"สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการนอน" ทุกคนคงเคยได้ยินคำกล่าวนี้กันมาบ้างใช่ไหมคะ และชุดเครื่องนอนที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การนอนของเรามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องพิถีพิถันกับการเลือกชุดเครื่องนอนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ " ผ้าปูที่นอน " ที่สัมผัสกับผิวเราโดยตรงทุกวัน การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนจึงเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนยังช่วยให้อารมณ์ ความรู้สึกในตอนนอนสดชื่นผ่อนคลายขึ้นมาได้ด้วยค่ะ ในการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนนั้น มีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ คุณสมบัติในการป้องกันไรฝุ่นและเชื้อรา ตลอดจนการดูแลรักษา ยิ่งมีคนพิเศษที่ใช้ผ้าปูที่นอนร่วมกับเราด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องเลือกซื้ออย่างพิถีพิถันมากขึ้นไปอีกค่ะ
แต่จะเลือกซื้ออย่างไร เลือกยี่ห้อไหนดีให้เหมาะสมกับการใช้งานและเหมาะกับสุขภาพของตัวเอง วันนี้เราจะมาช่วยไขข้อข้องใจและพาทุกคนไปดูวิธีการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนที่เหมาะสำหรับนอน 2 คนได้อย่างสบาย ๆ นั่นคือ " ผ้าปูที่นอนขนาด 6 ฟุต " หรือ ผ้าปูที่นอนขนาด King Size พร้อมด้วย 10 อันดับผ้าปูที่นอนยี่ห้อยอดฮิตที่ดีมีคุณภาพมาฝากกันอีกด้วยค่ะ
ผ้าปูที่นอนมีหลากหลายชนิดแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้า ลวดลาย หรือดีไซน์ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ก็คงอยากจะเน้นไปที่ลวดลายอันดับแรกใช่ไหมคะ แต่ช้าก่อนค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อน เพื่อให้ได้ผ้าปูที่นอนที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองที่สุด เราควรศึกษาวิธีการเลือกซื้อกันก่อนค่ะว่ามีอะไรบ้าง
เมืองไทยเราเป็นเมืองร้อน ในสภาพอากาศร้อน ๆ เวลานอนก็ยิ่งเหงื่อออกเยอะ อาจจะทำให้นอนไม่ค่อยสบายตัว ขอแนะนำให้เลือกผ้าปูที่นอนที่มีคุณสมบัติดูดซับเหงื่อ ดูดซับความชื้น และระบายอากาศได้ดี อย่างเช่น ผ้าลินิน เป็นต้นค่ะ
อย่างไรก็ตาม คนที่มีผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าลินิน เนื่องจากเส้นใยของผ้าลินินนั้นดูดซับความชื้นได้สูง จึงอาจจะยิ่งทำให้ผิวของคุณแห้งมากขึ้นได้ ขอแนะนำให้เลือกใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอนแทน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นได้ดีเช่นเดียวกัน แม้จะไม่ดีเท่าผ้าลินิน แต่ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งและยังอ่อนโยนต่อผู้ที่มีผิวบอบบางอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเนื้อผ้าอีกหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความชอบเลยค่ะ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับผ้าแต่ละชนิดจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อเลยค่ะ
การเลือกผ้าปูที่นอนก็เหมือนกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าค่ะ นอกจากจะเลือกสีสัน สไตล์ที่ชอบแล้ว ก็ต้องดูที่เนื้อผ้าด้วย ผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ การดูแลรักษาและให้การสัมผัสที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ผ้าใยสังเคราะห์ หรือผ้าที่ผสมเส้นใยทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน มาดูกันค่ะว่าผ้าชนิดไหนจะเหมาะกับบรรยากาศการนอนของเรามากที่สุด
ผ้าฝ้าย หรือผ้าคอตตอน (Cotton) ผลิตจากเส้นใยของฝ้าย ปั่นออกมาเป็นเส้นด้ายแล้วถักทอเป็นผืนผ้าขึ้นมา คุณสมบัติของผ้าฝ้ายจะมีความนุ่มมาก ๆ เส้นใยบาง ละเอียด ยิ่งซักยิ่งให้ผิวสัมผัสนุ่ม ผิวผ้าเรียบเนียน ระบายอากาศได้เยี่ยม และดูดซับความชื้นได้ดี ไม่ทำให้อับชื้นและยังมีความทนทาน เนื้อผ้าไม่เป็นขุยง่ายอีกด้วยค่ะ
ด้วยคุณสมบัติของผ้าคอตตอนที่มีผิวสัมผัสนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหรือแพ้ได้ จึงเหมาะที่จะนำมาทำเป็นผ้าปูที่นอน โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง ผิวแห้ง รวมถึงคนที่ต้องการนอนหลับนุ่มสบายเป็นพิเศษ ขอแนะนำให้เลือกผ้าปูที่นอนที่ทำจากเนื้อผ้าชนิดนี้เลยค่ะ
ผ้าลินิน ทำมาจากเส้นใยของพืชที่ชื่อว่าแฟลกซ์ (Flax) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเส้นใยมีความเหนียว และมีความทนทาน ดูดซับความชื้นและเหงื่อได้ดี ระบายความอากาศได้ดีและแห้งไว ไม่ทำให้อับชื้นค่ะ ผ้าลินินนั้นจะคล้ายกับผ้าฝ้าย แต่จะมีความทนทานมากกว่า และดูดซับความเหงื่อและความชื้นได้ดีกว่า เย็นกว่าและทนความร้อนได้ดีกว่า แต่มีเส้นใยไม่ละเอียดเท่าผ้าฝ้าย ส่วนคุณสมบัติพิเศษของผ้าลินินก็คือ ยิ่งซักยิ่งดูเหมือนใหม่เลยค่ะ
ผ้าลินินมีเหมาะที่จะนำมาทำผ้าปูที่นอนเพราะสามารถขึ้นรูปและทำสีง่าย เนื้อผ้ามีความนิ่ม ลื่น ทนทาน เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี ทำให้รู้สึกสบายตัวตลอดการนอนหลับพักผ่อนค่ะ อย่างไรก็ตาม ผ้าลินินและผ้าฝ้ายจะมีราคาสูงสักหน่อยเมื่อเทียบกับผ้าชนิดอื่น เพราะผลิตจากวัสดุธรรมชาติซึ่งมีกระบวนการผลิตหลายขั้นตอนกว่าจะมาเป็นผืนผ้าได้ค่ะ
ถ้าพูดถึงผ้าที่มีความหรูหรา คุณภาพดีพรีเมียมแล้วก็คงจะมองข้าม "ผ้าไหม" ไปไม่ได้ สำหรับผ้าปูที่นอนแล้ว ผ้าไหมเรียกว่าเป็นผ้าที่ดีที่สุดและราคาสูงที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยคุณสมบัติที่เนื้อผ้ามีความมันวาว นุ่มลื่น น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี ทำให้รู้สึกเย็นสบายในช่วงที่อากาศร้อนและให้ความอบอุ่นในช่วงที่อากาศหนาว
แต่ผ้าไหมนั้นจะดูแลรักษาได้ยากกว่าผ้าชนิดอื่น ๆ ค่ะ ควรซักแห้ง หรือซักด้วยมือโดยใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ ไม่ควรใช้ผงซักฟอกเพราะจะทำลายความมันวาวของเนื้อไหมและไม่ควรขยี้ที่ผ้าโดยตรงเพราะจะทำให้เนื้อผ้าเสื่อมสภาพเร็วได้ค่ะ
ผ้าใยสังเคราะห์ ผลิตจากเส้นใยที่มนุษย์สร้างขึ้น มีความแข็งแรงทนทานกว่าผ้าใยธรรมชาติ ดูแลรักษาง่าย แห้งไว ไม่ค่อยหลุดรุ่ย นำไปย้อมหรือพิมพ์ลายได้สะดวก และที่สำคัญคือราคาย่อมเยากว่าผ้าใยธรรมชาติ จึงนิยมนำไปทำเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายเป็นส่วนมาก
ข้อเสียของผ้าใยสังเคราะห์ก็คือ ระบายอากาศ ดูดความชื้นและซึมซับเหงื่อได้ไม่ดีเท่ากับผ้าคอตตอน แต่ปัจจุบัน ได้มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการพัฒนาคุณภาพของผ้าใยสังเคราะห์ จึงทำให้ระบายอากาศได้ดีและดูดซับความชื้นได้มากยิ่งขึ้น แถมยังให้สัมผัสที่นุ่ม ละเอียด เทียบเคียงกับผ้าจากใยธรรมชาติได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีการผลิตผ้าใยสังเคราะห์ขึ้นมาโดยการเลียนแบบผ้าฝ้ายเพื่อให้ได้เนื้อผ้าที่คุณภาพดีขึ้น จึงมักจะมีการนำใยสังเคราะห์ไปผสมกับเส้นใยของฝ้าย ดังที่เราเห็นบ่อย ๆ ตามท้องตลาด เช่น ผลิตจาก Cotton 35% และ Polyester 65% เป็นต้นค่ะ
เนื่องจากผ้าปูที่นอนจะต้องสัมผัสกับผิวเราโดยตรงทุกวัน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เนื้อผ้าที่ดูแลและทำความสะอาดง่าย อย่างเช่น ผ้าลินิน หรือ ผ้าใยสังเคราะห์ ซึ่งมีคุณสมบัติแห้งไวและทนทาน ไม่ว่าจะซักกี่ครั้งก็สะอาดและนำกลับมาใช้ได้ดีอยู่เสมอ
ในการใช้งานครั้งแรก ๆ ผ้าลินินอาจจะมีฝุ่นผ้าออกมาบ้างทำให้ดูยุ่งยากอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อนำไปซักก็จะสัมผัสได้ถึงเนื้อผ้าที่แท้จริงของลินินและฝุ่นผ้าก็หายไปด้วยค่ะ ส่วนผ้าใยสังเคราะห์นั้นมีหลากหลายชนิด ถึงแม้จะดูแลรักษาง่าย ทนทาน แต่เวลาซักทุกครั้งก็ควรใช้ถุงตาข่ายเพื่อถนอมเนื้อผ้าให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นไปอีก
สำหรับผ้าไหมและผ้าฝ้ายจะมีขั้นตอนการดูแลและซักยุ่งยากกว่าผ้าชนิดอื่น แนะนำให้หาเนื้อผ้าแบบที่มีใยสังเคราะห์ผสมด้วย เพราะจะทำให้ดูแลง่ายขึ้น แถมยังได้ทั้งสัมผัสที่นุ่มอย่างเป็นธรรมชาติและแข็งแรงทนทาน ซักแล้วแห้งไวขึ้นด้วยค่ะ
"ตัวไรฝุ่น" คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และมักจะแอบแฝงอยู่บนเครื่องเรือนของเรา โดยเฉพาะบนที่นอน มูลและซากของไรฝุ่นเป็นสาเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจ รวมไปถึงผิวหนังอักเสบ และด้วยความที่ประเทศไทยนั้นมีสภาพอากาศร้อนชื้น ทำให้มีแบคทีเรียและเชื้อราเกิดขึ้นง่าย เตียงนอนจึงเป็นอีกที่หนึ่งที่เกิดเชื้อราได้ เพื่อความปลอดภัยในการนอนและเพื่อสุขภาพของคุณระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรจะเลือกซื้อผ้าปูที่นอนที่สามารถป้องกันไรฝุ่นและเชื้อราได้ค่ะ
สำหรับผ้าแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติในการป้องกันไรฝุ่นและเชื้อราแตกต่างกันไป เช่น ผ้าไหม หรือผ้าฝ้ายชนิดที่มีเนื้อผ้าคล้ายผ้าไหม จะมีลักษณะลื่น ไรฝุ่นจึงเกาะยาก และในบรรดาผ้าที่ทำจากธรรมชาตินั้น ผ้าลินินสามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น ส่วนผ้าใยสังเคราะห์จะมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและไรฝุ่นสูงที่สุด เพราะเส้นใยสังเคราะห์สามารถถักทอและแปรรูปได้ดีกว่าเส้นใยธรรมชาติ ผ้าปูที่นอนที่ป้องกันโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่จึงทำมาจากผ้าใยสังเคราะห์ค่ะ
เนื่องจากผ้าปูที่นอน 6 ฟุต มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขณะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนจึงมีความยากลำบากอยู่เล็กน้อย เราจึงควรเลือกแบบที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายค่ะ ซึ่งตามปกติแล้วผ้าปูที่นอนจะมี 2 แบบ คือ "แบบรัดมุม (Fitted Sheets)" และ "แบบไม่รัดมุม (Flat Sheets)" ขอแนะนำให้เลือกแบบรัดมุมค่ะ เพราะจะมียางยืดอยู่ตรงมุม หรือบางรุ่นจะมียางยืดด้านในโดยรอบ ทำให้สวมผ้าปูลงไปบนเตียงและถอดเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผ้าปูที่นอนเรียบตึง ดูสวยงามน่าใช้งาน ไม่มีค่อยมีรอยยับ และไม่หลุดออกมาระหว่างที่เรานอนอีกด้วยค่ะ
วิธีการเลือกผ้าปูที่นอนแบบรัดมุมมีสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ "ความยาวและความหนาของฟูกที่นอน" ที่นอนบางรุ่นอาจจะมีความยาวหรือความหนากว่าที่นอนมาตรฐานทั่วไป จึงควรเลือกขนาดที่พอดีกับฟูกที่นอนของเรา ไม่เช่นนั้นอาจจะสวมผ้าปูที่นอนลงไปได้ไม่พอดี หรือมีสภาพหลุดรุ่ย เลื่อนไปมาตอนที่เรานอนได้ค่ะ และถ้าหากใครใช้ผ้ารองกันน้ำหรือกันความชื้นเพิ่มอีกชั้นนึง ก็ควรคำนวณความหนาให้พอดีด้วยนะคะ
เมื่อได้รู้จักวิธีการเลือกผ้าปูที่นอนกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะพาทุกคนไปดู 10 อันดับ ผ้าปูที่นอน 6 ฟุต ยอดนิยมกันแล้วค่ะ นอกจากจะมีลวดลาย ดีไซน์สวยงามแล้ว แต่ละรุ่นยังมีคุณภาพดีอีกด้วย ไปชมกันเลยค่ะ
ผ้าปูที่นอน TOTO รุ่นนี้ ผลิตจากผ้า Cotton 40% ผสมกับ Polyester 60% โดยเป็นเส้นใย Cotton ที่นำเข้ามาจากออสเตรเลีย และทอด้วยเส้นด้าย 213 เส้นต่อ 10 ตร.ซม. ทำให้แข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นขุย สามารถดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ว่าจะซักด้วยเครื่องซักผ้าหรือซักมือ หลังซักแล้วผ้าไม่หดตัว ไม่เสียรูปทรง ใช้สีพิมพ์ผ้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มีขอบยางยืด สามารถถอดซักได้สะดวก และจุดเด่นก็คือเป็นที่นอนไร้รอยต่อ ทำให้หลับสบายตลอดคืน สมดังสโลแกนของ TOTO ค่ะ
ชุดผ้าปูที่นอน Frolina รุ่น Micotex มีสไตล์เรียบง่าย แต่แอบซ่อนลวดลาย Two-Tone ไว้ด้านใน มีสีให้เลือกหลากหลายสี มีทั้งสีเรียบ ๆ อย่างสีครีม สีสดใส อย่างเช่น สีฟ้าและชมพู หรือสีที่เหมาะกับชายหนุ่ม อย่างสีเทา สามารถเปลี่ยนบรรยากาศการนอนได้ตามใจเลยค่ะ เนื้อผ้าของ Frolina รุ่นนี้ทำมาจากเส้นใย Fine Microfiber จำนวน 330 เส้นด้ายต่อ 10 ตร.ซม. ทำให้มีสัมผัสที่นุ่มลื่น ล้มตัวลงนอนแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ระบายอากาศได้ดี และยังทนทาน ดูแลทำความสะอาดง่ายอีกด้วยค่ะ
ผ้าปูที่นอน Synda GRAPHIC VIO มีจำนวนเส้นด้าย 280 เส้น ต่อ 10 ตร.ซม. ทำมาจาก Cotton 100% ซึ่งนำเข้ามาจากแถบยุโรป มีขั้นตอนการผลิตอย่างพิถีพิถันเพื่อที่จะคงความนุ่มของใยฝ้ายไว้มากที่สุด มีลวดลาย Graphic สวยงาม ดูดี เนื้อผ้าสามารถระบายอากาศได้ดีและแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน แถมยังป้องกันไรฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้ไม่ต้องกังวลกับภูมิแพ้และโรคระบบทางเดินหายใจ นอนสบายไร้กังวลเลยค่ะ
CP Cotton รุ่น Oriental Collection เป็นผ้าปูที่นอนระดับโรงแรม 5 ดาวเลยค่ะ ทำมาจากผ้า Cotton 100% มีจำนวนเส้นด้ายมากถึง 1,000 เส้นต่อ 10 ตร.ซม. ทออย่างละเอียดและเนื้อผ้ามีความนุ่มมาก ทอเต็มผืน ไร้รอยต่อ ระบายกาศได้ดีเยี่ยม ทำให้รู้สึกเย็นสบาย เนื้อผ้านุ่มลื่น กันไรฝุ่นและเชื้อราได้ด้วยค่ะ ส่วนราคาอาจสูงไปสักนิด แต่ถ้าใครมีงบประมาณก็เลือกซื้อได้เลยค่ะ เชื่อว่าจะทำให้หลับสบายฝันดีเหมือนได้ไปพักผ่อนที่โรงแรม 5 ดาวอย่างแน่นอน
ผ้าปูที่นอน CUSHY รุ่น Yarn Dyed ผลิตจากผ้าไมซิไฟน์ (Micifine) 100% ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ มีเส้นใยขนาดเล็กกว่าผ้าฝ้ายถึง 10 เท่า ทำให้อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น และให้สัมผัสที่นุ่มลื่น เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี และยังป้องกันไรฝุ่น แบคทีเรีย สาเหตุของโรคภูมิแพ้ด้วยค่ะ ทำให้นอนหลับเพลิน สบาย ปลอดภัยหายห่วงได้เลย และรุ่นนี้ยังมีการทอแบบพิเศษอีกด้วย โดยการย้อมสีด้ายทีละเส้น จึงทำให้ได้เนื้อผ้าที่เรียบหรู สวยงามมากเลยค่ะ
ด้วยคุณภาพของชุดเครื่องนอน Tulip ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน จึงเชื่อถือและไว้วางใจในคุณภาพได้ค่ะ ผ้าปูที่นอน Tulip Cotton Mix ผลิตจากการผสม Cotton 35% กับ Polyester 65% ทำให้เนื้อผ้ามีความหนาและนุ่ม ซักบ่อยก็ไม่เป็นขุย ป้องกันไรฝุ่นและเชื้อแบคทีเรีย มั่นใจในสุขภาพอนามัยได้เลย และนอกจากนี้ยังทำความสะอาดง่าย แห้งไว สีไม่ตกอีกด้วยค่ะ เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น เมื่อซักเสร็จแนะนำให้อบแห้งก่อนที่จะนำไปตากค่ะ
Satin Plus Lucky Me เป็นผ้าปูที่นอนรุ่นพิเศษ Limited Edition ที่ทำขึ้นมาโดยร่วมกับหมอช้างเพื่อเสริมดวง มีสีสันสดใสให้เลือกถึง 12 แบบตามราศีเลยค่ะ ใครชอบสีมงคลห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ บอกเลยว่าเขาออกแบบสีมาได้สวยมาก ๆ รุ่นนี้ผลิตจากผ้าไมโครฟิล 100% (Imported Micro Feel) มีความละเอียด 290 เส้นด้ายต่อ 10 ตร.ซม. ทำให้ได้สัมผัสที่นุ่มลื่น นอนสบาย และไร้รอยต่อด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีขอบยางรัดมุมทั้ง 4 ด้าน ช่วยให้ถอดเปลี่ยนนำไปซักสะดวกขึ้นด้วย
PASAYA เป็นแบรนด์เครื่องนอนระดับพรีเมียม ที่มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยได้ โดยจุดเด่นของชุดผ้าปูที่นอน PASAYA คือผลิตจากผ้าคุณภาพดี ไม่มีสารก่อมะเร็ง (Formaldehyde Free) ทำให้ปลอดภัยแม้กระทั่งเด็กแรกเกิดและผู้ที่มีผิวบอบบางค่ะ นอกจากนี้ชุดเครื่องนอนของ PASAYA ยังได้รับมาตรฐาน Cool Mode จากองค์การก๊าซเรือนกระจก ทำให้มีเนื้อผ้าที่เย็นสบาย นุ่มลื่น ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ซักเสร็จแล้วผ้าจะยังคงรูปสวยงามและสัมผัสนิ่มเหมือนเดิมเลยค่ะ
LOTUS Impression Solid เป็นผ้าปูที่นอนสไตล์เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสีสัน มาพร้อมเฉดสี 23 เฉดสี ให้ได้เลือกเปลี่ยนผ้าปูอย่างสนุกสนานตามใจชอบและเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้ช่วงเวลานอนมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น ผ้าปูที่นอนรุ่นนี้ใช้วัสดุไมโครเทกซ์ (Microtex) ที่สังเคราะห์ขึ้นมาเสมือนผ้าฝ้าย ทำให้ได้สัมผัสที่นุ่มเกือบเท่า Cotton 100% เลยค่ะ ทอด้วยเทคนิคพิเศษ ระบายความร้อนได้ดี ซักง่าย แห้งเร็ว สีไม่ตก ไม่เป็นขุย นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันไรฝุ่นได้ ทำให้นอนหลับสบายและรู้สึกปลอดภัยค่ะ
Dunlopillo Print Collection ทำจากผ้า Softatex 100% ผลิตด้วย Pico Tecnology ทำให้ผิวสัมผัสอ่อนโยนเป็นธรรมชาติเหมือนผ้า Cotton 100% ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว สามารถระบายอากาศได้ 360 องศา เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Dunlopillo เขาเลยค่ะ นอกจากนี้ยังเคลือบสารป้องกันไรฝุ่น ป้องกันเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียด้วยค่ะ ผลิตภัณฑ์ของ Dunlopillo นั้น ผ่านการรับรองระดับมาตรฐานสากล และตรวจสอบเนื้อผ้าจาก Lab ในประเทศอังกฤษ นอนหลับสบาย หายห่วงได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ได้ผ้าปูที่นอนที่ถูกใจและปลอดภัยสำหรับสุขภาพการนอนกันหรือยัง การเลือกซื้อผ้าปูดี ๆ สักผืนมีวิธีการเลือกที่พิถีพิถันกว่าที่คิดใช่ไหมคะ หวังว่าจะได้ไอเดียในการซื้อผ้าปูที่นอนจากบทความนี้นะคะ และอย่าลืมว่าสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการนอน ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ดังนั้น นอกจากมีชุดเครื่องนอนที่ดีแล้ว การพักผ่อนให้เป็นเวลาและนอนครบ 7-8 ชั่วโมงก็เป็นสิ่งสำคัญ ในแต่ละวันที่แสนจะยุ่ง อย่าลืมแบ่งเวลาให้กับการนอนอย่างเพียงพอนะคะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีค่ะ