เดี๋ยวนี้คลีนซิ่งเขาไม่ได้มีแค่สูตรวอเตอร์หรือออยล์แล้วนะจ๊ะ ล่าสุดมาในรูปแบบ “บาล์ม” ซึ่งมีลักษณะคล้ายขี้ผึ้งแต่นิ่มกว่า สามารถใช้ขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางได้อย่างอ่อนโยนแม้มีผิวแห้งหรือแพ้ง่ายก็ตาม หลายแบรนด์สกินแคร์เลยเริ่มทยอยออกผลิตภัณฑ์มาให้สาว ๆ เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นสูตรที่สัมผัสน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำนม หรือเป็นออยล์ สูตรกระชับรูขุมขน ให้ความชุ่มชื้น เป็นต้น แต่ความหลากหลายเหล่านี้เองที่อาจทำให้มือใหม่พลาดซื้อผิดสูตรได้ วันนี้ผู้เขียนเลยนำข้อมูลดี ๆ มาแชร์ให้อ่านกันค่ะ
ในส่วนแรก ผู้เขียนชวนเพื่อน ๆ มาอ่าน “วิธีการเลือกซื้อ” และเมื่อทุกคนรู้แล้วว่าสภาพผิวหน้าของตัวเองเหมาะกับคลีนซิ่งสูตรไหนค่อยตามมาอ่าน “9 คลีนซิ่งบาล์มยอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแต่ละส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
เกริ่นถึงน้องเขาคร่าว ๆ ในบทนำกันมาแล้ว คราวนี้เราลองมาทำความรู้จักเขากันอย่างลึกซึ้งดีกว่าค่ะ มาดูกันว่าเจ้าไอเทมชิ้นนี้มีลักษณะอย่างไร และดีกว่าคลีนซิ่งแบบอื่น ๆ อย่างไรบ้าง
เมื่อเปิดกระปุกคลีนซิ่งบาล์มออกมาเนื้อบาล์มจะมีสถานะเป็นของแข็งค่ะ แต่พอสัมผัสกับผิวซึ่งมีความอุ่นสูงกว่าในกระปุกก็จะละลายและเปลี่ยนเป็นน้ำมันหรือน้ำนมแล้วแต่สูตรของแต่ละแบรนด์ (คล้ายกับลิปบาล์มหรือบอดี้บาล์มนั่นเองค่ะ) ทำให้เกลี่ยไปกับผิวได้ง่ายและเกิดการเสียดสีกับผิวน้อย เหมาะกับการใช้นวดสปาหน้าเพื่อความผ่อนคลายก่อนล้างหน้าเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
เพื่อน ๆ เคยเป็นกันไหมคะ วันไหนที่แต่งหน้าจัด ๆ เช็ดเครื่องสำอางทีเล่นเอาเหนื่อย เพราะหน้าถูกถูไปมาไม่รู้กี่รอบ ยิ่งถ้าใครเป็นคนผิวบอบบางหรือแห้งอยู่แล้วด้วยนี่บอกเลยว่า “พัง!” เพราะการเช็ดหน้าบ่อย ๆ จะเป็นการรบกวนผิว แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งบาล์มแทนจะดีกว่าค่ะ เพราะเนื้อสัมผัสของเขาช่วยถนอมผิวขณะทำความสะอาด แถมยังมีพลังการชำระล้างอย่างล้ำลึก ได้ผลลัพธ์เป็นผิวหน้าสะอาด ไร้เมคอัพตกค้างในรูขุมขน
นอกจากนี้หลังใช้แล้วยังไม่ทำให้หน้าแห้งตึงด้วยนะคะ ใครที่กังวลว่าหน้าจะโทรมหรือดูหมอง แนะนำให้รีบซื้อติดห้องน้ำสักกระปุกสองกระปุกเลยค่ะ
แค่เริ่มต้นก็น่าใช้แล้วใช่ไหมคะ เอาล่ะ คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าลักษณะของคลีนซิ่งบาล์มที่เหมาะกับเราควรเป็นอย่างไร
คลีนซิ่งบาล์มมีวิธีการใช้งาน 2 ลักษณะด้วยกันค่ะ ได้แก่ แบบเช็ดออกด้วยสำลี จะเน้นการลบเครื่องสำอางอย่างรวดเร็ว ในขณะที่แบบที่ 2 คือ แบบล้างออกจะเหมาะกับการใช้ขณะอาบน้ำมากกว่า เพื่อน ๆ ลองเลือกดูกันว่าแบบไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุดนะคะ
ต่อเนื่องมาจากหัวข้อก่อนหน้า สำหรับใครที่เลือกซื้อแบบล้างออก อย่าลืมเช็คด้วยนะคะว่าสูตรนั้นสามารถใช้งานขณะมือและใบหน้าเปียกไหม เพราะบางสูตรสามารถใช้งานได้เฉพาะตอนที่มือและใบหน้าแห้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะคะ
คลีนซิ่งบาล์มบางสูตรถูกพัฒนามาให้ทำหน้าที่เป็นโฟมล้างหน้าไปด้วยในตัว ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงที่ใบหน้าจะถูกเสียดสีมากเกินไปจากการล้างหน้าหลายขั้นตอน สำหรับใครที่เลือกสูตรนี้หรือต้องการการบำรุงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่มีสภาพผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่หลังใช้แล้วมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฟิล์มเคลือบผิวหน้าไว้นะคะ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าได้นานขึ้น
Point : คลีนซิ่งบาล์มที่ทิ้งมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฟิล์มเคลือบผิวหน้าหลังล้างเสร็จส่วนมากจะให้ความรู้สึกเหมือนล้างเนื้อบาล์มออกไม่หมดค่ะ ใครที่รู้สึกว่าล้างน้ำออกกี่ครั้งก็ยังรู้สึกลื่น ๆ นั่นอาจหมายถึงคลีนซิ่งดังกล่าวมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฟิล์มก็ได้นะคะ ไม่ต้องตกใจ
เพราะสภาพผิวแพ้ง่ายทำให้ไวต่อสารเคมีต่าง ๆ ฉะนั้นสาว ๆ ที่มีสภาพผิวลักษณะนี้จึงควรเลือกซื้อสูตรที่ระบุว่าเป็น “Additive-free” เพราะปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม, สารกันเสีย, แอลกอฮอล์, สีสังเคราะห์ อย่างไรก็ตามบางยี่ห้อแม้ว่าจะระบุว่าเป็นสูตรดังกล่าว ก็อาจใส่สารบางตัวมาได้ ดังนั้นผู้เขียนแนะนำให้อ่านที่ส่วนประกอบจะดีกว่า นอกจากนี้ถ้าใช้แล้วเกิดอาการคันหรือแดงลอก ให้หยุดใช้ทันทีแล้วรีบไปพบแพทย์นะคะ
แม้ว่าจะเป็นเนื้อบาล์มเหมือนกัน แต่ทุกสูตรทุกยี่ห้อก็มีสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปค่ะ บางสูตรค่อนข้างนิ่ม ในขณะที่อีกสูตรกลับแน่นกว่า ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของเพื่อน ๆ และฤดูกาลที่นำไปใช้ ถ้าฤดูร้อนอาจจะซื้อที่เนื้อเบาหน่อย เวลาใช้จะได้ไม่รู้สึกเหนอะหนะมากเกินไป ตรงกันข้ามกับฤดูหนาวที่อาจจะเลือกเนื้อแน่นนิดหนึ่งและมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูงกว่า
คราวนี้เพื่อน ๆ คงรู้แล้วว่าคลีนซิ่งบาล์มที่เหมาะกับตัวเองควรมีลักษณะอย่างไร ต่อไปเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามียี่ห้อไหนน่าซื้อบ้าง แอบกระซิบว่าน่าซื้อทุกยี่ห้อเลยค่ะ ขนาดผู้เขียนเองยังเลือกไม่ถูก เผลอ ๆ ต้องซื้อ 2 ชิ้นเลยค่ะ เพื่อน ๆ เตรียมเงินในกระเป๋าให้ดีเลยนะจ๊ะ
แม้ชื่อน้องจะยาวมากจนหลายคนจำไม่ได้ แต่คุณสมบัติของเขาน่าจดจำมากเลยค่ะ เพราะเนื้อบาล์มให้สัมผัสเนียนนุ่มอ่อนละมุนกับผิวหน้า พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หลังจากใช้เป็นประจำพบว่าสุขภาพผิวดีขึ้น ทั้งนวลเนียน, กระชับและกระจ่างใส นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอโรม่า ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายขณะสปาหน้าได้อีกด้วยนะคะ เรียกว่าทั้งสวยทั้งมีความสุขไปในตัวเลยค่ะ
ข่าวดีสำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์คลีน ๆ ล่าสุดแบรนด์นี้เขาได้ออกคลีนซิ่งบาล์มที่สกัดจากธรรมชาติถึง 82%! เช่น กุหลาบ, ลาเวนเดอร์, เมล็ดชาและเมล็ดทับทิม ตรงเข้าช่วยทำความสะอาดผิวลึกถึงระดับรูขุมขน พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้นและบำรุงด้วยสารอาหารต่าง ๆ ทำให้ผิวของคุณกลับมาอิ่มเอิบขึ้นอีกครั้ง เนื้อบาล์มค่อนข้างหนัก แนะนำให้วอร์มก่อนโดยเฉพาะเมื่อใช้ช่วงหน้าหนาว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และล้างออกง่าย
สาวผิวแห้งเตรียมกรี๊ดเลยค่ะ เพราะยี่ห้อนี้เขาใช้ส่วนผสมหลักจาก Sweet Almond Oil, Cocoa Butter และ Shea Butter ผสานคุณค่าจากวิตามินอี ช่วยลบคราบเครื่องสำอางได้อย่างหมดจรดอย่างอ่อนโยน พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้นและเพิ่มสารบำรุงให้กับผิว โดยมีเนื้อบาล์มเนียนนุ่มมาพร้อมหอมกลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ทิ้งฟิล์มมอยส์เจอร์ไรเซอร์เคลือบผิวหลังเช็ดออก
คลีนซิ่งบาล์มที่อุดมไปด้วยคุณค่าจาก Safflower Oil และ Aloe Vera พร้อมผสานด้วยอนุพันธ์วิตามินอี ช่วยล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า แต่ยังคงความชุ่มชื้นของผิวไว้อยู่ บาล์มยี่ห้อนี้เมื่อสัมผัสกับผิวจะกลายเป็นออยล์และเมื่อสัมผัสน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม เกลี่ยง่ายไม่บาดผิวอย่างแน่นอนค่ะ
อีกหนึ่งยี่ห้อที่เน้นใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยคุณค่าจาก Mango butter, Rosehip oil และ Coconut oil โดยมีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนพอเหมาะ มีกลิ่นหอมธรรมชาติ ในกล่องมาพร้อมผ้าออร์แกนิคที่นุ่มกว่าผ้าขนหนูทั่วไป ช่วยลบคราบเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดแม้เป็นสูตรกันน้ำ สาว ๆ หลายคนชื่นชอบเพราะใช้ได้แม้กระทั่งบริเวณรอบดวงตาที่บอบบาง เรียกว่าคุ้มราคามาก ๆ เลยค่ะ
คลีนซิ่งบาล์มที่อุดมไปด้วยส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ เช่น เชียร์บัตเตอร์, น้ำมันมะพร้าว และสารสกัดจากดอกไม้นานาพันธุ์ มาพร้อมช้อนจิ๋วช่วยตักผลิตภัณฑ์ โดยเนื้อบาล์มจะเปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อสัมผัสกับน้ำ ลบล้างเครื่องสำอางได้ในระดับหนึ่ง และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังใช้ อย่างไรก็ตามบางคนยังบ่นเรื่องกลิ่นอยู่ค่ะ แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสก็ถือว่าน่าสนใจเลยค่ะ
บาล์มสูตรนี้อยู่ในไลน์เดียวกับเซรั่มตัวดังที่สาว ๆ หลายคนเลือกซื้อค่ะ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อบางเบาเปลี่ยนเป็นออยล์เมื่อโดนน้ำ ช่วยลบคราบเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด โดยไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้าและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ขณะเดียวกันก็ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการดูแลขั้นต่อไป เรียกว่ากลายเป็นอีกหนึ่งลูกรักของใครหลายคนเลยค่ะ
ข่าวดีสำหรับสาวผิวบอบบางหรือผู้ที่ใส่ใจอยากใช้ของคลีนเป็นพิเศษ เพราะสูตรนี้เขาปราศจากพาราเบน, Sulfates, Phthalates, Mineral oil, Alcohol และสีสังเคราะห์ โดยมีเนื้อที่บางเบา เมื่อสัมผัสน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นออยล์ ล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดแม้เป็นสูตรกันน้ำ หลังใช้แล้วผิวไม่มันและไม่แห้งตึง ผิวยังคงอิ่มน้ำ สาว ๆ ถูกใจเพราะกระปุกใหญ่ปริมาณเยอะแถมมาในราคาประหยัดค่ะ
เมื่อพูดถึงคลีนซิ่งบาล์ม หลายคนก็จะนึกถึงยี่ห้อนี้ ด้วยเนื้อบาล์มที่นุ่มละมุนไม่เหนอะหนะจนเกินไป เมื่อสัมผัสกับน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นน้ำนม ช่วยลบเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดและอ่อนโยนด้วย Safflower seed oil ปราศจากพาราเบน, Phthalates และน้ำหอม ใช้แล้วไม่ทำลายสมดุลธรรมชาติของผิว ได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดสิวค่ะ
“คลีนซิ่งบาล์ม” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการถนอมผิวขณะเช็ดเครื่องสำอางมากเป็นพิเศษ หรือผู้ที่ต้องการการดูแลที่มากขึ้น ซึ่งมีวิธีการเลือกที่ง่ายแสนง่าย แค่เลือกสูตรที่เหมาะกับการใช้งานของเรา และมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างพอเหมาะ ยิ่งถ้าใครเป็นคนผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งควรซื้อสูตรที่ปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่าง ๆ รับรองว่าคุณจะมีผิวหน้าที่ดีขึ้นเลยค่ะ
อย่างที่ทราบกันดีว่าคลีนซิ่งมีหน้าที่หลักในการทำความสะอาดและขจัดคราบเครื่องสำอาง ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคุณสมบัติเป็นสกินแคร์นะคะ หลังจากใช้แล้วเราควรจะบำรุงผิวหน้าต่อด้วยครีมอื่น ๆ อีก