สุดยอด 7 ซอสพริก น่าใช้ เหมาะกับยุคไฮเทค อัพเดทล่าสุดปี 2567

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากซื้อออนไลน์แต่ไม่อยากไปซื้อเองที่ห้าง และที่สำคัญสินค้าบางแบรนด์ที่ขาย ราคาถูกกว่าเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาถูกมาก เราอยากนำเสนอ ซอสพริก  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง ซอสพริก  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งไว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากซอสพริก มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง ซอสพริก และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา ซอสพริก วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ ซอสพริกยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

แค่พูดถึง “ซอสพริก” ภาพข้าวไข่เจียวร้อน ๆ พร้อมกลิ่นหอม ๆ ของซอสพริกก็ลอยมาเลยใช่ไหมล่ะคะ หลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่า สำหรับคนไทยเรานั้น ซอสพริกถือเป็นทั้งเครื่องปรุงรสที่เอาไว้ใช้หมักเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ เพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดให้อาหารมีความอร่อยกลมกล่อมมากขึ้นแล้ว ยังสามารถใช้ทานเป็นน้ำจิ้มได้อีกด้วย เช่น ทานคู่กับไก่ทอด ลูกชิ้นทอด หรือจะทานกับเนื้อย่าง ก็ยิ่งชูรสอาหารได้ดีขึ้น เรียกได้ว่า เป็นของที่แทบทุกบ้านจะต้องมีติดครัวไว้เลยก็ว่าได้


ในปัจจุบัน มีซอสพริกหลากหลายประเภท รวมถึงสารพัดยี่ห้อที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด แต่การที่เราจะเลือกซื้อซอสพริกให้เหมาะกับเมนูอาหารของเรานั้น คุณรู้หรือไม่ว่าต้องเลือกจากอะไรบ้าง ? หากว่าเราทราบเคล็ดลับดี ๆ ก่อนการไปเลือกซื้อล่ะก็ จะทำให้เราได้ซอสพริกที่รสชาติอร่อยถูกใจแน่นอนค่ะ วันนี้ทีมงานมายเบสท์จึงได้รวบรวมทั้งวิธีเลือกและอันดับซอสพริกที่ขายดีของยี่ห้อต่าง ๆ มาฝากทุกคนในบทความนี้ จะมียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ !

"ซอสพริก" ถือเป็นเครื่องปรุงรสอาหารรสเผ็ดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมรับประทานกับอาหารแถบอเมริกาใต้ เอเชียใต้ รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน โดยจะมี “พริก” เป็นส่วนผสมหลักและส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำส้มสายชู, พริกไทย, กระเทียม, น้ำตาล เติมลงไปเพื่อให้ได้รสชาติเฉพาะของซอสพริกชนิดนั้น ๆ


และหากกล่าวนิยามคำว่า “ซอสพริก” คือ ซอสที่ทำมากจากพริกแล้วล่ะก็ ซอสทาบาสโก้ฝั่งอเมริกา, โคชูจังของเกาหลี, ซอสพริกเวียดนาม หรือแม้กระทั่งน้ำจิ้มไก่ของไทยเรา ก็ถือว่าอยู่ในหมวด "ซอสพริก" ด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งซอสพริกสามารถใช้เป็นทั้งเครื่องปรุงรสในอาหาร หรือนำมารับประทานเป็นน้ำจิ้มร่วมกับอาหารประเภทต่าง ๆ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นได้อีกด้วยค่ะ

อย่างแรกเลย เรามาดูวิธีการเลือกกันก่อนค่ะว่า การเลือกซอสพริกนั้นนอกจากจะต้องดูที่ความอร่อยถูกปากแล้ว ยังควรพิจาณาส่วนประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย ทั้งเรื่องของส่วนผสม, วัตถุดิบ, สารเติมแต่งชนิดต่าง ๆ เพื่อให้ได้ซอสพริกที่ดีและมีความปลอดภัยต่อตัวเองด้วยค่ะ !

แม้จะขึ้นชื่อว่า "ซอสพริก" เหมือนกัน แต่ก็ยังมีการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ซอสพริกแบบเผ็ดเปรี้ยวและซอสพริกแบบเผ็ดหวาน โดยซอสพริกแบบเผ็ดเปรี้ยวนั้นจะมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชูในปริมาณที่สูงกว่าน้ำตาล ให้รสชาติที่เน้นเผ็ดและเปรี้ยว เหมาะสำหรับรับประทานกับอาหารหลากหลายประเภท เช่น พิซซ่า พาสต้า หรืออาหารทะเล เพราะช่วยลดความเลี่ยน ดับกลิ่นคาว อีกทั้งยังเป็นการชูรสชาติของอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ


ส่วนซอสพริกแบบเผ็ดหวานจะมีสัดส่วนของน้ำตาลในปริมาณสูง ซอสมีรสชาติหวานนำ เหมาะกับทานคู่กับของทอดชนิดต่าง ๆ ช่วยให้อาหารมีอร่อยกลมกล่อม ไม่เผ็ดและเปรี้ยวจนเกินไป เหมาะสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้ที่ไม่ถนัดทานรสจัดค่ะ

ซอสพริกที่วางขายอยู่ทั่วไปมักจะมีระดับความเผ็ดให้เลือกเป็นแบบเผ็ดน้อย, เผ็ดปานกลาง, เผ็ดมาก หลากหลายระดับบอกให้เราทราบอยู่แล้ว แต่ระดับความเผ็ดที่ระบุลงบนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อาจจะไม่สามารถกำหนดได้อย่างชัดเจนหรือตรงตามมาตรฐานเดียวกันทุกยี่ห้อ


นอกจากนี้ แต่ละคนยังรับรู้รสเผ็ดได้แตกต่างกันออกไป จึงมีการวัดค่าความเผ็ดที่มีหน่วยเป็น Scoville Heat Units หรือ SHU เพื่อระบุระดับความเผ็ดของพริกชนิดต่าง ๆ โดยวัดจากค่าปริมาณน้ำตาลที่ใช้เจือจางจนความเผ็ดหายไป ยิ่งค่า SHU มากเท่าไหร่ "ความเผ็ด" ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความเผ็ดในระดับที่เราแนะนำสำหรับซอสพริกจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 SHU เพราะสามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อยได้โดยไม่เผ็ดจนเกินไปค่ะ


แม้ว่าการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจะช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลให้ระบบทางเดินอาหารระคายเคืองได้ ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเลย ดังนั้น ควรเลือกรับประทานในระดับความเผ็ดที่พอดีจะดีที่สุดค่ะ

รสชาติของซอสพริกจะแตกต่างกันตามถิ่นกำเนิดของประเทศผู้ผลิต ซึ่งมีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารและความชอบทางรสชาติของอาหารที่ไม่เหมือนกัน โดยส่วนผสมหลักที่มีในซอสพริก ได้แก่ พริก, น้ำตาล, น้ำส้มสายชู และเกลือ นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่เป็นเครื่องเทศต่าง ๆ ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม, พริกไทย, ยี่หร่า, เมล็ดผักชี เป็นต้น ซึ่งส่วนผสมพิเศษเหล่านี้ก็จะช่วยเพิ่มรสและกลิ่นของซอสพริกให้มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้น อย่าลืมเช็กส่วนผสมให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อนะคะ

ซอสพริกเป็นเครื่องปรุงรสอีกชนิดที่ช่วยทำให้อาหารธรรมดา ๆ ของคุณมีรสชาติที่อร่อยถูกปากมากขึ้น โดยซอสพริกส่วนใหญ่มักจะมีโซเดียมเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย แม้ว่าโซเดียมจะช่วยทำให้อาหารมีรสกลมกล่อมมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป คือ ไม่ควรบริโภคเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน เพราะหากเกินกว่านั้น ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดออกไปได้หมดและอาจสะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้น สำหรับคนที่รักสุขภาพแล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์แบบที่มีโซเดียมต่ำ ประมาณ 0-3 กรัม/หน่วยบริโภค 100 กรัม หรือไม่เกิน 450 มิลลิกรัม/หน่วยบริโภค 15 กรัม และควรทานแต่พอประมาณเพื่อให้ได้ทั้งความอร่อยและสุขภาพที่ดีนะคะ

ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารมักจะมีการใส่สารปรุงแต่งต่าง ๆ เพิ่มลงไป เช่น สีผสมอาหาร สารแต่งกลิ่น หรือวัตถุกันเสีย เพื่อเสริมให้มีสีสันสวยงามน่ารับประทานและสามารถยืดระยะเวลาการเก็บรักษาได้ ถึงแม้ว่าสารดังกล่าวอาจไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากใช้ในปริมาณพอเหมาะ แต่ถ้าบริโภคมากเกินไปอาจสะสมอยู่ในร่างกายจนก่อให้เกิดอันตรายได้ ดั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพแล้ว ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากวัตถุดิบธรรมชาติและมีวัตถุเจือปนให้น้อยที่สุดค่ะ

หลักจากที่ได้ศึกษาข้อมูลวิธีการเลือกซอสพริกกันมาพอสมควรแล้ว เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนคงพร้อมที่จะไปเลือกซื้อซอสพริกที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อยกันแล้วใช่ไหมคะ ? ต่อไปนี้เราจะขอแนะนำ 10 อันดับซอสพริกที่น่าอร่อย น่าสนใจ ทั้งยังได้รับความนิยมกันในหลายครัวเรือนมาฝากกันด้วย จะมียี่ห้อไหนถูกใจคุณบ้างนั้น ต้องตามมาดูกันค่ะ !

ซอสพริกเสริมวิตามิน A ยี่ห้อไฮนซ์ขวดนี้ ให้รสชาติเผ็ดแบบกลาง ๆ กำลังดี โดยมีส่วนผสม คือ พริกชี้ฟ้าสด 28%, น้ำตาลทราย 23%, น้ำส้มสายชูกลั่น 10% ไม่ใช้สารแต่งสี ไม่มีวัตถุกันเสียและผงชูรส ทำให้ซอสมีสีส้มสดใสเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบคุณภาพ เช่น เกลือเสริมไอโอดีน ที่มีวิตามิน A ช่วยบำรุงสายตา สำหรับคนที่กำลังมองหาซอสพริกที่ทั้งรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย ขอแนะนำซอสพริกขวดนี้เลยค่ะ

สำหรับซอสพริกสไตล์ Harissa หลอดนี้ มีถิ่นกำเนิดจากแอฟริกา โดยนำพริกไปย่างรมควันก่อนเพื่อให้มีกลิ่นหอม จากนั้นจึงเอามาทำเป็นซอสพริก จนได้ซอสที่ได้มีสีเข้มน้ำตาลปนส้ม ให้เนื้อสัมผัสเข้มข้นขึ้น มีรสชาติค่อนข้างเผ็ดมากพอสมควร เหมาะสำหรับรับประทานกับเนื้อสัตว์ย่างต่าง ๆ เช่น เนื้อแกะ ช่วยเพิ่มความหอมน่ารับประทานมากขึ้นและมีดีไซน์แบบหลอดที่ใช้งานง่าย สะดวก เพียงแค่บีบเท่านั้น หากใครอยากลองรสชาติซอสพริกแบบใหม่ ๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

Tabasco คือ ผลิตภัณฑ์ซอสพริกที่มีต้นกำเนิดจากอเมริกา เรื่องรสชาติอาจไม่ติดหวานเหมือนรสชาติที่เราคุ้นเคยนัก แต่ถ้าหากว่าคุณได้ลองแล้ว รับรองว่าจะต้องติดใจค่ะ เพราะมีรสชาติเฉพาะตัว โดยเน้นรสที่โดดเด่นของพริกและความเปรี้ยวของ Vinegar ซึ่งช่วยให้ซอสมีรสชาติเผ็ดเปรี้ยวกลมกล่อมมากขึ้น และที่สำคัญ คือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่เลย จึงเหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพอย่างยิ่ง รวมถึงคนที่ชอบรสเผ็ดมาก ๆ ต้องบอกว่าขวดนี้ตอบโจทย์สุด ๆ ค่ะ !

ใครที่ชอบซอสพริกแบบเผ็ดหวาน ลองดูขวดนี้เลยค่ะ เพราะมีส่วนผสมของพริก 35% ทำให้มีรสชาติเข้มข้นของพริกประมาณหนึ่งและมีความหวานเปรี้ยวแบบพอดี สามารถนำไปรับประทานคู่กับอาหารต่าง ๆ ได้ทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทย เช่น ทานกับพาสต้า พิซซ่า หรือจิ้มกับของทอดต่าง ๆ ก็อร่อยได้เหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ ยังมีแพ็กเกจแบบ Squeeze Bottle เพียงแค่หมุนฝาด้านบนแล้วบีบ ซอสก็ไหลออกมาง่ายดายเลยค่ะ สะดวกมากมาย แถมไม่เลอะมืออีกด้วย !

หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อแบรนด์กันดีอยู่แล้ว เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องยอดฮิตของโรซ่าแล้ว ก็ยังมีซอสพริกวางขายด้วย ซึ่งซอสพริกสูตรนี้ใช้ส่วนผสมจากพริกชี้ฟ้าแดง 27%, น้ำตาล 20%, น้ำส้มสายชู 10% ให้รสชาติที่ไม่เผ็ดมาก มีรสหวานนำเปรี้ยว จึงถูกใจคนที่ไม่ชอบทานรสเผ็ดจัดหลายคน และที่สำคัญ คือ ไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย มาพร้อมดีไซน์ขวดแบบคว่ำ ลดโอกาสที่ซอสสัมผัสกับอากาศแล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ ช่วยให้เก็บได้นานขึ้น อีกทั้งยังเทออกได้ง่าย ทำให้ซอสไม่เลอะมือด้วยค่ะ

แบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งซอสพริกขวดนี้ยังได้การันตีด้วยยอดขายดีติดอันดับ เพราะใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ทั้งพริกสดและกระเทียมสด ทำให้มีรสชาติ เปรี้ยว หวาน เผ็ดน้อยกำลังดี หลายคนนิยมนำไปหมักเนื้อสัตว์ก่อนนำไปย่าง ช่วยให้มีให้กลิ่นหอมน่ารับประทานมากขึ้น หรือจะนำไปทำเป็นน้ำจิ้มแบบต่าง ๆ ก็ให้รสชาติที่แสนอร่อย แถมยังไม่ใส่วัตถุกันเสียและผงชูรส จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพค่ะ

สำหรับซอสพริกแบรนด์ดังจากเกาหลีขวดนี้ กำลังได้รับความนิยมจากสาวกคนกินเผ็ดมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ซอสพริกที่มีความเผ็ดแบบสไตล์เกาหลี มีการใช้ผงพริกปาปริก้าเป็นส่วนผสมหลักถึง 35% และใช้ส่วนผสมของซอสถั่วเหลืองให้ความเค็มแทนเกลือ และคอร์นไซรัปแทนน้ำตาล ทำให้ได้กลิ่นหอมซอสของถั่วเหลืองไปด้วย ซอสมีรสเผ็ดหวานเค็มอย่างลงตัว อร่อยถูกปากทั้งคนเกาหลีและคนไทยเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบรับประทานความเผ็ดแบบไก่บอนซอน ไม่ควรพลาด รับรองว่ารสชาติเผ็ดจัดสะใจ พ่นไฟได้แน่นอน

แบรนด์น้องใหม่มาแรงของผลิตภัณฑ์ซอสพริกที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ส่วนผสมของพริก 4 ชนิด ได้แก่ พริกชี้ฟ้า, พริกยอดสนแห้ง, พริกขี้หนูแห้งและพริกกระเหรี่ยง ทำให้ได้ซอสพริกสีเข้มข้นแบบมีเอกลักษณ์ หอมกลิ่นพริก รสชาติเผ็ดจัดจ้านถึงใจ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย เช่น เป็นซอสผัดหรือน้ำจิ้ม เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานรสเผ็ดจัดสุด ๆ เลยค่ะ

อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องปรุงรส ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ซอสพริกออกมาหลายรสชาติ และที่กลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากเลยก็คือ ซอสพริกรสเผ็ดน้อย มีรสชาติหวานกลมกล่อม เป็นที่ติดอกติดใจคนที่ไม่ทานเผ็ดอย่างมากค่ะ อีกทั้งยังไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย ทั้งยังมีปริมาณโซเดียมต่อหน่วยต่ำ เหมาะสำหรับเมนูโปรดของเด็ก ๆ ทั้งหลายที่ไม่ทานเผ็ดมาก ต้องการรสชาติกลมกล่อม แต่ไม่ทำร้ายสุขภาพ ไม่ว่าจะใช้จิ้มของทอดหรือปิ้งย่างก็อร่อยได้ทุกเมนูเลยค่ะ

สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพ ต้องห้ามพลาดกับซอสพริกขวดนี้เลยค่ะ เพราะเป็นสูตรลดน้ำตาลและโซเดียม โดยได้รับการปรับปรุงสูตรจากสถาบันโภชนาการ ของมหาวิทยาลัยมหิดล ใช้สารให้ความหวานซอร์บิทอล (Sorbitol) ทดแทนน้ำตาล และเกลือโปแตสเซียม ซึ่งเป็นเกลือชนิดเดียวกับที่พบในในผักและผลไม้ มีการลดปริมาณโซเดียมลงและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง อีกทั้งยังมีรสชาติที่อร่อยถูกปากอีกด้วย ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพแบบนี้ ควรหามาไว้ติดบ้านสักขวดแล้วนะคะ

ซอสพริกสามารถเพิ่มรสชาติของอาหารให้มีรสชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้นแล้วแต่ความชอบและวิธีปรุงของแต่ละคน ซึ่งหากเป็นเมนูที่ผู้ใหญ่รับประทานกันเอง ก็สามารถใส่ซอสพริกลงไปในปริมานมากได้ แต่ถ้าหากทำให้เด็ก ๆ ทานด้วย อาจจะต้องหาซอสที่ไม่เผ็ดมากหรือผสมซอสมะเขือเทศลงไป เพื่อให้อาหารมีรสอ่อนลง แต่ยังคงสีสันจุดเด่นของซอสพริกเอาไว้


นอกจากนี้ ซอสพริกยังสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะนำไปหมักหมูย่างบาร์บีคิว ทำซอสหรือน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ด หรือเมนูสุดฮิตอย่างไก่เผ็ดเกาหลีก็ใช้ซอสพริกเป็นส่วนผสมเพื่อให้มีรสเผ็ดจัดจ้าน เพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ


และสำหรับสาย Healthy ทั้งหลายที่ชอบทานอาหารรสจัด สามารถนำซอสพริกเหยาะผสมกับมายองเนสเล็กน้อย สำหรับทำน้ำสลัดแสนอร่อยที่มีทั้งรสเปรี้ยว, หวาน, มัน, เผ็ดครบรส ทำให้คุณได้ทานอาหาร Healthy ที่ดีต่อสุขภาพ และยังมีรสชาติถูกปาก เห็นไหมล่ะคะว่า แค่มีซอสพริกเพียงอย่างเดียว คุณก็สามารถรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ออกมาได้อย่างมากมายเลยค่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้กันแล้ว หลาย ๆ คนคงจะเจอยี่ห้อซอสพริกที่ถูกใจกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ การซื้อซอสพริกรสชาติใหม่ ๆ ไว้ลองทาน ก็ถือเป็นการเพิ่มสีสันบนโต๊ะอาหารในแต่ละวันได้ และสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ ควรจะดูอัตราส่วนพริกและส่วนผสมอื่นให้ละเอียดก่อนซื้อด้วย เพราะแม้ว่าซอสพริกจะมีส่วนผสมสำคัญที่ใช้เหมือนกัน แต่บางยี่ห้อก็มีส่วนผสมพิเศษและสารเติมแต่งอื่น ๆ ใส่เข้ามาเพิ่มเติม ดังนั้น คุณจึงควรพิจารณาให้ละเอียดอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ซอสพริกที่อร่อยถูกใจคุณที่สุดค่ะ