เมื่อพูดถึงเทรนด์การแต่งหน้าที่กำลังนิยมมากที่สุด ณ ตอนนี้คงหนีไม่พ้น การแต่งหน้าโทนส้มอิฐ ค่ะ ซึ่งสีโทนส้มอิฐนั้นมีความพิเศษกว่าโทนสีอื่น ๆ ตรงที่สามารถแต่งได้หลายลุค หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นลุคหวานฉ่ำแบบสาวเกาหลีหรือลุคเปรี้ยวจี๊ดแบบสาวฝรั่งก็ได้ และสามารถนำเอาไปครีเอทลุคแบบอื่น ๆ ที่ใช้งานได้ในทุกโอกาส อีกทั้งยังมีหลายเฉดสีที่สามารถเข้าได้กับทุกสีผิวอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นโทนสีที่ควรมีติดกระเป๋าเลยค่ะ
เครื่องสำอางโทนส้มอิฐที่วางขายกันนั้นก็มีมากมายหลายแบรนด์เลยค่ะ เช่น DIOR, Urban Decay, 4U2, Etude และอื่น ๆ ซึ่งต่างก็มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตามส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น ดวงตา, พวงแก้ม และริมฝีปาก โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกและ 10 อันดับ เครื่องสำอางโทนส้มอิฐ ที่มีสีสวยใช้งานได้ง่ายและมีคุณภาพดีมาให้ทุกคนได้เลือกชม เลือกซื้อกันค่ะ แถมยังสามารถซื้อออนไลน์ได้ด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรต้องรู้ก่อนจะตัดสินใจควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์กัน
เนื่องด้วยเครื่องสำอางโทนส้มอิฐนั้นมีหลายเฉดสีและหลายประเภทมาก หลาย ๆ คนอาจจะกำลังลังเลเลือกไม่ถูกกันอยู่ วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีการเลือกมาให้ทุกคนได้อ่านกันเพื่อให้ได้เครื่องสำอางโทนส้มอิฐที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดค่ะ
เครื่องสำอางที่เราใช้นั้นสามารถแบ่งประเภทได้หลากหลายกลุ่มโดยจำแนกตามจุดประสงค์ของการใช้งานค่ะ ซึ่งจะได้ทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
ใครที่แต่งหน้าแล้วยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปหรือใบหน้าดูไม่มีมิติเลย อยากให้ลองเพิ่มเครื่องสำอางกลุ่มนี้ค่ะ เพราะการเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้าจะทำให้การแต่งหน้าของเราสมบูรณ์และดูละมุนมากขึ้น
- บรอนเซอร์ : ช่วยทำให้ผิวหน้าของเราดูมีสีสันโทนอบอุ่น หรือที่นิยมเรียกว่า " ผิวบ่มแดด " ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนมากมีเนื้อแวววาวเพื่อเพิ่มประกายแสงในจุดที่ต้องการเน้น เช่น บริเวณโหนกแก้ม กรอบหน้าผาก และสันกราม เป็นต้น
- เฉดดิ้ง : มักจะประกอบไปด้วย 2 สีใน 1 แพ็กเกจ สีเข้มจะเรียกว่า " คอนทัวร์ " ซึ่งช่วยสร้างเงาและความลึกเพื่อให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น รวมถึงเพื่อพรางสายตาในจุดที่ต้องการอำพรางให้ดูเรียวเล็ก นิยมปัดบริเวณกรอบหน้า ใต้โหนกแก้ม แนวสันกราม และข้างสันจมูก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคอนทัวร์โทนส้มอิฐจะเหมาะกับคนที่มีผิวเข้มและผิวสองสีมากกว่าผิวขาวค่ะ ส่วนสีอ่อนเรียกว่า " ไฮไลท์ " ช่วยเพิ่มความสว่างในจุดที่ต้องการเน้นโดยบริเวณที่นิยมปัดมากที่สุด คือ บริเวณ T-zone อย่างกลางหน้าผาก สันจมูก และปลายคางค่ะ
ดวงตา เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของใบหน้า เนื่องจากเป็นส่วนที่ช่วยดึงดูดให้คนหันมามอง ดังนั้นการเลือกใช้อายแชโดว์ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะช่วยเพิ่มสีสันและความโดดเด่นให้แก่เปลือกตาของเรา โดยมีให้เลือกหลายเนื้อสัมผัสทั้งแบบเนื้อฝุ่นและเนื้อครีม รวมถึงให้ฟินิชลุคที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแมตต์หรือผสมชิมเมอร์เพื่อให้เปลือกตาดูแวววาว มีขายทั้งแบบสีเดี่ยว ๆ เหมาะกับคนที่เป็นมือใหม่ในการแต่งหน้าและแบบพาเลตต์ที่รวมหลาย ๆ สีด้วยกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนการแต่งหน้าในหลาย ๆ ลุคค่ะ
เมคอัพไอเทมสำหรับดวงตาในปัจจุบันต่างก็มีโทนส้มอิฐออกมาให้เลือกใช้กันมากมาย หากใครที่อยากได้โทนนี้ แต่ก็อยากเปลี่ยนลุคได้ ไม่เน้นส้มอิฐแบบจำเจด้วยแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองมองหาอายพาเลตต์โทนส้มอิฐดู เพื่อที่จะได้ขยับไปแต่งโทนสีอื่นได้ด้วย เรียกว่าใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
ถ้าหากอยากได้ผิวที่ดูสุขภาพดีมากขึ้นนั้น ต้องเน้นโทนส้มอิฐที่บริเวณแก้มเลยค่ะ โดยเครื่องสำอางที่ใช้กับบริเวณนี้ก็คือ บลัชออนนั่นเอง ซึ่งบลัชออนโทนส้มอิฐนี้จะช่วยทำให้ใบหน้าของเราดูมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังช่วยขับผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส และดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย ในปัจจุบันมีบลัชออน 5 ชนิด ได้แก่ แบบฝุ่น, แบบครีม, แบบลิควิด, แบบผง และแบบคุชชั่น ซึ่งบลัชออนแบบฝุ่นจะเป็นที่นิยมมากที่สุดค่ะ
ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะช่วยให้ริมฝีปากของเราดูมีสีสันสดใส อีกทั้งยังช่วยให้ปากมีความอวบอิ่ม รวมถึงกลบร่องลึกและสีเดิมของริมฝีปากได้อีกด้วย ซึ่งลิปสติกโทนส้มอิฐนี้เป็นโทนสีส้มอุ่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสว่างสดใสให้กับใบหน้า แถมทั้งเข้าได้แทบจะทุกโทนสีผิว จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าสีจะออกส้มจัดจนเกินไปค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีคุณสามารถเลือกได้ตามเนื้อสัมผัสตามความชอบเลยค่ะ เช่น เนื้อแมตต์, เนื้อครีม, เนื้อซาติน, เนื้อกลอส และเนื้อทินท์ อย่างไรก็ตามอย่าลืมบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอเพื่อให้ได้สีปากที่สวยงามมากยิ่งขึ้นค่ะ
สภาพผิวเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ละเลยไม่ได้ในการเลือกใช้เครื่องสำอาง เพราะถ้าหากใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับผิวของตัวเอง อาจทำให้ประสบปัญหาแต่งหน้าไม่ติดหรือหน้ามันเยิ้มระหว่างวันได้ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่สวยงามแล้ว ยังสิ้นเปลืองงบประมาณของเราอีกด้วย
สำหรับคนที่มีสภาพผิวมัน ควรเลือกเครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อไม่เป็นการเพิ่มความมันเยิ้มที่สามารถก่อให้เกิดการอุดตันได้ นอกจากนี้ควรเลือกเครื่องสำอางที่ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ หรือมีเนื้อสัมผัสแบบแป้ง เพราะจะมีส่วนช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน ติดทนนาน รวมถึงไม่มีความแวววาวที่อาจจะทำให้ใบหน้ายิ่งดูมันเยิ้มอีกด้วย
สำหรับคนที่มีผิวแห้ง ควรเลือกเครื่องสำอางที่ผสมด้วยสารบำรุงที่ช่วยให้หน้าชุ่มชื้นค่ะ เช่น วิตามินอีหรือน้ำมันจากพืชธรรมชาติ เพราะมักเจอกับปัญหาแต่งหน้าไม่ติดอยู่เสมอ นอกจากนี้เนื้อสัมผัสและฟินิชลุคก็สำคัญค่ะ โดยเนื้อสัมผัสควรเลือกที่เป็นแบบครีมหรือลิควิดเพื่อให้ง่ายต่อการเกลี่ยบนผิว และสำหรับฟินิชลุคควรเลือกที่มีความแวววาว หรือที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ เพราะความแวววาวจะทำให้ผิวดูชุ่มชื้นขึ้นมาได้
สำหรับคนที่มีผิวผสม คือคนที่มีสภาพผิวมันและผิวแห้งอยู่ด้วยกัน ผิวมันจะอยู่บริเวณ T-zone ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง และผิวแห้งจะอยู่บริเวณแก้ม ดังนั้นควรเลือกเครื่องสำอางให้มีเนื้อสัมผัสและฟินิชลุคที่เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการใช้ค่ะ เช่น บลัชออนให้เลือกใช้เป็นเนื้อครีม ส่วนเฉดดิ้งให้ใช้แบบแป้งบริเวณจมูก และแบบครีมบริเวณแนวสันกราม เป็นต้น
การแต่งหน้าให้ดูสวยและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นนั้น จะต้องมีความกลมกลืนกับสีผิวของเราด้วยค่ะ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะกำลังสงสัยว่าสีโทนส้มอิฐมีหลายเฉดสีด้วยหรือ เราจึงได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะว่าสีผิวแบบไหนเหมาะเฉดสีโทนส้มอิฐอะไรบ้าง
- ผิวขาว : เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกเฉดสีเลยค่ะ ทั้งเฉดสีส้ม แดง และน้ำตาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมควบคุมโทนสีให้ไปในทิศทางเดียวกันด้วยนะคะ
- ผิวสองสี : เหมาะกับเฉดสีน้ำตาลและส้มมากที่สุดค่ะ เพราะมีความกลมกลืนกับสีผิวได้เป็นอย่างดี
- ผิวเข้ม : ควรเลือกเฉดสีที่มีความเข้มอย่างเฉดสีน้ำตาลและแดง เพราะจะช่วยขับสีผิวของเราให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น
หากใครที่มีผิวบอบบางหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้ง่าย ก็ควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่าง ๆ ได้ เช่น น้ำหอมหรือสารแต่งกลิ่น, แอลกอฮอล์ และพาราเบน ดังนั้นก่อนที่จะซื้อควรอ่านส่วนผสมบนฉลากก่อนทุกครั้งนะคะ เพื่อเป็นการป้องกันการแพ้เบื้องต้น
และเมื่อทราบถึงวิธีเลือกกันแล้ว ในวันนี้ทีมงานมายเบสท์จึงจะมาแนะนำ 10 อันดับ เครื่องสำอางโทนส้มอิฐที่ดีและได้รับความนิยม แถมยังซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย จะมีแบรนด์อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ !
สำหรับบรอนเชอร์ของแบรนด์นี้จะเป็นเนื้อแมตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันมาก ๆ รวมถึงตัวผงแป้งยังมีเนื้อที่เนียนละเอียด ทำให้เกลี่ยตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการบนในหน้าได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีเม็ดสีชัดมาก ไม่ต้องใช้ในปริมาณเยอะ ก็เพียงพอต่อการปัด 1 ครั้งแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นสูตร "Paraben-Free" ที่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง รวมถึงยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกนาร์ซิสซัสและคาโมมายล์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แถมป้องกันการเกิดการระคายต่อผิวหน้าค่ะ
ใครที่กำลังหาเฉดดิ้งเนื้อเนียน ๆ เกลี่ยง่าย ๆ ต้องชอบแน่นอนค่ะ เพราะนี่คือเฉดดิ้งเนื้อครีมที่ประกอบไปด้วยคอนทัวร์และไฮไลท์ในแท่งเดียว เหมาะแก่การพกพาไปใช้ที่อื่น ๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือผิวผสมมาก ๆ เพราะเฉดดิ้งของรุ่นนี้มีส่วนผสมของสารบำรุงมากมาย เช่น วิตามินอี, วิตามินเอ, วิตามินดีและโปรตีนที่ดีต่อผิว ซึ่งสารบำรุงทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า รวมถึงฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนนุ่มอีกด้วยค่ะ
บลัชออน หนึ่งในเมคอัพไอเทมที่เป็นที่นิยมที่สุดของ 4U2 เลยค่ะ ซึ่งมีถึง 3 เนื้อสัมผัสให้เลือกกันเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวหน้าแตกต่างกันไป โดยเนื้อสัมผัสแบบครีมและผสมชิมเมอร์จะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งและผิวผสม ส่วนเนื้อสัมผัสแบบแมตต์จะเหมาะกับคนที่มีผิวมันมาก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหนก็สามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารกันแดดในระดับ SPF35 PA+++ เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเฉดสีให้เลือกมากมาย ครบทุกสีผิวเลยค่ะ
ลิปสติกของ Maybelline เรียกได้ว่าถูกกล่าวขานมาทั้งในเรื่องคุณภาพและราคาค่ะ โดยฟินิชลุคที่ได้จะเป็นแบบแมตต์แต่จะไม่หนักปากหรือทำให้ปากเป็นร่อง เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีพิเศษในการผลิต ทำให้ได้เนื้อลิปสติกที่บางเบา เกลี่ยง่าย แต่ให้เม็ดสีที่ชัด ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถกลบสีริมฝีปากได้สนิท แถมติดทนยาวนานถึง 16 ชั่วโมงอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเติมลิป นอกจากนี้ยังมีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย เชื่อว่าต้องมีสักหนึ่งสีที่ถูกใจคุณแน่นอนค่ะ
สำหรับอายแชโดว์รุ่นนี้มีความพิเศษอยู่ที่เนื้อสัมผัสค่ะ โดยเป็นเนื้อสัมผัสที่นุ่ม แต่ไม่เหนอะหนะ จากการผสานข้อดีของเนื้อสัมผัสแบบแป้งและลิควิด ซึ่งนอกจากจะให้ความบางเบาแบบแป้งแล้วนั้น ยังให้สีที่สดและชัด รวมถึงติดทนนานแบบลิควิดอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี 3 ระดับความแวววาวให้เลือกซื้อ โดยเรียงจากความแวววาวสูงสุดไปยังน้อยสุด ดังนี้ เมทัล, ชิมเมอร์ และแมตต์ ซึ่งทุกระดับสามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อเพิ่มความเก๋และสวยงามให้กับเปลือกตาของเราค่ะ
ใครที่ชอบแต่งหน้าแนว Natural ใส ๆ ห้ามพลาดเลย เพราะเฉดดิ้งรุ่นนี้มีถึง 3 สี เพื่อให้ไล่ลำดับการเฉดดิ้งได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยประกอบไปด้วยคอนทัวร์ 2 สี และไฮไลท์ 1 สี ซึ่งตัวไฮไลท์เองก็น่าสนใจค่ะ ตรงที่ไม่ได้ให้ความแวววาวมากจนเกินไป ทำให้ลุคที่ได้จะมีความฉ่ำวาวแบบละมุน ๆ สวยใส อย่างไรก็ตามเฉดดิ้งที่แนะนำนี้เป็นโทนส้มอิฐ จึงเหมาะกับคนที่มีผิวสองสีและผิวเข้มมากกว่า รวมถึงเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์เป็นแบบแป้งจึงเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวมันมากที่สุดค่ะ
เมื่อพูดถึงบรอนเซอร์ตัวนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินถึงความหรูหราของแพ็กเกจและลวดลายหินอ่อนของเนื้อบรอนเซอร์ค่ะ แต่ใช่ว่าความหรูหราอย่างเดียวจะทำให้บรอนเซอร์ของแบรนด์นี้เป็นที่รู้จักนะคะ แต่เนื่องด้วยเนื้อของผงแป้งที่มีความเนียนละเอียดสูง รวมถึงผงชิมเมอร์ที่เนียนกลืนไปกับผงแป้ง ทำให้ใบหน้าของเราดูบ่มแดดแบบกำลังดีและละมุนสวยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม, แอลกอฮอล์ และพาราเบนอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายมากค่ะ
หนึ่งในพาเลตต์อายแชโดว์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะนอกจากสีที่สวย แต่งได้หลายลุคแล้ว เม็ดสียังชัด แน่น แถมไม่ร่วงเป็นผงง่าย ทำให้เราใช้ได้นานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเนื้อสัมผัสแบบแป้งที่เนียนนุ่ม และประกอบไปด้วย 2 ฟินิชลุค ได้แก่ แมตต์และชิมเมอร์ ซึ่งถ้าหากยิ่งเอามาใช้ด้วยกันแล้ว จะยิ่งทำให้ดวงตาของเราดูมีมิติ สวยมากขึ้นอีกด้วยค่ะ อีกทั้งมีถึง 12 สีใน 1 พาเลตต์ ครอบคลุมในทุกเฉดสี ทั้งสีน้ำตาล, ส้ม และแดง เหมาะกับทุก ๆ สีผิวเลยค่ะ
บลัชออนที่มียอดขายถล่มทลายขายดีที่สุดของโลกต้องยกให้บลัชออนของ NARS เพราะโด่งดังในเรื่องของคุณภาพสีเป็นอย่างมากจากการที่ได้รับรางวัลการันตีจากหลายสถาบันและผลโหวตจากผู้ใช้ทั่วโลก ซึ่งนอกจากคุณภาพสีที่สวยและติดทนนานแล้วนั้น เนื้อของผงแป้งยังเป็นแบบโปร่งแสง จึงไม่เหมือนบลัชออนทั่วไป ทำให้เวลาปัดแล้วจะกลมกลืนไปกับพวงแก้มของเรา ดูระเรื่อแบบเป็นธรรมชาติมาก ๆ รวมถึงผสมชิมเมอร์ที่มีเม็ดละเอียดสูงเข้าไปด้วย ทำให้พวงแก้มของเราดูสุขภาพดีมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับลิปสติกของแบรนด์นี้ เรียกได้ว่าเป็นที่โด่งดังและถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะมีสีที่สวย ติดทนนานตามเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ อีกทั้งยังมีการใช้นวัตกรรมแบบใหม่ที่เรียกว่า Air-Whipped Effect ให้เนื้อลิปสติกมีความเบาบาง ไร้น้ำหนัก แต่ยังคงความสดของสี นอกจากนี้ยังเพิ่มส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากเมล็ดคาเมไลน์และโจโจ้บาที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก และให้ความรู้สึกสดชื่น เย็นสบายปาก รวมถึงมีโอเมก้า 3, 6 และ 9 ที่ช่วยเพิ่มการบำรุงให้ล้ำลึก แถมปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 10 อันดับ เครื่องสำอางโทนส้มอิฐ และวิธีการเลือกเครื่องสำอางที่เราได้รวบรวมมาให้ได้อ่านกัน ทางผู้เขียนหวังว่าทุกคนคงจะชอบและนำไป Mix and Match ในการแต่งหน้าลุคอื่น ๆ ได้นะคะ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการแต่งหน้าจะทำให้เราดูโดดเด่น สวยงามขึ้น แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าและการบำรุงผิวหน้าตามสภาพผิวให้เหมาะสมกันด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้เครื่องสำอางอุดตันตามรูขุมขนอันเป็นสาเหตุของสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา เพราะหากเรามีผิวที่สุขภาพดีก็จะทำให้เราแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เปิดเผยผิวสวย ๆ ให้หนุ่ม ๆ ได้เหลียวมองได้ด้วยค่ะ