รีวิว 6 อันดับ น้ำตาลทรายแบบซอง น่าใช้ คุณภาพเยี่ยม เจ๋งอ่ะ!! อัพเดทล่าสุดปี 2567

ค้นหาสินค้าคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดังกว่าร้อยแบรนด์ และร้านค้าแนะนำอีกมากมาย แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ช้อปสิ่งที่ชอบ เพิ่มสิ่งที่ใช่ให้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน มาเพิ่มสิ่งที่ชอบได้อย่างไร้ขีดจำกัด
คุณภาพเจ๋ง ราคาคุ้มค่า เราอยากนำเสนอ น้ำตาลทรายแบบซอง  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง น้ำตาลทรายแบบซอง  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง คุณภาพเยี่ยม ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
หากคุณกำลังมองหาน้ำตาลทรายแบบซองพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมน้ำตาลทรายแบบซองชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ น้ำตาลทรายแบบซอง ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ น้ำตาลทรายแบบซอง ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

น้ำตาลทรายแบบซอง (Stick Sugar) จัดเป็นความสะดวกในการทานอาหารอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เพราะให้ปริมาณคงที่และใช้งานแบบซองต่อซองได้เลย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ เก็บไว้ได้มิดชิดโดยไม่สัมผัสกับอากาศ จึงไม่ปนเปื้อนกับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม แต่ทว่า ประโยชน์เหล่านี้ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยเราตัดสินใจเท่าไรนัก เพราะในความเป็นจริงแล้ว น้ำตาลที่มีในตลาดนั้นมีให้เราได้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย แถมยังมีเรื่องโภชนาการและสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกน้ำตาลทราบแบบซอง เพื่อช่วยให้คุณได้เข้าใจและรับมือกับความหวานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทางทีมงานยังได้ทำการจัดอันดับ 10 อันดับ น้ำตาลทรายแบบซอง จากผู้ผลิตชื่อคุ้นหูทั้ง มิตรผล, วังขนาย, ลิน, Equal มาฝากไว้ให้ผู้อ่านใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อกันอีกด้วย ว่าแล้วก็ไปเริ่มตามหาน้ำตาลซองที่ใช่ไว้เติมความหวานกันได้เลยค่ะ

สำหรับวิธีการเลือกน้ำตาลทรายแบบซองนั้นมีเทคนิคง่าย ๆ ที่หลายคนคุ้นเคย โดยเริ่มต้นจากการเลือกประเภทน้ำตาลที่เราต้องการใช้ ตามมาด้วยน้ำตาลที่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับอาหารนั้น ๆ เสริมด้วยคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ที่ได้รับ ไปจนถึงระดับความหวานที่เราชื่นชอบ ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อสังเกตที่ช่วยให้ผู้ซื้อได้ใช้เปรียบเทียบด้วยค่ะ

สิ่งแรกที่คุณควรพิจารณาเมื่อต้องตัดสินใจเลือกซื้อคือ "ประเภทของน้ำตาล" เพราะแม้ในซองจะเป็นน้ำตาลเหมือนกัน แต่น้ำตาลคนละประเภทก็ มีกลิ่น, รสชาติ, ระดับความหวาน หรือแม้แต่พลังงานที่แตกต่างกันออกไป โดยแบ่งประเภทของน้ำตาลได้ดังนี้

น้ำตาลทรายขาว (White Sugar) ถือเป็นน้ำตาลประเภทแรกที่เราสามารถพบเห็นได้ในตลาดและเป็นที่นิยมใช้บริโภคมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นน้ำตาลทรายดิบที่ผ่านกระบวนการฟอกสีและสกัดเอาสิ่งเจือปนต่าง ๆ ออก โดยกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ดังกล่าวก็ยังมีแยกย่อยไปถึง 2 ระดับ ทำให้สามารถแบ่งน้ำตาลทรายขาวออกไปได้อีก 2 ชนิด คือ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (Refined Sugar) และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar)


ซึ่งลักษณะเด่นของน้ำตาลทรายขาว คือ สามารถละลายน้ำได้ดีมาก มีความหวานให้พลังงานสูงและให้คาร์โบไฮเดรตถึง 99.5 กรัม ที่สำคัญ คือ ราคาไม่สูง จึงทำให้น้ำตาลทรายแบบซองส่วนใหญ่นิยมใช้น้ำตาลทรายขาว เพราะตอบโจทย์ผู้ซื้อที่ต้องการใช้น้ำตาลปริมาณมากในราคาย่อมเยา แต่ในขณะเดียวกัน จากเหตุผลที่ต้องการลดต้นทุนการผลิต ก็มีส่วนทำให้ผู้ผลิตบางรายใส่ส่วนผสมอื่นที่ให้ความหวานเทียมลงไปแทนน้ำตาล ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้น การสังเกตฉลากหรือรายชื่อวัตถุดิบจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ

เมื่อเทรนด์ใส่ใจสุขภาพกำลังมา น้ำตาลทรายแดง (Brown Sugar) และน้ำตาลปาล์ม (Plam Sugar) จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยน้ำตาลทรายแดงเป็นน้ำตาลที่ไม่ผ่านกระบวนการตกผลึกหรือการฟอกสี ถือเป็นน้ำตาลที่ได้มาจากอ้อยธรรมชาติอย่างแท้จริง และเนื่องจากผ่านกระบวนการขัดสีน้อยมาก จึงทำให้น้ำตาลยังคงความหอมของอ้อยและมีแร่ธาตุตามธรรมชาติอยู่ครบ ดังนั้น นอกจากความหวานแล้ว ก็ยังได้ทั้งกลิ่นและประโยชน์จากแร่ธาตุกันไปเต็ม ๆ เลยค่ะ


ต่อมาคือ น้ำตาลปาล์มหรือน้ำตาลจากพืชตระกูลปาล์ม ที่ส่วนใหญ่เราจะรู้จักในนาม "น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลโตนด และน้ำตาลจาก" ซึ่งมีคุณประโยชน์เช่นเดียวกันกับน้ำตาลทรายแดง คือ น้ำตาลประเภทนี้ยังคงแร่ธาตุและประโยชน์ตามธรรมชาติไว้ในปริมาณมาก เหมาะสำหรับสายสุขภาพที่ต้องการหลีกเลี่ยงน้ำตาลหรือแป้งให้ได้มากที่สุด เพราะมีดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index : GI) เพียง 35 เท่านั้น


อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ ไม่ควรบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป เพราะแม้เราจะทราบว่า น้ำตาลทั้งสองประเภทมีแคลอรี่และดัชนีน้ำตาลในระดับที่ต่ำ แต่ตัวเลขดัชนีดังกล่าวเป็นเพียงการทดสอบในกลุ่มคนที่มีสุขภาพปกติเท่านั้น รวมถึงมีกรณีศึกษาที่น้ำตาลส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานและผู้ที่มีภาวะเบาหวานสูงขึ้นด้วย ซึ่งหมายความว่า ผู้บริโภคควรเลือกทานน้ำตาลให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเองด้วยค่ะ

หากใครที่มองหาน้ำตาลทรายแบบซองเพื่อใช้สำหรับการชงกาแฟเท่านั้น น้ำตาลทรายเคลือบคาราเมล (Caramel Granulated Sugar) หรือที่เราเรียกกันว่าน้ำตาลชงกาแฟ ก็นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะน้ำตาลประเภทนี้มีลักษณะเป็นเกล็ดสีทอง ให้กลิ่นหอมของคาราเมลเพื่อเพิ่มรสชาติและความน่ารับประทานให้กับกาแฟมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความหวานหอม แต่น้ำตาลชงกาแฟก็มีจุดด้อย คือ เกล็ดของน้ำตาลประเภทนี้มีขนาดใหญ่กว่าน้ำตาลทรายประเภทอื่น ทำให้ละลายน้ำได้ยากและใช้เวลานาน และด้วยลักษณะเฉพาะที่เน้นรสขมนำรสหวาน จึงเหมาะกับการนำไปชงกาแฟมากกว่านำไปชงชา, ทำขนม หรือนำไปประกอบอาหาร เพราะอาจทำให้เครื่องดื่มหรืออาหารสูญเสียรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ได้ค่ะ

หากคุณกำลังสงสัยว่า แล้วถ้าอยากทานหวาน แต่ไม่ทานน้ำตาลได้ไหม ? ลองมองหาผู้ช่วยอย่างสารให้ความหวานแทนน้ำตาล (Non-nutritive Sweeteners : NNS ) ดูสิคะ ซึ่งตอนแรกสารเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ป่วยที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหลัก แต่ในปัจจุบัน NNS ได้ถูกนำไปใช้เป็นทางเลือกสุขภาพสำหรับผู้ที่คุมน้ำหนักหรือกลุ่มคนที่รักสุขภาพ จึงทำให้มีการบริโภคสารให้ความหวานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม


โดยที่มาของ NNS นั้นมีค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความเฉพาะตัวและให้ข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ให้พลังงาน เช่น ฟรุกโทส, มอลทิทอล, ซอร์บิทอล ฯลฯ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานหรือควบคุมน้ำหนัก ในทางกลับกัน คนกลุ่มดังกล่าวจะเหมาะกับ NNS กลุ่มที่ให้พลังงานต่ำมากหรือไม่ให้พลังงานเลย เช่น ซูคราโลส, แอสปาแตม, แซคคารีน (ขัณฑสกร) ซึ่งมักจะระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ว่า 0 กิโลแคลอรี่ หรือ Zero Sugar เป็นต้น


นับเป็นเรื่องที่ดีที่ NNS ให้ประโยชน์ที่น่าพึงพอใจ และเป็นทางออกของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณบริโภคมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ นอกจากนี้ คุณไม่ควรบริโภคสารให้ความหวานหลายชนิดร่วมกัน เพราะถึงแม้จะทานในปริมาณที่น้อย แต่ก็สร้างความเสี่ยงที่ดัชนีน้ำตาลจะเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัวได้ค่ะ

นอกเหนือจากการเลือกบริโภคสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มีแคลอรี่ต่ำแล้ว การเลือกใช้ "สารให้ความหวานที่สกัดจากพืชธรรมชาติ" ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยการนำ "หญ้าหวาน" (Stevia) พืชพุ่มเตี้ยมีใบหยักคล้ายฟันเลื่อยมาสกัดจนได้สาร Stevioside ที่ให้พลังงานต่ำแต่มีความหวานมากกว่าน้ำตาล 200-300 เท่า ซึ่งได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลกว่าปลอดภัยและนิยมนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารเพื่อสุขภาพมากมายหลายชนิด


นอกจากหญ้าหวานแล้ว สมุนไพรจีน "หล่อฮังก๊วย" (Monk Friut) ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากมีสารโมโกรไซด์ (Mogroside) ซึ่งเป็นน้ำตาลในกลุ่มฟรุกโตส ให้รสหวานชุ่มคอแต่ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังเป็นยาระบายอ่อน ๆ ลดการกระหายน้ำ และเป็นยาแก้ท้องผูกได้อีกด้วย


นอกจากนี้ ยังมีโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharides) ที่เป็นสารให้ความหวานซึ่งละลายน้ำได้ดีมาก จัดอยู่ในกลุ่มพรีไบโอติก (Prepiotic) คือ ไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหารจึงไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แต่มีส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ (Probiotics) ที่มีประโยชน์ในเรื่องการขับถ่าย และในกลุ่มเดียวกันนี้ยังมีอินนูลิน (Inulin) ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่มีลักษณะและให้ผลลัพธ์ไปในทิศทางเดียวกับโอลิโกแซ็กคาไรด์ด้วย อย่างไรก็ตาม สารกลุ่มนี้แม้จะยังไม่มีข้อเสียที่ชัดเจน แต่ก็มีคำแนะนำว่าไม่ควรทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้จุลินทรีย์เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วจนรู้สึกปวดเสียด หรือไม่สบายท้องได้ค่ะ

สิ่งสุดท้าย คือ การเลือกจากปริมาณที่บรรจุ ซึ่งน้ำตาลทรายแบบซองที่วางจำหน่ายในตลาดจะระบุปริมาณน้ำตาลไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน และส่วนใหญ่จะมีปริมาณให้เราได้เลือกคือ 4 กรัม, 6 กรัม และ 8 กรัม


แต่หากเป็นน้ำตาลที่จัดอยู่ในประเภทสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้น อาจจะมีปริมาณที่แตกต่างจากน้ำตาลทั่วไป คือ 1 กรัม, 2 กรัม หรือ 5 กรัม เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถเลือกปริมาณตามที่ต้องการใช้ประกอบอาหารได้เลยค่ะ

หลังจากที่เราได้เติมข้อมูลเกี่ยวกับความหวานกันไปแล้ว ก็ได้เวลาของความหวานจัดอันดับที่มาพร้อมประโยชน์ทางโภชนาการ มีความคุ้มค่าเหมาะต่อการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ และบอกได้เลยว่าทั้ง 10 อันดับนั้นหวานดีมีคุณภาพอย่างแน่นอน

น้ำตาลแปรรูปภูมิปัญญาไทยจากตาลโตนดแท้ 100% สินค้าขึ้นชื่อจากเมืองเพชรบุรี ซึ่งมีความหอมหวานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจากธรรมชาติซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที รวมถึงให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลจากอ้อยแต่มีค่า GI ต่ำ และเป็นแหล่งรวมวิตามิน B12 และแร่ธาตุอื่น ๆ หลายชนิด นิยมใช้เพื่อเพิ่มความหวานน่ารับประทานให้กับกาแฟ น้ำชา และเบเกอรี่ อย่างไรก็ตาม ราคาของน้ำตาลประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากจำนวนตาลเริ่มหายากขึ้นและต้นตาลโตนดต้องใช้เติบโตเวลากว่า 15 ปีถึงจะให้ดอกที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ค่ะ

เริ่มต้นกันที่น้ำตาลเพื่อสุขภาพจาก LAKANTO ที่สกัดจากผลหล่อฮังก๊วย ซึ่งให้สารสกัดที่มีความหวานกว่าน้ำตาลทั่วไปถึง 2 เท่า แต่ให้ปริมาณแคลอรี่และคาร์โบไฮเดรตเท่ากับศูนย์ จึงไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยกระตุ้นการผลิตอินซูลินในร่างกาย เม็ดน้ำตาลมีขนาดเล็กละเอียดและละลายน้ำได้ดี นอกจากนี้ ยังเป็นสินค้าเกรด Non-GMO Erythritol ซึ่งไม่มี Xylitol จึงไม่เกิดรสขมและมีความปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องคุมน้ำหนัก, ผู้ที่เป็นเบาหวาน, นักกีฬา, และในกลุ่มผู้ที่ต้องการลดการทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยที่สุด (Ketogenic Diet)

เอาใจคนรักกาแฟกันด้วย มิตรผลคอฟฟี่ชูการ์ (Coffee Sugar) น้ำตาลกรวดเกล็ดเล็กผ่านกระบวนการที่สะอาดปลอดภัย เคลือบด้วยคาราเมลสีอำพัน ซึ่งให้ความหวานกลมกล่อมของน้ำตาลควบคู่ไปกับความหอมของคาราเมลได้อย่างลงตัว อีกทั้งมีจุดเด่นที่ช่วยคงรสชาติของกาแฟได้ดี และนอกจากจะนิยมใช้ในการชงกาแฟแล้ว น้ำตาลดังกล่าวยังออกแบบมาให้สามารถใช้กับเครื่องดื่มร้อนทุกประเภทได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณสูงถึง 8 กรัมจึงมีข้อควรระวังที่ห้ามรับประทานมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ปริมาณแคลอรี่เพิ่มสูงขึ้นได้

สายสุขภาพต้องห้ามพลาด กับน้ำตาลทรายแบบซองของ Interpharma ที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเชิงซ้อนของ Inulin และ Fructo-Oligosaccharides สามารถละลายน้ำได้ดี ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ รวมถึงมีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมของแคลเซียม และช่วยให้รู้สึกอิ่มง่ายขึ้น โดย 1 ซองนั้นก็ถือว่าเพียงพอต่อร่างกายใน 1 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงจึงเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่จำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ที่ต้องการคุมคอลเรสเตอรอล มีอาการเกี่ยวกับระบบขับถ่ายและเป็นอาหารเสริมในผู้ที่ทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอเท่านั้น

เป็นหนึ่งในน้ำตาลทรายแบบซองที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และปราศจากแคลอรี่ โดยเป็นการใช้น้ำตาลแลคโตส (Lactose) 96.1% ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่าย สามารถละลายน้ำได้ดีทั้งในเครื่องดื่มร้อนและเย็น โดย Equal 1ซองให้ความหวานเทียบเท่าน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ทั้งนี้ยังมีข้อแนะนำในการทานต่อวันโดยกำหนดที่ 1 ซองต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม มีส่วนประกอบของกรดอะมิโนฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคบกพร่องทางเมทาบอลิซึม รวมไปถึงหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลให้ผู้ที่แพ้แลคโตสมีอาการท้องอืดหรือท้องเสียได้

สำหรับสาว ๆ ที่รักสุขภาพ น้ำตาลมิตรผลแคลอรี่ ก็จัดเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ดีไม่น้อย โดยใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลร่วมกับอิริทริทอล (Erythritol) 4.25 % และซูคราโลส (Sucralose) 0.75% มีจุดเด่น คือ สามารถละลายได้ง่ายในน้ำเย็นและคงคุณภาพความหวานได้แม้ปรุงอาหารด้วยความร้อนสูง นอกจากนี้ ยังให้ความหวานเทียบเท่าน้ำตาล 2 ช้อนชา แต่ให้พลังงานเพียง 20% ของน้ำตาลทรายปกติหรือ 7 กิโลแคลอรี่ต่อซองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังเป็นน้ำตาลอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคบกพร่องทางเมทาบอลิซึมค่ะ

สำหรับน้ำตาลที่ไม่เหมือนใครจากวังขนาย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากสหภาพยุโรปนี้ นอกจากจะมีราคาที่ย่อมเยาแล้ว ยังเป็นน้ำตาลอ้อยออร์แกนิคควบคุมคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้นปลูกอย่างพิถีพิถัน ที่ปลูกในพื้นที่ปลอดสารเคมีมาแล้วอย่างน้อย 36 เดือน ไปจนถึงเน้นกระบวนการผลิตให้ไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ กันเลยทีเดียว ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่มีสารเติมแต่งและไม่มีสารฟอกขาว ทำให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีความหอมของอ้อยอ่อน ๆ ให้ความหวานและเหมาะสำหรับใช้ปรุงอาหารทั่วไป โดย 1 กรัมให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพของอิควล น้ำตาลจากสารสกัดบริสุทธิ์ของใบหญ้าหวานหรือสตีวิออลไกลโคไซด์ (Steviol Glycosides) ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้รสหวานไม่เฝื่อน มีการแต่งกลิ่นครีมวนิลา สามารถใช้ได้กับเครื่องดื่มและใช้ปรุงอาหารรสหวานอ่อน ๆ ได้โดยไม่เสียรสชาติ นอกจากนี้ใน 1 ซองยังมีอีริทริทอล  (Erythritol) ที่สกัดจากผลไม้ซึ่งมีความหวานใกล้เคียงน้ำตาล 70% หรือ 1 ซองให้ความหวานเท่ากันน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา แต่ให่พลังงานเพียงแค่ 0.2 กิโลแคลอรี่ต่อกรัมเท่านั้น

ใครที่ชื่นชอบความขนมที่หอมหวาน ต้องเชิญเลือกซื้อน้ำตาลทรายแดงธรรมชาติจากผู้ผลิตคุณภาพอย่างซองนี้เลยค่ะ เพราะคัดสรรพันธุ์อ้อยแท้ 100% คุณภาพดีเข้าสู่กระบวนการที่มีความปลอดภัยและปราศจากสารฟอกขาว เหมาะสำหรับใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารประเภทเบเกอรี่เป็นหลัก เพราะมีส่วนช่วยให้ขนมขึ้นฟู โดยจะให้ความหอมละมุนของอ้อย ช่วยให้ขนมมีความน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น รวมถึงให้ความหวานกลมกล่อม ไม่ทำให้ขนมสูญเสียรสชาติ ซึ่ง 1 ซองจะมีความหวานเท่ากับน้ำตาล 2 ช้อนชา และให้พลังงานถึง 40 กิโลแคลอรี่ต่อซองค่ะ

และแล้วก็มาถึงน้ำตาลทรายแบบซองจากมิตรผล ที่ได้รับความนิยมและให้คุณภาพความหวานได้อย่างลงตัวเหมาะสำหรับการปรุงอาหารทั่วไป ทำจากอ้อยพันธุ์ดีภายใต้มาตรฐานที่ได้รับการรับรองความสะอาดปลอดภัยจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ปราศจากสารฟอกขาว มีความหวานพอดี เกล็ดน้ำตาลเล็กละเอียด มีความใสซึ่งเป็นผลดีที่ช่วยให้อาหารคงสีสันได้น่ารับประทาน ละลายน้ำได้รวดเร็ว ไม่ตกตะกอนและยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของอ้อยตามธรรมชาติ ซึ่ง 1 ซองจะมีความหวานเท่ากับน้ำตาล 1.5 ช้อนชา

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? กับข้อมูลน้ำตาลทรายแบบซองหลากหลายรูปแบบที่มาพร้อมคุณประโยชน์และโภชนาการที่ดี จนอาจกล่าวได้ว่า บางครั้งความหวานคงไม่ใช่สิ่งที่ให้โทษเสมอไป ซึ่งถ้าหากเรามีข้อมูลในการเลือกที่เพียงพอ การทานหวานของเราก็จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ และช่วยให้เรามีความสุขในการทานหวานมากขึ้นไม่น้อย


แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะหวานมากหวานน้อย เป็นธรรมชาติหรือเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแค่ไหน พฤติกรรมในการทานหวานของเราก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอยู่ดี เพราะแม้เราจะเลือกน้ำตาลที่ดีที่สุดแต่บริโภคจนเกินความเหมาะสม ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้อยู่ดี ดังนั้น นอกจากน้ำตาลที่ดีมีคุณภาพแล้ว สมดุลในการทานของเราก็คือบทสรุปสุดท้ายของสุขภาพที่ดีนั่นเอง