แม้ว่า “ลิปสติกสีแดง” จะเป็นโทนสีที่ใช้ค่อนข้างยาก สาว ๆ จึงหลีกเลี่ยง เพราะกลัวว่าลุคจะแรงเกินไป แต่ถ้าทาแบบ Ombre หรือใช้แบบทิ้นท์แทน ก็จะช่วยให้คุณกลายเป็นสาวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตามทุกวันนี้มีแบรนด์เครื่องสำอางออกลิปสติกโทนสีแดงมาหลายเฉดเลยค่ะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเฉดไหนเหมาะกับเราและเนื้อสัมผัสแบบไหนที่ให้ฟินิชลุคแบบที่เราต้องการ วันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมมาให้อ่านในหัวข้อ “วิธีการเลือก” เรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นตามด้วยหัวข้อที่หลายคนตั้งตารอคอยอย่าง “10 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งคุณสมบัติ ราคาและรีวิวของสาวไทย เพื่อให้ได้สินค้าที่เหมาะกับเรามากที่สุด ซึ่งแต่ละส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
อย่างที่สาว ๆ ทราบกันดีว่าแม้จะเป็นลิปสติกโทนสีเดียวกัน แต่สีแดงก็มีหลายเฉด บางเฉดติดไปทางส้ม ในขณะที่อีกเฉดติดสีชมพู เรามาดูกันดีกว่าว่าควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับสีผิวของตัวเอง และลักษณะแบบไหนที่ให้ฟินิชลุคที่ต้องการ
โดยทั่วไปลิปสติกมี 3 ลักษณะด้วยกัน ได้แก่ “แบบแท่ง”, “แบบทิ้นท์” และ “แบบ Multiple (ใช้ได้ทั้งแก้มและปาก)” แต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างไร อ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
ลักษณะสุดคลาสสิค มีหลายเฉดสีให้เลือกซื้อ ซึ่งเม็ดสีค่อนข้างชัดเจนจึงสามารถกลบสีปากได้มากที่สุดในบรรดาเนื้อลิปอื่น ๆ โดยทำหน้าที่แต่งแต้มริมฝีปากโดยเฉพาะ แถมยังครีเอทได้หลายลุค ทั้งแบบเต็มปากหรือแบบ Ombre (ทาเฉพาะด้านใน) นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ สะดวกต่อการใช้งานและพกพา เหมาะกับมือใหม่หัดแต่งหน้า
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ทิ้นท์” กันมานาน แบบทิ้นท์คือสูตรติดทนนาน แม้ทานอาหารหรือโดนน้ำก็ไม่หลุดหรือหลุดน้อยที่สุดนั่นเองค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีเนื้อสัมผัสแบบน้ำ โดดเด่นด้วยสีสันที่สดใสและสามารถเพิ่มความเข้มได้ด้วยการทาซ้ำ ๆ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการแต่งหน้านิดนึง หรือถ้ามือใหม่อยากลองมากจริง ๆ แนะนำให้เลือกสีเฉดอ่อนหรือทาแค่บาง ๆ ก่อนนะคะ
เรียกได้ว่าพกชิ้นเดียวเอาอยู่ ใช้งานได้ทั้งแก้มและปาก แถมยังไม่ต้องแมทช์เฉดสีให้วุ่นวาย ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ฟินิชลุคแบบเชียร์ (กึ่งแมตต์) ทำให้ไม่ดูแรงจนเกินไป เหมาะกับการแต่งหน้า Every day look และสำหรับมือใหม่ แต่เนื้ออาจจะบางเกินไป ใครที่มีริมฝีปากสีเข้มอาจต้องทาซ้ำหลายรอบ ไม่อย่างนั้นจะกลบสีปากไม่มิด
ตอนนี้เพื่อน ๆ คงทราบแล้วว่าเนื้อแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง แต่แค่นั้นยังไม่พอหรอกนะคะ เราต้องศึกษาด้วยว่าฟินิชลุคแบบใดที่ทำให้เราดูดีและโดดเด่นขึ้น
ลิปกลอสจะให้ฟินิชลุคที่แวววาว ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดูน่ามองมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับโอกาสพิเศษ ๆ อย่างการออกเดต รับรองว่าหนุ่ม ๆ ไม่อาจละสายตาจากคุณไปได้เลยค่ะ นอกจากนี้ยังเหมาะกับสาวริมฝีปากเล็กที่อยากเพิ่มขนาดให้ดูอวบอิ่มกว่าเดิมและผู้ที่ริมฝีปากแห้ง เนื่องจากแบบกลอสจะมีความชุ่มชื้นอยู่สูง
อย่างไรก็ตามเนื้อแบบนี้จะให้สีไม่จัดเท่าไรนะคะ ถ้าใครอยากได้สีเข้ม ๆ แนะนำให้ทาแบบแมตต์แล้วปาดด้วยกลอสสีใสแทน
หากเทียบกับแบบกลอส รุ่นนี้จะไม่ฉ่ำเยิ้มเท่าค่ะ แต่จะช่วยเพิ่มความแวววาวเล็กน้อย ให้เรียวปากดูชุ่มชื้นและดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการทาไปดินเนอร์, ปาร์ตี้หรืองานแต่งงาน แต่ประเภทนี้มีข้อจำกัดอยู่ที่จะลบเลือนง่ายเมื่อทานอาหารหรือดื่มน้ำนะคะ อาจต้องเติมบ่อยนิดนึง
เนื้อแมตต์จะมีเม็ดสีที่คมชัดมากที่สุด เหมาะกับการทาเต็มปาก ให้ฟินิชลุคแบบสาวมั่นและดูเป็นผู้ใหญ่ แถมยังมีหลายเฉดและหลายราคา แม้รุ่นราคาประหยัดก็ยังน่าใช้ (แอบกระซิบว่าใน 10 อันดับสินค้ายอดฮิตมีรุ่นราคาถูกด้วยนะจ๊ะ) อย่างไรก็ตามด้วยความที่เนื้อแมตต์ค่อนข้างแห้ง ก่อนทาควรบำรุงด้วยลิปมันเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะตกร่องปากเอาได้
ตอนนี้หลายคนคงทราบแล้วว่าเฉดสี เนื้อสัมผัสและฟินิชลุค มีผลต่อคาแร็กเตอร์ของเรา ดังนั้นวันธรรมดาที่แต่งหน้าไปเรียนหรือทำงาน แนะนำให้เลือกแบบเนื้อเชียร์ เพื่อช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณ พร้อมทำให้ดูอ่อนเยาว์และดูมีสุขภาพดีอีกด้วย หรือจะเลือกเนื้อแบบอื่นแต่ทาบาง ๆ ก็จะช่วยให้ฟินิชลุคไม่ดูแรงจนเกินไป
สำหรับโอกาสพิเศษ การเลือกลิปต้องพิถีพิถันนิดนึงค่ะ พยายามซื้อลิปที่เม็ดสีเข้มคมชัดและหลุดยาก เนื่องจากเรียวปากที่สีลิปลบเลือนดูไม่สวยงามและไม่ดึงดูด อาจส่งผลต่อความประทับใจแรกเอาได้
ส่วนใหญ่แล้วเวลาเลือกลิปเรามักจะเลือกให้เข้ากับสีผิวอย่างเดียวใช่ไหมคะ แต่ “ความเป็นตัวตน” ของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ผิวอย่างเดียว แต่รวมไปถึง “สีผม” และ “สีตา” ด้วย อย่าลืมคำนึงจุดนี้เชียวนะคะ
ถ้าเป็นคนสีผิวอันเดอร์โทนเหลือง ให้เลือกใช้ลิปสีแดงติดโทนส้ม แต่ถ้าอันเดอร์โทนชมพู ให้เลือกใช้สีติดโทนชมพูแทน เช่น สีไวน์แดงหรือสีเบอร์รี่
อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องลิปสติก ปีนี้ Crushed Lip Color ของ BOBBI BROWN จัดเป็นลิปสติกที่ทุกคนต้องลอง ในรุ่นนี้เค้าผลิตสีสันออกมามากมายถึง 20 เฉดสี ตั้งแต่โทนนู้ด ชมพู ส้ม แดง ไปจนถึงสีแดงก่ำ เพื่อให้ครอบคลุมไปถึงสาว ๆ ทุกสีผิว นอกจากนั้นยังมี 3 สีพิเศษ เป็น Limited Edition ที่ออกแบบสีโดยบล็อกเกอร์ชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงและมีจำนวนผู้ติดตามสูงทางช่องทาง Social Media ต่าง ๆ
สำหรับสีที่เลือกมาให้สาว ๆ ให้ลองไปหามาทากันดูคือสี Cherry แค่ชื่อก็พอจะนึกออกนะคะว่าสีจะแซ่บขนาดไหน เพราะเป็นสีแดงก่ำ ๆ ที่ทาแล้วช่วยให้ดูมีเสน่ห์น่าค้นหา เป็นสีที่สาวผิวขาวหรือผิวเข้มทาแล้วก็เอาอยู่ ไม่ใช่แค่ช่วยขับผิว แต่ยังทำให้ฟันเราดูขาวขึ้นด้วย เนื้อลิปสติกก็ทำออกมาได้มาตราฐานเคาน์เตอร์แบรนด์ คือเบาสบายและมีสารบำรุงอย่างวิตามิน C, E และขี้ผึ้งคุณภาพสูง ช่วยให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื่น หลังใช้ปากไม่แห้งเป็นขุย ทาง่าย ไม่เป็นคราบ เติมระหว่างวันได้โดยไม่เกิดคราบขุย หากสาว ๆ คนไหนเบื่อลิปโทนแดงสด ๆ แบบเดิม ๆ สีแดงก่ำ ๆ แบบนี้เหมาะมากค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่ลิปสติกโทนสีเดียวจะสามารถครีเอทได้หลายลุคขนาดนี้ ดังนั้นก่อนซื้อเพื่อน ๆ จึงต้องพิถีพิถันกันสักนิด คราวนี้เรามาดูสินค้าที่น่าสนใจกันดีกว่าว่าแต่ละชิ้นจะมีคุณสมบัติและรีวิวอย่างไรบ้าง
ลิปเจลสูตรทิ้นท์ สามารถใช้ทาได้ทั้งเรียวปากและพวงแก้ม หอมกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ มีเนื้อบางเบาช่วยให้เกลี่ยง่าย มาพร้อมกับโทนสีสวย เม็ดสีคมชัด ทาแล้วจึงกลบสีปากได้มิด ให้ฟินิชลุคแบบสาวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ รุ่นนี้จึงเหมาะกับสาววัยเรียนอย่างมาก แต่ข้อเสียเล็กน้อยคือติดไม่ค่อยทนเท่าไรนะคะ อาจต้องมีเติมระหว่างวันบ้าง
ลิปสีแดงสุดฮิตที่สาว ๆ ต่างหลงรัก ด้วยเนื้อเนียนลื่น นุ่มนวลไปกับเรียวปาก ไม่เหนียวจนติดหนึบ แถมเม็ดสียังคมชัด ช่วยกลบสีปากมิดและสามารถเพิ่มระดับความเข้มได้เรื่อย ๆ หากรู้สึกไม่สะใจพอ นอกจากนี้โทนสียังแดงระเรื่อดูเป็นธรรมชาติ ทาแล้วไม่หลอกตาและติดทนนานหลายชั่วโมงอีกด้วย แม้ว่าจะมีราคาแพง แต่คุณภาพคับหลอดจริง ๆ ค่ะ
Benetint เป็นอีกหนึ่งทิ้นท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีโทนสีสวย แดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ เนื้อลิปโปร่งใสแต่กลบสีปากได้มิด แถมยังติดทนนานหลายชั่วโมง โดยสามารถใช้ได้ทั้งแก้มและปาก เรียกได้ว่าพกหลอดเดียวจบ! สาว ๆ วัยนักเรียนนักศึกษาควรรีบซื้อมาพกติดตัวด่วนเลยค่ะ รับรองว่าคุณจะกลายเป็นสาวสวยดูมีสุขภาพดีจนเพื่อน ๆ อิจฉาเลย
ลิปสติกเนื้อครีมเนียนนุ่ม ไม่ตกร่องปาก แถมเม็ดสียังแน่น ช่วยกลบสีปากได้มิด ขณะเดียวกันก็ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นด้วยน้ำมันสกัดจากงาและน้ำผึ้ง โดยมีหลายเฉดสีแดงให้เลือกซื้อ ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวผิวอันเดอร์โทนเหลืองหรือชมพูก็สามารถหาสีที่เหมาะกับตัวเองได้
ลิปสติกสุดฮอตที่สาวทั่วโลกต่างหลงรัก โดดเด่นด้วยเนื้อครีมเนียนนุ่ม ละมุนไปกับเรียวปาก ไม่ตกร่อง แถมเม็ดสีแน่นช่วยกลบสีปากได้มิดในปาดเดียว โดยสามารถทาเต็มปากหรือแบบ Ombre ก็ได้ และที่สำคัญยังติดทนนาน นอกจากนี้ยังมีสีแดงให้เลือกหลายเฉด ตั้งแต่แดงติดส้มไปจนถึงสีเบอร์รี่
ทิ้นท์ที่สามารถทาได้ทั้งแก้มและปาก โทนสีแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ เนื้อบางเบาโปร่งใสและเนียนลื่น ช่วยให้เกลี่ยง่าย ทาแล้วดูผิวสุขภาพดีมาตั้งแต่เกิด มาพร้อมกลิ่นหอมดอกไม้อ่อน ๆ เพิ่มความน่าใช้ แถมยังติดทนนาน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก เลยกลายเป็นหนึ่งในลูกรักของสาว ๆ นั่นเองค่ะ
เมื่อไรก็ตามที่มีการจัดอันดับลิปสติกในดวงใจของสาว ๆ จะต้องมีรุ่นนี้ติดหนึ่งในนั้นเสมอ เพราะมีเนื้อที่นุ่มละมุน ทาแล้วไม่ตกร่อง แถมเม็ดสียังชัดแจนและแน่น ปาดทีเดียวก็กลบสีปากมิด นอกจากนี้ยังติดทนนานตลอดทั้งวัน โดยมีหลายเฉดสีแดงให้เลือก แต่สีที่เข้ากับสีผิวคนไทยโดยส่วนใหญ่คือสีนี้นั่นเองค่ะ
นับถอยหลังเข้าสู่ 3 อันดับสุดท้ายที่หลายคนจับตามองเป็นพิเศษ ประเดิมกันด้วยลิปสติกแบบแท่งที่เคยเป็นกระแสเมื่อหลายปีก่อนต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดดเด่นด้วยเนื้อเนียนนุ่ม ลื่นไปกับริมฝีปาก เม็ดสีแน่นปาดทีเดียวอยู่ แถมโทนสียังแดงก่ำสะใจ ช่วยขับสีผิวให้ขาวขึ้น และยังติดทนนานเมื่อเทียบกับราคา ขณะเดียวกันก็บำรุงให้ชุ่มชื้นด้วยไมโครเฟียและไฮยาลูนิค
หนึ่งในลิปสติกที่สาว ๆ ต้องมี เพราะคุณภาพดีและราคาถูก ด้วยเนื้อเนียนลื่น ทาแล้วไม่ตกร่อง มาพร้อมพิกเมนต์แน่น แค่ปาดเดียวก็สวยเป๊ะ แถมยังติดทนนานตลอดทั้งวันโดยไม่ทำให้ปากแห้งจนเกินไป ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับหญิงสาว ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ ใครคิดอะไรไม่ออก แนะนำให้จัดตัวนี้เลย
ลิปทิ้นท์ในตำนานไม่ว่าจะวัยเรียนหรือวัยทำงานต่างเลือกใช้ ล่าสุดทางแบรนด์ปรับสูตรใหม่กลายเป็นเนื้อเจล ช่วยให้เนียนลื่นไปกับริมฝีปาก พร้อมเพิ่มพิกเมนต์ ทำให้สีชัดขึ้นและพัฒนาให้ติดทนนานกว่าเดิม แต่ยังคงความชุ่มชื้นของเรียวปากด้วยสารสกัดจากผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะ
หนึ่งในอุปสรรคของสาว ๆ ที่อยากแต่งหน้าด้วยลิปแดง คือ “ทายังไงให้ไม่แรง” และ “ทาอย่างไรให้สวย” เพราะด้วยความที่สีโดดเด่นอยู่แล้ว แมทช์กับสีแก้มและตาค่อนข้างยาก แต่จริง ๆ แล้วเคล็ดลับง่ายนิดเดียวเองค่ะ เพียงแค่สาว ๆ ลองปัดแก้มด้วยโทนสีที่อ่อนกว่าลิปสติกเบา ๆ ให้กลืนไปกับผิว เสมือนว่าไม่ได้ปัด หรือถ้าใครกลัวพลาดจะหลีกเลี่ยงไม่ปัดเลยก็ได้ ส่วนดวงตาแนะนำให้ไม่แต่ง หรือแต่งให้น้อยและดูเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ควรกะสมดุลดี ๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเล่นงิ้วได้
หลายคนคงเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อลิปสติกสีแดงไปเรียบร้อยแล้ว เห็นไหมคะว่าสีนี้แต่งหน้าง่ายกว่าที่คิด แถมยังครีเอทได้หลายลุค และที่สำคัญยังช่วยขับผิวให้ดูขาวขึ้นอีกด้วย ขอแค่เลือกโทนสีให้เหมาะกับสีผิว มีฟินิชลุคตามที่ต้องการและเหมาะกับโอกาส รับรองว่าเกิดแน่นอนค่ะ!
หลังจากได้ลิปสติกเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมหาซื้อเมคอัพรีมูฟเวอร์สำหรับริมฝีปากโดยเฉพาะด้วยนะคะ เพื่อการทำความสะอาดหมดจดอย่างอ่อนโยน สุดท้ายนี้ก่อนจะจากกัน อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านกันต่อด้วยนะคะ จะได้แบ่งกันสวย