หนึ่งในเครื่องสำอางที่ช่วยเนรมิตให้ดวงตาของสาว ๆ ดูสวยโดดเด่นนั่นก็คือ “อายแชโดว์” เพราะมีสีสันที่สดใส แถมยังมีหลายเนื้อสัมผัสหลายสีให้เลือกสรร ทำให้ครีเอทได้หลายลุค ไม่ว่าจะเป็นลุคสวยหวาน ลุคสาวเปรี้ยว หรือลุคสาวเกาหลี แต่หากมีแค่สีเดียวคงจะไม่พออย่างแน่นอน ในบทความนี้ เราจึงขอนำเสนอ "พาเลตต์อายแชโดว์" ที่จะมาช่วยสร้างความหลากหลายให้กับดวงตาของคุณกันค่ะ แต่ในความหลากหลายนี้เองทำเอาสาวหลายคนไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน จึงพลาดซื้อพาเลตต์อายแชโดว์ที่ไม่เข้ากับตนเองมา และเพื่อไม่ให้คุณผู้อ่านต้องเจอกับปัญหานั้น ครั้งนี้ผู้เขียนได้นำตัวช่วยมาให้แล้วค่ะ
สำหรับอันดับแรกสิ่งที่ควรรู้คือ “วิธีการเลือกพาเลตต์อายแชโดว์” ในลำดับถัดมาจะเป็นการจัด “10 อันดับ พาเลตต์อายแชโดว์ยอดฮิตขายดี” ซึ่งผ่านการเปรียบเทียบทั้งราคา คุณสมบัติและรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ซึ่งจะช่วยประกอบการเลือกซื้อได้ดีเลยค่ะ อีกทั้งช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่ว่า อุตส่าห์ซื้อพาเลตต์อายแชโดว์มาทั้งที แต่ใช้จริงได้แค่สีเดียว ดังนั้น เพื่อให้ดวงตาคู่สวยของคุณดูมีเสน่ห์และน่าจับจ้อง เราไปดูเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับพาเลตต์อายแชโดว์กันดีกว่าค่ะ
เพราะหน้าที่หลักของอายแชโดว์คือ “การเพิ่มสีสันให้ดวงตา” ทำให้สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือ “สี” ซึ่งผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเลือกสีที่สวยถูกใจมากกว่าคำนึงเมคอัพลุคที่ต้องการ
นอกจากสีแล้ว รูปร่างของดวงตา หรือแม้แต่โทนสีผิวของเราก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น เพื่อให้ได้อายเมคอัพที่สมบูรณ์แบบเหมาะกับตนเอง ผู้เขียนได้อธิบายวิธีการเลือกอย่างละเอียดไว้ด้านล่างนี้แล้วค่ะ
อันดับแรกให้ลองร่างลุคเมคอัพที่ต้องการแล้วค่อยเลือกสีอายแชโดว์ตามนั้น ถ้าอยากได้ลุคที่มีชีวิตชีวา ร่าเริงสดใส แนะนำให้เลือกเฉดสีส้ม หรือเหลือง แต่ถ้าอยากให้ดูเป็นสาวน่ารักอ่อนหวานให้เลือกโทนสีชมพู ส่วนใครที่เป็นสาวสุขุม มาดเนี้ยบ ให้เลือกสีน้ำเงิน หรือเทา และถ้าสาวคนไหนอยากดูแพงสวยสง่าให้จัดสีเชอร์รี่ออกม่วงไปเลยค่ะ
Tip 1 : เทคนิคการลงอายแชโดว์ ในเฉดสีเข้มนั้นไม่ควรลงสีเดียวโดยให้เข้มเท่ากันทั้งเปลือกตา เพราะจะทำให้ดูหนาหนัก ควรไล่ระดับความเข้ม-อ่อน โดยใช้สีเข้มที่หางตาและใช้สีที่อ่อนกว่าบริเวณหัวตา
Tip 2 : เพื่อให้อายแชโว์กลมกลืนเป็นธรรมชาติและไม่เป็นคราบระหว่างทา ก่อนทาอายแชโดว์ ให้ทาสีเบจ หรือสีทองนวล ๆ เป็นเบสก่อนทุกครั้งนะคะ
ในวิธีการเลือกพาเลตต์อายแชโดว์ให้เข้ากับโทนสีผิว และรูปทรงของดวงตานั้น ไม่ใช่ว่า จะแต่งลุคไหน สีอะไรแล้วจะสวยไปหมดทุกลุคนะคะ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ ต้องเลือกสีให้เหมาะกับตนเองด้วยเช่นกัน
โดยพื้นฐานแล้วการเลือกอายแชโดว์ให้เหมาะกับโทนสีผิว จะช่วยเน้นให้เมคอัพบนใบหน้าสวยเด่นมากขึ้น ถ้าใครเป็นสาวผิวโทนอบอุ่นจะเหมาะมากกับอายแชโดว์ที่มีโทนสีร้อน เช่น สีน้ำตาล สีทอง สีส้มและสีแดง แต่ถ้าเป็นสาวผิวโทนสีเย็น แนะนำให้เลือกเฉดสีโทนเย็นเป็นหลัก เช่น สีเงิน สีลาเวนเดอร์ สีฟ้า และสีชมพูเหลือบน้ำเงิน
สำหรับการเลือกสีขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า อยากได้ลุคแบบไหน แต่ถ้าใครยังเลือกไม่ได้ หรือกลัวจะเลือกพลาด ควรไปลองที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง เพื่อให้พนักงานช่วยแนะนำก็ได้ค่ะ
Tip : พื้นฐานสีผิวของสาวเอเชียโดยส่วนใหญ่มักจะออกไปทางโทนเหลืองซะมากกว่า นอกเหนือจากสีที่ได้แนะนำกันไปแล้ว ยังมีโทนสีที่จะช่วยเน้นดวงตาให้เด่นชัดยิ่งขึ้นนั่นก็คือ อายแชโดว์โทนสีเขียว หรือน้ำเงิน โดยให้ทาเน้นบริเวณหางตาเพียงเล็กน้อย จะช่วยสร้างลุคให้ดวงตาของคุณดูกลมโตเลยล่ะค่ะ
หลายคนอาจไม่คิดว่า “ชั้นของเปลือกตา” มีผลต่อการเลือกสีอายแชโดว์ด้วย แต่ถ้าใครลองสังเกตดี ๆ เรื่องเล็กน้อยนี้สามารถทำให้คุณปัง หรือพังได้เลยค่ะ โดยเฉพาะสาวตาชั้นเดียว หรือสองชั้นหลบใน ควรหลีกเลี่ยงการใช้อายแชโดว์โทนสีแดงเข้ม เพราะจะทำให้ดวงตาของคุณดูบวมช้ำได้
สำหรับสาวตาสองชั้น นับว่า เป็นโชคดีของคุณเลยค่ะ เพราะจะใช้อายแชโดว์สีอะไรก็ได้ แต่ถ้าอยาก Play Safe แนะนำให้ระมัดระวัง “โทนสีเข้ม” เนื่องจากเปลือกตาของคุณมีพื้นที่ทาอายแชโดว์ค่อนข้างกว้าง หากใช้สีเข้มมากจะทำให้ดูฉูดฉาดจนเกินไปได้ หรืออาจจะลองหันมาใช้โทนสีที่อ่อนละมุน เพื่อสร้างลุคที่ซอฟท์และดูเป็นธรรมชาติมากกว่าก็ได้นะคะ
Tip : สาวตาชั้นเดียว หรือสองชั้นหลบใน คุณจะยิ่งดูดีขึ้นถ้าเลือกใช้อายแชโดว์โทนสีส้ม หรือเบจที่ใกล้เคียงกับสีผิว และถ้าใครอยากใช้สีเข้มจริง ๆ ให้เลือกลงเฉพาะบริเวณหางตาแล้วใช้สีอ่อนทาบริเวณหัวตา เพื่อสร้างมิติให้ดวงตาดูโดดเด่นขึ้นมา ส่วนสาวตาสองชั้น หากรู้สึกว่า สีอายแชโดว์ดูหนัก หรือเข้มเกินไป ให้ใช้สีอายแชโดว์ที่เป็นสีอ่อนมีชิมเมอร์ เช่น สีเบจ สีทอง และสีขาว ทาทับอายแชโดว์สีเข้มตรงกึ่งกลางตาเพื่อสร้างเงาและทำให้สีเข้มดูอ่อนลงค่ะ
เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ ใครที่ไม่ได้ชอบเปลี่ยนลุคแต่งหน้าบ่อย ๆ หรือกลัวเลือกสีพลาด แนะนำให้คว้าพาเลตต์ที่มีโทนสีน้ำตาลและสีชมพูมาไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะเป็นโทนสีพื้นฐาน ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติ เหมาะกับการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน เช่น ไปทำงาน ไปเรียน เป็นต้น
ในทางกลับกัน สำหรับวันพิเศษ ๆ อย่างวันแต่งงาน ปาร์ตี้ หรือเดตกับคนรู้ใจ การเลือกใช้โทนสีที่กล่าวมาอาจจะดูธรรมดาเกินไป ให้ลองเปลี่ยนไปใช้โทนสีน้ำเงิน หรือเทาดูบ้าง เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับเมคอัพลุคกันดูนะคะ
Tip : นอกจากโทนสีแล้ว ยังมี “เนื้อสัมผัส” ที่จะช่วยสร้างลุคเมคอัพให้มีความแตกต่าง ถ้าวันไหนแต่งเป็นลุคทางการ แนะนำให้เลือกอายแชโดว์เนื้อแมตต์ แต่ถ้าอยากดูเปล่งประกาย สดใสและน่ามอง ให้เลือกโทนสีประกายมุกเพื่อเพิ่มมิติให้กับดวงตา หากวันไหนต้องไปงานกลางคืน หรือไปปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ให้ลองใช้อายแชโดว์เนื้อกลิตเตอร์ดูสิคะ เพราะอายแชโดว์เนื้อนี้จะช่วยเล่นกับแสงไฟและทำให้ดวงตาของคุณดูโดดเด่นขึ้นมาเลยค่ะ
โดยส่วนใหญ่อายแชโดว์มักจะมีคอลเลคชั่นต่าง ๆ ออกมาตามฤดูกาล ซึ่งเป็นโทนสีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และโทนสีเหล่านี้ก็สามารถใช้ร่วมกับฤดูกาลของประเทศไทยได้เช่นกัน อย่างหน้าร้อนจะมีโทนสีที่น่าสนใจมากมาย เช่น สีชมพู สีเหลือง สีน้ำเงิน สีส้มและสีน้ำตาลอ่อน ส่วนในหน้าฝนและหน้าหนาวจะมีโทนสี เช่น สีแดงอมม่วง สีเขียวเข้ม สีไวน์แดง และสีสโมคกี้ นอกจากโทนสีจะเข้ากับฤดูกาลแล้ว ยังทำให้คุณยังกลายเป็นสาวอินเทรนด์ที่เกาะกระแสเมคอัพตลอดทั้งปีอีกด้วยนะคะ
สำหรับมือใหม่หัดซื้อ หรือคนที่ไม่ได้แต่งหน้าจริงจัง อาจไม่เคยรู้ว่า “แต่ละสีมีหน้าที่ต่างกันอย่างไร” ดังนั้น ก่อนจะซื้อควรรู้คุณสมบัติของแต่ละสีกันก่อน เห็นอย่างนี้จะรอช้าไม่ได้แล้ว ไปตามอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
ส่วนมากสีที่สว่างที่สุดในพาเลตต์จะทำหน้าที่เป็น “ไฮไลท์” ค่ะ ซึ่งสีไฮไลท์จะมีความประกายใช้ทำได้หลายอย่าง ทั้งทาหัวตาเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ทาเป็นเบสก่อนลงอายแชโดว์สีอื่น หรือจะทาใต้โครงคิ้ว เพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้าก็ได้ ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อพาเลตต์ที่มีสีไฮไลท์รวมอยู่ในนั้นด้วย เวลาแต่งหน้าจะได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในบางพาเลตต์ก็ไม่มีสีไฮไลท์ใส่มาให้เลย ซึ่งในกรณีนี้แนะนำให้ลองหาสีสว่างที่สามารถนำมาใช้แทนกันได้ดูนะคะ
สีนี้จะเป็นสีกลางอยู่ระหว่างไฮไลท์กับโทนสีเข้มในพาเลตต์ ใช้เป็นสีหลักในการทาเปลือกตาทั้งหมดและเป็นตัวเชื่อมสีอื่น ๆ ให้กลมกลืนเข้ากัน เรียกง่าย ๆ ก็คือ “เป็นสีที่ช่วยสร้างลุคอายเมคอัพให้ละมุนขึ้น” ดังนั้น อย่าลืมสังเกตดูสีนี้ในพาเลตต์ที่ซื้อมาด้วยนะคะว่า มีโทนสีกลางนี้อยู่ด้วยหรือไม่
โดยทั่วไปสีที่เข้มที่สุดในพาเลตต์จะถูกเรียกว่า สีหลัก หรือ Shade Color ลักษณะของสีนี้คือ สีที่เข้มที่สุดในพาเลตต์ทำหน้าที่สร้างเงาให้กับดวงตา ส่วนมากมักใช้กับบริเวณหางตาค่ะ แต่ไม่ควรใช้สีอ่อนในการสร้างเงา เพราะจะไม่สามารถทำให้ดวงตาดูคมชัดได้เลย
Tip : สำหรับใครที่อยากมีตาโตและดูเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ใช้ไฮไลท์โทนสีขาว เช่น สีงาช้างทาที่บริเวณหัวตา จากนั้นใช้สีดำ หรือสีน้ำตาลทาชิดบริเวณหางตา โดยตวัดให้ยาวออกมาเล็กน้อยแล้วถมร่องหางตาบาง ๆ ส่วนใครที่ดวงตาหมองคล้ำดูอ่อนล้า แนะนำให้ใช้ไฮไลท์โทนสีขาวทาเปลือกตาเป็นเบสก่อน เพราะจะช่วยปรับให้สีอื่น ๆ ที่ลงทับดูสว่างขึ้น และทำให้ดวงตาของคุณสดใสมากกว่าเดิมค่ะ
อีกหนึ่งพาเลทที่ครบเครื่องเช่นกัน เพราะมีทั้งสีชิมเมอร์ที่เป็นได้ทั้งอายแชโดว์และไฮไลท์ สีเข้มที่ทำได้ทั้งทาตาและเขียนคิ้ว แถมสร้างมิติให้กรอบหน้าได้ด้วย เนื้อสีชัดมาก ติดทนตามสไตล์ของ NYX เลย พาเลทเป็นเนื้อฝุ่นทั้งหมด มาในตลับพลาสติกอย่างดี แถมมีกระจกบานใหญ่มาให้ด้วย แต่ไม่มีแปรงมาให้นะคะ
ช่วงนึงมิ้วใช้บ่อยมาก แถมใช้แต่งในวันรับปริญญาให้รุ่นน้องด้วย แต่ควรระวังตอนพกไปเที่ยวนิดนึง อาจจะต้องเก็บดี ๆ เพราะพาเลทมันดูใหญ่แถมค่อนข้างมีน้ำหนักไปบ้าง แต่ถ้าพกไปพาเลทเดียวก็คือจบเลยเช่นกัน แต่งได้ทั้งโทนหวานและโทนแซ่บค่ะ
สีของอายแชโดว์สามารถเปลี่ยนลุคในแต่ละวันของสาว ๆ ได้ หากเป็นอายแชโดว์ที่ออกงานกลางคืน ก็ต้องใช้โทนสีเข้มเพื่อเพิ่มความน่าค้นหา มีเสน่ห์ให้แก่ดวงตา แต่หากใครต้องการลุคสดใสในวันสบาย ๆ อายแชโดว์สีโทนชมพูและพีชก็จะทำให้เพื่อน ๆ เป็นสาวหวานมากขึ้นค่ะ จะมียี่ห้ออะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันได้ในบทความข้างล่างนี้เลยค่ะ
ตอนนี้หลายคนคงจะรู้แล้วว่า พาเลตต์อายแชโดว์ลักษณะอย่างไรที่เหมาะกับตนเอง ลำดับต่อไป เรามาอ่านข้อมูลและรีวิวของสินค้าที่น่าสนใจกันดีกว่าค่ะ อย่างไรก็ตาม สาว ๆ อย่าลืมเลือกให้เข้ากับโทนสีและความต้องการกันนะคะ
เมื่อพูดถึงแบรนด์นี้มีหรือที่ใครจะไม่รู้จัก อีกทั้งยังเป็นพาเลตต์อายแชโดว์ขนาดมินิที่สาวหลายคนต้องมีอย่างแน่นอน ซึ่งในพาเลตต์นี้จะมี 5 เฉดสีที่ใช้ง่าย สะดวก สามารถสร้างสีและเงาได้ในตลับเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้หลายสีให้วุ่นวาย มาพร้อมแปรงที่มี 2 หัวจับง่าย ถนัดมือ จะใส่กระเป๋าเอาไว้อุ่นใจ ยามต้องการหยิบมาเสริมเติมแต่งก็ง่ายมาก มีให้เลือกทั้งหมด 6 เฉดสีให้แต่งตามสไตล์ที่ชอบได้ เม็ดสีชัด ไม่มีผงร่วงเลย ข้อเสียเพียงนิดเดียวคือ ไม่มีกระจกมาให้ อาจจะต้องพกกระจกเล็กไว้ด้วยนะคะ
สาวคนไหนที่ชอบเครื่องสำอางแพ็กเกจน่ารัก ๆ มาทางนี้เลยค่ะ เพราะรุ่นนี้เขาทำตลับอายแชโดว์ออกมาในธีมผลไม้ ให้สีหวาน ๆ โทนอบอุ่นแนวสดใส พร้อมต้อนรับฤดูร้อนของไทยเลย ด้วยโทนสีน้ำตาล ส้มและชมพู ทำให้ใช้ง่าย แต่งได้ในทุกวัน แถมยังมีให้เลือกหลายเนื้อสัมผัส ช่วยให้ครีเอทได้หลายลุคไม่ซ้ำกัน เหมาะกับทุกสีผิว ผู้ที่ใช้จริงรีวิวไว้ว่า เนื้อนุ่ม สีสวย กันน้ำกันเหงื่อได้ดี ทนต่อความมัน ทำให้ติดทนนานตลอดทั้งวัน ส่วนข้อเสียคือ ระหว่างทาอายแชโดว์จะมีเนื้อ หรือชิมเมอร์หลุดเป็นผงบ้างเล็กน้อยค่ะ
ต้องไม่พลาดที่จะต้องเอ่ยถึงพาเลตต์ของแบรนด์นี้ เพราะสีที่สวยน่าใช้และราคาน่ารักมาก ๆ พาเลตต์นี้มี 16 สี ให้ครบทั้งสีกลาง สีเข้มและสีไฮไลท์ เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบแมตต์และมีชิมเมอร์ที่ดูเนี้ยบ เนื้อนุ่มแบบกำมะหยี่ให้ความเป็นธรรมชาติและไม่ทำให้เปลือกตามันระหว่างวัน เม็ดสีเข้มแค่ปาดครั้งเดียวก็พอ เหมาะกับลุคการแต่งหน้าในทุกวัน แต่หากใครอยากได้ลุคสำหรับออกงาน จะเบลนด์ให้เข้มขึ้นก็สามารถให้ลุคคมดุได้เช่นกัน ในพาเลตต์ไม่มีกระจก หรือแปรงแถมมาให้ อาจต้องพกแปรงและกระจกเสริม
พาเลตต์อายแชโดว์สุดฮิต เน้นโทนสีนู้ดชมพู และน้ำตาลที่สามารถใช้ได้จริง ไม่จำเป็นต้องอาศัยทักษะการแมทช์คู่สีก็แต่งตาให้สวยได้ง่าย ๆ ส่วนเรื่องของเนื้อผลิตภัณฑ์ ผู้ที่ใช้จริงรีวิวไว้ว่า เนื้อเนียน มีกระจายเป็นผงเล็กน้อย เม็ดสีแน่นปานกลาง อาจต้องมีทาย้ำบ้าง แต่เพราะโทนสีสวยและครบครันทั้งไฮไลท์ สีเข้ม สีอ่อน พร้อมด้วยราคาที่ย่อมเยาจึงได้รับความนิยมสูง ขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับพกพา ถูกใจสาว ๆ ทุกคนตั้งแต่นักเรียนนักศึกษาไปจนถึงสาววัยทำงานที่มองหาอายแชโดว์ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน
ก้าวสู่พาเลตต์อายแชโดว์คุณภาพอีกหนึ่งแบรนด์ที่ถูกถามกันมาเยอะ เพราะแบรนด์นี้ต้องออกตัวก่อนว่า เนื้ออายแชโดว์ เม็ดสีผู้ดีมาก ๆ ให้สีที่นวลเนียน ละมุน มีเนื้อสัมผัสซาตินที่นุ่มและสวย มีให้เลือก 3 เฉดสี สามารถแต่งได้ในลุคกลางวัน และกลางคืน จะสร้างสีตาให้ดูหวานซึ้ง หรือจะแต่งลุคแบบเนี้ยบ ๆ ก็ทำได้หมด ให้ความโปร่งสบาย สีไม่ทึบเกินไป เนื้ออายแชโดว์ไม่ร่วงหล่นเป็นผงที่ใต้ตา ทาง่าย สีไม่จับตัวเป็นก้อน หมดปัญหาเรื่องของสีอายแชโดว์ที่มักสร้างความรำคาญเวลาทาตาแล้วไม่สวยไปได้เลย
พาเลตต์อายแชโดว์ที่ไม่เป็นสองรองใคร แบรนด์นี้ดังมากในเรื่องของไพรเมอร์ค่ะ แต่อายแชโดว์ก็ดังมากเช่นกัน เพราะมีเนื้อสีที่แน่น ทาง่าย เพียงแค่จิกสีและทาบนเปลือกตาก็ได้สีที่ชัด ไม่ต้องลงซ้ำอีก ขนาดพกพา มีสีให้เลือก 12 เฉดสี ในหนึ่งตลับมี 8 เฉดสีให้เลือกแต่ง โดยในนั้นจะมีอายแชโดว์เป็นสีเบสอยู่ 2 สีอยู่ข้างบนสุด ช่วยในการเบลนด์ตาและสร้างมิติ ขอบอกว่า คุ้มมาก ๆ ในเรื่องการติดทนไม่ต้องพูดถึง แน่นนานทั้งวัน อีกทั้งแบรนด์นี้ไม่มีการทดลองกับสัตว์ หมดเรื่องสารอันตรายกับผิวไปได้เลยค่ะ
นอกจากจะมีบลัชออนคุณภาพดีแล้ว แบรนด์นี้ก็มีอายแชโดว์ที่เด่นดังไม่แพ้กัน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เอาใจสาวกช็อคโกแลตโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสมของผงโกโก้แท้ ทำให้มีกลิ่นหอมเหมือนขนม สีส่วนใหญ่ออกโทนธรรมชาติเน้นไปทางสีน้ำตาล เนื้อสัมผัสทั้งชิมเมอร์และแมตต์ เหมาะกับทุกลุคได้ดี ในแพ็กเกจไม่มีแปรงแต่งตาแถมมาด้วย แต่มีกระจกให้แทนนะคะ หลายคนรีวิวกันไว้ว่า ให้เม็ดสีที่แน่น เนียนลื่น เกลี่ยง่าย สีติดดีและติดทนนาน ที่สำคัญไม่มีกลูเตนและสารกันบูด จึงไม่เป็นอันตรายต่อคนที่มีผิวบอบบางค่ะ
อายพาเลตต์ของนักออกแบบคิ้วชื่อดังที่มาจับเครื่องสำอาง ทำเอายอดขายถล่มทลายเอาใจคนรักเมคอัพ พาเลตต์อายแชโดว์ตลับนี้ให้ความน่ารัก ใส ๆ ซน ๆ ปนความสวยเก๋อยู่ในตัว ในพาเลตต์มีมีเฉดสีทั้งสีอ่อน สีเข้ม และสีสดใส อย่างเช่น สีชมพู และสีส้มอิฐ ช่วยอัพลุคของคุณให้สวยได้ในทุกโอกาส โดยไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้สะดวกในทุกที่ ไม่ต้องเสียเวลาพกอายแชโดว์ตลับเล็ก ๆ ให้เปลืองพื้นที่เลย แถมเม็ดสียังติดทนตั้งแต่เช้าจรดเย็นก็ไม่ทำให้เป็นคราบเลอะแม้แต่น้อย
แบรนด์นี้นับว่า เป็นอีกแบรนด์ที่มีพาเลตต์อายแชโดว์เยอะมากจริง ๆ ทั้งโทนสี Everyday Look หรือจะคัลเลอร์ฟูลสีสันจัดเต็ม ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ของเขามีส่วนผสมมาจากโคลนในลุ่มน้ำอะเมซอน ทำให้เนื้อติดทนนาน โดยรุ่น “Tartelette In Bloom” ได้เพิ่มคุณค่าของแร่ธาตุต่าง ๆ ช่วยให้เนื้อสัมผัสเนียนลื่น เกลี่ยง่าย นอกจากนี้ ยังปราศจากสารกันเสีย น้ำมันแร่และสารอันตรายอื่น ๆ จึงอ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย สาว ๆ รีวิวไว้ว่า เม็ดสีแน่น กันน้ำกันเหงื่อ ทนต่อความมัน ระหว่างวันสีไม่จางและติดทนนาน
หนึ่งในพาเลทอายแชโดว์ที่ยังฮิตและมาแรงมากในขณะนี้ ด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ไม่มีส่วนผสมและการทดลองจากสัตว์ 100% เม็ดสีแน่นเนียนดุจกำมะหยี่ จึงให้ความละเอียด เกลี่ยง่าย สีติดเปลือกตาได้ดี มีโทนสีทั้งหมด 12 เฉดสี เนรมิตตาให้หวานน่ารัก หรือจะสโมคกี้อายส์เก๋ ๆ ก็สวยไม่เบา ทนความมันได้ดี สีไม่เพี้ยนระหว่างวัน เหมาะกับทุกโทนสีผิวและทุกลุคการแต่งหน้า สำหรับแพ็กเกจของรุ่นนี้เป็นกล่องตลับเหล็กสีหวาน มีกระจกใหญ่พร้อมแปรงแต่งตา 2 หัวคุณภาพดีแถมมาให้ จึงนับว่า คุ้มราคาสุด ๆ ไปเลยค่ะ
วิธีการทาอายแชโดว์ให้เก่งและถูกต้องจะต้องยึด 3 สีหลักตามที่ผู้เขียนได้แนะนำไปตอนต้น ได้แก่ “สีไฮไลท์” “สีกลาง” และ “สีเข้ม” โดยอันดับแรกให้ลงสีไฮไลท์ให้ทั่วทั้งเปลือกตา ต่อมาให้ใช้สีกลางทาทับตามลงไปให้ที่ชั้นตา ทำการเบลนด์ให้ไล่ระดับให้สีเสมอกัน แต่ถ้าใครเบลนด์ไม่ถนัด ให้ใช้แปรงแต่งตาแต้มสีไฮไลท์แล้วค่อยทาทับสีกลางทีละน้อย ๆ แทนก็ได้ค่ะ หลังจากนั้นให้ใช้สีเข้มลงที่ขอบตาเพื่อสร้างไลน์เนอร์ จะทำให้ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติค่ะ สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ลองหัดทำตามขั้นตอนนี้ซ้ำ ๆ ประมาณสัก 2-3 ครั้ง ก็จะสามารถแต่งลุคนี้ได้อย่างมือโปรและสวยสมบูรณ์แล้วค่ะ ส่วนใครที่ชื่นชอบการทาตาให้เห็นสีชัดเจน แนะนำให้ใช้นิ้วทา แต่ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้ตอนทาสีเข้ม เพราะจะดูเด่นชัดเกินไปไม่เป็นธรรมชาติค่ะ
Tip : นอกจากสีไฮไลท์จะใช้เป็นเบสช่วยปรับสีของอายแชโดว์อื่น ๆ ได้แล้ว ยังใช้เพิ่มความน่ารักให้กับดวงตาได้ด้วย เพียงแค่แต้มบริเวณขอบตาล่างเล็กน้อย แต่ระวังอย่าหนักมือ หรือทามากเกินไป เพราะอาจจะดูตั้งใจจนเกินไป
สำหรับสีเข้ม โดยทั่วไปไม่ใช่สีที่เอาไว้ทากลางเปลือกตาแบบสีอื่น แต่เป็นสีที่เอาไว้ลงตรงขอบตา หรือจะทาบริเวณขอบตาส่วนหัวและท้ายอย่างเดียวก็ได้ เพื่อขับให้ดวงตาดูชัดและปรับระยะห่างของดวงตาให้ได้สมดุลเข้ากับรูปหน้าค่ะ
ในพาเลตต์อายแชโดว์ของแต่ละแบรนด์มักจะมีแปรงทาตาแถมมาให้เสมอ ซึ่งแปรงที่แถมมาส่วนใหญ่จะเป็นแปรงขนสังเคราะห์ หรือแปรงหัวฟองน้ำ หรือหากทางแบรนด์ไม่มีแถมมาให้ ลองหาซื้อแปรงทาตาดี ๆ สักอันมาช่วยเติมแต่งให้ตาของคุณน่าหลงใหลและชวนมองกันค่ะ
สำหรับข้อดีของการใช้แปรงทาตานี้ จะช่วยทำให้การแต่งตาของคุณง่ายขึ้น ทำให้ได้สีที่ติดชัด สวยและพอดีกับดวงตา อีกทั้งยังช่วยเพิ่มทักษะการแต่งตาของคุณให้เก่งมากขึ้นอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมใช้แปรงทาอายแชโดว์ให้คุ้นมือ และหมั่นทำความสะอาดแปรงที่เป็นขนสังเคราะห์เดือนละ 2 ครั้ง สำหรับแปรงหัวฟองน้ำนั้น หากมีสภาพที่หลุดลุ่ย หรือฉีกขาด ควรทิ้งและเปลี่ยนใหม่ เพื่อดวงตาคู่สวยของเราจะได้ไม่มีเชื้อโรคและเกิดการระคายเคืองค่ะ
หลังจากได้อ่านบทความนี้ไปแล้ว ไม่ทราบว่า ทุกคนหาพาเลตต์อายแชโดว์คู่ใจได้หรือยังคะ? อย่างน้อยก็คงจะมีสีที่เล็งกันไว้แล้วใช่ไหมเอ่ย ก่อนซื้ออย่าลืมคำนึงถึง “สี” และ “เนื้อสัมผัส” นะคะ เพราะทั้งสองสิ่งนี้สามารถสร้างลุคที่จะพัง หรือปังได้เลย หลังจากได้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจกันไปแล้ว อย่าลืมใส่ใจเลือกซื้ออายรีมูฟเวอร์ด้วย เพราะถ้าหากทำความสะอาดดวงตาไม่ดี โอกาสที่จะทำให้เกิดการระคายเคือง หรือการอักเสบของดวงตานั้นก็มีอยู่สูงเลยทีเดียว สุดท้ายนี้อย่าลืมแชร์บทความให้เพื่อน ๆ อ่านกันเยอะ ๆ นะคะ จะได้แบ่งความสวยให้แก่กัน และจะได้ไม่ต้องมานั่งช้ำใจกับการเลือกพาเลตต์อายแชโดว์ผิดสี หรือไม่ตรงกับโทนสีผิวกันอีก ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ
