ในบรรดาอุปกรณ์เครื่องเขียนทั้งหลาย สิ่งที่เราได้มีโอกาสใช้อยู่บ่อย ๆ ก็คงหนีไม่พ้นดินสอกดใช่มั้ยล่ะคะ ตั้งแต่แบรนด์มาตรฐานที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Zebra, Pilot, Rotring ต่างก็มีวางขายอยู่ทั่วไป หรือจะเป็นซีรีย์ที่เน้นสำหรับการใช้งานเฉพาะอย่าง Kurutoga, DelGuard ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงหลังมานี้ดินสอกดสำหรับร่างแบบที่มักจะให้อิมเมจของความโปรอย่างเช่น ดินสอกดหัวขนาด 0.3 มิลลิเมตร ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเหมือนกัน
ครั้งนี้เราจะมาบอกวิธีการเลือกซื้อดินสอกดยอดนิยมกันและจะขอแนะนำ 10 อันดับดินสอกดว่ายี่ห้อไหนดีที่น่าซื้อ ว่าแล้วก็ลองเริ่มหาดินสอกดที่ถูกใจกันได้เลยค่ะ
ในการเลือกดินสอกดนั้น ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่การจับให้ถนัดมือหรือความเหมาะสำหรับการเขียน ก็ควรจะเลือกให้เข้ากับตัวเอง ดังนั้น เรามาเริ่มแนะนำวิธีการเลือกกันเลยดีกว่าค่ะ
แน่นอนว่าการจับดินสอ การใช้งานของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ก่อนอื่นเรามารู้จักกับประเภทหลัก ๆ ของดินสอกด รวมไปถึงฟังก์ชันการใช้งานกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่ามีแบบไหนที่จะเหมาะกับผู้อ่านได้บ้าง
ประเภทของดินสอกดสามารถแบ่งออกได้คร่าว ๆ เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แบบดินสอกดอย่างเดียว แบบมัลติฟังก์ชัน และแบบใช้สำหรับออกแบบ โดยปกติแล้วคนที่ต้องการดินสอกดเอาไว้เพียงแค่ใช้งานดินสอเพียงอย่างเดียว ก็เลือกซื้อแบบที่ใช้งานเป็นดินสอกดเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ ส่วนใครที่อยากจะได้ปากกาลูกลื่นไว้ใช้ในแท่งเดียวกัน ก็ให้เลือกแบบมัลติฟังก์ชัน คือมีทั้งดินสอกดและปากกาในแท่งเดียวกัน
ส่วนใครที่อยากเขียนเส้นที่คมกริบ เราก็อยากจะแนะนำดินสอกดที่ใช้สำหรับออกแบบ ซึ่งก็ตรงตามชื่อเลยค่ะ คือเป็นดินสอกดที่มีไส้บางคมกริบเอาไว้ร่างแบบ แต่เดิมแล้วพวกนักออกแบบมืออาชีพจะใช้ทำงานกัน แต่ตอนนี้ใคร ๆ ก็เริ่มหันมาใช้กันแล้วล่ะค่ะ สำหรับใครที่ใช้ไม้บรรทัดลากเส้น หรือแม้แต่คนที่อยากเขียนตัวหนังสือได้สวยงาม ดินสอออกแบบก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะเลยทีเดียวล่ะค่ะ
ความหนาของด้ามดินสอนั้นให้เลือกขนาดที่พอเหมาะกับความใหญ่ของมือ ความแน่นในการจับดินสอ รวมไปถึงน้ำหนักการกดของดินสอเวลาเขียน สำหรับคนที่มีมือขนาดใหญ่ จับดินสอค่อนข้างแน่น ออกแรงกดหนักเวลาเขียน ควรจะเลือกดินสอกดที่มีด้ามบางจะดีกว่านะคะ ส่วนใครที่มือเล็ก จับดินสอแบบหลวม ๆ และไม่ค่อยออกแรงกดเวลาเขียน เราแนะนำให้เลือกดินสอกดแบบที่มีด้ามจับอวบ ๆ ค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้น วิธีที่เราแนะนำไปก็เป็นเพียงวิธีในการเลือกคร่าว ๆ บางทีคนที่มือใหญ่อาจจะทำให้จับด้ามดินสอบาง ๆ ไม่ค่อยถนัดก็เป็นได้ค่ะ ดังนั้นการเลือกขนาดดินสอ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของแต่ละคน การจะหาดินสอที่มีขนาดและสรีระเหมาะกับมือของเราจริง ๆ ถ้าได้ไปลองกับของจริงที่ร้านขายเครื่องเขียนดูก็ดีค่ะ
ดินสอกดต่างก็มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ราคา ความหนัก ความรู้สึกเหมาะมือ ความคงทน ถึงแม้ว่าดินสอกดที่ทำมาจากพลาสติกนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักที่เบามือและราคาถูก แต่อาจจะไม่ค่อยคงทนเท่าไหร่นัก จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่เน้นใช้งานเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้หากเวลามือมีเหงื่อออก ก็อาจจะทำให้ลื่นมือจนเกินไป เขียนได้ลำบาก ใครที่มือมีเหงื่อออกเยอะล่ะก็ การใช้ดินสอกดแบบพลาสติกเขียน อาจจะเป็นเรื่องยากเลยก็เป็นได้ล่ะค่ะ
สำหรับดินสอกดที่มีด้ามเป็นเหล็ก ก็มีน้ำหนักพอสมควร ทำให้สามารถเขียนลายเส้นได้อย่างมั่นคง เหมาะกับการใช้เขียนแบบและดีไซน์ต่าง ๆ เรื่องของเหงื่อก็อาจจะทำให้ลื่นได้ ซึ่งถือว่าไม่ได้ต่างกับแบบพลาสติกสักเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องของความคงทนล่ะก็ รับรองว่าใช้งานได้นานกว่าแบบพลาสติกแน่นอน ซึ่งข้อนี้ถือเป็นจุดเด่นของดินสอกดแบบด้ามเหล็กเลยล่ะค่ะ
ทีนี้มาในส่วนของดินสอกดที่ตัวด้ามทำจากไม้กันบ้าง แน่นอนว่าตัวด้ามที่ทำจากไม้จะไม่ลื่นเท่าสองแบบที่เราอธิบายไป แถมยังมีน้ำหนักที่เหมาะมือดีอีกด้วย จะเรียกว่ามีความพอเหมาะอยู่ระหว่างแบบด้ามพลาสติกและแบบด้ามเหล็กก็ได้ค่ะ ถ้าจะให้พูดถึงข้อด้อยของดินสอกดด้ามไม้ล่ะก็ อาจจะเป็นเรื่องที่ว่า ดินสอกดแบบด้ามไม้ไม่ค่อยมีแบบให้เลือกเยอะเท่ากับแบบอื่น ๆ ค่ะ
หากต้องการที่เลือกดินสอที่จับได้เหมาะมือแล้วล่ะก็ ให้เลือกแบบที่มีน้ำหนักเบาดูค่ะ เพราะว่าด้วยน้ำหนักที่เบา มือของเราแทบจะไม่ได้รองรับน้ำหนักอะไรเลย ทำให้เขียนได้เร็วและง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ถ้ามือเราต้องเคลื่อนไหวเยอะ อาจจะทำให้มือล้าได้ง่ายจนทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่ทันใจก็เป็นไปได้ค่ะ
แต่สำหรับคนที่อยากได้การเขียนที่นุ่มนวลและราบลื่น ลองเลือกดินสอกดที่ค่อนข้างมีน้ำหนักดูค่ะ แต่ก็อาจจะต้องระวังนิดหน่อย เพราะหากใช้เขียนเป็นเวลานาน ดินสอที่หนักก็อาจจะทำให้มือล้าได้เหมือนกัน
หากต้องใช้ดินสอกดติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงล่ะก็ ลองหาแบบที่มีด้ามจับแบบนิ่มดูเพื่อเป็นการลดแรงกดดันของนิ้วที่ต้องจับค่ะ ดินสอแบบนี้เหมาะมาก ๆ กับคนที่มักจะจับดินสอจนนิ้วขึ้นเป็นตุ่มแข็ง ๆ
แต่ก็ต้องระวังให้ดีนะคะ เพราะว่าแบบที่มีด้ามจับแบบนิ่ม อาจจะส่งผลให้การเขียนหรือแม้แต่การลากลายเส้นติดขัดได้ ดังนั้นเวลาที่วาดเส้นสำหรับออกแบบต่าง ๆ ให้เลือกแบบที่มีที่จับค่อนข้างแข็ง สามารถลากเส้นที่หนาระดับหน่วย 0.1 มิลลิเมตรได้จะดีกว่าค่ะ
สำหรับคนที่ชอบเขียนตัวหนังสือเล็ก ๆ หรือออกแบบงานที่มีรายละเอียดมาก ๆ ลองเลือกใช้ดินสอกดที่มีหัวขนาดเล็กประมาณ 0.2-0.3 มิลลิเมตรดูค่ะ แต่ด้วยหัวขนาดเล็ก ก็อาจจะทำให้ไส้ดินสอหักได้ง่ายเหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องออกแรงเขียนเบา ๆ แต่ปัจจุบันนี้ก็มีดินสอกดที่ถูกออกแบบมาให้ไส้ดินสอหักยากวางขายอยู่ตามท้องตลาด จะลองหาซื้อดูก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
ส่วนใครที่ชอบร่างภาพหรือวาดรูป หรือแม้แต่ใช้ดินสอกดจดโน้ตเล็ก ๆ น้อย ๆ ลองเลือกหัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยที่ประมาณ 1.3-2.0 มิลลิเมตร ก็ดีค่ะ ไม่เพียงแค่ช่วยให้ไส้ไม่หักยากแล้วยังให้ความรู้สึกเหมือนใช้ดินสอจริง ๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่เพิ่งเริ่มใช้ดินสอหัดเขียนอีกด้วยล่ะค่ะ
ผู้ผลิตต่างก็ออกแบบดินสอกดที่มีลักษณะเด่นแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่น แต่ละฟังก์ชันการใช้งานอาจจะไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคนก็จริง แต่ถ้าเป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้ความสะดวกในการใช้งานได้ล่ะก็ เราก็ควรพิจารณาเลือกซื้อดินสอกดที่มีฟังก์ชันนั้น ๆ นะคะ
ดินสอกดแบบทั่วไป พอกดที่หัวด้านบน ไส้ดินสอก็จะออกมาใช่มั้ยล่ะคะ โดยปกติแล้วต้องเอื้อมนิ้วไปกดจนถึงด้านบนดินสอเลย แต่ก็มีดินสอกดบางรุ่นที่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้ค่ะ
มีดินสอกดรุ่นที่สามารถกดจากปุ่มด้านข้างของด้ามดินสอกด ให้ไส้ดินสอออกมาได้ นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ไส้ดินสอกดไหลออกมาได้เองเพียงแค่เขย่าด้ามดินสอด้วยล่ะค่ะ ยังไงก็หามาลองใช้กันดูนะคะ
หากออกแรงกดมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ไส้ดินสอหักได้ ดังนั้นจึงมีดินสอกดรุ่นที่ออกแบบมาให้ไส้หักยากอีกด้วยค่ะ เพราะว่าดินสอจะถูกออกแบบมาให้ด้ามจับสามารถรองรับแรงกดที่ส่งถึงปลายดินสอได้ หรือบางรุ่นจะออกแบบให้ไส้ดินสอไม่ออกมาเยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เวลาที่เลือกซื้อดินสอกด ก็ควรสังเกตลักษณะการเขียนของตัวเองให้ดีก่อนนะคะ
ถ้ามีลักษณะการเขียนที่กดด้ามดินสอตั้งแต่จากด้านบน ก็ให้ลองเลือกรุ่นที่มีที่จับสำหรับรองรับแรงจากด้านบนดูค่ะ ส่วนใครที่ชอบเขียนหนังสือแนวทแยง ก็ให้เลือกรุ่นที่มีป้องกันปลายไส้ดินสอ ก็จะช่วยให้ไส้ดินสอไม่หักง่ายค่ะ
สำหรับรุ่นที่ไส้ดินสอสามารถหมุนได้อัตโนมัติ มีคุณสมบัติพิเศษคือ ทำให้สามารถเขียนตัวหนังสือได้ด้วยเส้นที่มีขนาดสม่ำเสมอ เพราะตัวไส้ดินสอจะหมุนไปยังด้านที่มีความแหลมโดยอัตโนมัติ เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่ชอบเขียนตัวหนังสือขนาดเล็ก หรือจดโน้ตอย่างเรียบร้อยสะอาดตาเลยล่ะค่ะ นอกจากจะรักษาให้ไส้ดินสอแหลมหักยากแล้วยังทำให้เศษฝุ่นไส้ดินสอไม่ไหลออกมาทำให้สกปรกอีกด้วย
หากจะเลือกดินสอกดสักแท่ง เพื่อน ๆ ดูกันที่ตรงไหนคะ ดีไซน์ถูกใจ? ราคาไม่แพง? แท่งเหมาะมือ? ส่วนใหญ่แล้วก็จะเลือกจากปัจจัยเหล่านี้
ดินสอกด Mono Graph รุ่นนี้ได้รับรางวัล Reddot Award ปี 2016 เป็นดินสอใช้หัวโลหะยาวถึง 4 มม. ซึ่งยาวกว่าดินสอกดทั่วไปทำให้ลากเส้นกับไม้บรรทัดได้ดี ยางลบเป็นแบบหมุน ซื้อเปลี่ยนได้ นอกจากนี้การกดจะใช้แบบเขย่าก็ได้หรือกดที่ตัวเสียบก็ได้ และล็อคป้องกันไส้ออกมาได้ด้วย
สิ่งที่ชอบมาก ๆ ของดินสอรุ่นนี้ นอกจากยางลบที่ใช้ดีไม่เสียชื่อ Mono แล้ว ก็คือน้ำหนักของดินสอค่ะ ดินสอกดรุ่นนี้มีน้ำหนักที่ไม่เบาจนต้องเกร็งเวลาจับดินสอ และไม่หนักจนเมื่อยมือ สำหรับใครที่อยากได้ดินสอกดคิวท์ ๆ กว่านี้ Mono ก็จัดหนักเติมความน่ารักให้ในเวอร์ชั่น Sanrio ด้วยค่ะ เพราะแบบนี้ดินสอกดรุ่นนี้ถึงเป็นสิ่งที่จันว่ามือใหม่ขาดไม่ได้ เป็นทั้งดินสอและยางลบจบในแท่งเดียวเลยค่ะ
ต่อจากนี้ เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าดินสอกดยอดนิยมรุ่นไหนกันบ้าง ที่เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อออนไลน์ได้อย่างง่าย ๆ
Pilot คือแบรนด์เครื่องเขียนจากประเทศญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันมานาน วันนี้จะแนะนำสินค้ารุ่น Dr.Grip ที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากดินสอกดทั่วไปคือ เป็นดินสอกดที่ไม่ต้องกด บอกลาความคุ้นเคยเดิม ๆ ที่พอไส้หมดแล้วต้องกดให้ไส้ออกมาเปลี่ยนมาเป็นแค่เขย่าไส้ดินสอก็ออกมาแล้ว ช่วยให้เราเขียนได้อย่างราบรื่นรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
น้ำหนักของดินสอก็ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป ตัว Grip ก็เป็นยางที่นุ่มไม่ทำให้มือล้า และนอกจากสีเรียบ ๆ พื้น ๆ แล้วยังมีแบบลายการ์ตูนน่ารัก ๆ อีกด้วย
ดินสอกดคุณภาพที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ขนาดไส้ดินสอ 0.5 มิลลิเมตร มีด้ามจับที่ทำมาจากยางทำให้เขียนติดต่อกันได้หลายชั่วโมงอย่างสบายมือ จับด้ามดินสอได้ง่าย หัวดินสอเป็นแบบท่อโลหะ นอกจากนี้ยังมีหัวยางลบอยู่ด้านบนอีกด้วย สามารถใช้งานได้ง่ายเพียงแค่หมุน ตัวด้ามดินสอยังมีคลิปเหล็กเอาไว้หนีบทำให้พกพาได้สะดวก
ดินสอรุ่นนี้นอกจากเหมาะสำหรับคนที่ต้องเขียนหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว ยังเหมาะกับคนที่ชอบกดดินสอหนัก ๆ จนนิ้วมีก้อนปูดออกมาอีกด้วย
UD คือบริษัท อุดมพานิช คอร์เปอร์เรชัน เป็นบริษัทผลิตเครื่องเขียนของไทยเรานี่เองค่ะ รุ่นนี้ที่ขอแนะนำ เป็นทั้งปากกาลูกลื่นหมึกสีน้ำเงิน และดินสอกดขนาดไส้ดินสอ 0.5 มิลลิเมตร ในแท่งเดียวกัน
ตัวปากกาลูกลื่นนอกจากจะหมึกจะแห้งไวแล้วยังให้เส้นที่คมชัด เรียกได้ว่า แท่งเดียวเอาอยู่ เหมาะสุด ๆ สำหรับคนชอบเขียน แต่ไม่อยากพกหลายแท่งให้หนักกระเป๋า รูปร่างเรียบสวย ด้ามจับเป็นแบบแข็งช่วยให้เขียนได้อย่างมั่นคง มีลวดลายออกแบบให้จับถนัดมือไม่ลื่นแม้เหงื่อออก นอกจากนี้ยังมีสีให้เลือกมากถึง 8 สีด้วยกัน
Rotring ถือว่าเป็นยี่ห้อเครื่องเขียนจากเยอรมันที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและบรรดานักเรียนนักศึกษาหลงไหลอยากใช้เพราะมีดีไซน์ที่เท่และคลาสสิค รุ่นTikky นี้เป็นดินสอที่เหมาะกับทั้งการเขียนหนังสือทั่วไปหรือแม้กระทั่งใช้ร่างแบบในการวาดรูป
ตัวดินสอมีน้ำหนักเบา ขนาดไส้ดินสอ 0.5 มิลลิเมตร ตัวด้ามทำมาจากพลาสติก ที่มาพร้อมกับที่จับด้ามยาง ทำให้จับได้สะดวกและรู้สึกนุ่มสบายมือ ตัวท่อหัวดินสอมีความยาวออกมา ทำให้สามารถมองเห็นสิ่งที่กำลังเขียนได้สะดวก แถมยังเหมาะกับการใช้งานควบคู่ไปกับไม้บรรทัดอีกด้วย
ดินสอกดจาก OHTO ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น สามารถใช้ได้กับไส้ดินสอ 0.3 มิลลิเมตร จุดเด่นคือ ส่วนปลายของท่อหัวดินสอหรือที่เรียกกันว่า Guide Pipe สามารถปรับความยาวออกมาได้มากสุดถึง 4 มิลลิเมตร ทำให้สามารถมองเห็นตัวหนังสือหรือเส้นที่เรากำลังเขียนอยู่ได้ชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือ ด้านบนของดินสอ มีช่องระบุไส้ดินสอที่เรากำลังใช้อยู่เช่น B, H, 2H, 3H, 4H ตัวด้ามดินสอมีคลิปสำหรับหนีบสิ่งของได้ นอกจากนี้ยังสามารถหมุนเพื่อถอดคลิปออกมาจากด้ามได้อีกด้วย
ดินสอกดรุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้ดินสอที่มีความหนักเพราะตัวด้ามทำมาจากเหล็ก แถมยังเหมาะกับคนที่อาจจะต้องเปลี่ยนความเข้มของไส้ดินสอไปมา จนไม่แน่ใจว่าไส้ที่กำลังใช้เขียนอยู่นั้นมีความเข้มเท่าไหร่กันแน่
Rotring Tikky 3 in 1 ตรงตามชื่อคือมีปากกาสีดำ สีแดง และดินสอกด ขนาดไส้ดินสอ 0.5 มิลลิเมตร สามอย่างในแท่งเดียวกัน การใช้ก็ง่ายดาย เพียงกดเลือกปากกาหรือดินสอที่ต้องการจะใช้จากปุ่มด้านบน หากใช้เสร็จ ก็แค่เพียงกดปุ่มยางด้านข้างเพื่อเก็บหัวปากกาหรือดินสอ
ตัวด้ามทำมาจากพลาสติก ที่มาพร้อมกับที่จับด้ามยาง ทำให้จับได้สะดวกและรู้สึกนุ่มสบายมือ ปากกาและดินสอรุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบความคล่องตัว พกพาง่าย ต้องการใช้ทั้งเขียนหนังสือและวาดรูปในแท่งเดียวกัน
ดินสอกดบวกปากกาแบบ Customize ได้ที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งจากแบรนด์ UNI มีปากกาถึงสี่แท่ง (สีดำ สีน้ำเงิน สีแดง และสีเขียว) พร้อมกับดินสอกดขนาด 0.5 มิลลิเมตรในแท่งเดียวกัน
ตัวด้ามผลิตจากสแตนเลส ทำให้ค่อนข้างมีน้ำหนัก สามารถจับได้เหมาะมือ นอกจากนี้ Jetstream ยังขึ้นชื่อในเรื่องของหมึกปากกาที่กันน้ำและแห้งเร็วอีกด้วย เมื่อใช้หมึกหมดแล้วก็สามารถหาซื้อไส้ปากกามาเปลี่ยนใส่แทนได้ เรียกได้ว่าเป็นปากกาดินสอที่เหมาะกับคนที่ชอบเขียนเยอะ เน้นจดหลากสี เพื่อให้จำง่ายหรือแม้แต่เพื่อให้ดูสวยงาม
OHTO เป็นผู้ผลิตเครื่องเขียน ไม่ว่าจะเป็นปากกา ดินสอ หมึก และอื่น ๆ จากญี่ปุ่น สำหรับรุ่น Horizon เป็นดินสอกดที่ผลิตในญี่ปุ่น ตัวด้ามทำจากเหล็กอลูมิเนียมเคลือบด้วยสีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีคลิปเหล็ก ทำให้พกพาได้สะดวก
ที่สำคัญคือ ตัวหัวดินสอมีเทคโนโลยี Needle point ที่แข็งแรงทนทานเพราะตัวหัวดินสอทำมาจากชิ้นส่วนเหล็กเพียงชิ้นเดียว จึงรองรับแรงทนทานได้เยอะ และหักได้ยากกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ที่นำชิ้นส่วนสองชิ้น คือพลาสติกและเหล็ก มาประกอบกันจนเป็นหัวดินสอ นอกจากนี้ถึงจะมีหัวใหญ่ถึง 0.7 มิลลิเมตร แต่ก็ยังสามารถเขียนตัวหนังสือออกมาได้เนียนกริบ ดินสอกดรุ่นนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความทนทาน เน้นการใช้งานที่ยาวนาน
Zebra DelGuard มาพร้อมกับไส้ดินสอขนาดมาตรฐานทั่วไป 0.5 มิลลิเมตร แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับรุ่นนี้คือ มีระบบโช้คที่ช่วยลดแรงกระแทก ทั้งจากการกดดินสอเวลาเขียน ทำให้ไส้ดินสอรับแรงกดจากแนวดิ่งโดยตรง หรือจะแรงกดที่เกิดจากแรงกระแทกจากแนวนอน ทำให้ไส้ดินสอไม่หัก
เรียกได้ว่าดินสอกดรุ่นนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนซุ่มซ่ามที่ชอบทำของตกหล่นบ่อย ๆ หรือแม้แต่คนที่ชอบเผลอกดไส้ดินสอออกมาจนยาวเกินไป ถ้าลองเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้ล่ะก็ รับรองว่าต่อให้ในห้องสอบที่รีบเร่ง ก็ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนไส้ดินสอที่หักอีกต่อไป
UNI KURU TOGA เป็นดินสอกดที่มีนวัตกรรมไส้แกนหมุนอัตโนมัติอันโด่งดัง เนื่องจากในทุก ๆ ครั้งที่ไส้ดินสอสัมผัสกับกระดาษ ไส้ดินสอจะทำการหมุนจนได้มุมไส้ดินสอที่แหลม ทำให้เส้นที่เขียนออกมามีความคมชัด ถึงแม้ไส้ดินสอจะมีขนาดมาตรฐานทั่วไป 0.5 มิลลิเมตร
นอกจากนี้ตรงด้ามจับของดินสอมีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นการหมุนอัตโนมัติด้านในตัวดินสอได้ หากไส้ดินสอสัมผัสกระดาษ 40 ครั้ง จึงจะนับได้ว่าไส้ดินสอหมุนจนครบหนึ่งรอบ นวัตกรรมที่คิดค้นมาอย่างรอบคอบขนาดนี้ เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่ชอบเส้นคมกริบตลอดเวลาใช่มั้ยล่ะคะ ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมีปัญหาดินสอทู่มากวนใจแล้ว
ไม่ใช่แค่ตัวดินสอกดเท่านั้นที่มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ ถ้าลองดูตัวไส้ดินสอแล้วล่ะก็ จะพบว่าก็มีการใช้ที่หลากหลายเหมือนกัน ที่เราจะแนะนำต่อไปนี้คือ การใช้งานของไส้ดินสอแบบต่าง ๆ ยังไงก็ลองนำมาใช้ควบคู่กับดินสอกดกันดูนะคะ
ทุกวันนี้โน้ตที่จดในห้องเรียนหรือแม้แต่เนื้อหาจากการประชุม ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อแชร์ลงสื่อโซเชียลมีเดียกับเพื่อน ๆ ได้ การใช้ไส้ดินสอที่มีสีน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้ไส้ดินสอสีดำธรรมดา ๆ เพื่อน ๆ ว่าอย่างนั้นไหมล่ะคะ
จนถึงปัจจุบันนี้ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่ายางลบลบไส้ดินสอสีได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วยางลบที่สามารถลบได้อย่างง่าย ๆ ก็มีอยู่เหมือนกัน จะเอาไส้ดินสอสีมาเขียนตารางงานของตัวเองก็น่าจะทำให้อ่านได้ง่าย คนที่อยากลองก็อย่าลืมลองหามาใช้กันดูนะคะ
บางคนอาจจะอยากใช้ดินสอที่มีหัวขนาดต่าง ๆ แตกต่างกันไปในแต่ละโอกาส แต่การที่ต้องพกดินสอกดหลาย ๆ แท่งเนี่ย อาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อไม่ใช่น้อยเลย ปัจจุบันนี้ ก็มีดินสอกดที่สามารถใส่ไส้ดินสอได้ถึง 2 ขนาดใน 1 แท่งแล้ว ใครที่สนใจ ลองหามาใช้กันดูนะคะ
ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปว่า ดินสอที่ต้องใช้ไส้ดินสอขนาดใหญ่จะมีด้ามที่อ้วนป้อมจนกินพื้นที่ในกระเป๋าดินสอ ต่อจากนี้ไม่ว่าในที่ไหน ๆ ก็สามารถเลือกใช้ดินสอกดที่มีขนาดไส้ต่าง ๆ ได้ตามใจชอบแล้ว
ถ้าเป็นปากกาที่สามารถปรับเปรี่ยนหรือดัดแปลงได้เอง จะเลือกสีไส้ปากกาที่ตัวเองชอบอย่างไรก็ได้ หรือแม้แต่จะใส่ไส้ดินสอลงไปด้วยก็ยังได้
สำหรับในหมู่นักเรียนหรือครูอาจารย์ ก็อาจจะฮิตใส่ปากกาสีแดงลงไปเพื่อเวลาตรวจข้อสอบหรือเน้นความสำคัญของเนื้อหาบทเรียนได้เหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ สมัยนี้ยังมีปากกาที่มีลายการ์ตูนน่ารัก ๆ วางขายเต็มไปหมด ใครที่ชื่นชอบความน่ารักของตัวการ์ตูนล่ะก็ ห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ
ครั้งนี้เราได้แนะนำดินสอกดยอดนิยมกันไปแล้ว ทุกคนชอบกันไหมคะ?
ถ้าขืนเรายังดันทุรังใช้ดินสอกดที่ไม่เข้ากับเราต่อไปแล้วล่ะก็ ถ้าวันไหนประสิทธิภาพของการทำงานหรือผลการเรียนร่วงหล่นลง ก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าเป็นความผิดของดินสอหรือของตัวเราเองกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ หลังจากที่ได้อ่านบทความของเราแล้ว ก็ขอให้ทุกคนลองเลือกหาดินสอที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองดู รับรองได้ว่าดินสอใหม่ที่เหมาะกับเรามากกว่าเดิม คงให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปได้แน่ ๆ เลยล่ะค่ะ