ด้วยอิทธิพลของวัฒนธรรมเกาหลีที่ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก จึงทำให้ การแต่งหน้าสไตล์เกาหลี หรือที่เราเรียกกันว่า ' สายเกา' นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้เรียกได้เลยว่า วงการเครื่องสำอางของเกาหลีเองก็เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้กันอีกด้วย เนื่องจากมีแบรนด์เครื่องสำอางหน้าใหม่เกิดขึ้นอยู่เสมอ อีกทั้งยังได้คิดค้นเมคอัพไอเทมชิ้นเด็ด ๆ มาเอาใจสาว ๆ ผู้ใช้กันอีกด้วย
อย่างที่เราได้เกริ่นกันไปว่าเครื่องสำอางเกาหลีนั้นมีมากมายหลายแบรนด์กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Etude House, innisfree, Sulwhasoo, Skinfood, 3CE และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นในเรื่องของเมคอัพไอเทมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การจะเลือกเครื่องสำอางมาใช้ให้ถูกใจนั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องหนักใจของใครหลายคน วันนี้เราจะช่วยลดความยุ่งยากในการเลือกซื้อเครื่องสำอางเกาหลีลง ด้วยการแนะนำให้คุณได้รู้จักกับวิธีการเลือกซื้อเครื่องสำอางเกาหลีที่ถูกต้องว่าควรจะต้องพิจารณาอะไรบ้าง รวมไปถึงยังได้รวบรวม 10 อันดับ เครื่องสำอางเกาหลี ที่ชนะใจสาว ๆ ผู้ใช้จริงตามเว็บรีวิวต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณได้มีตัวเลือกที่ถูกใจมากขึ้น
เมคอัพสายเกา หรือ การแต่งหน้าสไตล์เกาหลี นั้นเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ความสวยความงามที่เป็นกระแสไปทั่วทุกมุมของโลกในปัจจุบัน จุดเด่นของการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี คือ เน้นลุคที่ทำให้ใบหน้าของคุณดูผ่องใส มีสุขภาพดีและมีความละมุนแบบเป็นธรรมชาติ ดังนั้นเมคอัพสไตล์เกาหลีจะเน้นงานผิวเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ ในส่วนของการแต่งหน้าที่ดวงตาจะเน้นให้สีสันที่มีความฟุ้งชวนฝัน ในขณะที่พวงแก้มก็จะเน้นสีสวยที่มีความระเรื่อ การแต่งหน้าที่ปากก็จะเน้นการไล่ระดับความเข้มอ่อนของเฉดสีลิปสติกที่ใช้ด้วยเช่นกัน
การแต่งหน้าสไตล์เกาหลีนั้นจะมีความกลมกล่อมโดยที่ไม่เข้มจนเกินไปหรืออ่อนจนเกินไป จึงเป็นลุคที่สามารถใช้แต่งหน้าได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ว่าจะไปเรียนหรือไม่ทำงาน อีกทั้งเครื่องสำอางเกาหลีที่ใช้แต่งหน้าโดยส่วนใหญ่นั้นจะมีคุณภาพดีเยี่ยมและมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับเครื่องสำอางจากแบรนด์ตะวันตก เน้นสีสันที่มีความหวานใสซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในเครื่องสำอางแบรนด์ตะวันตก ทำให้เครื่องสำอางที่อยู่ในกลุ่ม K-Beauty ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
เครื่องสำอางเกาหลีในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีมากมายร้อยแปดพันเก้า จนบางคนก็รู้สึกเลยว่าตามกระแสแทบจะไม่ทันกันแล้ว เพราะคนเกาหลีนั้นพัฒนาเครื่องสำอางโดยที่ไม่มีหยุดยั้ง มักจะจับเทรนด์การแต่งหน้าในขณะนั้นมาผลิตออกเป็นเครื่องสำอางกันอย่างรวดเร็ว ดังงนั้นคุณจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการเลือกเครื่องสำอางเกาหลี เพราะไม่เช่นนั้นโอกาสที่คุณจะพลาดได้เครื่องสำอางไม่ถูกใจมาใช้จะยิ่งสูงขึ้น
ก่อนอื่นคุณต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องสำอางเกาหลีก่อน ว่ามีกี่ชนิด และแต่ละชนิดนั้นใช้กับส่วนไหนบนใบหน้า เพราะคนเกาหลีนั้นเก็บรายละเอียดในการแต่งหน้าได้อย่างเป๊ะ จึงมีไอเทมออกมามากมายเพื่ออำพรางและแต่งเติมใบหน้าให้มีความสวยเนี้ยบ
เมคอัพในแบบเกาหลีนั้นเน้นงานผิวมากเป็นพิเศษ ดังนั้นอำพรางข้อบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าเป็นสิ่งที่คนเกาหลีให้ความสำคัญ ซึ่งเราจะเห็นได้จากเครื่องสำอางที่มีไว้ใช้ในขั้นตอนนี้ว่ามีหลายชนิดเหลือเกิน
ไพรเมอร์ (Primer) เป็นเครื่องสำอางที่ช่วยอำพรางรูขุมขนให้ดูเล็กลงและตื้นขึ้น เพื่อทำให้ผิวของเรามีความเรียบเนียนมากขึ้นเวลาที่เราเกลี่ยรองพื้นหรือแป้งสำหรับใบหน้าแล้ว ไพรเมอร์บางชนิดยังมีคุณสมบัติพิเศษในการควบคุมความมันส่วนเกิน ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนาน และบางชนิดก็ช่วยเพิ่มประกายแวววาวให้ผิวดูชุ่มฉ่ำ
เมคอัพเบส (Makeup Base) เป็นเครื่องสำอางที่เรามักจะเห็นในรูปแบบครีมสีสันต่าง ๆ ไม่ว่าะเป็นสีเขียว สีม่วง สีเหลือง สีส้ม สีชมพู ซึ่งหน้าที่ของเมคอัพเบสนั้น คือช่วยอำพรางจุดด่างพร้อยจำพวก จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว ฝ้ากระ หรือแม้กระทั่งความหมองคล้ำบนใบหน้า ปรับให้สีผิวของคุณนั้นมีความสม่ำเสมอและกระจ่างใส
มาถึงเครื่องสำอางในกลุ่มที่เรียกว่าขาดไม่ได้สำหรับการแต่งหน้าในแบบเกาหลีเลย นั่นก็คือ เครื่องสำอางประเภทรองพื้น เพราะงานผิวเป็นเรื่องที่คนเกาหลีใส่ใจมากเป็นพิเศษ รองพื้นแบบเกาหลีนั้นก็มีทั้งในรูปแบบของ ลิควิด (Liquid Foundation) ที่มีเนื้อเหลวบางเบา เวลาใช้งานจะต้องใช้คู่กับแปรงหรือฟองน้ำ แต่แวดวงความสวยความงามของเกาหลีเองก็ได้จุดกระแสรองพื้นอีก 2 ประเภทที่น่าสนใจ
บีบีครีม (BB Cream) เป็นการนำเอารองพื้น สารกันแดดและ Makeup Base ผสมเข้าด้วยกัน เป็นครีมที่มีความนุ่มลื่น เกลี่ยแล้วสามารถเซ็ตตัวลงบนผิวหน้าได้เลย จัดว่าเป็นการรวบขั้นตอนเตรียมผิวในหลายขั้นเข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้สะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื้อสัมผัสก็จะมีความบางเบาและเน้นความเป็นธรรมชาติ
คุชชั่น (Cushion Foundation) เป็นนวัตกรรมความงามที่คนเกาหลีเพิ่งจะคิดค้นขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นการนำเอารองพื้น สารบำรุง สารกันแดดและ Makeup Base มารวมอยู่ในตลับเดียวกัน เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น เหมือนเวลาที่เราใช้แป้งพัฟ โดยส่วนใหญ่แล้วคุชชั่นนั้นสามารถแนบสนิทไปกับผิวได้เลย ให้ความชุ่มชื้นกับผิวมากเป็นพิเศษ
เรื่องของสีสันบนพวงแก้มก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน เพราะการมีผิวที่ดูเฮลตี้ในแบบฉบับของสายเกานั้นจะต้องมีสีแก้มที่ระเรื่อและเปล่งปลั่ง ซึ่งสีที่นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่คือสีชมพูเบจและสีส้มพีช เครื่องสำอางสำหรับแก้มนั้นจะได้แก่ บลัชออน (Blusher) ซึ่งมีทั้งแบบฝุ่นที่เราพบเห็นกันทั่วไป และแบบครีมที่มีความติดทนสูง มี Finish Look ทั้งแบบ Matte ที่ดูเป็นธรรมชาติ และแบบ Glow ที่ช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้แก้มของคุณดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
การแต่งตาก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ด้วยเช่นกัน โดยคนเกาหลีนิยมการแต่งตาให้ดูกลมโตและฟุ้งละมุน แต่ก็มีลุคการแต่งหน้าแบบเปรี้ยว ๆ ชิค ๆ ด้วยการใช้การวาดเส้นขอบตาให้ดูสวยเซ็กซี่ขยี้ใจด้วยเช่นกัน
อายแชโดว์ เป็นเครื่องสำอางชิ้นสำคัญในการแต่งสีสันให้เปลือกตา เครื่องสำอางของเกาหลีมักจะใช้สีอายแชโดว์ที่เป็นโทนชมพูและพีช รวมทั้งนิยมประกายกลิตเตอร์เป็นอย่างมาก เพราะช่วยเพิ่มลูกเล่นของเปลือกตาดูโดดเด่นขึ้นมาได้
อายไลน์เนอร์ เป็นไอเทมที่คนเกาหลีนิยมด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่เราทราบกันว่า การเขียนเส้นขอบตานั้นจะช่วยทำให้ดวงตาของคุณนั้นดูมีมิติขึ้นมาได้ อายไลน์เนอร์ในกลุ่มเครื่องสำอางเกาหลีก็จะมีสีดำสีน้ำตาลตามมาตรฐานทั่วไป แต่ที่พิเศษขึ้นมาคือ อายไลน์เนอร์สำหรับขอบตาล่างที่เน้นสีอ่อนประกายมุก เสริมให้ดวงตาดูชวนฝันขึ้นด้วยกัน
มาถึงส่วนสุดท้ายคือ ริมฝีปาก คนเกาหลีจะนิยมการทาปากในลักษณะ Ombre ที่มีการไล่ระดับความเข้มอ่อนจากด้านในริมฝีปากมาสู่ด้านนอก เพื่อให้ปากดูระเรื่อ และสีของลิปสติกที่เรามักจะเห็นในกลุ่มเครื่องสำอางเกาหลีคือสีสไตล์ MLBB ซึ่งเป็นสีที่มีความใกล้เคียงกับสีปากธรรมชาติ นอกจากจะมีลิปสติกแบบแท่งแล้ว แล้วยังมี "ลิปทิ้นท์" ที่มีความบางเบากว่าลิปสติกและสามารถเคลือบบนริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า อีกทั้งยังติดทนยาวนานมากกว่าลิปสติกแบบแท่งอีกด้วย
Finish Look คือผลลัพธ์ภาพรวมที่ได้ออกมาจากการใช้เครื่องสำอางนั้น ๆ ซึ่งเครื่องสำอางแต่ละชนิดก็จะใช้ Finish Look ที่แตกต่างกัน คนในแต่ละสภาพผิวก็จะเหมาะกับ Finish Look ที่ไม่เหมือนกันด้วยเช่นกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ที่คุณต้องรู้จัก Finish Look ของเครื่องสำอางและรู้ด้วยว่าสภาพผิวแบบคุณควรจะใช้เครื่องสำอางที่มี Finish Look แบบไหน
Finish Look แบบ Matte นั้นเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีสภาพผิวมันหรือมีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกิน เพราะเครื่องสำอางในลักษณะนี้จะไม่เพิ่มความมันวาวให้กับผิวและมีความสามารถในการควบคุมความมันส่วนเกินที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการแต่งหน้าได้อีกด้วย เครื่องสำอางที่ให้ Finish Look แบบ Matte ยังเหมาะสำหรับใช้แต่งหน้าเวลาที่คุณไปสัมภาษณ์งานหรือถ่ายรูปทางการต่าง ๆ
สาวเกาหลีนั้นต้องเผชิญกับอากาศหนาวแทบจะตลอดทั้งปี ผิวของสาวเกาหลีจึงค่อนข้างจะแห้งขาดน้ำ ดังนั้นเครื่องสำอางเกาหลีโดยส่วนใหญ่จะเน้น Finish Look แบบ Glow หรือที่เราเรียกกันว่าผิวแบบดิวอี้ ซึ่งมีความชุ่มฉ่ำ เป็นประกายแวววาว เนียนใสเหมือนแก้ว เป็นผิวในอุดมคติของสาวเกาหลีเลยทีเดียว เครื่องสำอางที่ให้ Finish Look ในลักษณะนี้นั้นเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง เป็น Finish Look ที่เหมาะสำหรับการแต่งหน้าไปงานปาร์ตี้ในยามค่ำคืนอีกด้วย เพราะความโกลว์ของผิวจะช่วยให้คุณเป็นที่น่าจับตามองได้อย่างง่ายดาย
เครื่องสำอางนั้นเป็นสิ่งที่เราใช้กับผิวหน้าของเรา ดังนั้นสีผิวของเราจึงมีผลเป็นอย่างมากในการเลือกเครื่องสำอาง โดยเริ่มตั้งแต่กลุ่มเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ก็ควรต้องเลือกที่ตรงกับสีผิวบนใบหน้าจริง ๆ ของคุณ รวมไปถึง สีของ Makeup Base ก็ควรต้องเลือกใช้ให้ทุกจุดประสงค์อีกด้วย เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการยิ่งเน้นย้ำจุดบกพร่องบนใบหน้าของคุณขึ้นมาได้
ในส่วนของเครื่องสำอางที่เน้นเติมสีสันให้ส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าอย่าง ดวงตา แก้มและปาก นั้นควรจะเลือกให้เหมาะกับเมคอัพลุคที่คุณต้องการ และโอกาสที่คุณต้องแต่งหน้าอีกด้วย ภาพรวมของสีสันบนใบหน้าก็ควรจะมีความสมดุลกันทั้งในเรื่องของเฉดสีและความเข้มความอ่อนของเครื่องสำอางอีกด้วย
ในปัจจุบัน เครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีดัง ๆ ได้เข้ามาดำเนินกิจการในไทยและมีการตั้งร้านออนไลน์เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันอย่างมากมาย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการซื้อของปลอมจากแม่ค้าคนกลางแบบในสมัยก่อน ดังนั้นเราจึงสนับสนุนให้คุณเลือกซื้อเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีจากเจ้าของแบรนด์โดยตรง เพื่อที่คุณจะได้เครื่องสำอางที่ปลอดภัย ไม่อันตรายต่อผิวค่ะ
นอกจากนี้ เครื่องสำอางเกาหลีนั้นยังได้เปิดตัวขึ้นมามากมายหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งบางแบรนด์นั้นอาจจะไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจริง ๆ จากองค์กรที่เกี่ยวข้อง คุณจึงควรพิจารณาดูใบรับรองต่าง ๆ ทั้งจากหน่วยงานทางการของประเทศเกาหลีและของประเทศไทยเอง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องสำอางที่คุณเลือกซื้อนั้นได้ผ่านการรับรองแล้วจริง ๆ
มาถึงในส่วนที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนนั้นต้องรอคอยกันอยู่ใช่ไหมคะ เพราะเราได้รวบรวมคำแนะนำและคะแนนรีวิวจากสาว ๆ ผู้ใช้ว่า เครื่องสำอางเกาหลี อะไรบ้าง ใน 10 อันดับที่คุณควรจะลองหาซื้อมาใช้งานกันดู ซึ่งเครื่องสำอางแต่ละชิ้นนั้นเรียกได้ว่าเด็ดมาก ๆ จริง ๆ
บีบีครีมที่ถูกใจสาว ๆ ด้วยข้อดีในเรื่องของการปกปิดที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้เลยว่าไม่แพ้รองพื้นแบบขวดที่มืออาชีพใช้ ๆ กัน ในขณะเดียวกันยังมีความชุ่มชื้นเต็มพิกัดที่ทำให้ผิวหน้าดูโกลว์ดิวอี้ในแบบฉบับของสาวเกาหลี มีสารกันแดดมาให้ในระดับที่เพียงพอต่อแดดในเมืองไทยอีกด้วย แต่บางคนก็ไม่พึงพอใจในเรื่องของเนื้อบีบีครีมที่ค่อนข้างหนักและมีการดรอปในระหว่างที่ใช้อีกด้วย
ใครที่อยากแต่งหน้าในแบบวิ้งตาแตก จะต้องชื่นชอบอายแชโดว์รุ่นนี้ เพราะมีประกายกลิตเตอร์จัดแน่นมาในเฉดสีที่เพิ่มความหรูหราให้กับเปลือกตาไม่ว่าจะเป็นสีทอง สีแชมเปญ หรือสีมุก เนื้ออายแชโดว์นั้นสาว ๆ ที่ใช้ต่างก็บอกกันว่ามีความนุ่มลื่นและเกลี่ยประกายกลิตเตอร์ได้อย่างสม่ำเสมอทั่วเปลือกตา แต่บางคนก็พบว่าเฉดสีที่อ่อนนั้น กลิตเตอร์อาจจะดูจาง ๆ ซึ่งทำให้ต้องทาทับหลายครั้ง
เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของแป้งองุ่นกันมาบ้าง ความโดดเด่นที่ทำให้แป้งอัดแข็งรุ่นนี้ได้รับเสียงชื่นชมคือ เนื้อแป้งที่มีความละเอียดแต่สามารถปกปิดผิวได้อย่างแนบเนียน โดยที่ไม่มีส่วนผสมของรองพื้น มีเนื้อที่โปร่งเบา สามารถใช้เติมบนผิวได้โดยไม่ทำให้ดูหนาจนเกินไป ไม่ระคายเคืองผิว เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวดูสดใสและมีชีวิตชีวาขึ้นหลังจากที่ใช้อีกด้วย
เบสเขียว เบสม่วงที่หลายคนเรียก ๆ กัน ก็มี The Face Shop เป็นผู้จุดกระแสขึ้น โดยทางแบรนด์ได้มีการปรับสูตรให้ดีขึ้นกว่าเดิมตรงที่ มีน้ำหนักของเนื้อสัมผัสที่บางเบามากขึ้น ให้มีความนุ่มลื่น เพื่อเกลี่ยลงบนผิวได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ทิ้งคราบเอาไว้บนผิว ซึ่งมี 2 สีให้เลือกใช้ สีเขียวนั้นจะเน้นกลบรอยแดงจากสิว ในขณะที่สีม่วง จะช่วยจัดการกับความหมองคล้ำให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใสขึ้น
เนื้อสัมผัสที่โปร่งเบาสบายปาก คือ ไฮไลท์สำคัญของลิปทิ้นท์รุ่นนี้ เพราะมีเนื้อลิปที่นุ่มเนียนแตะเพียงนิดเดียวก็ให้สีสวยทั่วริมฝีปาก Finish Look แบบ Matte ที่แนบสนิทไปกับปากแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ปากดูแห้งเกินไป แต่ให้ลุคสีปากละมุนเหมือนกำมะหยี่ เฉดสีที่ลิปทิ้นท์นี้มีให้เลือกก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ชนะใจสาว ๆ หลาย ๆ คน เพราะทำออกมาได้ตรงตามคอนเซ็ปต์ MLBB คือสีใกล้เคียงสีปากมาก ๆ
สำหรับคนที่ชอบการแต่งหน้าลุค Ombre ให้สีปากดูระเรื่อ ๆ ลิปสติกรุ่นนี้จะต้องตรงใจคุณ เพราะมีการไล่ระดับความเข้มอ่อนของสีลิปสติกถึง 6 เฉดสีใน 1 แท่ง เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามาก ๆ แต่ก็ใช้งานได้จริงตามความเห็นผู้ใช้ ความโดดเด่นของลิปสติกรุ่นนี้คือ เม็ดสีที่เข้มข้นจึงทำให้โทนสีที่มีความเข้มนั้นเด่นชัด มีสารบำรุงริมฝีปากไม่ว่าจะเป็น Finish Look แบบไหนก็ไม่ต้องกลัวเรื่องปากแห้ง
3CE เป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของเฉดสีเครื่องสำอางที่มีความละมุนฟุ้ง ๆ เช่นเดียวกับบลัชออนเนื้อครีมรุ่นนี้ที่แค่วางขายก็กวาดความนิยมถล่มทลาย เพราะนอกจากจะให้สีโทนส้มอิฐหรือชมพูตุ่นซึ่งเป็น Signature ของแบรนด์แล้ว ยังมีเม็ดสีที่ชัดเจน แต่เมื่อทาลงบนผิวหน้าก็กลมกลืนและให้สีแก้มที่มีความเป็นธรรมชาติ ดูมีเลือดฝาดและเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังใช้เติมสีที่เปลือกตาและปากได้อีกด้วย
โดยทั่วไปรองพื้นจะจำกัดการเลือกทั้งในเรื่องของ Finish Look และระดับการปกปิด แต่ innisfree กลับฉีกแนวและออกแบบรองพื้นออกมาในหลากหลายสไตล์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับสาว ๆ มากขึ้น มี Finish Look แบบ Semi-Matte ที่เพิ่มขึ้นมาจากรองพื้นทั่วไป โดยที่ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นแต่ไม่มันวาว สาว ๆ ยังถูกใจในเรื่องเฉดสีที่มีให้เลือกมากมาย และมีการใช้ส่วนผสมที่ช่วยดูแลผิวในแต่ละสภาพผิวด้วย
มองหาพาเลตต์แต่งตาสไตล์สายเกากันอยู่หรือเปล่าคะ เพราะอายพาเลตต์รุ่นนี้เป็นไอเทมที่สาว ๆ นั้นเทใจให้เลยว่าครบเครื่องทุกความต้องการ เนื่องจากรวบรวมอายแชโดว์สีที่ได้รับความนิยมจาก Etude House มา ถึง 15 เฉดสีในตลับเดียว มีทั้งสีส้มพีช ไปจนถึงสีชมพูประกายทองแดง ช่วยให้คุณสามารถครีเอทเมคอัพลุคได้หลากหลายแบบ หลายคนยังประทับใจเนื้อละเอียดของอายแชโดว์ที่เกลี่ยได้ง่ายให้สีและประกายสวยชัด
ถ้าพูดถึงเกาหลีแล้วหลายคนจะต้องนึกถึงโสมด้วยเช่นกัน เพราะเป็นสมุนไพรล้ำค่าที่วงการความงามก็ใช้กัน จึงทำให้คุชชั่นรุ่นนี้เป็นสุดยอดรองพื้นจากเกาหลีที่ควรจะต้องมีตามคำแนะนำของผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ นอกจากจะช่วยปกปิดผิวให้เรียบเนียนแล้ว ยังเพิ่มประกายชุ่มฉ่ำในแบบผิวดิวอี้ ให้สารบำรุงจัดแน่นจากสมุนไพรชั้นสูงของเกาหลี มีตัวกระจายแสงเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้าในขณะที่ใช้อีกด้วย ผู้ใช้หลงรักเนื้อบางเบาของคุชชั่นที่เคลือบลงบนผิวได้อย่างพอดีไม่หนาเกินไป
จุใจกันไหมคะสำหรับข้อมูลเรื่องเครื่องสำอางเกาหลีที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เราก็หวังว่าทั้งเรื่องของวิธีการเลือกซื้อเครื่องสำอางเกาหลี และ 10 อันดับ เครื่องสำอางเกาหลี ที่เราได้รวบรวมจากคะแนนรีวิวและความเห็นของผู้ใช้ตามเว็บออนไลน์ต่าง ๆ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องสำอางเกาหลีมาใช้ได้ง่ายขึ้นนะคะ
สาวเกาหลีนั้นเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามบนใบหน้าเป็นอย่างมาก และเครื่องสำอางก็เป็นแค่ 1 ในวิธีการเพิ่มความสวยให้กับตัวเอง เพราะยังมีเรื่องของการดูแลและบำรุงผิวที่สาวเกาหลีนั้นปฏิบัติกันอย่างเป็นประจำ ดังนั้นใครที่อยากจะดูดีแบบสายเกา ก็ไม่ควรหยุดตรงที่เรื่องสำอางเท่านั้น แต่ควรศึกษาเคล็ดลับในการดูแลผิวเพิ่มเติมว่าควรจะต้องใช้สกินแคร์แบบไหนและปรับปรุงพฤติกรรมอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้ผิวของคุณนั้นดูสวยงามในยามที่ไร้เครื่องสำอางอีกด้วย