนี้มาให้สาว ๆ กรี๊ดกร๊าดกันด้วย
ตัวนี้เป็นเนื้อชิมเมอร์หลากหลายสีสัน มีทั้งสีเรียบ ๆ ที่ใช้เป็นสีเบส และสีจี๊ด ๆ ที่ใช้เป็นสีไว้เพิ่มลุค มีเนื้อครีมเนียนละเอียด ไม่ทำให้เป็นรอยพับที่เปลือกตา อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื่นอีกด้วย
มาดูอายแชโดว์จากฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง โดยรุ่นนี้เป็นเนื้อเจลผสมชิมเมอร์ ช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้ดวงตาดูโดดเด่นและน่ามองมากยิ่งขึ้น โทนสีเป็นสีออกน้ำตาล สีเบจ สีชมพู มาในแพ็กเกจแบบตลับขนาดเล็ก ช่วยให้พกพาง่าย
ด้านคุณสมบัติการใช้งานของรุ่นนี้มีเนื้อที่นุ่มละมุนเกลี่ยง่าย กลิตเตอร์มีขนาดใหญ่ ช่วยให้เล่นแสงได้ดี ส่วนเม็ดสีก็แน่นและสม่ำเสมอ ทาแล้วสีติดเปลือกตาได้ดี นอกจากนี้ ยังกันน้ำกันเหงื่อและติดทนนานตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับออกงานกลางคืนมากกว่า หรือถ้าใครจะใช้ตอนกลางวัน แนะนำให้ลงแต่น้อย ๆ ดูก่อน ไม่อย่างนั้นจะดูหนักจนเกินไปค่ะ
เพราะเอกลักษณ์ของแบรนด์เกาหลีคือกลิตเตอร์ รุ่นนี้จึงผสม Twinkle Star Powder นวัตกรรมพิเศษเพื่อช่วยเพิ่มความเปล่งประกาย ทำให้ดวงตาของคุณดูน่าค้นหามากขึ้น นอกจากนี้ทางแบรนด์เขายังเอาใจสาวผิวแห้งด้วย Nutrient Essence ที่ช่วยบำรุงเปลือกตาให้ชุ่มชื้น ปัจจุบันมีสีให้เลือกหลายเฉด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโทนธรรมชาติจึงเหมาะกับการใช้แต่งหน้าในชีวิตประจำวัน แพ็กเกจเป็นแท่งหมุนออโต้ ใช้งานและพกพาได้ง่าย
เนื้ออายแชโดว์เนียนนุ่ม มีเม็ดสีสวยและชัดเจน เมื่อปาดไปแล้วได้สีที่สม่ำเสมอ ช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสีมีดรอปและหลุดบ้างระหว่างวัน จึงแนะนำให้คนผิวมันลงอายไพรเมอร์ก่อนใช้นะคะหรือจะใช้แบบฝุ่นลงทับอีกชั้นก็ได้
รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะเป็นพาเลตต์ที่รวมหลายสีไว้ด้วยกัน ซึ่งล้วนแต่เป็นโทนสีธรรมชาติที่ผสมชิมเมอร์ ช่วยให้ดวงตาเปล่งประกายโดดเด่นขึ้น สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงการแต่งหน้าออกงาน ที่สำคัญเป็นสูตรกันน้ำที่มาพร้อมสารบำรุง ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับดวงตาขณะใช้ แพ็กเกจมีกระจกและแปรงแต่งตามาให้ในตัว เรียกได้ว่ตลับเดียวก็พร้อมแต่งหน้าเลย ไม่ต้องไปหาอุปกรณ์เพิ่มเติม
สาว ๆ ที่ใช้จริงต่างชื่นชอบในเนื้อที่เนียนนุ่ม เม็ดสีสวยและค่อนข้างชัดเจน เมื่อทาแล้วได้สีสม่ำเสมอและเกลี่ยง่าย ส่วนชิมเมอร์ก็เล็กละเอียดกระทบกับแสงได้ดี ติดทนในระดับหนึ่ง เหมาะอย่างยิ่งกับสาว ๆ ที่ชอบเปลี่ยนการแต่งหน้าหลายลุค ในหลายสถานการณ์
อายแชโดว์เนื้อลิควิดกึ่งเจลรุ่นนี้พิเศษด้วยสารสกัดจากดอกลิลลี่ ช่วยบำรุงเปลือกตาให้เนียนนุ่ม พร้อมคุณสมบัติติดทนนานหลายชั่วโมง มีสีให้เลือก 5 เฉดสี ซึ่งเป็นโทนธรรมชาติและเนื้อชิมเมอร์ทั้งหมด มาในแพ็กเกจแบบหลอดจิ้มจุ่ม ช่วยให้ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก เหมาะกับสาว ๆ มือใหม่หัดใช้
ด้านคุณสมบัติการใช้งาน ผู้ที่ใช้จริงต่างบอกกันว่าเนื้อเนียนลื่น เกลี่ยง่าย เม็ดสีสีสวยและชัดเจน เมื่อทาแล้วจึงสม่ำเสมอและเบาสบายไม่หนักตา ในขณะที่ชิมเมอร์ก็เล็กละเอียด ทำให้แสงตกกระทบแล้วส่องประกายระยิบระยับได้ดี แต่ขอแนะนำให้คนที่มีเปลือกตามันลงอายไพรเมอร์ไว้ก่อนเพื่อให้ติดทนนานขึ้นค่ะ
เรียกว่าเป็นลิควิดอายแชโดว์ตัวแม่ก็ว่าได้กับ STILA เพราะแบรนด์สร้างสรรค์ออกผลิตภัณฑ์มาก่อนใครเพื่อน และตอนนี้ก็ฮิตติดลมบนกันไปแล้วในหลาย ๆ ประเทศ ก็ทั้งเนื้อสีที่แน่น พิกเมนต์จัดเต็ม และเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เกลี่ยแสนจะง่ายแต่ให้การเกาะติดผิวเป็นอย่างดี เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเนื้อมุกกับประกายกลิตเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ความแวววาวนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง ถ้าใช้ทาออกงานคนข้างกายต้องร้องว้าวเป็นแน่แท้
แต่เมื่อเป็นที่นิยมแล้วก็จะมีข้อควรระวังที่ว่ามีของปลอมออกมาขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่สาว ๆ ต้องระวังไว้ค่ะ แนะนำให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่ไว้ใจได้เท่านั้นนะคะ
อายแชโดว์เนื้อครีมที่มาในรูปแบบแท่งออโต้จากแบรนด์ชื่อดัง ซึ่งได้รับการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าอ่อนโยนต่อผิว โดยมีให้เลือกหลายเฉดสี ทั้งโทนสีธรรมชาติและโทนสีสัน ครอบคลุมทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์ สามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของสาว ๆ
คนที่ใช้จริงส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบในเนื้อที่เนียนลื่น ทำให้เกลี่ยง่ายและไม่ตกร่อง ส่วนโทนสีก็สวย เนื้อที่มีชิมเมอร์ก็สะท้อนแสงได้ดี อีกทั้งเม็ดสียังแน่นและสม่ำเสมอ เมื่อปาดแล้วจึงติดเปลือกตาได้ดี พร้อมกันน้ำกันเหงื่อและติดทนนานตลอดทั้งวัน ถือเป็นรุ่นที่สาว ๆ ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้สักแท่งสองแท่งเลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความในวันนี้ เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงรู้จักอายแชโดว์เนื้อครีมกันมากขึ้น เห็นไหมคะว่าเจ้าไอเทมชิ้นนี้มีข้อดีเยอะกว่าที่ทุกคนคิด แถมยังมีวิธีการใช้ที่ไม่ยากเลย เพียงแค่เราเลือกรุ่นที่มีเนื้อสัมผัสและสีเหมาะกับตัวเองเท่านี้ก็จะได้ดวงตาที่สวยเด่นดูน่ามองแล้วนะจ๊ะ
อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ อย่าลืมซื้อ “อายเมคอัพรีมูฟเวอร์” มาใช้ทำความสะอาดนะคะ เพราะเจ้าเนื้อครีมนี้ติดทนนานมากกว่าแบบฝุ่น ใช้แค่รีมูฟเวอร์ทั่วไปอาจไม่เพียงพอ โดยเวลาใช้ให้ค่อย ๆ เช็ดออกอย่างเบามือและเช็กให้แน่ใจทุกครั้งว่าสะอาดหมดจด เพราะถ้าเหลือคราบตกค้างแล้วล่ะก็อาจทำให้เกิดสิวอุดตันตามมาได้เลยนะคะ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นแล้วจะยุ่งยากยิ่งกว่าเก่า เพราะเปลือกตาเป็นผิวบอบบาง จะบีบหรือแต้มยาทีก็ต้องระวัง หวังว่าบทความนี้จะทำให้เพื่อน ๆ รู้จักอายแชโดว์เนื้อครีมไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ