ลิปสติกสีชมพู นั้นมีเฉดหลากหลาย เข้ากับการแต่งหน้าหลายแบบ ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูเป็นสาวหวาน เรียบหรู หรือดูเป็นสาวมีความมั่นใจได้เช่นกัน ทำให้ ลิปสติกสีชมพูกลายเป็นสีที่ได้รับความนิยมจากสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้ามาอย่างยาวนาน เป็นสีที่ทุกคนจะต้องมีติดประเป๋าไว้ หรือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของหลายคนที่อยากซื้อลิปสติกแท่งแรกมาใช้ เพราะเป็นสีที่เหมาะกับทุกโอกาส ทั้งเป็นงานที่ทางการ วันเร่งรีบที่ต้องออกไปพบผู้คนแต่ไม่ต้องการแต่งหน้าจัด หรือต้องการแต่งหน้าสบาย ๆ แบบ Everyday Look ก็ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาลิปสติกสีชมพูอยู่ แต่ยังลังเลใจว่าต้องซื้อเฉดใด หรือลิปสติกแบบไหน Finish Look แบบใดจะเหมาะสมกับประเภทการใช้งานของเรา วันนี้เราขอแนะนำ 10 อันดับ ลิปสติกสีชมพู ที่กำลังเป็นที่นิยม พร้อมวิธีการเลือกมาฝากกัน หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
สาว ๆ หลายคน อาจจะกังวลเกี่ยวกับการเลือกลิปสติกสีชมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีริมฝีปากคล้ำ เพราะกลัวว่าสีอ่อน ๆ แบบนี้จะทำให้เห็นริมฝีปากชัด หรือเมื่อทาไปแล้วสีจะเพี้ยน ไม่ตรงกับสีที่อยู่บนแท่งของลิปสติก ดังนั้น เราจึงขอแนะนำวิธีการเลือกลิปสติกสีชมพูเพื่อให้เหมาะสมและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ
การเลือกลิปสติกสีชมพูอาจจะเป็นปัญหาสำหรับสาว ๆ หลายคน เนื่องจากมีความกังวลในเรื่องสีของริมฝีปากคล้ำ เพราะหากเลือกสีที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เห็นความคล้ำชัดเจนขึ้น และทำให้สีชมพูที่เราเลือกมาไม่ตรงตามที่เราต้องการได้ ดังนั้น ขอแนะนำให้คนที่กังวลใน เรื่องนี้เลือกใช้สีชมพูเข้ม หรือโทนสีที่ออกไปทางม่วงเพื่อช่วยปกปิดสีของริมฝีปากของเรา หรือหากต้องการสีอ่อน ๆ แนะนำให้เลือกจาก Finish Look ให้มองหาลิปสติกปกปิดริมฝีปากก็เป็นตัวเลือกที่น่าใช้เช่นเดียวกันค่ะ
การเลือกลิปสติกจาก Finish Look จะช่วยให้เรากำหนดได้ว่า เราอยากให้ริมฝีปากเราดูเป็นแบบไหนหลังจากที่เราทาลิปสติกไปแล้ว ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ได้ลิปสติกที่เหมาะกับการใช้งาน และบุคลิกของเราอีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่าลิปสติกที่เรากำลังตามหาอยู่นั้นเป็นแบบไหน
Finish Look แมตต์คือ เนื้อลิปสติกที่แห้งด้าน แต่เนื้อสีชัด ติดทน เมื่อทาแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ ช่วยทำให้ปากดูบางลง ซึ่งเนื้อแมตต์เหมาะกับการแต่งหน้าแบบเข้ม เพราะให้สีชัดที่สุดค่ะ ข้อเสียคือ ลิปแมตต์เป็นเนื้อลิปที่ทายาก ไม่มีความมันวาว ถ้าคนที่มีริมฝีปากแห้งเป็นขุยหรือเห็นเป็นร่องเด่นชัด ดังนั้น สำหรับคนที่มีลักษณะริมฝีปากแห้งลอกอาจจะต้องมองหาเนื้อลิปสติกที่มีทั้งความแมตต์และเป็นเนี้อครีมในแท่งเดียวกัน ที่เรียกกันว่า เนื้อกึ่งแมตต์ หรือที่บางครั้งเรียกกันว่าเนื้อ Velvet นั่นเองค่ะ
ลิปสติกที่มีความแน่นของเนื้อสี ได้ที่สีชัดเจน มีความมันวาว ปากดูฉ่ำ ไม่แห้งและจะช่วยให้ริมฝีปากดูหนาขึ้น ด้วยความที่เนื้อลิปสติกเเบบครีมมีความมันวาว ทำให้ทาและเกลี่ยให้สม่ำเสมอได้ง่าย หากเทียบกับเนื้อเชียร์ที่มีความคล้ายกัน ลิปสติกเนื้อครีมจะมีความมันน้อยกว่าแต่ติดทนนานกว่า สาว ๆ ปากบางที่อยากให้ปากดูสวยเอิ่บอิ่ม การทาลิปสติกแบบครีมสามารถช่วยได้แน่นอนค่ะ
ลักษณะเนื้อลิปสติกแบบเชียร์และเนื้อซาตินั้น จะเป็นเนื้อบาง มีความมันวาวและให้ความชุ่มชื้นเช่นกัน เมื่อทาแล้วจะช่วยให้ปากดูมีความเย้ายวน ด้วยความที่เนี้อลิปสติกแบบนี้มีน้ำมันเป็นส่วนผสมจำนวนมาก จึงทำให้สีที่อยู่ในหลอดดูเข้มกว่าตอนทา และเราอาจจะต้องเติมปากบ่อย ๆ แต่เหมาะกับการทา Everyday Look เป็นอย่างมากค่ะ เพราะให้ความเป็นธรรมชาตินั่นเอง
ลิปสติกเนื้อชิมเมอร์มีทั้งที่เป็นสีเข้มหรือเป็นชิมเมอร์ที่อยู่ในลิปสติกสีอ่อน ช่วยให้ริมฝีปากดูเปล่งปลั่ง บางครั้งเนื้อลิปสติกแบบชิมเมอร์จะมี Finish Look ที่เป็นแบบกึ่งแมตต์ หรือ Matallic ที่มีความแห้งเล็กน้อย คล้ายลิปแมตต์ แต่เนื้อลิปยังคงมีประกายเเบบไข่มุก มีแสงระยิบระยับและดูเย้ายวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ใต้แสงไฟนีออน เนื้อลิปสติกแบบนี้เหมาะกับการทาเพื่อออกงานตอนกลางคืน หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ
Finish Look แบบกลอสหรือทินท์จะให้ความมันวาวและดูหนากว่าลิปสติกทั่วไป เป็นตัวเลือกของสาว ๆ ที่ต้องการเพิ่มความสดใส แวววาว ให้ริมฝีปากดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ความแน่นของสีบนลิปกลอสอาจจะไม่เท่ากับลิปสติกแบบอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ง่ายต่อการทำความสะอาด สามารถใช้ได้ทั้งกับลิปสติกชนิดอื่นเพื่อเพิ่มความสว่างสดใส หรือทาเป็นเสมือนลิปสติกก็ได้เช่นเดียวกัน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปากบาง เรียวเล็ก นอกจากช่วยให้ปากสว่างแล้ว ยังช่วยให้มีมิติอีกด้วย
ปัจจุบันลิปสติกได้ถูกออกแบบให้มีลักษณะที่แตกต่างเหมาะกับการใช้งานหลัก ๆ จะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบแท่ง และแบบลิควิด มาดูกันเลยค่ะว่า แบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรากันบ้าง
ลิปสติกแบบแท่ง ถือเป็นลิปสติกรูปแบบคลาสสิกที่สุด เพราะเป็นลิปสติกแบบแรกที่ถูกผลิตขึ้น ข้อดีคือ ทาง่าย เกลี่ยง่าย ลิปสติกแบบเเท่งในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้มีช่วงปลายที่มีความเป็นเหลี่ยมและแหลม เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวาดขอบปากได้ด้วยการใช้ปลายของลิปสติกได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ และยังเข้ากับรูปปากของเราด้วย เหมาะแก่การพกพาและง่ายต่อการเติมปากระหว่างวันที่สุดเลยค่ะ
เนื้อลิปสติกแบบลิควิด เป็นลิปสติกเนื้อเหลว ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสีที่ติดทนนาน และเป็นลิปสติกที่สามารถปกปิดร่องริมฝีปากได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับแปรงที่ช่วยให้เราสามารถออกแบบหรือวาดริมฝีปากของเราให้ดูหนา หรือบางได้ตามความชอบ แต่การใช้ลิปสติกแบบลิควิดนั้นอาจจะต้องอาศัยความชำนาญเพิ่มเข้ามาด้วย เพราะถ้าเลือกทาลิควิดลิปสติกที่เนื้อสีแน่นมาก ๆ อย่างเนื้อแมตต์ เนื้อลิปสติกจะแห้งเร็วและติดทน จำเป็นต้องเกลี่ยให้เสมอกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงสี ไม่เช่นนั้น จะเห็นความไม่สม่ำเสมอของลิปสติกได้ค่ะ
ลิปสติกหลายเนื้อ หลายสีที่เราเห็นกันนั้น จริง ๆ แล้วมีส่วนประกอบหลักเหมือนกัน คือ ไขแข็ง (Wax) น้ำมัน และสี ซึ่งส่วนประกอบทั้งสามทำหน้าที่แต่งต่างกันออกไป เช่น ไขแข็ง ช่วยในการขึ้นรูป ทำให้เป็นแท่ง น้ำมันจะช่วยในการหลอมละลาย และที่สำคัญคือสีที่จะเป็นตัวช่วยให้เกิดสีนั่นเอง ทั้งนี้ เพื่อลูกเล่นที่หลากหลายผู้ผลิตลิปสติกก็จะเติมสารอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น น้ำหอม สารป้องกันการเหม็นหืน และสารที่ช่วยในการบำรุงริมฝีปาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ส่วนผสมบางอย่างที่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น เช่น Wax เราจึงควรจะตรวจสอบส่วนผสมที่เหมาะสมกับริมฝีปากของเรา เช่น สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง ควรมองหาลิปสติกที่มีส่วนช่วยให้ปากชุ่มชื้น โดยเฉพาะส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันนั้น ควรเลือกลิปสติกที่มีน้ำมันธรรมชาติ เช่น Avocado Oil, Macadamia Seed Oil, Sunflower Oil หรือ Jojoba Seed Oil นอกจากนั้น ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถเป็นตัวช่วยบำรุงริมฝีปากของเราได้ เช่น วิตามินอี ผสมน้ำหอมที่สกัดจากธรรมชาติ หรือสารที่ช่วยป้องกันแสงแดด
ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยยังช่วยป้องกันในเรื่องของสารเคมีที่อาจตกค้างและเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ดังนั้น เราควรเลือกลิปสติกที่มีคุณภาพครบทุกด้านทั้งเรื่องสีและส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วยค่ะ
สำหรับใครลองอ่านวิธีการเลือกข้อมูลวิธีเลือกลิปสติกสีชมพูแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นใด ยี่ห้อใด มาทางนี้เลยค่ะ เรามี 10 อันดับ ลิปสติกสีชมพู รุ่นยอดนิยมที่ควรค่าแก่การครอบครองมาฝากกันค่ะ
เป็นลิปสติกจาก Maybelline New York ที่ออกแบบสีชมพู 7 เฉดสีให้เลือก เป็น Liquid ลิปสติกเนื้อแมตต์ ที่สามารถใช้ได้กับริมฝีปากทุกแบบ แม้จะมีปัญหาร่องปากลึก รับประกันเรื่องติดทนนานถึง 16 ชั่วโมง ทาง่ายด้วยหัวแปรงแบบไดมอนด์แหลม ไม่เลอะ สีที่อยากแนะนำคือ สี 175 RINGLEADER เป็นสีชมพูกะปิอ่อน ๆ ดูสุภาพ เหมาะสำหรับงานทางการ หรือต้องแต่งหน้าหวาน ๆ รับรองว่าสีนี้ทำให้ลุกคอมพลีทได้แน่นอนค่ะ ใครที่ชอบลิปสติกเนื้อแมตต์ หรือมองหาสีชมพูเฉดใหม่ ๆ ไม่ควรพลาดค่ะ
ลิปสติกบัตเตอร์ กลอส ใหม่จาก NYX ทั้งหมด 7 สี เนื้อลิปเป็นกลอส แต่เนื้อสีที่แน่น ติดทนนาน ไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นลิปสติกไม่เน้นการปกปิดริมฝีปาก สำหรับสีที่เราจะแนะนำนั้นชื่อ BLG36 - SORBET เป็นสีชมพูสว่าง เหมาะสำหรับวันสดใส ที่ต้องการ Finish Look ร่าเริงสดใส สามารถใช้เพียงบัตเตอร์ กลอสเพียงอย่างเดียว หรือวันไหนที่ต้องจัดเต็ม สามารถใช้ทาทับลิปสติกเนื้ออื่นเพื่อเพิ่มความแวววาวได้ด้วยเช่นค่ะ
เป็นลิปสติกเนื้อเนื้อผสมระหว่างครีมกับแมตต์ หรือที่เรียกว่าเนื้อ Velvet จาก Etude คอลเลคชั่นนี้ออกมาเพื่อเอาใจสาว ๆ ที่ชอบสีโทนโรเซ่ไวน์ หรือไวน์สีชมพูละมุน ๆ เนื้อลิปสติกเบาสบาย สีที่อยากแนะนำคือสี PK003 Mood Up เป็นสีชมพูกลีบกุหลาบ สามารถปกปิดได้ดี ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม หากใครที่อยากแต่งหน้าเทรนด์สาวเกาหลีต้องรีบกดซื้อเลย เหมาะกับ Everyday Look มาก ๆ ค่ะ
ลิปสติก Shimmer ที่ทาแล้วจะได้ Finish Look เป็น Mettalic ช่วยให้ริมฝีปากเปล่งประกาย และยังสามารถติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน มีวิตามินอี และน้ำมันสกัดจากอโวคาโด ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น รุ่นนี้มีทั้งหมด 6 สี สีที่อยากแนะนำ คือสี Patina Shimmer - Shimmering Dusty Rose เป็นสีชมพูเข้ม ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ยังคงความสดใส เหมาะกับการออกงานหรือเป็น Day to Night ก็ได้ค่ะ
ลิปสติกรุ่นนี้เมื่อทาจะได้ Finish Look เป็นเนื้อซาติน มีความพิเศษเรื่องเนื้อเบา ถึงจะมีเนื้อแห้งแบบแมตต์ แต่มีส่วยช่วยบำรุงจาก Japanese Camellia Oil ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง สีติดทนนาน ไม่หลุดลอก สีที่แนะนำคือสี PK347 เป็นสีชมพูสด ให้ความรู้สึกใส เหมาะกับการแต่งหน้าในวันสบาย ๆ เป็น Everyday Look ช่วยทำให้ดูสุขภาพดีค่ะ
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาลิปสติกสีชมพู หรือผู้ที่ชื่นชอบสีชมพู NARS Semi Matte Lipstick เนื้อลิปสติกเป็นกึ่งแมตต์ที่ช่วยให้ทาง่าย ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดน้ำมันมะรูมและเสาวรส ช่วยให้ดูมีชีวิตชีวา และใช้ได้กับทุกสภาพริมฝีปาก เป็นเนื้อแมตต์ที่พิเศษกว่าเนื้อแมตต์ทั่วไปเพราะไม่แห้ง ติดทนนาน และยังปิดสนิทด้วยค่ะ สี Schiap คืออีกหนึ่งสีที่ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะสีนี้เป็นสี Iconic ของแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ เป็นสีชมพูสว่างสดใส ให้ความโด่ดเด่นแก่ริมฝีปาก เหมาะกับการทาในช่วงกลางวัน รับรองว่าถ้าทาแล้วจะต้องสวย ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้แลดูเป็นคนมีความมั่นใจ
สำหรับใครที่เน้นการดูแลปกป้องริมฝีปาก แต่อยากให้มีสีชมพูอ่อน ๆ แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เนื้อลิปสติกมีความเบาบางมาก ทาแล้วให้ความรู้สึกสบาย เป็นลิปมันที่มีสีติดทน สามารถใช้ทาเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับลิปสติกเนื้ออื่น ๆ เพื่อให้ได้ Finish Look แบบ Gloss ค่ะ แนะนำสี Kiss Me Shine เป็นสีชมพูอ่อน สำหรับวันเบา ๆ ที่อยากแต่งหน้าเบา หรือวันที่ไม่แต่งหน้า ลิปมันรุ่นนี้เหมาะกับการนี้มาก ช่วยให้ริมฝีปากของเราดูสุขภาพดี และช่วยปกป้องริมฝีปากไม่ให้แห้งแตกด้วยค่ะ
มาถึงตาของลิปสติกเนื้อครีมจาก LAURA MERCIER เนื้อครีมมีความบางเบา แต่สีเข้มข้น ทาติดง่าย ช่วยให้เห็นเรียวปากชัด สำหรับใครที่มีปากแห้งแตก ลิปสติกตัวนี้ช่วยได้เนื่องจากมีความชุ่มชื้นสูงอยู่ได้นาน 6 ชั่วโมงเลยที่เดียวค่ะ สีที่แนะนำคือสีชื่อ A La Rose - Light Dirty Pink เป็นสีชมพูหม่น ๆ คล้ายสีกลีบกุหลาบ ที่สวยมาก เข้ากับทุกสีผิว ทำให้ดูเป็นสาวหวาน เหมาะสำหรับเดทแรก หรือจะเป็นลุกเจ้าสาวก็สวยสุด ๆ
ลิปสติกเนื้อผสมจาก Tom Ford รุ่นนี้เหมาะกับใครที่อยากจะได้สีชมพู เนื้อกึ่งแมตต์ สีลิปชัดเจน เนื้อติดทนนาน ไม่หนา หรือบางเกินไป ที่สำคัญคือทำให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื้นด้วยค่ะ เมื่อทาแล้วจะได้ Finish Look แบบแมตต์ และสีจะมีความเข้มขึ้นเล็กน้อย สีที่แนะนำคือสี Indian Rose เป็นสีชมพูกุหลาบโทนกลาง ๆ และอมเหลืองนิด ๆ สามารถเพิ่มความสว่างให้ริมฝีปาก เหมาะกับทุกสภาพผิว และทุกสถานการณ์
ลิปสติกเนื้อครีม ที่แบรนด์เรียกว่าเนื้อ Shine ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นปีนี้ เนื้อลิปสติกบางเบา และเปล่งประกาย แบบมีมิติ สวยเย้ายวน มีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูโรนิค และวิตามินอี ช่วยคงความชุ่มชื้นอย่างยาวนาน สีติดทนนาน และปกปิดได้มิด สีที่แนะนำคือสี Trailblazer เป็นสีชมพูระเรื่อ เหมาะกับการทาแบบ Everyday Look แนวสาว Office ตามสไตล์ของ Bobbi Brown หากใครที่มองหาสีใหม่ ๆ บอกเลยว่าตัวนี้ไม่ทำให้ตกเทรนด์แน่นอนค่ะ
ขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคนที่มองหาสีอื่น ๆ นอกจากที่เราแนะนำไป แต่ยังเป็นลิปสติกรุ่นเดียวกันก็สามารถค้นหาผ่านลิงค์ที่เราแปะไว้ได้เลยค่ะ แต่ละรุ่นมีสีชมพูเฉดอื่น หรือสีที่นอกเหนือจากสีชมพูด้วยนะคะ
อย่างที่เห็นกันค่ะว่าปัจจุบันลิปสติกนั้นมีลูกเล่นเยอะมาก แต่ละรุ่นถูกคิดค้นออกมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย และใช้ได้กับทุกผิว ทุกวัย หวังว่า 10 อันดับ ลิปสติกสีชมพูที่เราได้รวบรวมมาไว้ครั้งนี้ หวังว่าจะถูกใจหลาย ๆ คน สามารถเลือกดูได้ตามความต้องการใช้งาน หรือสไตล์การแต่งหน้าของแต่ละคนได้เลยนะคะ หากใครที่ยังลังเลใจอยู่ว่าจะใช้ลิปสติกสีชมพูดีไหม หลังจากอ่านบทความนี้แล้วคงจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้า