ผิวรอบดวงตาเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่แสดงถึงความอ่อนเยาว์และสุขภาพผิวที่ดี หากเรามีใต้ตาที่แลดูหย่อนคล้อยแล้วล่ะก็ จะยิ่งทำให้เราดูมีอายุมากขึ้นไปอีก และที่น่ากังวลที่สุดคือ ถ้าปัญหาผิวบริเวณใต้ตานั้นเกิดขึ้นแล้ว ยากที่จะเรียกความเต่งตึงกลับมาได้ ฉะนั้น เราจึงควรใส่ใจดูแลและบำรุงใต้ตาของเราเป็นอย่างดีเพื่อป้องกันหรือลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าเอาไว้เลยค่ะ
ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอยู่มากมายหลายยี่ห้อ หลายรุ่นที่มีคุณสมบัติดูแลรอบดวงตาโดยเฉพาะ แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับเราและมีประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกสกินแคร์ที่จะช่วยลดถุงใต้ดวงตาให้คุณอย่างตรงจุด พร้อมทั้งแชร์ 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์อายครีมสำหรับลดถุงใต้ตาที่เป็นที่นิยมกันในตอนนี้มาอัพเดทให้ดูกันด้วยค่ะ
ก่อนอื่นเลย เรามาดูหลักในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยบำรุงและป้องกันปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อยเพื่อลดถุงใต้ตากันค่ะ โดยจะมีอยู่ 4 จุดหลัก ๆ ด้วยกันที่เราจะต้องคำนึงถึง
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จะช่วยปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหรือถูกทำลายด้วยแสงแดด มลภาวะต่าง ๆ ทางอากาศ ซึ่งจะเป็นตัวก่อให้เกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ เพื่อชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวและป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำลาย จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสารยอดฮิตที่คุ้นเคยกันมากที่สุดก็คือ อนุพันธ์วิตามินซี นั่นเองค่ะ ซึ่งคุณสมบัติของอนุพันธ์วิตามินซีนั้น นอกจากจะช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีจึงทำให้ผิวกระจ่างใสและช่วยลดจุดด่างดำบนใบหน้าได้อีกด้วย ที่สำคัญ ยังเป็นตัวเร่งการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวอิ่มฟูขึ้นไม่หย่อนคล้อย จึงตอบโจทย์เรื่องผิวใต้ตาได้ดีทีเดียวค่ะ
ส่วนผสมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ นอกเหนือจากอนุพันธ์วิตามินซีแล้วก็ยังมี
- โพลีฟีนอล (Polyphenol) เป็นสารอาหารที่ได้จากพืช และมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำได้ดี
- แอสตาแซนทิน (Astaxanthin) เป็นหนึ่งในสารประเภทแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ในธรรมชาติ ช่วยลดการเกิดริ้วรอย
- พิกโนจีนอล (Pycnogenol) สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ ที่ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดปัญหาสีผิว
เพราะผิวใต้ดวงตาไม่สามารถผลิตน้ำมันได้เอง และการที่ปล่อยให้ผิวแห้งกร้านก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เราจึงต้องคอยเติมความชุ่มชื้นให้แก่บริเวณใต้ตาอยู่เสมอ ดังนั้น จุดสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ คือ ต้องดูว่ามีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นหรือไม่ และมีมากน้อยแค่ไหน
ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นที่มักจะพบกันบ่อย ๆ ในสกินแคร์ ได้แก่ เซราไมด์ (Ceramide) กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) คอลลาเจน (Collagen) เป็นต้น และส่วนผสมที่เราอยากแนะนำมากที่สุดในนี้ คือ เซราไมด์ (Ceramide) เพราะแม้ว่าเซราไมด์จะเป็นไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติบนชั้นผิว แต่เมื่อเวลาผ่านไป อายุเรามากขึ้น สารนี้ก็จะลดลง ดังนั้น การบำรุงจากภายนอกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ
แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย ลดผิวหย่อนคล้อยเหมือนกันก็จริง แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็มีอยู่หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบโลชั่น, เซรั่ม, ครีม หรือเจล ซึ่งเนื้อสัมผัสและความรู้สึกเมื่อใช้ก็จะแตกต่างกัน อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะว่า ชนิดไหนหรือเนื้อสัมผัสแบบใดจะดีที่สุด แต่ให้เน้นเลือกใช้ประเภทที่คุณชอบ รู้สึกสบายเมื่อทาและใช้สะดวกจะดีที่สุด เพราะจะทำให้คุณสามารถใช้ไปได้เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง และดีต่อผลลัพธ์ที่ได้อีกด้วย
เครื่องสำอาง หรือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ เป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสโดยตรงกับผิวของเรา เราจึงใส่ใจแค่เรื่องของส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เห็นผลทันใจอย่างเดียวไม่ได้เลยค่ะ แต่เราต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย โดยการตรวจสอบว่ามีส่วนผสมที่จะส่งผลเสียต่อผิวหนังของเราหรือไม่ หรือมีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ได้หรือไม่ เช่น สารกันบูดพาราเบน (Paraben), สารลดแรงตึงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Petroleum-Based Synthetic Surfactants), น้ำหอม, แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์
แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในการหลีกเลี่ยงส่วนผสมทั้งหมดนี้ เพราะสารหลาย ๆ ตัวก็ยังมีความจำเป็นที่ต้องเติมลงไปในผลิตภัณฑ์มากมาย แต่ถ้าหากคุณมีความกังวลใจ ก็สามารถตรวจเช็กปริมาณของสารต่าง ๆ บนข้างกล่องบรรจุภัณฑ์ก็ได้ว่า มีสารเหล่านั้นอยู่หรือไม่ และมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อความปลอดภัยต่อผิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายยิ่งต้องตรวจสอบให้ดีเลยค่ะ
ผิวหนังใต้ดวงตาที่หย่อนคล้อย สามารถบ่งบอกถึงอายุที่มากขึ้นและรวมถึงการดูแลพักผ่อนของร่างกายที่ไม่เพียงพอ ก่อนที่เราจะทำการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงนั้น เราควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังใต้ตาของเราเกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อยกันก่อน
อายุ เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และแน่นอนว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถห้ามไม่ให้เกิดขึ้นได้เลย ซึ่งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของช่วงอายุนั้นจะมีอยู่ 3 อย่างหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ผิวหนังของคนเราจะมี 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังแท้ (Dermis) ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และผิวหนังชั้นไขมัน (Hypodermis) ซึ่งแต่ละชั้นจะก็จะแบ่งเป็นชั้นย่อย ๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ อีก เช่น ต่อมเหงื่อและต่อมไขมัน เป็นต้น
ชั้นหนังแท้จะมีคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิคประกอบอยู่ โดยสารทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นสารที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง แต่เมื่ออายุเรามากขึ้น การผลิตสารทั้ง 2 ตัวนี้ก็จะค่อย ๆ ลดลงตามวัย ในขณะเดียวกัน ก็จะส่งผลให้ความสามารถในการกักเก็บน้ำหรือความชุ่มชื้นในผิวน้อยลงไปด้วย นั่นก็แปลว่า ผิวหนังของเราก็จะสูญเสียความกระชับและความเต่งตึงนั่นเอง
นอกจากนี้ ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์สร้างเส้นใย (Fibroblasts) ที่เป็นตัวผลิตคอลลาเจนก็จะเสื่อมถอยลงเช่นกัน ดังนั้น หากเราไม่ใส่ใจดูแลผิวของเราล่ะก็ ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยก็จะตามมาอย่างแน่นอน
โดยปกติแล้ว กล้ามเนื้อใบหน้าจะมีการขยับบริเวณปากหรือจมูก เพื่อแสดงสีหน้าต่าง ๆ หากกิจวัตรประจำวันหรือการใช้ชีวิตของเราไม่ค่อยได้มีการขยับกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามากนักจนอายุผ่านไปเรื่อย ๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้กล้ามเนื้อแข็งตัวได้ ดังนั้น การบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าจึงเป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญเช่นกัน
ส่วนอีกกรณีที่ต้องระวังนั่นก็คือ การใช้สายตาจ้องมองคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ การที่เราจ้องหน้าจอบ่อย ๆ หรือเป็นเวลานาน ๆ เราแทบจะไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาเลย ซึ่งก็จะส่งผลให้กล้ามเนื้อเสื่อมถอยได้เช่นกัน และเมื่อกล้ามเนื้อใบหน้าชั้นในเสื่อมแล้ว ความเต่งตึงของผิวที่อยู่ชั้นนอกก็จะถูกทำลาย นำมาซึ่งสาเหตุของริ้วรอยและความหย่อนคล้อยนั่นเองค่ะ
ดวงตาของเราจะมีเอ็นที่เป็นตัวพยุงกล้ามเนื้อภายในและจะคลายไปตามอายุ เมื่อเส้นเอ็นในดวงตาหลวม เบ้าตาก็จะมีตำแหน่งที่หย่อนลง นอกจากนี้ ไขมันบริเวณที่อยู่ใต้ดวงตาหรือเบ้าตานั้นก็จะถูกขับออกไปอยู่ด้านหน้า เกิดเป็นส่วนที่บวมออกมา ทำให้เกิดเป็นรอยหย่อนคล้อย และยิ่งไขมันออกมามากเท่าไหร่ ใต้ตาก็จะยิ่งบวม เกิดเป็นถุงใต้ตาที่ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
เมื่อทราบสาเหตุของปัญหาใต้ตาหน่อยคล้อยกันแล้ว ก็มาถึง 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยบำรุงและลดถุงใต้ตาของคุณให้กลับมาสดใสอ่อนเยาว์อีกครั้ง หากใครที่อ่านวิธีเลือกไปแล้ว แต่ยังคิดไม่ตกว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์ตัวไหน แบบไหนดี ก็ลองดูผลิตภัณฑ์ที่เราคัดสรรมาแนะนำไว้เป็นแนวทางได้เลยค่ะ หวังว่าจะช่วยให้คุณเจอครีมที่ใช่ที่สุดสำหรับตัวเองได้ง่ายขึ้นนะคะ
เซรั่มที่ช่วยปรับให้ผิวตึงกระชับ ด้วยการเติมเต็มผิวจากชั้นใน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิว ช่วยลดริ้วรอยและยังเสริมสร้างการทำงานของเซลล์ผิวให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย และความพิเศษอีกอย่างของเซรั่มกระชับใต้ตาตัวนี้คือนวัตกรรมสารสกัด Phyto Active Complex เป็นสารสกัดพิเศษจากแพทย์แผนจีน สำหรับดูแลปัญหาผิวโดยเฉพาะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ผิวเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์
มีถึง 2 สูตรคือ ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ กับ ลดริ้วรอยและยกกระชับ สามารถเลือกใช้ได้ตามปัญหาผิวและสามารถใช้ทาทั้งใบหน้าหรือทาแค่บริเวณรอบดวงตาก็ได้ค่ะ แนะนำให้ใช้นิ้วแตะเบาๆ ลงบนใบหน้าเพื่อช่วยให้เซรั่มซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
The Ordinary สูตรนี้เป็นเนื้อเซรั่มมีน้ำเป็นองค์ประกอบพื้นฐานและมีส่วนผสมหลักสำคัญอยู่ 2 อย่างคือ สารสกัดที่พบในใบชาเขียว Epigallocatechin-3-Gallate หรือ EGCG โดยมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มเติมด้วยสารคาเฟอีน ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดถุงใต้ตา ลดเลือนรอยคล้ำ พร้อมยกกระชับและฟื้นฟูริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังเสริมด้วยสารตัวอื่น ๆ เช่น สารสกัดจากถั่วเหลือง และ กรดไฮยาลูรอน มาเป็นกำลังเสริมในการต้านอนุมูลอิสระและสร้างความชุ่มชื้น บอกได้เลยว่า นอกจากจะช่วยในเรื่องของการลดอาการบวมและลดรอยคล้ำของผิวหนังใต้ตาแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนอีกด้วย แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสีสังเคราะห์ สารกันบูด แอลกอฮอล์และน้ำหอมอีกด้วยค่ะ
อายครีมสัญชาติเกาหลีที่โด่งดังในเรื่องให้ความชุ่มชื้นรอบดวงตาได้ดี เพราะเปี่ยมไปด้วย Fresh Green Tea Water 2.0™ สารบำรุงจากใบชาเขียวสด ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและเป็นอาหารผิวอย่างดี ช่วยสร้างเกราะป้องกันเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น และเนื่องจากเป็นสารที่ทำมาจากกรดอะมิโนถึง 16 ชนิดที่มีความเข้มข้นถึง 3.5 เท่า จึงช่วยเปิดเซลล์ผิวให้ได้รับความชุ่มชื้น เติมเต็มน้ำและอาหารผิวได้ในระดับลึก ทำให้ใต้ตาของคุณกลับมากระชับ สดใส และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยี Dual Moisture-Rising เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นขึ้นถึง 2 เท่า จึงตอบโจทย์คนที่มีปัญหาเรื่องความแห้งกร้านบริเวณรอบดวงตาได้ดีทีเดียว ทำให้ผิวฟู ดูอิ่มน้ำมากขึ้น ช่วยบรรเทาความหย่อนคล้อยของถุงใต้ตาได้ดีขึ้น แต่ตัวนี้จะไม่มีส่วนผสมที่ตอบโจทย์เรื่องริ้วรอยค่ะ
สูตรนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการยกกระชับผิวรอบดวงตา ด้วยนวัตกรรม Elastic Lift ที่มีหลักการเดียวกับเทคโนโลยีการยกกระชับตาข่ายผิว มาผสมผสานกับสารสกัดจากรากหญ้าเจ้าชู้ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ อีกทั้งยังสามารถต้านอนุมูลอิสระ ลดการบวมแดงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวตามธรรมชาติ จึงทำให้ใต้ดวงตาของคุณกระชับและเต่งตึงขึ้น
นอกจากนี้ยังมี AHA หรือ กรดอัลฟาไฮดรอกซีที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสีย ให้กลับมาพร้อมฟื้นฟูและได้รับการพักผ่อนเต็มที่ บวกกับฟิลเลอร์เนื้อแน่นเข้มข้น ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาและยังผสมสารป้องกันแสงแดด SPF15 อีกด้วย แถมอีกสักนิดว่า ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ Non-Comedogenic จึงไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน สามารถใช้ได้ทั้งรอบดวงตาและริมฝีปากเลยค่ะ
มาที่อายครีมยอดฮิตมาแรงอีกตัว โดยสูตรนี้เป็นเอสเซ้นส์ ซึ่งจะมีเนื้อสัมผัสเหลวและบางเบากว่าเซรั่ม ผสมผสานความพิเศษของ Ferment Essence Compound ที่เข้มข้น หรือ Bifida Ferment Lysate สารแบคทีเรียหมักบ่มที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและกระตุ้นให้เซลล์ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ รวมถึงการฟื้นฟูบำรุงผิวรอบดวงตาให้แลดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน ยืดหยุ่น และกระชับขึ้น
นอกจากเรื่องของส่วนผสมแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษก็คือ มาพร้อมแท่งนวดมาสสาจบีดส์แบบเย็นที่ช่วยนวดใต้ตาให้รู้สึกผ่อนคลายแบบจุดต่อจุด ทำให้เอสเซ้นส์ซึมสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น สามารถนวดวนรอบดวงตามากถึง 15 องศาช่วยลดอาการเมื่อยล้า พร้อมให้ความเย็นเพื่อลดอาการบวมของถุงใต้ตาอีกด้วย
เซรั่มอีกตัวที่น่าสนจากแบรนด์ดังอย่าง Shiseido มาด้วยเทคโนโลยีพิเศษโดยเฉพาะของแบรนด์นั่นก็คือ Imugeneration Technology ที่จะช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้น ลดการเกิด Oxidation และยังมี Hyaluronic ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น เสริมความโดดเด่นด้วยสารสกัดจากเห็ด Reishi และราก Iris ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวจากมลภาวะ ความเครียด โดยเสริมเกราะป้องกันให้ชั้นผิวได้อย่างดี
นอกจากจะมอบความรู้สึกสดชื่นให้กับผิวรอบดวงตาแล้ว ยังลดความหมองคล้ำและอาการบวมช้ำของใต้ตาให้ดีขึ้นด้วย ทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับขึ้น สาว ๆ ที่ลองใช้แล้วชื่นชอบในเนื้อเซรั่มที่เข้มข้น แต่ซึมไวมาก ๆ พร้อมสัมผัสที่นุ่มรู้สึกเหมือนแผ่นฟิล์มเคลือบผิว รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้นหลังใช้ต่อเนื่อง
น้ำแร่วิชี่ที่เข้มข้นถึง 89% จากภูเขาไฟโอแวงก์ประเทศฝรั่งเศส ที่อุดมไปด้วยคุณค่าของแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิว 15 ชนิด ช่วยปรับสมดุล pH ผิว โดยทำหน้าที่ผสานกับไฮยาลูรอนจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติเก็บกักความชุ่มชื่นและลดเลือนริ้วรอยของผิว มีคาเฟอีนบริสุทธิ์ที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียน เพิ่มเติมด้วยสาหร่ายเดอโมคลอเรลลา ที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นคอลลาเจนรอบดวงตาให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สูตรนี้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางระคายเคืองง่าย เพราะได้ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณเรื่องความปลอดภัยมาแล้ว รับรองว่าตอบโจทย์ปัญหาใต้ตาคล้ำและถุงใต้ตาหย่อนคล้อยให้กลับมาเรียบเนียนได้มีประสิทธิภาพเลยค่ะ
นักเคมีของ Kiehl’s ต่อยอด Copper PCA ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่มีหน้าที่เป็นสารเคลือบผิวให้นุ่ม และ Calcium PCA ที่ช่วยปกป้องความเสื่อมของคอลลาเจนในชั้นผิว โดยพัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาการร่วงโรยของผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการทดสอบแล้วว่าลดเลือนริ้วรอยและปรับเนื้อผิวให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังได้รับการทดสอบแล้วว่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวได้ถึง 32% เลยค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดแอปริคอตที่อุดมด้วยวิตามินอีจากธรรมชาติ มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวไว และยังเป็นแหล่งรวมของสารที่มีประโยชน์มากมายที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ยับยั้งการเสื่อมของเซลล์ผิว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวอิ่มน้ำอีกด้วย เรียกได้ว่าจัดการครบเกือบทุกปัญหาในตัวเดียวเลยค่ะ
อายเซรั่มตัวเด่นที่เน้นช่วยเรื่องยกกระชับผิวหนังใต้ตา และเติมเต็มร่องลึกให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากสาหร่าย ที่ช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว และส่วนผสมตัวชูโรง Life Plankton™ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ทำหน้าที่ฟื้นบำรุงเซลล์ผิว เพิ่มเติมด้วย Glycerin และ Sodium Hyaluronate ที่คอยกักเก็บความชื้นจากบริเวณรอบ ๆ เข้าสู่ผิว และยังมีสารสกัดจากสาหร่ายสีทองที่คอยเติมน้ำให้ผิวด้วยเช่นกัน
ความน่าสนใจของตัวนี้อยู่ที่การออกแบบวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ค่ะ โดยก้านที่ใช้ทาเซรั่มจะเป็นแท่งขนาดเล็กส่วนหัวจะเป็น Lifting Pearl Applicator ทรงไข่มุก ใช้นวดเนื้อเซรั่มให้ซึมไวและทำให้ผิวเย็นสบาย เหนือขึ้นไปจะเป็น Brush Applicator คล้ายแปรงปัดขนตา ที่จะนำเนื้อเซรั่มเข้าไปเคลือบขนตาได้จากโคนจรดปลาย เป็นการบำรุงขนตาไปในตัวด้วย
ต้องบอกเลยว่าอายครีมตัวนี้ ตอบโจทย์สาว ๆ ตามยุคสมัยมาก เพราะจะช่วยฟื้นฟูผิวจากริ้วรอยและจุดด่างดำรอบดวงตาที่ได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้าของหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือ โดยใช้เทคโนโลยี Chronolux CB™ ที่เป็นลิขสิทธิ์ของทางแบรนด์โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงผิวในยามค่ำคืนแล้ว ยังเน้นเรื่องของการเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวชั้นนอกและเพิ่มระดับความชุ่มชื้นอีกด้วย
โดยสูตรนี้จะเน้นส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น สารสกัดแตงโม ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีช่วยต้านอนุมูลอิสระและสร้างความชุ่มชื้นให้ผิว มีสารสกัดคาโมมายล์ที่ช่วยต้านการระคายเคือง และยังมีวิตามิน อี อะซิเตทที่ช่วยดูแลปกป้องเซลล์ผิวที่จากแดดและมลภาวะที่ทำให้เกิดริ้วรอย เรียกได้ว่าสมกับที่โฆษณาว่าเป็นสูตรเพิ่มประสิทธิภาพที่มีความเข้มข้นถึง 10 เท่าเลยค่ะ
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงนั้นจะเป็นตัวช่วยฟื้นฟูปัญหารอบดวงตาได้ก็จริง แต่การป้องกันไม่ให้ริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยเกิดขึ้นมากไปกว่านี้ ก็เป็นสิ่งที่ควรจะระมัดระวังอยู่ตลอดเช่นกัน ดังนั้น นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว เราจึงต้องมีวิธีป้องกันปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยด้วย จะมีอะไรบ้างนะ เราหาข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากคุณตรงนี้แล้วค่ะ
เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตาจะมีความบอบบางและอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ เวลาสัมผัสรอบดวงตาทุกขณะ ไม่ว่าจะตอนแต่งหน้า ตอนล้างเครื่องสำอางหรือตอนทาครีมบำรุง จึงไม่ควรถูบริเวณรอบดวงตาแรง ๆ ยิ่งบริเวณใต้ตา ยิ่งควรระวังเป็นพิเศษ แม้แต่ตอนล้างหน้า ก็ควรค่อย ๆ ถูอย่างอ่อนโยน อย่ารีบร้อน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวหนังถูกทำลายมากไปกว่านี้ค่ะ
กล้ามเนื้อใบหน้าที่เสื่อมสภาพก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใต้ตาหย่อนคล้อย จึงควรหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ โดยที่ไม่มีการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าเลย ควรจะมีการบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้าอยู่เสมอ แนะนำให้หมั่นทำเวลาอยู่บ้าน เช่น ตอนทำงานบ้าน ก่อนนอน หรือตอนอาบน้ำก็ได้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลอายครีมลดถุงใต้ตาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ สาว ๆ คงเห็นแล้วว่าส่วนผสมของผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์นั้นมีความแตกต่างกันไปมากมายหลากหลายเลยทีเดียว อย่าเพิ่งสับสนไปนะคะ ถ้ายังตัดสินใจเลือกไม่ได้ล่ะก็ ลองกลับไปดูวิธีการเลือกและคำอธิบายจุดสำคัญ 4 อย่างที่เราได้แนะนำไปในตอนต้นดูอีกครั้งได้ค่ะ
สรุปกันอีกทีคร่าว ๆ อย่าลืมเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น และเลือกเนื้อครีมที่ใช้ถูกใจ แล้วก็อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยด้วยนะคะ ที่สำคัญ นอกจากสกินแคร์ภายนอกเหล่านี้แล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพของเรา เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผัก ผลไม้ พักผ่อนให้เพียงพอ และคอยระวังแสงแดดและแสงจากจอโทรศัพท์มือถือด้วย เพื่อเป็นการบำรุงผิวจากภายในอย่างแท้จริงของเราเองค่ะ