ในปัจจุบันนี้ เครื่องฟอกอากาศกลายมาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของคนไทย ทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่กำลังมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในบางพื้นที่ขณะนี้ และยังหาทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนไม่ได้ ผู้ผลิตต่าง ๆ จึงได้มีการออกแบบเครื่องฟอกอากาศให้มีคุณสมบัติที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ เช่น เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กที่เหมาะกับการอาศัยอยู่คนเดียวในพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ ผู้ผลิตหลายราย เช่น ชาร์ป (Sharp) หรือไดกิ้น (Daikin) ก็ได้มีการผลิตเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น การควบคุมความชื้นในอากาศ การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และการปล่อยประจุไฟฟ้าไอออน (Ion) เป็นต้น
ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเรื่องการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว และมีการจัดลำดับเครื่องฟอกอากาศยอดนิยมในปี 2020 เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ เพื่อรับมือกับสภาพอากาศในปัจจุบันค่ะ
อันดับแรก เราจะแนะนำวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับการอยู่คนเดียว เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจและคุ้มค่ากับเงินที่จะจ่ายไป ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ปัจจัยสำคัญที่ใช้พิจารณาประกอบการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศมีอะไรกันบ้าง
ก่อนอื่น คุณควรตรวจสอบขนาดของเครื่องฟอกอากาศว่า เหมาะสมกับขนาดและโครงสร้างของห้องหรือไม่ ด้วยการตรวจสอบแต่ละจุดดังต่อไปนี้
วิธีการคือ วัดขนาดกว้างและยาวของห้อง ยิ่งห้องมีขนาดใหญ่เท่าไร ก็ต้องเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อจะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทางที่ดีควรเลือกขนาดที่รองรับพื้นที่ได้มากกว่าพื้นที่ห้องที่จะนำเครื่องฟอกอากาศไปวางจริง ๆ เช่น ถ้าห้องมีขนาด 15 ตารางเมตร ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่รองรับพื้นที่ 20-25 ตารางเมตร
ในกรณีของห้องเดี่ยวสำหรับอยู่อาศัยคนเดียว มักจะเป็นห้องที่ไม่มีการแยกส่วนของห้องออกจากกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวหรือห้องนอน ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และอากาศไม่ถ่ายเท ดังนั้น ควรจะเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ถ้าคุณเป็นที่ชอบสูบบุหรี่ เลี้ยงสัตว์หรือเป็นโรคภูมิแพ้ เราขอแนะนำให้คุณเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นอีกเมื่อเทียบกับกรณีด้านบน เพื่อให้สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
สิ่งสำคัญที่คุณต้องไม่ลืม คือ ตรวจสอบขนาดของเครื่องฟอกอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ห้องที่มีขนาดเล็กหรือมีพื้นที่จำกัด ขอแนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเล็กและบาง เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่ หรือไม่พอดีกับขนาดห้องจะขัดขวางทิศทางลมของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศลดลงได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ เครื่องฟอกอากาศจำนวนมากมีการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด มีทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบทรงสูงที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ อย่าลืมที่จะตรวจสอบขนาดของเครื่องฟอกอากาศให้ดีนะคะ
นอกจากนี้ ผู้หญิงที่อาศัยอยู่คนเดียว ควรเลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศที่คุณสามารถยกคนเดียวได้อย่างคล่องตัว เพื่อง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนหรือล้างแผ่นกรองอากาศได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
เมื่อคุณตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรตรวจสอบฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ ซึ่งจะทำให้เครื่องฟอกอากาศของคุณสามารถทำได้หลายอย่างในอุปกรณ์เดียว เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดสำหรับอยู่คนเดียว โดยการเลือกฟังก์ชันเพิ่มเติมต่างๆ นั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่า ต้องการตอบสนองความสะดวกสบายของตนเองมากน้อยแค่ไหน
เครื่องฟอกอากาศที่สามารถควบคุมความชื้น นับเป็นเครื่องฟอกอากาศประเภทมัลติฟังก์ชันที่ได้รับความนิยมประเภทหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอาศัยในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน เครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันนี้ก็จะช่วยป้องกันความแห้งกร้านของผิว ลดอาการตาแห้งเมื่อนั่งทำงานนาน ๆ หรืออาการคอแห้งเมื่อตื่นมาในตอนเช้า
ส่วนสำหรับผู้ที่กังวลกับสภาพอากาศในช่วงฤดูฝน ก็จะมีฟังก์ชันลดความชื้น ทำให้สามารถตากผ้าในร่มได้อย่างสบาย ๆ ลดปัญหาความอับชื้นและการเกิดเชื้อราลงอีกด้วย
นอกจากนี้ บางผลิตภัณฑ์ยังมีทั้งฟังก์ชันเพิ่มความชื้นและขจัดความชื้นในตัว ถึงแม้ว่าเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันเหล่านี้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าและช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วยนะคะ เรียกได้ว่า มีแค่เครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันนี้เพียงเครื่องเดียวก็ถือว่าคุ้มแล้วล่ะค่ะ
หากคุณเป็นคนที่ชอบทำอาหารจนทำให้ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก ซึ่งกลิ่นเหม็นหล่านี้อาจจะสะสมอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เนื่องจากอากาศไม่ถ่ายเท เช่น ในคอนโดมิเนียม หรือหอพักที่มีหน้าต่างอยู่อย่างจำกัด
การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันกำจัดกลิ่นก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง ที่จะช่วยลดความกังวลของคุณ ทำให้สามารถเปิดบ้านเพื่อต้อนรับเพื่อนหรือคนรักของคุณได้อย่างสบายใจ
ขอแนะนำนำฟังก์ชันนี้สำหรับผู้หญิงที่เน้นใช้งานคนเดียว โดยจะเป็นฟังก์ชันที่จะมีการปล่อยประจุไฟฟ้าลบไปในอากาศ ซึ่งนอกจากจะช่วยยับยั้งแบคทีเรีย หรือไวรัสแล้ว ประจุไฟฟ้าที่ถูกปล่อยไปในอากาศ ยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ ยังช่วยในการขจัดละอองเกสรดอกไม้และฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเครื่องฟอกอากาศจะสร้างประจุไฟฟ้าลบขึ้นมาและยิงออกไปในอากาศ ประจุลบพวกนี้ก็จะไปจับกับฝุ่น แล้วทำให้ฝุ่นตกลงมาที่พื้น ไม่เกิดการฟุ้งกระจาย เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้เช่นกัน
เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหญ่หลาย ๆ ยี่ห้อ มักจะมีเสียงดังขณะเปิดใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เราอาศัยอยู่คนเดียวในห้องที่มีพื้นที่ที่จำกัด ก็จะทำให้เราได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากขึ้น ก่อให้เกิดความรำคาญและความเครียดสะสม บางคนถึงขั้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว ดังนั้น คุณควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีโหมดเงียบ (Silent Mode) หรือเลือกเครื่องที่สามารถปรับระดับเสียง ให้มีค่าประมาณ 20 เดซิเบลหรือน้อยกว่า จะได้ไม่มีเสียงรบกวนขณะนอนหลับเพื่อความผ่อนคลาย
ในผู้ผลิตบางรายอาจมีการระบุเสียงการทำงานเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้ออีกด้วย ตัวอย่างเช่น ระดับเสียงการทำงาน (สูง / กลาง / ต่ำ) เท่ากับ 54 / 45 / 25 เดซิเบล ทำให้คุณสามารถเลือกปรับระดับเสียงเพื่อให้ไม่รบกวนการนอนหลับของคุณได้ค่ะ
เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใชไฟฟ้าที่จะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา หากมีเครื่องฟอกอากาศที่ทั้งช่วยทำความสะอาดอากาศและสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยก็คงจะดีไม่น้อย แนะนำให้สังเกตฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งเป็นฉลากที่บ่งบอกข้อมูลเบื้องต้นของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้มีผลต่อค่าไฟคือ แผ่นกรอง ถ้าแผ่นกรองหนาแน่นมากอากาศผ่านได้น้อย จะยิ่งทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักและกินไฟ ดังนั้น ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบที่อากาศไหลผ่านได้ดี และมีอายุการใชังานที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน โดยถ้าคุณเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองเป็นแบบบางๆ ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ก็จะหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตนั่นเอง
หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับอยู่คนเดียวอย่างละเอียดแล้ว ก็ถึงเวลาไปเลือกซื้อสินค้าโดยยึดที่หลักการที่เราได้แนะนำไป เพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องของคุณกันนะคะ
ปลอดภัยกับทุกการใช้งานด้วยระบบไอออนไนเซอร์ ระบบพลาสม่าและการฟอกอากาศผ่านตัวกรองถึง 4 ขั้นตอนที่ช่วยดักจับฝุ่นละออง เชื้อโรคและอนุภาคที่มีขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน สามารถกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ตัวเครื่องเป็นปุ่มกดระบบสัมผัส Touch Screen สามารถตั้งเวลาปิดและเปิดอัตโนมัติได้สูงสุด 8 ชั่วโมงพร้อมกับ Sleep mode ที่ช่วยให้คุณประหยัดไฟและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
อีกตัวหนึ่งของเครื่องฟอกอากาศที่มีครบฟังก์ชันใช้งานในราคาประหยัด สามารถเปิดใช้งานเครื่องได้ 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยการฟอกอากาศผ่านตัวกรอง 4 ขั้นตอนผสมผสานกับการปล่อยไออนที่ช่วยกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก มลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเวลาปิดได้สูงสุดถึง 8 ชั่วโมงและสามารถควบคุมด้วยรีโมทไร้สาย นอกจากนี้ ยังมีช่องใส่น้ำหอมปรับอากาศที่ช่วยเปลี่ยนให้ห้องของคุณหอมสดชื่น และรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย
เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อคนทั่วไปและ คนที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ด้วยการฟอกอากาศผ่านแผ่นกรอง 5 ชั้นที่ช่วยในการกรองฝุ่นละอองและกลิ่น ผสมผสานกับเทคโนโลยี UVGI ที่ใช้แสง UV ที่มีความยาวคลื่นสูงช่วยในการทำลายเชื้อจุลินทรีย์, เชื้อไวรัส, แบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้มั่นใจได้เลยว่า เครื่องฟอกอากาศตัวนี้จะช่วยดูแลอากาศภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
มั่นใจกับอากาศบริสุทธิ์ด้วยระบบฟอกอากาศด้วยการทำงานร่วมกันของระบบ Plasma Ion และ Streamer ที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ และสารก่อภูมิแพ้ได้ ผสมผสานกับระบบเพิ่มความชื้น Humidifier ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของอากาศ เพื่อสุขภาพผิวที่ดี นอกจากนี้ การออกแบบยังออกแบบเป็นทรงสูงและมีช่องลมเข้า 3 ทิศทาง ช่วยประหยัดพื้นที่และเคลื่อนย้ายไปตามบริเวณต่าง ๆ ของห้องได้ ถึงเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ถูกออกแบบมาโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงเพื่อการใช้งานที่คงทน ออกแบบทันสมัยด้วยระบบ Touch Screen ที่บริเวณด้านบนของตัวเครื่อง และสามารถถอดฝาหน้าเครื่องออกมาทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพการกรองแบบ All-in-one ที่สามารถกรองได้ทั้งฝุ่น กลิ่นและสารเคมี ช่วยดูดซับสารเคมีระเหยง่ายที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น แอมโมเนีย เบนซิน หรือก๊าซอันตรายอื่น ๆ ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ที่น่าสนใจ เพราะมาพร้อมกับการตรวจวัดค่า PM 2.5 ขณะนอนหลับ และปรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศอัตโนมัติเพื่อฟอกอากาศให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง ผสมผสานกับแสงไฟที่หรี่ลงและเสียงรบกวนต่ำ ช่วยทำให้คุณหลับสบายได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเตือนให้เปลี่ยนแผ่นกรองเมื่อถึงเวลา และจะมีระบบที่ตัดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ หากไม่สามารถเปลี่ยนแผ่นกรองได้ทันที เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ที่ช่วยในการลดปริมาณของเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศ ผสมผสานกับการทำงานของแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกำจัดฝุ่นละอองและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้ง่าย เพราะมีน้ำหนักแค่เพียง 4 กิโลกรัมเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว หรือผู้หญิงที่กังวลเรื่องยกของหนัก แค่มีเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ ก็ช่วยให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะค่ะ
เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงและมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถจัดวางในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างไม่เกะกะ ด้านหลังของเครื่องมีการออกแบบให้เป็นหูหิ้วเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายได้สะดวก และที่สำคัญ คือ มีระบบ Auto Restart หากเกิดไฟฟ้าขัดข้องก็จะช่วยให้เครื่องทำงานต่อเนื่องเมื่อไฟมา มีประสิทธิภาพดักจับฝุ่นและเชื้อโรคต่างๆ ได้ทั้งอากาศที่ดีและสุขภาพที่ดีอีกด้วย
เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ทรงประสิทธิภาพการทำงานด้วยโหมดตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอากาศพร้อมกับสัญญาณไฟที่แสดงคุณภาพของอากาศ (ฟ้า - ดี, แดง - แย่) เชื่อมกับระบบฟอกอากาศอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้ทันที นอกจากนี้ มีโหมด Sleep ที่จะทำงานได้เงียบกว่าปกติ ทำให้ไม่รบกวนการนอนของคุณ เหมาะสำหรับตัวเลือกของเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องฟอกอากาศราคาประหยัดที่มาพร้อมกับตัวกรอง 3 ชั้นที่สามารถกรองอากาศได้แบบทุกทิศทาง สามารถฟอกอากาศในห้องได้ภายใน 10 นาทีเท่านั้น และที่สำคัญ คือ ยังรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ทั่วโลก นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ทำให้คุณสั่งเปิด-ปิดเครื่องได้แม้คุณจะไม่อยู่ในบ้าน สะดวกสบายด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายจากแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นการเช็ก AQI แบบเรียลไทม์ หรือการแสดงอุณหภูมิและความชื้นในห้อง เรียกได้ว่า สะดวกสุด ๆ เลยค่ะ
เราได้มีการนำเสนอข้อมูลของเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาระดับความชื้น จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าเครื่องฟอกอากาศปกติ หากคุณเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับการเพิ่มระดับความชื้นและมีงบจำกัด เราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศแยกกับเครื่องทำความชื้น ซึ่งในปัจจุบันนี้เครื่องทำความชื้นสามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้น โดยบทความต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการเลือกซื้อเครื่องทำความชื้นเพิ่มมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศก็มีให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลายตาม รุ่น ยี่ห้อ และราคา การพิจารณาเลือกเครื่องฟอกอากาศราคาไม่แพงก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพไม่ดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานเพราะประโยชน์สำคัญที่เราต้องการจริง ๆ ก็คือ การรับอากาศที่บริสุทธิ์ มีสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และนอกจากนี้อย่าลืมศึกษาวิธีการใช้งานและดูแลรักษา เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีของเครื่องฟอกอากาศด้วยนะคะ