ในเช้าวันที่ต้องเร่งรีบ สาว ๆ คงอยากให้ไดร์เป่าผมทำหน้าที่เป็นทั้งหวีสางผมทั้งม้วนผมไปได้ในตัวเพื่อช่วยลดขั้นตอนในการจัดแต่งทรงผมและเป็นการประหยัดเวลาไปในตัวด้วยใช่ไหมคะ ในวันนี้เราเลยจะมาแนะนำไอเทมที่ชื่อว่า "แปรงม้วนผมไฟฟ้า" ให้สาว ๆ รู้จักกัน ไอเทมนี้แหละค่ะที่ให้สาว ๆ หวีและแต่งผมได้ในคราวเดียว หลายคนอาจเคยมองหาผ่านการอ่านรีวิวในอินเทอร์เน็ต แต่อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันก่อนจะมาเจอบทความนี้ว่าแปรงม้วนผมไฟฟ้ามีแนะนำน้อยมากและแทบจะไม่มีที่ไหนสอนวิธีการเลือกซื้อเลย
บทความนี้จะให้ความกระจ่างกับสาว ๆ ว่าแปรงม้วนผมไฟฟ้าคืออะไร วิธีการเลือกซื้อเป็นอย่างไร เทคนิคในการใช้มีอะไรบ้าง และแน่นอนสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเรามี 7 อันดับแปรงม้วนผมที่น่าใช้ที่สุดมานำเสนอ ซึ่งผ่านการเปรียบเทียบจากราคา, คุณสมบัติและรีวิว เพื่อให้ทุกคนได้เลือกซื้อสินค้าได้อย่างชาญฉลาดและตรงตามความต้องการมากที่สุด โดยแต่ละหัวข้อจะมีเนื้อหาอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลยค่ะ
การจะเปลี่ยนผมที่กระเซอะกระเซิงหลังจากตื่นนอนตอนเช้าให้เข้าทรงสวยงามได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องถือไดร์เป่าผมไว้มือนึง ถือแปรงหวีผมไว้อีกมือใครที่เบื่อกับกิจวัตรแบบนี้ให้เปลี่ยนมาใช้แปรงม้วนผมไฟฟ้าดีกว่าค่ะ ถือเจ้าแปรงม้วนผมไฟฟ้าไว้มือเดียวจบ ได้ผมสวยอย่างง่ายได้ช่วยเริ่มวันใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
แปรงม้วนผมไม่ทำร้ายเส้นผมเหมือนกับที่หนีบผมหรือแกนม้วนผมแต่ก็ยังแต่งทรงผมได้หลายรูปแบบรวมทั้งสร้างลอนผมสวย ๆ ให้คุณได้เหมือนกัน วิธีการใช้ไม่ลำบากอะไรเลย ไม่ต้องฉีดสเปรย์แต่งทรงผมก็ยังได้ เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่อยากลงทุนซื้ออุปกรณ์หลายชิ้นในการแต่งผมและคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบค่ะ
เมื่อก่อนผู้เขียนก็เป็นอีกหนึ่งคนค่ะที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไร เลยอาศัยการอ่านรีวิวเอา แต่ก็อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า “มีให้อ่านน้อยมาก” ผลสุดท้ายเลยต้องไปหน้าร้านให้พนักงานแนะนำเอา ซึ่งเสียเวลามากกว่าการชอปปิงออนไลน์มาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ ต้องเจอปัญหาเหมือนกัน ผู้เขียนเลยรวบรวมไกด์ไลน์ต่าง ๆ มาจากบทความแนะนำของญี่ปุ่น ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและทำตามกันได้ง่าย ๆ ที่ด้านล่างนี้แล้วค่ะ
ไดร์เป่าผมแบบหวี คือ ไอเทมที่รวมฟังก์ชันของไดร์เป่าผม, หวี และที่ม้วนผมเข้าด้วยกัน ลักษณะของหัวแปรงจึงมีผลต่อทรงผม ซึ่งเพื่อน ๆ ควรจะเลือกอย่างไร ผู้เขียนได้สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ให้อ่านกันแล้วค่ะ
ถ้าอยากได้ลอนผมที่ชัดเจนแนะนำให้เลือกแปรงม้วนผมไฟฟ้าชนิดที่เป็นหัวแปรงแบบ 360 องศา โดยให้เริ่มม้วนที่ปลายเส้นผมเข้าหาโคน และถ้าอยากให้ลอนผมคงรูปอยู่นานก็ให้เลือกรุ่นที่แปรงผมมีเส้นแปรงถี่ติดกัน แต่แปรงม้วนผมแบบนี้มีข้อควรระวังเหมือนกัน เพราะเดิมหัวแปรงลักษณะนี้มีโอกาสทำให้ผมพันเข้าหากันง่ายอยู่แล้วถ้าคนที่กลัวผมพันกันก็ให้เลือกรุ่นที่เคลือบขนแปรงด้วยฟลูออรีน ซึ่งจะช่วยให้สางผมได้ลื่นขึ้นค่ะ
หลายคนคงคุ้นเคยกับหัวแปรงลักษณะนี้กันดีอยู่แล้ว เพราะแทบทุกบ้านต้องมีแปรงหวีผมติดโต๊ะเครื่องแป้งกันทั้งนั้น โดยลักษณะแบบนี้ม้วนผมแล้วจะให้ลอนที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทำร้ายผมน้อยกว่า เพราะความร้อนถูกแผ่ออกมาแค่ด้านเดียว พื้นที่ที่จะสัมผัสกับเส้นผมจึงไม่มากนัก อาจจะทำลอนผมไม่ได้แต่สามารถแก้ปลายผมที่ไม่ได้ทิศทางให้งุ้มเข้าสวยงามได้ เหมาะกับสาว ๆ ที่เพิ่งเริ่มใช้แปรงม้วนผมและยังไม่คุ้นชินกับการแต่งผมค่ะ
ปกติแล้วแปรงม้วนผมไฟฟ้าจะใช้กำลังวัตต์ราว ๆ 350-1,000 วัตต์ค่ะ ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น โดยรุ่นที่ใช้กำลังเยอะ ความร้อนก็จะมากตาม ทำให้เซ็ตผมหรือม้วนเป็นลอนได้ง่ายขึ้น แต่ก็ทำให้ผมถูกทำร้ายได้ง่ายขึ้นด้วยเหมือนกัน ถ้ากำลังน้อยไปผมก็ไม่แห้งดังนั้นกำลังไฟฟ้าที่พอเหมาะสำหรับการเป่าผมให้แห้งจึงควรมีค่าประมาณ 700 วัตต์
ถ้าเลือกรุ่น 500W จะเหมาะในการใช้เพื่อแก้ผมชี้ตอนตื่นนอนให้เข้าทรงแค่นั้น วิธีใช้ก็ไม่ควรให้ผมเปียกมากเพื่อจะได้ลดเวลา และลดโอกาสเกิดผมเสียได้ ถ้าอยากแต่งผมจริงจังให้เลือกรุ่น 1000W ที่สร้างลอนผมได้ชัดและจัดทรงได้เร็ว เวลาเลือกซื้อเพื่อน ๆ จึงควรเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเองด้วยนะจ๊ะ
แปรงม้วนผมไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถือด้วยมือข้างเดียว รุ่นที่เพื่อน ๆ ควรเลือกซื้อจึงควรมีน้ำหนักไม่มาก ที่เราแนะนำคือราว ๆ 300 กรัม รูปร่างของส่วนก้านจับก็ควรรับกับรูปมือเพื่อให้ถือง่าย และถ้ามีปุ่มควบคุมอยู่บริเวณนิ้วโป้งก็ยิ่งทำให้ใช้ง่ายขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตามรูปร่างและน้ำหนักที่ใช้ง่ายของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ถ้าใครมีโอกาสได้ไปชอปปิงที่หน้าร้านเองเลย แนะนำให้ลองถือ เพื่อดูว่าหยิบจับถนัดมือไหม แต่ถ้าใครไม่สะดวกจริง ๆ ก็ให้ลองหารีวิวอ่านดูเพื่อความแน่นอนก่อนซื้อนะคะ
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าความร้อนมักทำร้ายเส้นผมให้แห้งเสียได้ง่าย ดังนั้นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนควรคำนึงเวลาเลือกซื้อไดร์เป่าผม ไม่ว่าจะแบบหวีหรือธรรมดาก็ตาม คือ กลไกการทำงานที่เป็นมิตรกับเส้นผม ส่วนจะมีฟังก์ชันใดบ้าง ผู้เขียนได้ลิสต์ให้อ่านง่ายขึ้นที่ด้านล่างนี้แล้วค่ะ
ระบบนี้เครื่องจะปล่อยไอออนลบออกมาขณะใช้งาน โดยประจุเหล่านี้ลดไฟฟ้าสถิตบนเส้นผมที่เกิดจากการเสียดสีของเส้นผมเอง และจะซึมลึกถึงเส้นผมเพื่อมอบความชุ่มชื้น ให้ผมเงางามและนุ่มสลวย ลดความเสี่ยงที่จะแห้งเสีย ทำให้ฟินิชลุคของคุณดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น แต่เพื่อให้ไอออนแสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ ขณะใช้ควรปรับปริมาณลมไม่ให้เป่าออกมาแรงเกินไป หรือเลือกรุ่นที่แรงลมไม่เยอะ เพราะถ้าลมแรงจะเป็นไอร้อนที่ส่งตรงสู่ผมแทนทำให้เส้นผมเสียหายได้
คนที่ผมพันกันง่าย เส้นผมหยาบกร้านไม่เป็นประกาย เราแนะนำให้เลือกแปรงม้วนผมไฟฟ้ารุ่นที่มีลมเย็นเป่าด้วยค่ะ เพราะจะช่วยให้เกล็ดผมปิด ปกป้องผมจากความร้อน และทำให้ผมเปล่งประกายสุขภาพดี ผมไม่หยักชี้ง่าย ๆ ดังนั้นใครที่อยากให้ทรงผมดูดีตลอดทั้งวัน หลังจากเซ็ตผมด้วยความร้อนแล้ว ให้ย้ำอีกครั้งด้วยลมเย็น เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมที่จะอวดเสน่ห์ของคุณให้ทุกคนได้เห็นแล้วค่ะ
เรตราคาของไอเทมชิ้นนี้มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันในการใช้งาน ถ้ามี Option เยอะหน่อย ราคาก็จะสูงขึ้น แต่บางทีการที่มีหัวเปลี่ยนหลากหลายเกินไปจนใช้ไม่หมด หรือว่าใช้ไม่เป็นก็จะไม่คุ้มเงินที่จ่ายไป ในทางกลับกันรุ่นที่เน้นการใช้งานทั่ว ๆ ไปราคาก็จะถูกลงมาและการใช้งานก็ไม่ซับซ้อนจนเราใช้ได้คุ้มค่ามากกว่า ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องใช้เพื่อไดร์ผมหรือจัดแต่งทรงอย่างง่าย ๆ ทุกวัน แนะนำให้เลือกรุ่นที่ราคาย่อมเยาจะดีกว่าค่ะ
สาวนักเดินทางที่ชอบไปเที่ยวต่างประเทศน่าจะเคยเจอเหตุการณ์ที่ว่า โรงแรมที่พักไม่มีไดร์เป่าผมไว้ให้หรือมีแต่ใช้ไม่ได้ดั่งใจ ดังนั้นเพื่อเป็นทางออกที่ดีสาว ๆ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้กับแรงดันไฟฟ้าในต่างประเทศได้ด้วย เพราะมันง่ายกว่าการต้องพก Adapter หรือปลั๊กติดตัวไปด้วยเยอะ แถมประหยัดมากกว่า และเหนือสิ่งอื่นได้คือทำให้เราหมดกังวลด้วยค่ะ
ไหน ๆ ถ้าเลือกซื้อรุ่นที่ใช้ในต่างประเทศแล้วก็แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบป้องกันเส้นผมอย่างระบบไอออนพร้อมไปด้วยเลย เพราะว่าบางทีสภาพอากาศ สภาพน้ำที่เปลี่ยนไปเมื่ออยู่ต่างประเทศอาจจะทำร้ายเส้นผมเราได้ ควรให้ฟังก์ชันเสริมเหล่านี้เข้ามาช่วยเหลือในการปกป้องเส้นผมของเราค่ะ
ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าผลิตภัณฑ์แปรงม้วนผมไฟฟ้านี่ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนักในบ้านเรา แบรนด์ที่ดัง ๆ ก็มีไม่กี่แบรนด์ค่ะ ที่เห็นบ่อย ๆ ก็คงเป็น Panasonic, Lesasha, Philips ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยดีและน่าเชื่อถือค่ะ โดยเฉพาะ Panasonic ที่นอกจากฟังก์ชันครบครันแล้ว รูปทรงของผลิตภัณฑ์ก็สวยงามมีระดับอีกด้วย
นอกจากแบรนด์ดังกล่าวแล้วแบรนด์เล็ก ๆ ก็พอมีนำแปรงม้วนผมไฟฟ้าออกมาจำหน่ายอยู่บ้างค่ะ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยในการใช้ก็อยากให้ทุกเลือกแบรนด์ที่มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้ไว้ก่อน อาจจะพึ่งรีวิวในเน็ตหรือค้นหาข้อมูลจากเว็บทางการของแบรนด์ดูก็ได้ค่ะ
ไม่น่าเชื่อกันใช่ไหมคะ ว่าแค่ไดร์เป่าผมแบบหวีแค่นี้จะมีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงมากขนาดนี้ แต่เพื่อความสวย เราต้องอย่าละเลยเชียวนะคะ ดังนั้นลำดับต่อไป เราไปอ่านข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจกันดีกว่าค่ะ เพื่อน ๆ จะได้มีทรงผมที่สวยเก๋ไปอวดสายตาคนอื่นกัน แต่อย่าลืมนะคะ “เลือกสิ่งที่เหมาะกับเรา” มากกว่าจะยึดติดกับอันดับเพียงอย่างเดียว
หลายคนคงคุ้นเคยกับแบรนด์นี้กันดีอยู่แล้ว แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักรุ่นนี้ต้องบอกก่อนว่าแบรนด์นี้มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เยอะมากเลยค่ะ แนะนำให้เพื่อน ๆ จำชื่อรุ่นเอาไว้ให้ดี เวลาซื้อจะได้ไม่พลาด โดยรุ่นนี้จุดเด่นอยู่ที่มีหัวแปรงให้เปลี่ยนถึง 4 แบบ ครอบคลุมทั้งการไดร์ผมธรรมดาไปจนถึงม้วนลอน พร้อมปกป้องไม่ให้แห้งเสียด้วยระบบไอโอนิคและใช้กำลังไฟ 1000 วัตต์
ผลลัพธ์หลังใช้งานจริง หลายคนบอกว่าความร้อนกำลังดี ใช้งานง่ายและรวดเร็วทันใจ แต่บางคนยังบ่นว่าระบบไม่ค่อยเสถียร อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะรุ่นนี้เขามีใบรับประกัน 2 ปีเลยทีเดียว
นอกจากหน้าตาจะสวยเหมือนดอกกุหลาบแล้ว รุ่นนี้เขายังมีดีด้านอื่นอีกนะจ๊ะ โดยมีหัวแปรงให้เปลี่ยนตามใจชอบกันถึง 3 แบบ ไม่ว่าคุณจะอยากได้ผมลอน ผมตรง หรืออยากเป่าผมให้แห้งก็สามารถทำได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังช่วยบำรุงเส้นผมด้วยการปล่อยไอออนลบและเคราตินขณะใช้ มาพร้อมฟังก์ชันลมเป่าเย็นและเทคโนโลยี Airstyler ที่หมุนแปรงได้ 2 ทิศทาง ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยใช้กำลังไฟฟ้า 800 วัตต์
สำหรับการใช้งาน หลายคนบอกว่าเหมาะกับคนผมยาวและไม่หนามากนัก โดยสามารถใช้งานได้ง่าย ให้ผลลัพธ์ตามคำอวดอ้าง แต่บางคนยังบ่นว่าตัวล็อกหัวแปรงขยับเล็กน้อย แม้ไม่เปราะบางจนหลุด แต่ทำให้เกิดความรำคาญบ้างในบางจังหวะ
แปรงม้วนผมที่มาพร้อมกับไอเดียไม่เหมือนใครของ Panasonic ตัวนี้ให้ความร้อนสู่ผมด้วยไอความร้อนจากแกนทำความร้อน แปรงส่วนหนึ่งสามารถกดเป็นเหมือนคลิปหนีบผมได้ ช่วยทำให้ม้วนผมได้ลอนที่ละเอียดขึ้น แต่ถ้าไม่ใช้คลิปหนีบก็จะให้ลอนที่หลวม ๆ สวยแบบธรรมชาติ เพิ่มความหลากหลายโดยไม่ต้องเปลี่ยนหัวแปรงให้ยุ่งยากค่ะ
สาว ๆ ที่ต้องทำงานห้องแอร์อากาศแห้งต้องปลื้ม เพราะแปรงสามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตตัวการที่ทำให้ผมชี้ฟูได้ ตัวแปรงทำความร้อนได้ 180 องศาและปรับได้ 2 ระดับ พร้อมใช้งานในแค่ 60 วินาทีค่ะ
อีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ เพราะสามารถเปลี่ยนหัวได้ 2 แบบ ทั้งหัวแบบไดร์เป่าผมทั่วไป มีระบบ ThermoProtect ที่เป่าผมด้วยอุณหภูมิพอเหมาะ และหัวแปรงที่ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่เส้นผมจะพันอุปกรณ์เวลาม้วนผม ใช้กำลังไฟ 800 วัตต์ มาพร้อมฟังก์ชันเด่น ๆ เช่น ลมเป่าเย็น ช่วยลดการแห้งเสียของเส้นผม, ไอออนลบช่วยปิดเกล็ดผม และปรับเปลี่ยนความเร็วและความร้อนได้หลายระดับ
การใช้งานของรุ่นนี้ก็ค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะสามารถไดร์ไปด้วย ม้วนผมไปด้วยได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าแกนจะร้อนจนลวกมือ อย่างไรก็ตาม บางคนยังบ่นว่าเสียงไดร์ดังและขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงไม่เหมาะกับคนผมสั้น
อีกหนึ่งรุ่นที่มีฟังก์ชัน Ionity ปล่อยประจุลบขณะใช้งาน ช่วยปิดเกล็ดเส้นผม ทำให้ผมยังคงกักเก็บความชุ่มชื้นในโครงสร้างได้ เส้นผมจึงนุ่มสลวยไม่แห้งเสีย มาพร้อมฟังก์ชันการควบคุมอุณหภูมิได้ 2 ระดับ และขณะใช้งานยังค่อนข้างเงียบ ด้วยเสียงเครื่องทำงานเพียงแค่ 59 เดซิเบลเท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้กำลังไฟฟ้า 650 วัตต์ จึงเหมาะกับผู้ที่เน้นการไดร์ผมเป็นหลัก
หลายคนที่ซื้อไปต่างบอกว่าวัสดุแข็งแรงคงทน ใช้งานง่ายแม้เป็นคนผมสั้นก็ตาม ระบบการทำงานค่อนข้างเสถียร ทำให้อายุการใช้งานนาน พร้อมหัวเปลี่ยน 3 ชนิดให้สร้างลอนผมเล็กใหญ่ได้ตามใจชอบ
มาแรงกับแปรงม้วนผมแบบไร้สายจาก Lesasha ที่ไม่ต้องให้สาว ๆ มีขอบเขตในการแต่งผมสวยอีกต่อไป สามารถพกพาเพื่อการจัดแต่งทรงผมระหว่างวันที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ซี่หวีรอบนอกมีความยืดหยุ่นช่วยสางผมที่พันกันได้อย่างอ่อนโยน
ด้วยแบตเตอรี่ในตัวที่ชาร์จได้ง่ายใช้ได้แม้ในรถด้วยสายชาร์จหัว USB โดยใช้เวลาชาร์จสูงสุด 90 นาทีแล้วสามารถใช้งานได้นานสุด 25 นาที ทำความร้อนสูงสุดได้ 200 มีไฟบอกสถานะการทำงานได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับกระแสไฟต่างประเทศ สาว ๆ ที่ชอบเดินทางต้องมีเอาไว้ครอบครองสักชิ้นค่ะ
ขยับมาดูรุ่นที่ราคาสูงขึ้นมานิดและมีหลายหัวแปรงขึ้นมาหน่อย โดยมีมากถึง 6 แบบ ทั้งหัวแบบเป่าเฉพาะที่หรือจะแบบม้วนลอนผม ช่วยให้คุณครีเอทได้หลายลุค อีกทั้งยังมาพร้อมปุ่มปรับอุณหภูมิได้ถึง 3 ระดับ และเสียงเงียบเพียง 59 เดซิเบล นอกจากนี้ด้ามจับก็ถูกออกแบบพิเศษให้จับถนัดมือ อำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ด้านการใช้งาน คนที่ใช้จริงต่างบอกว่าวัสดุคุณภาพดี แข็งแรงคงทนและแกนม้วนร้อนเร็ว จึงช่วยประหยัดเวลาในการจัดแต่งทรงผม แถมยังมีกระเป๋าไว้เก็บหัวแปรงมาให้ด้วย ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ
เมื่อก่อนผู้เขียนก็เป็นอีกหนึ่งคนค่ะที่ไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง ครั้งแรก ๆ ที่ลองจึงเสียเวลาอยู่นานพอสมควรเลย ในวันนี้เลยขอถือโอกาสนำเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ที่เป็นมือใหม่กันค่ะ โดยสามารถมีทรงผมสวย ๆ ได้ เพียงแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น
- ทิ้งผมให้หมาดพอประมาณ
- ม้วนผมโดยเริ่มจากด้านข้าง > ด้านหลัง > หน้าม้า โดยทำทีละช่อเล็ก ๆ คนที่ไม่ถนัดให้ใช้คลิปหนีบผมช่วย
- ตบท้ายด้วยการใช้ลมเย็นไดร์หรือม้วนย้ำอีกครั้ง เพื่อช่วยให้ผมเงางามขึ้น
ถ้าทำได้คล่องเมื่อไหร่ รับรองว่าสาว ๆ จะติดใจการใช้แปรงม้วนผมแน่นอน ลองเริ่มซื้อจากรุ่นที่ราคาไม่แพงมาลองก่อนก็ได้ค่ะ
แปรงม้วนผมไฟฟ้าจะทำงานโดยการปล่อยความร้อนไปที่ส่วนแปรง เมื่อใช้นานไปมีความเป็นไปได้ว่าส่วนหัวแปรงจะแตกหักหรือร้าว ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นเราแนะนำให้หยุดใช้และซื้อหัวแปรงมาเปลี่ยนใหม่ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อให้ดูว่ามีอะไหล่หัวแปรงจำหน่ายหรือไม่ด้วยนะคะ
ใครที่ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเบื่อกับทรงผมที่เหมือนกันในทุก ๆ วันของตัวเอง หรือมีเวลาแต่งตัวในตอนเช้าน้อย แนะนำให้ลองเลือกซื้อแปรงม้วนผมไฟฟ้ามาใช้ดูนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผมแห้งแล้ว ยังสามารถม้วนเป็นลอนเพื่อเพิ่มความมีมิติให้กับทรงผมได้อีกด้วย โดยควรเลือกรุ่นที่มีหัวแปรงที่ให้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่ช่วยถนอมเส้นผม และมีน้ำหนักที่พอเหมาะ โดยที่ราคาไม่แพงจนเกินไป เพียงเท่านี้เราก็จะได้สินค้าที่เหมาะกับตัวเองกันแล้วค่ะ
แม้ว่าเราจะเลือกรุ่นที่ทำร้ายเส้นผมน้อยที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ควรละเลยการบำรุงเพิ่มเติมนะคะ แนะนำให้ซื้อน้ำมันใส่ผมหรือสเปรย์สูตรที่ช่วยปกป้องความร้อนจากการไดร์มาชโลมเส้นผมให้ทั่วก่อนใช้ เพื่อช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและบาดเจ็บจากการสัมผัสความร้อนน้อยลง
