สุดยอด 4 เป้อุ้มเด็ก น่าใช้ เหมาะกับยุคไฮเทค อัพเดทล่าสุดปี 2567

พบกับส่วนลด โปรโมชั่น ราคาถูก มีให้เลือกหลากหลาย - โปรส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง จัดเต็มกับโปรโมชั่นมากมาย พร้อมส่วนลดแบบจุกๆ ลดพิเศษสูงสุดมากถึง 70% พลาดไม่ได้ ต้องร้านแนะนำของเราเท่านั้น
วันนี้ถ้าหากท่านสนใจ ราคาถูกมาก เราขอแนะนำ เป้อุ้มเด็ก  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง เป้อุ้มเด็ก  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งไว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากเป้อุ้มเด็ก มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง เป้อุ้มเด็ก และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา เป้อุ้มเด็ก วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ เป้อุ้มเด็กยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

ในยุคสมัยนี้ แทนที่จะนั่งเมื่อยหลัง เมื่อยแขนเวลาที่อุ้มลูกเป็นเวลานาน ๆ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้เริ่มหันมาใช้เป้อุ้มเด็กกันมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้งานที่สะดวกสบาย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว ไม่ต้องแบกรถเข็นให้เป็นภาระ ปัจจุบัน เป้อุ้มเด็กที่ได้รับความนิยมในเมืองไทยก็มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ เช่น Aprica, BABYBJORN เป็นต้น แถมแต่ละแบรนด์นั้นก็ยังดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความถนัดของเหล่าคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะอุ้มด้านหน้าหรือจะสะพายหลัง ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อนั้นยากขึ้นไปอีกระดับ

บทความในวันนี้ เราจึงจะมาให้ข้อมูลวิธีการเลือก อีกทั้งแนะนำเป้อุ้มเด็ก (แบบอุ้มด้านหน้าได้เป็นหลัก) ที่ขายดีในตอนนี้ รวมถึงอธิบายข้อดีของเป้อุ้มเด็กลักษณะต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อให้ผู้ปกครองทั้งหลาย โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรกค่ะ

'เป้อุ้มเด็ก' โดยเฉพาะแบบสะพายด้านหน้ามีจุดเด่นสำคัญที่แตกต่างจากแบบสะพายหลังตรงที่ คุณแม่-คุณลูกจะมองเห็นกันตลอดเวลา และสะดวกกว่าเพราะคุณแม่สามารถนั่งในขณะอุ้มลูกได้ ทำให้อุ้มเป็นเวลานานหรือพาเดินออกข้างนอกได้อย่างสบาย


คุณแม่หลายคนอาจเคยโดนบอกว่าไม่ควรอุ้มลูกมาก เพราะเดี๋ยวลูกจะติด แต่อย่าลืมนะคะว่า 'การอุ้ม' คือ การสื่อสารสำคัญที่จะเป็นตัวเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกได้อย่างดีเลยค่ะ การมีเป้อุ้มเด็กก็จะช่วยให้อุ้มเจ้าตัวน้อยได้นานขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องระวังท่าที่ใช้อุ้มด้วย เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ วันนี้ เราจึงนำวิธีการอุ้มเด็กที่เหมาะสมมาฝากกัน ติดตามอ่านกันต่อได้เลยค่ะ !

ต่อจากนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเป้อุ้มเด็กแบบด้านหน้า และตอบคำถามที่เหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่สงสัยกัน เช่น ควรใช้เป้อุ้มเด็กเมื่อไหร่? ใช้จนลูกอายุกี่ขวบ? ใช้อย่างไร? เป็นต้น จะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ !

เป้อุ้มเด็กแบบอุ้มด้านหน้ายังสามาถแบ่งตามลักษณะการใช้งานใหญ่ ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ แบบสะพายและแบบเปล  ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะแตกต่างกันอย่างไร เราได้อธิบายไว้ด้านล่างนี้แล้วค่ะ

เป้อุ้มเด็กแบบสะพายมีจุดเด่นอยู่ที่ความคงทนแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้หลายท่าในชิ้นเดียว โดยมีทั้งการอุ้มแบบหันหน้าเข้าหาตัวผู้อุ้ม, อุ้มในท่านอน, อุ้มหันออกด้านหน้า, อุ้มเข้าสะโพก และสะพายหลัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เป้อุ้มเด็กแบบสะพายที่วางขายอยู่จะเปลี่ยนท่าทางการอุ้มได้ 3 ถึง 5 ท่า เรียกได้ว่า รองรับการใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้คนอุ้มมากเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากนี้ บางรุ่นบางยี่ห้อยังมีสายรองตรงบริเวณสะโพก จึงช่วยถ่ายเทน้ำหนักของทารกจากบริเวณบ่าไปยังสะโพกของผู้อุ้มได้ ทำให้อุ้มด้นานขึ้นโดยที่ร่างกายไม่รู้สึกเมื่อยล้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีปัญหาปวดแขน หรือปวดไหล่เวลาต้องอุ้มลูกน้อยเป็นเวลานาน ๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ต้องปรับท่าทางการอุ้มได้หลากหลาย จึงทำให้เป้มีขนาดใหญ่ พับเก็บได้ยาก และพกพาไม่ค่อยสะดวก เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้วิธีการเดินบ่อย ๆ เวลาออกนอกบ้านหรือตอนไปเที่ยวต่างประเทศ

เป้อุ้มเด็กแบบเปล (Sling) เป็นเป้ที่มีลักษณะเป็นผ้าห่อหุ้มตัวทารกเอาไว้ ไม่มีฟองน้ำนิ่ม ๆ ซัพพอร์ตเหมือนเป้อุ้มเด็กแบบสะพาย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้มือของผู้อุ้มเป็นตัวซัพพอร์ต ส่วนในด้านดีไซน์นั้น หากเทียบกับเป้อุ้มเด็กแบบสะพายแล้ว มักดูสวยงามเรียบง่ายกว่า จุดเด่นของเป้ชนิดนี้ คือ สะดวกต่อการให้นมลูก จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่อยู่ในระยะให้นมบุตรค่ะ

นอกจากจุดเด่นที่กล่าวไปแล้ว เป้แบบสลิงยังสามารถพับให้มีขนาดเล็กได้ คุณจึงพกไว้ในถุงย่ามหรือพกติดไปในเบบี้คาร์ได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม หากใช้เป้อุ้มเด็กชนิดนี้ไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ เช่น เกิดการเคลื่อนที่ของกระดูกสะโพกของทารก ทารกหายใจไม่ออก หรือทำทารกลื่นตกได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องมีการใช้งานอย่างระมัดระวัง รวมทั้งศึกษาคู่มือการใช้ให้ละเอียดรอบคอบด้วยค่ะ

เป้อุ้มเด็กจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นต้องพิจารณาจากอายุของเด็ก สำหรับทารกแรกเกิด ให้เลือกเป้อุ้มเด็กประเภทนอนราบเนื่องจากคอของทารกวัยนี้ยังไม่แข็งแรงพอ หากคุณแม่ไม่ได้มีโอกาสที่ต้องพาลูกน้อยออกไปข้างนอกบ่อย แนะนำว่าให้รอจนลูกชันคอได้ก่อน ซึ่งจะมีช่วงอายุราว ๆ 3 เดือน แล้วค่อยซื้อเป้ที่ใช้กับเด็กอายุ 3 เดือนจึงจะคุ้มค่ากว่า

มาถึงตรงนี้ ผู้ปกครองหลาย ๆ คนคงจะคิดว่า ทำไมไม่ซื้อแบบที่ใช้งานได้จนถึงตอนลูกอายุ 3 ขวบ ไปเลยล่ะ จะได้ประหยัดเงินตั้งแต่ครั้งแรก แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมนะคะว่า ในขณะเดียวกันทารกก็มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา ส่งผลให้ท่าทางในการอุ้มต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย เป้ที่คิดว่าใช้งานได้นานอาจไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของลูกเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อตัวเด็ก เราขอแนะนำให้ซื้อเป้อุ้มเด็กตามอายุและขนาดของเด็กจะเหมาะสมที่สุด

ลักษณะท่าทางในการอุ้มของเป้อุ้มเด็กแบ่งได้ออกเป็น 5 ท่าทางด้วยกัน

  • อุ้มแนวนอน (แบบนอนราบ)

  • อุ้มแนวตั้งแบบหันหน้าทารกเข้าหาผู้อุ้ม

  • อุ้มแนวตั้งแบบหันหน้าทารกออกทางด้านหน้า

  • อุ้มเข้าสะโพก

  • สะพายหลัง

นอกจากเป้อุ้มเด็กแบบอุ้มด้านหน้าอย่างเดียวแล้ว บางผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ตามท้องตลาดจะมีท่าทางการอุ้มที่แตกต่างกันหรือสามารถใช้อุ้มได้หลายแบบในตัวเดียว คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่รองรับท่าทางการอุ้มในแบบที่ถนัด ต้องศึกษารายละเอียดของสินค้าให้ดีและใช้งานด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับลูกน้อยของคุณค่ะ

เด็กทารกจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าผู้ใหญ่และมีเหงื่อออกง่ายกว่า ยิ่งเมืองร้อนแบบบ้านเราด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ร้อนและเหงื่อออกง่ายเข้าไปใหญ่ เพื่อปกป้องลูกน้อยจากการเกิดผดผื่นจากความอับชื้น จึงขอแนะนำว่า หากเป็นไปได้ให้เลือกเป้ที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นตาข่ายเพราะช่วยระบายอากาศได้ดี แถมยังลดปัญหาอบอ้าวและกลิ่นอับชื้นได้อีกด้วย

พูดได้โดยรวมว่าท่าทางที่เหมาะสมในการใช้เป้อุ้มเด็กแบบสะพายหน้าอุ้มลูกน้อยก็คือ ต้องอยู่ในท่าที่เหมือนกับการอุ้มด้วยมือเปล่านั่นเอง เพราะหากอุ้มไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดการปวดหลัง ปวดไหล่ หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แนะนำให้ลองตรวจสอบดูว่า คุณอุ้มลูกในท่าทางที่ถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า โดยทำการสังเกตว่า

  • ขาของเด็กกางเป็นรูปตัว M หรือไม่
  • ตัวเด็กอยู่ในระดับที่ผู้อุ้มสามารถก้มหอมตรงหน้าผากเด็กได้หรือไม่
  • ก้นของเด็กอยู่ในระดับที่เหนือกว่าสะดือของผู้อุ้มหรือไม่

นอกจากนี้ อย่าลืมเช็กด้วยว่ารูปร่างของเป้เข้ากับสรีระของผู้อุ้มหรือไม่ มีส่วนซัพพอร์ตที่ช่วยลดการเมื่อยล้าด้วยก็จะยิ่งดีค่ะ หากใครซื้อตามร้านค้าออนไลน์ ก็อย่าลืมหารีวิวอ่านเยอะ ๆ ไว้เป็นข้อมูลอีกทางนึงด้วยนะคะ

เป้อุ้มเด็กรุ่นนี้จะใช้เป็นเป้ก็ได้หรือถอดเป้เป็น Hip Seat ก็ได้ค่ะ คงต้องยอมรับว่าสำหรับ Hip Seat ทั่วไป พอให้ลูกนั่งไปนาน ๆ แล้ว อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกเมื่อยเอวและหลังได้ แต่ของ Fico รุ่นนี้ตรงแนวเข็มขัดจะค่อนข้างกว้าง น้ำหนักของเด็กจึงกระจายออกไปได้ทั่ว ทำให้คนอุ้มรู้สึกสบาย ไม่ปวดเอวหรือหลังแม้อุ้มเป็นเวลานาน ซึ่งเวลาที่หลินพาลูกออกมาข้างนอกคนเดียวก็มักจะใช้เป้อุ้มค่ะ เดินเที่ยวกันทั้งวันกลับมาก็ไม่ค่อยเมื่อย

ข้อดีอีกอย่างของรุ่นนี้คือเหมาะกับคุณแม่ผ่าคลอดด้วยค่ะ เพราะมีการเพิ่มฟองน้ำหนาพิเศษ ให้ความรู้สึกนุ่มกระชับและสบายตัวกว่า แถมยังมีเข็มขัดใต้อกและสายเป้ที่ให้สัมผัสหนานุ่ม ช่วยกระจายน้ำหนักจากเข็มขัดที่รัดรอบเอวและท้องมายังจุดอื่น ๆ ของร่างกาย จึงทำให้คุณแม่ที่ผ่าคลอดก็ใช้เป้อุ้มนี้ได้ค่ะ

หลังจากที่ได้รู้วิธีการเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กไปแล้ว เราก็จะขอนำเสนอเป้อุ้มเด็กที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศมาฝากกันอีกด้วยค่ะ

เป้อุ้มเด็ก Baby Sling สำหรับทารกแรกเกิด – 10 kg สะพายได้ 2 ท่าทาง คือ แนวนอนสำหรับทารกแรกเกิดที่ยังไม่สามารถชันคอได้ และท่าอุ้มเข้าเอวสำหรับเด็กที่คอเริ่มแข็งแล้ว สะดวกสำหรับคุณแม่ที่ให้นมหรือใช้ตอนป้อนอาหารลูกน้อย นอกจากนี้ ตัวเป้ยังมีการพัฒนาให้ปรับความยาวสายได้ง่ายโดยใช้เพียงแค่มือเดียว จัดเก็บสะดวกและเหมาะแก่การพกพาไปใช้ในยามเดินทาง

แต่เนื่องจากเป้มีสายพาดบ่าข้างเดียว หากอุ้มเป็นเวลานาน อาจมีโอกาสทำให้เมื่อยไหล่ได้เช่นกัน จึงแนะนำให้ใช้กับทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักไม่มากหรือไม่ได้อุ้มเป็นเวลานานค่ะ และเพื่อความปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีการใช้งานให้ดีก่อนใช้จริง
เป้อุ้มเด็กรุ่นนี้ ไม่ได้มาในรูปแบบของเป้ แต่มาในแบบห่วงผ้า 2 ห่วงคล้องกัน ทำจากผ้า Cotton 100% ที่นุ่มสบายผิวและระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด – เด็กอายุ 1 ขวบครึ่งที่มีน้ำหนักไม่เกิน 16 kg หากคุณแม่จะให้นมลูกจากเต้าก็ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องหาผ้าอะไรมาปิดคลุมเพิ่มความยุ่งยาก

คุณแม่ที่ไม่เคยใช้เป้แบบนี้ ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่ายุ่งยากและเป็นกังวล แต่หากใช้งานจนชินแล้ว จะพบว่าสวมใส่ง่ายเหมือนเสื้อยืด ไม่ต้องพันเองเหมือนแบบสลิงรุ่นอื่น สามารถกระจายน้ำหนักเพื่อลดความล้าบริเวณไหล่ได้ เปลี่ยนท่าอุ้มได้ถึง 5 แบบ จัดเก็บและพกพาได้สะดวก อีกทั้งยังซักทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
เป้อุ้มเด็กที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% ช่วยให้ระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักเบา ใช้ได้กับเด็ก 6 เดือนขึ้นไปจนถึงประมาณ 3 ขวบ รับน้ำหนักได้สูงสุด 9.5 kg มาพร้อม Hood ที่พับเก็บได้ใช้ปิดป้องกันรังสี UV จากแสงแดดหรือใช้บังลม บังฝุ่นเวลาที่ลูกน้อยของคุณหลับ นอกจากนี้ ยังมีช่องให้คุณแม่ใส่กุญแจหรือกระเป๋าสตางค์เวลาไปซื้อของใกล้ ๆ บ้าน

มี Hipseat เบาะนุ่มไม่กดหน้าท้องคนอุ้ม สายสะพายกว้างถึง 80 mm ผ่อนแรงในการอุ้มได้ดี ใช้งานได้หลายรูปแบบคือสะพายด้านหน้าในแนวตั้ง ทั้งแบบเด็กหันหน้าเข้าหาผู้อุ้มและหันออก หรือจะสะพายหลังก็ได้ ถูกใจคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน
เป้อุ้มเด็กบางรุ่นอาจมีส่วนโฟมบริเวณที่รองรับน้ำหนักก้นของลูก ซึ่งส่วนนี้อาจกดทับบริเวณท้องของคุณแม่ได้ ซึ่งถ้าหากคุณแม่คลอดลูกโดยการผ่าตัดอาจเจ็บแผลได้ แต่เป้อุ้มเด็กจาก Punnita รุ่นนี้ ออกแบบมาให้ Hip Seat มีขอบเอวที่นุ่ม ไม่กดทับหน้าท้อง สามารถปรับเปลี่ยนการอุ้มได้ถึง 5 ท่า ไม่ว่าจะเป็นท่านอน หันหน้าเข้า-ออก อุ้มเข้าสะโพก และสะพายหลัง

ข้อดีอีกอย่างคือ สามารถพับเก็บได้สะดวกเป็น Pocket Seat มีขนาดกะทัดรัดเท่ากระเป๋าสะพายข้างใบหนึ่ง และรองรับน้ำหนักได้ถึง 18 kg เหมาะแก่การพกพาไปท่องเที่ยว คุณภาพดีแถมยังราคาไม่แพงแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องรีบไปจับจองกันแล้วค่ะ

เป้สีสวย ดีไซน์น่ารัก ราคาไม่แรงแต่มีฟังก์ชันครบครันมากกว่าที่คิด สามารถใช้กับเด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ รองรับน้ำหนักได้สูงสุดที่ 20 kg วัสดุทำจาก Polyester บวกกับผ้าฝ้ายที่ช่วยให้สบายผิว ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ใช้อุ้มได้ถึง 5 แบบ


มีสายแบบสะพายไขว้แบบเฉพาะของแบรนด์ช่วยกระชับและเสริมแรงในการอุ้มมากขึ้น ตัวเบาะนั่งมีตัวกันลื่น และออกแบบองศาเอียงพอเหมาะป้องกันลูกน้อยพลัดหล่น มีกระเป๋าใส่ของหลายช่องถูกใจคนสัมภาระเยอะ ช่องด้านหน้าหากไม่ใช้ใส่ของแล้วถอดออกจะเป็นผ้าตาข่ายช่วยระบายอากาศได้ด้วย

เป้อุ้มเด็กแบรนด์ยอดนิยมที่ใช้งานได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงอายุ 4 ขวบ รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 kg ปรับเปลี่ยนการอุ้มได้ถึง 4 ท่าทาง มีโครงสร้างที่ทำจากผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี พร้อมมี Hood ป้องกันรังสี UV เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเมืองร้อนอย่างประเทศไทยเรา

การออกแบบทางแบรนด์ได้ร่วมมันกับนักสรีรศาสตร์เพื่อให้การใช้เป้ไม่ส่งผลเสียกับข้อต่อของเด็ก ขาไม่โก่งและถูกสรีระของผู้อุ้มทำให้อุ้มได้นาน ป้องกันการปวดหลัง แม้จะไม่มีเบาะโฟมแต่ก็มีข้อดีที่ทำให้พับเก็บพกพาได้ง่ายกว่า ส่วนเรื่องราคาค่อนข้างสูง จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานเป็นประจำทุกวัน
ใช้งานกับลูกน้อยได้ตั้งแต่อายุ 0 - 3 ขวบ (ไม่ต้องใช้ Baby Insert เพิ่ม) รองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 15 kg เรียกได้ว่าใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่า โดยเป้รุ่นนี้ได้รับการคิดค้นร่วมกับกุมารแพทย์ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลเสียต่อสรีระของลูกน้อยอย่างแน่นอน ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ถึง 4 ท่าทางด้วยกันคือหันหน้าเข้าตัว หันหน้าเข้าหาตัวแบบมีแผ่นรองคอของทารกแรกเกิด หันหน้าออกและสะพายหลัง

ผ้าด้านในที่ต้องสัมผัสกับผิวของลูกน้อยผลิตจาก Cotton 100% บริเวณส่วนอื่นๆ จะเป็น Polyester และ Cotton ผ่านการการันตีว่าวัสดุทุกส่วนไม่เป็นอันตรายต่อผิวอันบอบบางของทารก มีสายสะพายไหล่ที่หนาทำให้ผู้อุ้มไม่เมื่อย สามารถสวมใส่และถอดออกได้ด้วยตัวเอง ถือว่าสะดวกอย่างมากสำหรับคุณแม่คุณพ่อที่อยู่บ้านหรือออกไปไหนเพียงลำพัง
จุดเด่นของเป้แบรนด์เกาหลีตัวนี้อยู่ที่เนื้อผ้า Organic Cotton 100% ซึ่งมีผิวสัมผัสนุ่มมาก ปราศจากสารเคมี จึงปลอดภัยต่อผิวของลูกน้อย ตัวล็อกด้านหลังของผู้อุ้มมีแผ่นรองกันเจ็บเวลาที่นั่งพิงเก้าอี้ สายสะพายหนาช่วยให้ไม่เจ็บบ่า มี TPU Band ทำหน้าที่พยุงหลังของผู้อุ้มให้ตรงขณะอุ้ม ลดความเจ็บปวดเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน หากอากาศร้อนก็สามารถเปิดซิปด้านหน้าออกเพื่อช่วยระบายอากาศ นอกจากนี้ยังมีแผ่นซับน้ำลาย 3 ชิ้นและหมวกให้อีก 2 ใบ

ใช้ได้กับเด็กทารกแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี ใช้อุ้มได้ 2 แบบ คือแบบหันหน้าเข้าหาผู้อุ้มและแบบ Hip Seat หรือเบาะรองนั่ง ตัว Hip Seat เบาแต่เข็งแรง ออกแบบให้เป็นมุมเอียง 30 องศา ป้องกันเด็กขาโก่ง ปลอดภัยเพราะมีผ้ากันลื่นติดไว้ บริเวณขอบสัมผัสโคนขาเด็กบุด้วยผ้าชนิดที่นุ่มเป็นพิเศษ จึงไม่เสียดสีให้เกิดเป็นแผล ผู้ใช้จริงต่างการันตีว่าใช้แล้วไม่ปวดหลัง อุ้มลูกได้ตลอดทั้งวัน
เป้ที่ใช้สำหรับเด็กแรกเกิด ถึง 4 ปี รับน้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 20 kg สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ตามความต้องการ รองรับลักษณะการอุ้มได้หลากหลายถึง 8 รูปแบบ รวมทั้งมี Hipseat ที่ให้เด็กน้อยนั่งสบายและสายรัดเอวช่วยให้คนอุ้มไม่ล้า เนื้อผ้าเป็นผ้า Polyester ซึ่งให้ความรู้สึกเย็นสบายนุ่มผิวและกันน้ำได้ระดับหนึ่ง

จุดเด่นอีกอย่างที่แตกต่างจากรุ่นอื่น คือ มีช่องใส่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จำเป็นพกพาไปได้ เพิ่มความสะดวกเวลาที่คุณพ่อคุณแม่อยากพาน้องไปเดินเล่น มีให้เลือก 2 สีแบบเรียบ ๆ แต่ขึ้นชื่อว่า Enfant แล้วล่ะก็ เน้นคุณภาพที่ไว้ใจได้แน่นอนค่ะ
เป้อุ้มเด็กที่เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดถึงเด็กอายุ 3 ปี (น้ำหนักไม่เกิน 20 kg) ผลิตจากวัสดุกันน้ำและลม ด้านในเป็นผ้าฝ้ายออร์แกนิกอ่อนโยนต่อผิวเด็ก มีจุดเด่นตรงที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ถึง 9 ท่าทางด้วยกัน โดยเอา Carrier มาประกอบเข้ากับ Hip Seat ก็จะได้เป็น Hip Seat Carrier เหมือนกับรวมเอา 3 ฟังก์ชันการใช้งานมาไว้ในหนึ่งผลิตภัณฑ์ จุดเด่นถัดไปคือ เสียงที่เงียบเวลาใส่หรือถอดเป้จึงไม่รบกวนเวลานอนหลับของลูกน้อย

บริเวณซิปด้านหน้าเมื่อเปิดออกจะเป็นผ้าตาข่าย ช่วยให้เด็กรู้สึกเย็นสบาย สายสะพายไหล่และเอวยังออกแบบมาอย่างแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอีกหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานได้แก่ ผ้าคลุมศีรษะ ส่วนรองคอ ช่องกระเป๋าใส่ของด้านหน้าที่มีพื้นที่ใหญ่พอสมควร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีลูกหลายคน เพราะสามารถใช้งานได้ยาวนานและเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับ 10 อันดับ เป้อุ้มเด็กขายดีที่เราคัดสรรมาให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จะเห็นได้ว่าแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและดีไซน์ที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ดีไซน์และคุณสมบัติเพียงอย่างเดียว คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาขนาดตัวและอายุของลูกน้อย รวมทั้งเลือกซื้อให้ตรงกับลักษณะการใช้งานและกิจวัตรประจำวันของคุณพ่อคุณแม่เองด้วย

นอกจากนี้เรายังแนะนำให้ทดลองใช้ก่อนซื้อหรือศึกษารีวิวจากพ่อแม่ท่านอื่นให้มากที่สุด เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย ไม่ใช่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้งานแล้วแขวนไว้เฉย ๆ จะทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้ค่ะ และที่สำคัญ เมื่อซื้อมาใช้แล้วควรหมั่นซักทำความสะอาดให้ดีโดยเฉพาะส่วนที่เลอะน้ำลายของลูก จะได้ไม่มีเชื้อโรคเข้าสู่ปากเด็กและเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดีของครอบครัวนะคะ