ในปัจจุบัน หูฟังได้เริ่มมีผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ตัวที่เป็นหูฟังประเภท “ความละเอียดสูง” หรือที่ในวงการเรียกกันว่า "Hi-Res Audio" มากขึ้นเรื่อย ๆ และอย่างในผลิตภัณฑ์แบรนด์ญี่ปุ่น เครื่องเล่นที่รองรับไฟล์เสียงแบบความละเอียดสูงก็มีวางขายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ คนก็คงอยากลองฟังไฟล์เสียงแบบความละเอียดสูงผ่านทางเครื่อง Audio Player, Headphone Amplifier หรือสมาร์ทโฟนกันบ้างใช่ไหมล่ะครับ
ในครั้งนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกหูฟังความละเอียดสูงที่ได้รับความนิยมและได้รับการแนะนำจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้ทุก ๆ คนได้ลองเลือกซื้อกันดูครับ ถ้าพร้อมกันแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่า !
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เสียงที่มีความละเอียดสูงหรือ "Hi-Res Audio" เริ่มเป็นที่สนใจกันมากขึ้น ซึ่งสาเหตุนั้นไม่ใช่แค่เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเสียงเพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญคือ "ไฟล์เสียงความละเอียดสูง" ที่พัฒนาขึ้นจากการก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ตและความจุที่มากขึ้นของสื่อบันทึกข้อมูลนั่นเองครับ
ทำให้ในปัจจุบัน คนทั่วไปสามารถเข้าถึงไฟล์เสียงความละเอียดสูงที่มีความจุจำนวนมากได้ง่ายดายมากขึ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ต อีกทั้งเครื่องเสียงต่าง ๆ รวมถึงหูฟังนั้นก็ถูกพัฒนาให้สามารถรองรับไฟล์ความละเอียดสูงได้ครับ มารู้จักหูฟังความละเอียดสูงคร่าว ๆ กันครับ
ไฟล์เสียง "ความละเอียดสูง" คือ ไฟล์เสียงที่มีความจุเกินสเปกที่เก็บได้ของ CD ครับ โดยทั่วไปแล้ว CD จะมีสเปกค่า SPS หรือ Sample Per Second อยู่ที่ 44.1 kHz และมีค่า Quantization อยู่ที่ 16 bit และการที่จะเรียกได้ว่า "ความละเอียดสูง" นั้น จำเป็นต้องมีค่าสเปกที่สูงกว่านั้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ไฟล์เสียงความละเอียดสูงจะมีปริมาณข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 96 kHz/24 bit~192 kHz/24 bit หรือ 3-6.5 เท่าของสเปกของ CD ครับ
การที่จะดูว่าหูฟังดังกล่าวรองรับไฟล์เสียงแบบความละเอียดสูงหรือไม่นั้น สามารถตรวจเช็กได้จากเครื่องหมายโลโก้หรือสัญลักษณ์เฉพาะครับ
โลโก้นี้ถูกตั้งขึ้นโดย Japan Audio Association ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐานของ "ระบบเสียงความละเอียดสูง" เอาไว้ ซึ่งมาตรฐานที่ใช้กำหนดว่าใครจะได้โลโก้ระบบเสียงความละเอียดสูงนี้ไปใช้ก็คือ เป็นอุปกรณ์แอนะล็อก เช่น หูฟังที่สามารถแสดงความถี่เสียงระดับ 40,000 Hz (40 kHz) หรือมากกว่าได้ และหากผ่านเกณฑ์การประเมิน ผู้ผลิตก็จะได้โลโก้ความละเอียดสูงมาแปะบนผลิตภัณฑ์ของตัวเองครับ
เริ่มต้นด้วย Sony ที่เป็นจุดศูนย์กลางในการพัฒนาระบบเสียงความละเอียดสูงและมีผลิตภัณฑ์รองรับมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีแบรนด์ญี่ปุ่นต่าง ๆ ที่ได้รับการรองรับและมีผลิตภัณฑ์ที่รองรับความละเอียดสูงอีกเช่นกันอย่างแบรนด์ JVC หรือ Audio-Technica เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ผู้ผลิตอีกหลายรายที่ได้รับการรองรับอีกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์เครื่องเสียงจากออสเตรียอย่าง AKG, แบรนด์อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง ELECOM หรือแม้กระทั่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง Panasonic ก็เริ่มให้ความสำคัญกับระบบเสียงรายละเอียดสูงด้วย
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ต่างชาติอีกมากมายที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบเสียงความละเอียดสูง อย่างเช่นแบรนด์ SHURE, SENNHEISER หรือ BOSE เพราะไม่เห็นว่าการที่สามารถแสดงความถี่เสียงระดับ 40,000 Hz จะเป็นข้อได้เปรียบในเชิงประสิทธิภาพแต่อย่างใด
อีกทั้งในความเห็นของคนทั่ว ๆ ไป คุณภาพของเสียงนั้นไม่ได้พิจารณาจากลักษณะความถี่เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญ ช่วงความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้อยู่ที่ระหว่าง 20 Hz ถึง 20,000 Hz และช่วงความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้ชัดที่สุด จะอยู่ที่ประมาณ 2,000 Hz ถึง 4,000 Hz เท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายคนที่คิดว่าการเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงในเครื่องเล่นที่มีประสิทธิภาพสูงยังไงก็ดีกว่าอยู่เช่นกันครับ
หูฟังความละเอียดสูงมีราคาตั้งแต่รุ่นที่สัมผัสได้ไปจนถึงราคาแพง จริงอยู่ที่ว่าแค่มีโลโก้ความละเอียดสูง (Hi-Res Audio) ก็ถือว่าเป็นหูฟังความละเอียดสูงแล้ว แต่ว่านั่นก็ไม่ได้หมายความว่า แค่สามารถแสดงคลื่นความถี่เสียงระดับ 40,000 Hz แล้วจะสามารถแสดงประสิทธิภาพของไฟล์เสียงความละเอียดสูงได้อย่างเต็มที่ครับ ดังนั้น ถัดจากนี้ เราจะมาอธิบายวิธีการเลือกหูฟังความละเอียดสูงให้ทุก ๆ คนได้ลองอ่านกันดูครับ
ถ้าเป็นเครื่อง Audio Player แล้วล่ะก็ จะสามารถรองรับไฟล์ความละเอียดสูงอย่าง WAV, FLAC, DSD หรือ MQA และสามารถประเมินค่าคุณภาพของอุปกรณ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ว่าหากเป็นอุปกรณ์แอนะล็อกอย่างหูฟังที่นอกเหนือจากคลื่นความถี่เหล่านี้ มาตรฐานของแต่ละแบรนด์และการทดลองฟังจริง ๆ เป็นสิ่งสำคัญครับ
ถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบหูฟังและได้ลองใช้หูฟังหลาย ๆ แบรนด์ก็อาจจะแยกความแตกต่างของเสียงออก แต่หากไม่ได้ฟังบ่อยหรือเพิ่งซื้อหูฟังความละเอียดสูงเป็นครั้งแรก เราก็ขอแนะนำให้ลองซื้อหูฟังที่มีราคาไม่แพงมากและลองฟังจาก Sample ดูก่อนจะดีกว่าครับ
สิ่งสำคัญของการเลือกหูฟังที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือความรู้สึกขณะกำลังใส่หูฟังครับ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่มีขนาดหูที่เล็ก ขอแนะนำให้เลือกหูฟังที่มีลักษณะที่เล็กหรือขนาดกำลังพอดีกับหูจะดีกว่า และหากได้ลองใส่หูฟังหลาย ๆ แบบ เราจะสามารถแยกความรู้สึกขณะสวมใส่ของหูฟังแต่ละรุ่นได้ และแม้กระทั่งสำหรับหูฟังแบบ In-Ear ที่มีฟองน้ำหรือยางหลายขนาดให้เปลี่ยนได้ น้ำหนักของตัวหูฟังก็มีส่วนส่งผลกับความรู้สึกระหว่างสวมใส่ด้วยเช่นกัน จึงขอแนะนำให้ระมัดระวังในการเลือกครับ
สำหรับหูฟังนั้น ยิ่งมีคุณภาพเสียงสูงและกว้างเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ฟังเพลงแนว Pop บ่อย ๆ เราขอแนะนำหูฟังที่มี Reproducibility ในระดับกลางไปจนถึงสูง หรือสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง Rock หรือดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ที่รู้จักกันชื่อว่า "EDM" เราก็ขอแนะนำให้หาหูฟังที่มีเสียงเบสที่ทรงพลังหน่อยจะดีกว่าครับ
ต่อไปก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย กับ 10 อันดับหูฟังความละเอียดสูงประจำปี 2020 แล้วครับ เรามาลองดูหูฟังทั้ง 10 อันดับ และมองหาหูฟังที่เราถูกใจกันดูดีกว่า !
สำหรับคนที่มองหาหูฟังความละเอียดสูงตัวแรก หรือราคาไม่แพง ต้องรุ่นนี้เลยครับ ด้วยจุดเด่น คือ ราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อสำหรับหูฟัง Hi-Res แถมคุณภาพก็ไม่ธรรมดา ด้วยไดรเวอร์ Dynamic ทำให้เสียงออกมาไพเราะ เบสนุ่ม คุ้มเกินราคา และยังผลิตมาจากวัสดุคุณภาพดี ทำให้มีความทนทาน สามารถใส่ออกกำลังกายได้สบาย ๆ
ที่สำคัญดีไซน์ยังดูโฉบเฉี่ยวสวยงาม ด้วยบอดี้ที่เป็นสีเคลียร์ใส ก็จริงอยู่ที่คุณภาพเสียงอาจจะดีสู้แบรนด์ใหญ่เจ้าอื่นไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับราคาเท่านี้แล้ว เรียกได้ว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากหันมาใช้หูฟังความละเอียดสูง คุ้มที่สุดแล้วครับ
เรียกได้ว่าเป็นหูฟังไดรเวอร์ Hybrid ที่ราคาเป็นมิตรและคุ้มที่สุดในตอนนี้แล้วครับ กับ ZSN Pro ของ KZ ที่แม้จะมาในราคาหลักร้อย แต่คุณภาพสู้กับหลักพันหลักหมื่นได้สบาย ๆ กับไดรเวอร์ Hybrid ที่ให้มาถึง 2 ตัว ทำให้เสียงออกมาคมชัดมีคุณภาพ เสียงสูงขับได้มีมิติ เสียงเบสหนักแน่นเป็นลูก ๆ เลยทีเดียว
และที่ต้องชมก็คือการออกแบบที่ทำออกมาได้ดูทันสมัยสวยงาม และผลิตจากวัสดุอัลลอยคุณภาพดี ทำให้ขับเสียงได้มีประสิทธิภาพและแข็งแรงทนทาน อีกทั้งสายที่ให้มายังเป็นสายถักที่ช่วยป้องกันการเสื่อมคุณภาพของสายและยังถอดเปลี่ยนเผื่ออัปเกรดได้อีกด้วย คุ้มขนาดนี้จะพลาดไม่ได้แล้วครับ
สำหรับคนที่มีมือถือ Sony หรือมือถือที่รองรับไฟล์ระดับ Hi-Res หรือความละเอียดเสียง หูฟังรุ่นนี้เรียกได้ว่าเหมาะกับคุณมาก ๆ เลยครับ เพราะหูฟังตัวนี้เป็นหูฟังมือถือที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งจุดขายของรุ่นนี้คือ Digital Noise Cancelling ที่ช่วยตัดเสียงภายนอกได้ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับโลกของดนตรีได้อย่างสบายใจ
เรื่องของเสียงก็เบสหนุ่ม แหลมใส สมคุณภาพหูฟัง Hi-Res ความละเอียดสูง และยังเป็นหูฟัง Sony ที่ราคาสัมผัสได้ในราคาพันกลาง ๆ เรียกได้ว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
สำหรับคนในวงการเพลง ย่อมรู้จักแบรนด์ Audio Technica จากแดนปลาดิบนี้เป็นอย่างดีครับ สำหรับรุ่นนี้คุณภาพเสียงก็ยังเรียกได้ว่าคุณภาพจัดเต็ม และสมราคาคุยที่เรียกตัวเองว่าเป็น Solid Bass In-Ear Headphones เพราะเสียงเบสหนักแน่นทรงพลัง กระหึ่มเกินราคาเลยทีเดียวครับ
สำหรับเสียงเพลงแนวอื่น ๆ ก็ยังถือว่าทำออกมาได้อย่างดีสมกับที่เป็นไดรเวอร์ขนาด 9.8 มม. นอกจากนี้ ดีไซน์ก็ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ขนาดกะทัดรัดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป พกพาสะดวก สำหรับขาร็อกที่ต้องการหูฟังดี ๆ เบสแน่น ๆ เราขอแนะนำรุ่นนี้ให้เลยครับ
ถ้าอยากได้หูฟังที่เหมาะสมกับแนวเพลงที่ฟัง หูฟังรุ่นนี้คือคำตอบครับ เพราะหูฟัง ArtMagic VG4 ของ BGVP รุ่นนี้โดดเด่นด้วย 4 ไดรเวอร์ที่ช่วยคุมในทุกย่านเสียง และยังมีสวิตช์สำหรับปรับแต่งเลื่อนจุดตัด Crossover ได้ ทำให้สามารถปรับเสียงได้ตามแนวเพลงที่เราฟังได้ถึง 8 แบบ จึงโดดเด่นมากเรื่องเสียง ชัด เคลียร์ นุ่มลึกมีมิติ กว้างขวางฟังได้ทุกแนว
ตัวบอดี้ก็ดีไซน์ออกมาได้สวยงามและทันสมัย บอดี้ผลิตจากเรซินเกรดการแพทย์ ใช้ Faceplate ไม้แท้ทำให้ดูหรูหรา ด้านสายยังเป็นสายทองแดง 400 เส้นถอดเปลี่ยนสายได้ จึงเหมาะกับคนที่ฟังเพลงหลาย ๆ แนวครับ
สำหรับหูฟังความละเอียดสูง FA7 ของ FiiO ตัวนี้ พูดได้เลยว่าคุณภาพจัดจ้านเป็นอันดับต้น ๆ ในราคาเดียวกันแน่นอนครับ ด้วยสเปกที่อลังการงานสร้างกับไดรเวอร์ 4 ตัวที่ดูแลในทุกย่านเสียง และการจูนเสียงแบบ Four-Way Crossover ทำให้ไดรเวอร์ทั้ง 4 ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี เสียงออกมาจึงคมชัดคุณภาพดี มีมิติ คมชัดสูง และสายยังเป็นสายถักทองแดงเคลือบเงินที่ทนทานสูง ส่งสัญญาณเสียงได้ราบรื่น
การดีไซน์ก็ทำออกมาได้ดูดีและโดดเด่น ตัวบอดี้ทำจากเรซินจึงมีน้ำหนักที่เบาและทนทาน ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3D Printing และยังได้ใบรับรองจากทางการแพทย์ว่าปลอดภัยกับผู้สวมใส่ ใส่ได้สบายหู ไม่ว่าใครก็ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยครับ
ถ้าอยากได้หูฟังระดับพรีเมี่ยมแล้วละก็ ชื่อแบรนด์ Sony ไม่เคยทำให้ผิดหวังครับ สำหรับรุ่น XBA-N3AP นี้ก็ยังคงยกระดับมาอย่างเหนือชั้น ด้วยสเปกที่ไม่ธรรมดา กับไดรเวอร์ Hybrid แบบไดนามิก 9 มม. ที่ออกแบบมาได้อย่างดี มาพร้อมเทคโนโลยีสุดเจ๋ง อย่างการควบคุมพื้นที่เสียงด้วยตู้ขยายหลังไดรเวอร์และท่อเสียงที่ช่วยระบายอากาศ ทำให้ได้เสียงที่แหลมใส เสียงเบสแน่น มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม
ที่สำคัญรุ่นนี้ยังสามารถถอดสายเคเบิลได้เพื่อความคล่องตัวและเผื่อนำไปอัปเกรดเพิ่มได้ และยังมีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นเก่า ๆ ทำให้พกพาสะดวกมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าซื้อตัวนี้ไปไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ
สำหรับคนที่ชื่นชอบหูฟังระดับไฮเอนด์แต่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-Ear รับรองว่าถูกใจหูฟังรุ่นนี้แน่นอนครับ เพราะรุ่นนี้เป็นหูฟัง Earbud ระดับไฮเอนด์ ที่ทั้งชื่อแบรนด์ Audio Technica และ ไดรเวอร์ขนาด 15.4 mm ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเสียงออกมาวิเศษมากแน่นอน ที่สำคัญยังตอบสนองความถี่ได้สูงถึง 45,000 Hz อีกด้วย
และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือตัวบอดี้ที่ทำมาจากไทเทเนียม ที่ช่วยลดเสียงสะท้อนภายในที่ไม่ต้องการ และยังทำให้มีน้ำหนักเบาและทนทาน อีกทั้งตัวสายยังเป็นแบบถอดเปลี่ยนได้และให้ทั้งแบบชนิดแจ๊ก 3.5 และ 4.4 mm มาให้เลือกใช้งาน กล่าวคือเป็นหูฟังสำหรับโปรอย่างแท้จริงครับ
เรียกได้ว่าพรีเมี่ยมและหรูหราที่สุดแล้วครับ กับหูฟังทรงคลาสสิกรุ่น HA-FW01 ของ JVC ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างบอดี้ที่ผลิตมาจากไม้แท้ ๆ ทำให้ได้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนหูฟังธรรมดา ๆ ทั่วไป และยังมี Stabilizer ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนทำให้เสียงคมชัด อีกทั้งตัวไดรเวอร์ที่ขนาดใหญ่ถึง 11 mm ทำให้ได้เสียงที่ชัดเจน เบสลูกใหญ่ลงลึก เสียงแหลมใส เวทีเสียงกว้างขวาง ไพเราะในทุกย่านเสียง
นอกจากดีไซน์ที่มาในทรงคลาสสิกใส่ง่ายไม่ปวดหูแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่มองข้ามไม่ได้ คือ สายที่ทำมาได้ยืดหยุ่นทนทาน และยังสามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อความคล่องตัวหรือเผื่ออัปเกรด สำหรับคนรักหูฟังรับรองว่าต้องชอบตัวนี้แน่ ๆ ครับ
ถ้าอยากได้หูฟังที่มีคุณภาพเสียงที่เป็นที่สุดไม่เป็นรองใคร ต้อง XBA-Z5 ของแบรนด์ที่เป็นหนึ่งในด้านหูฟังความละเอียดสูงในขณะนี้อย่าง Sony เลยครับ ด้วยไดรเวอร์ Hybrid 3 ทิศทาง ขนาด 16 mm ทำให้ได้เสียงเบสนุ่มลึก เสียงกลางที่แม่นยำ และเสียงสูงที่ชัด ใสในระดับสตูดิโอ ถือว่าเป็นระดับต้น ๆ ในด้านเสียงของหูฟังยุคนี้เลยครับ
นอกจากนี้ตัวบอดี้ก็ทำมาได้อย่างดีเยี่ยม ดีไซน์ออกมาได้ทันสมัยใส่แล้วไม่เจ็บหู วัสดุทำจากแมกนีเซียม ที่มีความทนทานสูงแต่มีน้ำหนักเบา และงานประกอบระดับคุณภาพเพราะผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้าอยากได้หูฟังดี ๆ ใช้ได้นาน ๆ ตัวนี้ตัวเดียวจบทุกคำตอบครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความ 10 อันดับหูฟังความละเอียดสูงของวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ ในปัจจุบันเทคโนโลยีหูฟังได้มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งแบรนด์ใหม่ ๆ คุณภาพก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หูฟังที่มีราคาไม่แพงนักแต่คุณภาพเยี่ยมก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับหูฟังความละเอียดสูง แม้ว่าเมื่อเทียบกับหูฟังธรรมดา ๆ ทั่วไปแล้ว ราคาอาจจะสูงขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับคนที่รักในเสียงดนตรีหรือรักหูฟังแล้ว เรียกได้ว่าคุ้มค่าและไม่แพงจนเกินไปใช่ไหมล่ะครับ และเราก็หวังว่า 10 อันดับที่เรายกมานี้จะถูกใจทุก ๆ คนนะครับ สำหรับวันนี้ก็ขอขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้และผมต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ