การดูแลรักษาความสะอาดของผิวหน้าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่อยากมีผิวหน้าเรียบเนียนและกระจ่างใส ซึ่งการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์นั้นก็เป็นหนึ่งในกระบวนการทำความสะอาดผิวหน้าที่จะช่วยขจัดคราบเครื่องสำอาง กันแดดและฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่บนผิวของเราได้อย่างหมดจด ดังนั้นคลีนซิ่งออยล์จึงกลายเป็นไอเทมสำคัญที่ใคร ๆ ก็ขาดไม่ได้
คลีนซิ่งออยล์ที่มีวางขายอยู่นั้นมีมากมายหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับ Drugstore อย่าง DHC Biore และ Senka หรือแบรนด์ Hi-end อย่าง Three, Shu Uemura และ Sulwhasoo ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกคลีนซิ่งออยล์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและการใช้งาน รวมทั้งยังได้รวบรวม 10 อันดับ คลีนซิ่งออยล์ที่ยอดฮิตขายดิบขายดีและหาซื้อได้ตามเว็บออนไลน์มาให้ได้อ่านกันอีกด้วย
อย่างที่ทราบกันว่า คลีนซิ่งออยล์นั้นมีหลายยี่ห้อที่วางขาย แต่จะต้องเลือกยังไงให้เหมาะกับเรานั้น เรามาดูวิธีการเลือกกันดีกว่าค่ะ
คลีนซิ่งออยล์ส่วนใหญ่นั้นผลิตมาจาก Mineral Oils Esters และน้ำมันหรือไขมันที่มาจากพืช หรือบางครั้งก็เกิดการผสมส่วนผสมทั้ง 3 ชนิดเข้าด้วยกัน โดยส่วนผสมหลักที่อยู่ในตัวคลีนซิ่งออยล์ปริมาณมากที่สุดจะเป็นถูกระบุเป็นชื่อแรกบนฉลากบอกส่วนผสม
Mineral Oils เป็นน้ำมันที่สามารถล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด โดยที่ทิ้งคราบเครื่องสำอางไว้เพียงน้อยนิดหรือแทบจะไม่มีคราบหลงเหลือหลังการล้างหน้า ซึ่งใครที่ใช้เครื่องสำอางชนิดกันน้ำที่ล้างออกได้ยากควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ทีมี Mineral Oils เป็นส่วนประกอบหลัก
นอกจากนี้คลีนซิ่งออยล์ชนิดที่มี Mineral Oils เป็นส่วนประกอบหลักมักจะมีราคาไม่สูงและหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป รวมทั้งตามเว็บไซต์ออนไลน์ ทั้งนี้คลีนซิ่งออยล์ชนิดMineral Oils นั้นมักจะทิ้งคราบความมันไว้หลังการล้าง ดังนั้นผู้ใช้จึงควรที่ต้องล้างหน้าตามด้วยคลีนซิ่งเจลหรือโฟมเป็นขั้นตอนถัดไป และคลีนซิ่งออยล์ชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการชะล้างสูงดังนั้นจึงอาจจะล้างเอาน้ำมันที่จำเป็นบนชั้นผิวและความชุ่มชื้นบนใบหน้าออกไปด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่มีผิวแห้งจึงควรหลีกเลี่ยงคลีนซิ่งออยล์ชนิดนี้
ตัวอย่างส่วนผสมที่เป็น Mineral Oils
- Mineral Oil
- Isohexadecane
- Hydrogenated Polyisobutene
- Squalane
Esters อาจจะไม่มีประสิทธิภาพในการละลายเครื่องสำอางได้เท่า Mineral Oils แต่ก็ถือว่าค่อนข้างใกล้เคียง Esters นั้นจะไม่เกิดการ Oxidize ได้ง่ายและมีเนื้อโมเลกุลใกล้เคียงกับเซลล์ผิวหน้าของเราดังนั้นจึงดึงเอาคราบเครื่องสำอางและความสกปรกต่าง ๆ ออกมาได้โดยง่าย
คลีนซิ่งออยล์บางยี่ห้อที่มี Esters เป็นส่วนผสมหลักนั้นไม่ต้องใช้การ Double-Cleansing ด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้าเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดผิวหน้า ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพการชะล้างของ Esters นั้นไม่สูงเท่า Mineral Oils แต่ก็อาจจะทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อไม่ให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน
ตัวอย่างส่วนผสมที่เป็น Esters
- Cetyl Ethylhexanoate
- Isopropyl Palmitate
- Ethylhexyl Palmitate
- Isopropyl Myristate
- Triethylhexanoin
น้ำมันและไขมันจากธรรมชาติส่วนใหญ่นั้นสกัดจากพืชและสัตว์เช่น น้ำมันมะกอก และน้ำมันม้า โดยไขมันชนิดนี้นั้นมีความใกล้เคียงกับชั้นไขมันของผิวเรา จึงมีความอ่อนโยนต่อผิวมากที่สุด ทั้งนี้ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง
คลีนซิ่งออยล์ชนิดนี้ถึงแม้ว่าจะทิ้งน้ำมันไว้บนใบหน้าหลังจากที่ล้างแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการอุดตันเนื่องจากเป็นน้ำมันที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลในชั้นผิวของเรา ดังนั้นมันจะทำหน้าที่เป็นตัวให้ความชุ่มชื้นกับผิวของเราอีกด้วย
ตัวอย่างของน้ำมันและไขมันจากธรรมชาติ
- Olive Oil
- Sunflower Seed Oil
- Meadowfoam Oil
- Macadamia Nut Oil
- Corn Germ Oil
- Rice Bran Oil
- Avocado Oil
ผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย มักจะมีภูมิต้านทานที่ไม่แข็งแรง จึงควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อการระคายเคืองต่อผิวและทำให้เกิดอาการแพ้ตามมา เราขอแนะนำว่าอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาบนฉลากที่บอกไว้ว่าปราศจากสารเจือปนจำเช่น สี หรือ น้ำหอม เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่แพ้สีหรือน้ำหอมแต่ก็อาจจะแพ้สารอื่น ๆ ในคลีนซิ่งออยล์แทน ดังนั้นผู้ใช้ควรจะต้องรู้จักสภาพผิวของตัวเองว่าไวต่อสารชนิดไหนเพื่อหลีกเลี่ยงคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมดังกล่าว
คลีนซิ่งออยล์ที่ปราศจากสารเหล่านี้มักจะอ่อนโยนต่อผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย
- Alcohol (Ethanol)
- Fragrances (น้ำหอม)
- Synthetic Dyes (สี)
- Benzoic Acid, Parabens* (สารกันเสีย)
*สำหรับ Parabens นั้นมีหลายชนิดและก็ไม่ได้ก่อให้เกิดการระคายเคืองทุกชนิด หลาย ๆ แบรนด์ได้ทำการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าสูตรและปริมาณส่วนผสมที่ใส่มานั้นปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว แต่หากใส่ Parabens มาเป็นจำนวนมากและ Parabens ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคทีเรียสูงมักจะทำให้ผิวที่บอบบางเกิดความระคายเคืองและอาการแพ้ตามมาได้
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าคลีนซิ่งออยล์ที่มี Esters เป็นส่วนผสมหลักนั้นไม่ต้องใช้การ Double-Cleansing แต่สำหรับคลีนซิ่งออยล์ประเภท Mineral Oils นั้นจำเป็นต้องใช้การ Double-Cleansing ซึ่งเป็นกระบวนการทำความสะอาดหน้าที่อยู่ในขั้นตอนการบำรุงผิวของสาว ๆ ทุกคนที่ควรทำมีขั้นตอนดังนี้ 1. คลีนซิ่งออยล์ 2. ล้างหน้าด้วยโฟมหรือเจล 3. โทนเนอร์ 4. เซรั่ม 5. โลชั่น 6. ครีม
ปัจจุบันนี้มีคลีนซิ่งออยล์หลายตัวที่สามารถลูบด้วยน้ำให้กลายเป็นฟองแล้วล้างออกได้ทันทีโดยที่ไม่ต้อง Double-Cleansing ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงิน เพราะไม่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าเพิ่มเติม และยังเป็นการช่วยป้องการความแห้งตึงของผิวหน้าได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าบอบบางและไม่อยากจะใช้ผลิตภัณฑ์ชะล้างทำความสะอาดใบหน้าหลายตัวจนทำให้เกิดความระคายเคือง
แต่ถ้ายังพบความมันบนใบหน้าหลังล้างด้วยคลีนซิ่งออยล์แล้ว ผู้ที่กลัวการอุดตันบนผิวหน้า หรือคนที่ใช้เครื่องสำอางค่อนข้างหนาและติดทนแน่น ก็ควรที่จะใช้การ Double-Cleansing เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้าของเรานั้นสะอาดหมดจดจริง ๆ
คลีนซิ่งออยล์บางชนิดจะถูกลดประสิทธิภาพลงหากสัมผัสกับน้ำ ดังนั้นหากใครที่ต้องการคลีนซิ่งออยล์ไว้ใช้พร้อม ๆ กับการอาบน้ำควรเลือกชนิดที่สามารถใช้ได้กับมือหรือหน้าที่เปียกน้ำ คลีนซิ่งออยล์โดยส่วนใหญ่จะต้องใช้กับผิวหน้าที่แห้งและใช้น้ำเพื่อทำการ Emulsified เปลี่ยนละลายเอาเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าออกจากผิว
สำหรับคนที่ต่อขนตาปลอมมาควรจะตรวจดุว่าคลีนซิ่งออยล์นั้นปลอดภัยกับขนตาปลอมหรือไม่โดยดูได้จากฉลากบนผลิตภัณฑ์ เพราะคลีนซิ่งออยล์บางชนิดที่มี Mineral Oils เป็นส่วนประกอบอาจจะทำให้กาวติดขนตาปลอมเสื่อมสภาพลงได้ คลีนซิ่งออยล์บางชนิดนั้นสามารถใช้ได้กับกาวติดขนตาปลอมโดยทั่ว ๆ ไป หากคุณไม่มั่นใจว่าคลีนซิ่งออยล์นั้นปลอดภัยกับกาวติดขนตาปลอมที่คุณใช้หรือไม่ก็สามารถขอคำแนะนำจากช่างที่ติดขนตาปลอมให้กับคุณได้
ออยล์ล้างหน้าที่ให้ความรู้สึกลักชั่วรี่ หรูหรา เพราะกลิ่นอโรม่าหอมอ่อน ๆ จากเปลือกส้มและพืชพรรณธรรมชาติ ทั้งสดชื่นและผ่อนคลาย ใช้บนผิวหน้าที่แห้ง 1-2 ปั๊ม นวดวน ๆ บนใบหน้าสัก 1-2 นาทีและสูดดมกลิ่นหอม ๆ ไปด้วย เวลาล้างออกจะไม่เปลี่ยนเป็นน้ำนมเหมือนออยล์ทั่วไป ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดโดยไม่ทิ้งความมันไว้เลย
ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งออยล์ตัวแรก ๆ ที่ขอแนะนำเลยค่ะ โกโก้ใช้แล้วไม่ทำให้ผิวอุดตันเลยนะ หากเข้าตาก็ไม่ระคายเคืองหรือเป็นฝ้า ๆ ด้วย
การใช้คลีนซิ่งเพื่อชำระล้างเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าเรียบเนียนและกระจ่างใส แต่หากใครที่ผิวแพ้ง่ายหรือมีสิวก็ต้องระมัดระวังส่วนผสมที่อยู่ในคลีนซิ่งเป็นพิเศษ ดังนั้นใครที่ผิวบอบบางและมีสิวอยู่ แนะนำให้อ่านบทความคลีนซิ่งข้างล่างนี้คะ
หลังจากที่เราได้แนะนำวิธีการเลือกคลีนซิ่งออยล์ให้เหมาะกับผิวหน้าและการใช้งานไปแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า 10 อันดับคลีนซิ่งออยล์ที่ได้รับความนิยมและขายดิบขายดีจะมีอะไรบ้าง เราได้รวบรวมมาให้อ่านกันแล้วค่ะ
คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้มีน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์เป็นส่วนผสมหลัก จึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจดไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางสูตรธรรมดาหรือกันน้ำ สามารถใช้ได้ทั้งบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวด้วย Super Hyaluronic Acid ทำให้ผิวไม่แห้งตึงหลังการใช้
ความเห็นของผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบที่ตัวคลีนซิ่งออยล์นั้นปราศจากแอลกอฮอล์ Mineral Oils น้ำหอม และสี จึงทำให้ผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายสามารถใช้ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความระคายเคือง สามารถล้างมาสคาร่าซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่ติดทนได้อย่างหมดจด แต่ทั้งนี้ผู้ใช้บางส่วนได้บอกไว้ว่าตัวน้ำมันมะกอกนั้นก่อให้เกิดการอุดตันได้ ดังนั้นใครที่มีปัญหาในเรื่องของสิวอุดตันควรจะหลีกเลี่ยง
คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การผสมสารสกัดจากรังไหมสีขาวและ Double Hyaluronic Acid ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้าทำให้ไม่เกิดความแห้งตึงหลังทำความสะอาด ส่วนผสมหลักของคลีนซิ่งออยล์ตัวนี้คือ Mineral Oils ทำให้สามารถเช็ดล้างคราบเครื่องสำอางที่ติดแน่น ไม่ว่าจะกันน้ำหรือหนาแค่ไหน ได้อย่างสะอาดหมดจด
ผู้ใช้ส่วนใหญ่ลงความเห็นไว้ว่าสามารถทำความสะอาดได้อย่างดีไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่าหรือแม้กระทั่งสิวเสี้ยน แต่ทั้งนี้ในส่วนผสมนั้นมีแอลกอฮอล์จึงอาจจะทำให้เกิดการแสบตาเวลาที่ใช้กับเปลือกตา ดังนั้นอาจจะต้องหาคลีนซิ่งสำหรับตาและปากโดยเฉพาะมาใช้ และผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยง
คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้มี Mineral Oils เป็นส่วนผสมหลักพร้อมผสานสารสกัดจากน้ำมัน Citrus และ น้ำมันรำข้าวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่า หรือ เมคอัพกันน้ำได้อย่างสะอาดหมดจด อีกทั้งยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสิวเสี้ยนตามรูขุมขนได้อย่างง่ายดาย
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบที่สามารถล้างทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก พร้อมกันนี้ยังสามารถขจัดความมันและความสกปรกได้ด้วยน้ำเปล่า โดยที่ไม่ต้องทำการ Double Cleansing ทั้งนี้คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้มี Mineral Oils ค่อนข้างมากดังนั้นจึงควรจะล้างอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันตามผิวจนกลายเป็นสิวกวนใจได้
แบรนด์ Muji นั้นก็ไม่น้อยหน้าในเรื่องของ Skincare โดยเฉพาะคลีนซิ่งออยล์ที่ได้รับความนิยมเพราะมีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติอย่างน้ำมันมะกอกธรรมชาติและพืชนานาชนิด พร้อมทั้งยังไม่มีน้ำหอม สี Mineral Oils พาราเบน และแอลกอฮอล์เนื่องจากต้องการเน้นกลุ่มผู้ใช้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบที่เนื้อคลีนซิ่งออยล์นั้นเบาและไม่หนืดจนทำให้เกิดความระคายเคืองผิวในขณะที่นวดและถูเพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าออก หลังการใช้แล้วรู้สึกได้ว่าหน้ายังชุ่มชื้นไม่แห้งตึงจนเกินไป ถึงแม้ว่าจะไม่มี Mineral Oils เป็นส่วนผสมแต่ก็สามารถทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางติดแน่นได้อย่างหมดจด
คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้ถือเป็นตัวยอดฮิตที่ขายดีอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ด้วยส่วนผสมหลักจาก Mineral Oils จึงทำให้สามารถขจัดเครื่องสำอางบนใบหน้าได้ทุกชนิด ต่อให้จะติดทนกันน้ำมากแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนรวมทั้งสิวเสี้ยนต่าง ๆ ได้อีกด้วย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้ผู้ใช้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายขณะที่นวดหน้าด้วยออยล์
ความเห็นของผู้ใช้ส่วนใหญ่นอกจากจะชื่นชอบประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของคลีนซิ่งออยล์ตัวนี้แล้ว ยังชื่นชอบที่สามารถใช้คลีนซิ่งออยล์นี้ได้ขณะที่มือเปียก จึงสามารถนำเข้าไปใช้ตอนอาบน้ำได้โดยที่ไม่ต้องกังวล นอกจากนี้ด้วยปริมาณที่มากในราคาที่ไม่แพงเกินไป จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
Sulwhasoo นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการผสมสมุนไพรชั้นดีจากเกาหลีเข้าในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่นเดียวกับคลีนซิ่งออยล์ตัวนี้ที่นอกจากจะมีสมุนไพรธรรมชาตินานาชนิดแล้ว ยังมีสารสกัดจากลูกเดือย เปลือกส้มจีนและผลแอพริคอท ทำให้นอกจากจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกแล้ว ยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ขจัดความหมองคล้ำ คืนผิวที่กระจ่างใส ดูมีสุขภาพดี
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบเนื้อคลีนซิ่งออยล์ที่ไม่หนืดจนเกินไปพร้อมกับกลิ่นโสมอ่อน ๆ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่ทำการนวดทำความสะอาด อีกทั้งยังไม่รู้สึกแห้งตึงหลังใช้ นอกจากนี้ยังรู้สึกได้ว่ารูขุมขนนั้นสะอาดและกระชับมากขึ้นจากสารสกัดเมล็ดพลัมที่ใส่มาเพื่อดูแลเรื่องรูขุมขนโดยเฉพาะ
คลีนซิ่งออยล์จาก DHC นั้นเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน ด้วยส่วนผสมจากน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่มีโมเลกุลใกล้เคียงกับชั้นผิวของเราจึงทำให้สามารถขจัดเครื่องสำอางและคราบความสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน อีกทั้งยังมีสารสกัดจาก Rosemary Licorice และวิตามินอี ทำให้ช่วยบำรุงและรักษาความชุ่มชื้นในผิวไม่ให้เกิดความแห้งตึงหลังการทำความสะอาด
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบที่คลีนซิ่งออยล์นั้นมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเครื่องสำอางสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่า ลิปสติกหรือเครื่องสำอางกันน้ำต่าง ๆ ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม Paraben และ Mineral Oil ต่าง ๆ ดังนั้นผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความระคายเคือง
คลีนซิ่งออยล์จาก Fancl นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของความอ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิว ด้วยส่วนผสมหลักจากน้ำมัน Rosehip Oil ที่มีคุณสมบัติเป็น Cushion Oil สามารถลดการเสียดสีจากการนวดถูบนใบหน้า จึงไม่ทำให้เกิดริ้วรอยและความระคายเคือง สามารถขจัดเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึกไม่ว่าจะกันน้ำหรือติดแน่นขนาดไหน รวมทั้งความสกปรกที่ฝังอยู่ตามรูขุมขน ช่วยให้ผิวดูสะอาดกระจ่างใส
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบที่คลีนซิ่งออยล์มีความอ่อนโยนต่อผิวเป็นอย่างมากเพราะไม่มีสารกันเสีย น้ำหอม Paraben Mineral Oil จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย อีกทั้งยังสามารถล้างทำความสะอาดมาสคาร่ากันน้ำได้อย่างหมดจด มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิว จึงไม่เกิดการแสบหน้าหรือแห้งตึงหลังการใช้ ที่สำคัญยังเป็นมิตรกับคนที่ต่อขนตาปลอมและกังวลเรื่องกาวติดขนตาปลอมจะเสื่อมสภาพอีกด้วย
คลีนซิ่งออยล์ของแบรนด์ไฮเอนด์ที่พิถีพิถันในเรื่องของส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติถึง 87% โดยส่วนผสมหลักคือ Organic Japanese Tea Seed Oil ที่ได้รับการสกัดเย็นเพื่อคงคุณค่าของน้ำมันไว้อย่างสูงสุด พร้อมทั้งยังมี Essential Oil จากเปลือกส้ม Frankincense Rosemary Majoram และ Bergamot ที่ช่วยบำรุงผิวไปในขณะที่ทำความสะอาดและมีกลิ่นหอมช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายขณะที่นวดทำความสะอาดที่ผิวหน้า
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่นอกจากจะชื่นชอบประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของคลีนซิ่งออยล์ที่มีสามารถขจัดเครื่องสำอางชนิดต่าง ๆ ได้หมดเกลี้ยงแล้ว ยังชื่นชอบที่ผิวได้รับการบำรุงในขณะที่นวดคลีนซิ่งออยล์ลงไป ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและไม่เกิดความแห้งตึงหลังใช้ และใช้ปริมาณเพียงน้อยนิดก็สามารถทำความสะอาดได้ทั่วใบหน้า ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจริง ๆ
คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้ถูกผลิตขึ้นด้วยนวัตกรรม Ultimate Removal System ที่เน้นในเรื่องของการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก สามารถเช็ดล้างมาสคาร่ากันน้ำได้อย่างหมดจด พร้อมสูตรเฉพาะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องยาจีนและตำรับความงามโบราณ เน้นส่วนผสมสารกัดจากพืชสมุนไพรธรรมชาติที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีไม่ว่าจะเป็นโสมเกาหลี หรือ ไผ่จีนสีทอง ที่จะช่วยบำรุงและแก้ไขปัญหาผิว 8 ประการในระหว่างที่นวดทำความสะอาด
ความเห็นผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ชื่นชอบที่คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้สามารถทำความสะอาดได้อย่างดีแต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความชุ่มชื้นและอ่อนโยนต่อผิว หลังจากที่ใช้แล้วหลาย ๆ คนค้นพบว่าผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น รูขุมขนกระชับและผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น เนื้อคลีนซิ่งออยล์นั้นมีความเบาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะที่นวดลงไปบนผิว ล้างออกได้ง่ายไม่ต้องกังวลว่าจะอุดตันผิว สามารถใช้กับกาวต่อขนตาปลอมได้โดยไม่ต้องกังวลว่ากาวจะเสื่อมสภาพ ด้วยคุณประโยชน์มากมายในขวดเดียวจึงทำให้คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้ได้รับความนิยมและเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
ต่อให้เราจะซื้อคลีนซิ่งออยล์คุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าหากเราไม่รู้จักใช้อย่างถูกต้องก็อาจจะทำให้ล้างหน้าไม่สะอาดจนทำให้เกิดการอุดตันได้ ดังนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะว่าวิธีการใช้คลีนซิ่งออยล์ให้ถูกต้องนั้นจะเป็นยังไง
หากคุณรู้สึกว่าคลีนซิ่งออยล์นั้นไม่สามารถทำเช็ดล้างคราบเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจด คุณควรจะเปลี่ยนวิธีการใช้คลีนซิ่งออยล์ โดยให้เริ่มจากจุดที่ใช้เครื่องสำอางหนาและติดแน่นมากที่สุดอันได้แก่บริเวณเปลือกตาและปาก เพราะหากคุณพยายามเช็ดทำความสะอาดทั้งใบหน้าในคราวเดียวกันก็จะทำให้คราบเครื่องสำอางชนิดต่าง ๆ เลอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าทำให้ยากต่อการทำความสะอาด เราขอแนะนำว่าให้นวดเช็ดทำความสะอาดรองพื้นบนใบหน้าหลังจากที่บริเวณปากและเปลือกตานั้นสะอาดแล้ว
นอกจากนี้พยายามใช้เวลาในการทำความสะอาดให้น้อยที่สุด เนื่องจากการเช็ดถูคลีนซิ่งออยล์บนใบหน้าเป็นเวลานานจะยิ่งทำให้ผิวหน้าของเรานั้นเกิดความระคายเคืองขึ้นได้
ขั้นตอนการใช้คลีนซิ่งออยล์โดยส่วนใหญ่ที่ถูกต้องคือใช้กับผิวหน้าที่แห้ง จากนั้นนวดและถูเครื่องสำอางออกให้หมด จากนั้นให้ใช้มือลูบน้ำอุ่นแล้วแตะไปที่ผิวหน้าเพื่อให้เนื้อคลีนซิ่งออยล์นั้นเปลี่ยนสภาพเป็นเนื้อน้ำนม แล้วทำการนวดทำความสะอาดให้ทั่วใบหน้า แล้วค่อยล้างออกให้หมดด้วยน้ำเปล่า
อย่างที่ทราบกันดีกว่าน้ำมันและน้ำนั้นจะไม่สามารถทำละลายซึ่งกันและกันได้ ดังนั้นหากคุณใช้น้ำเปล่าล้างออกโดยทันทีจะทำให้ทิ้งคราบความมันและความสกปรกไว้บนใบหน้า ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการอุดตันบนผิวและสิวตามมาได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่เราได้แนะนำกันไปพร้อมกับ 10 อันดับคลีนซิ่งออยล์ยอดฮิตที่เราได้รวบรวมมาให้อ่านกัน เราก็หวังว่าทุกคนจะได้รับไอเดียในการเลือกคลีนซิ่งออยล์ให้เหมาะกับสภาพผิวและการใช้งาน รวมทั้งได้รายชื่อคลีนซิ่งออยล์ไว้ใช้พิจารณาเลือกซื้อกันต่อไป
อย่างที่ทราบกันว่ากระบวนการทำความสะอาดผิวนั้นส่งผลต่อสุขภาพผิวของเราเป็นอย่างมาก เพราะหากเราทำความสะอาดไม่ถูกขั้นตอนก็ย่อมทำให้เกิดการสะสมของความสกปรกและเกิดการอุดตันทำให้ผิวนั้นมีปัญหาในเรื่องของสิว ริ้วรอยก่อนวัยและความหมองคล้ำตามมา ดังนั้นอย่าได้ละเลยขั้นตอนนี้โดยเด็ดขาดค่ะ อย่าลืมทำความรู้จักกับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ของตัวเองเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับตัวเองนะคะ