สุดยอด 10 ซอสหอยนางรม น่าใช้ เหมาะกับยุคไฮเทค อัพเดทล่าสุดปี 2567

ชวนคุณมาช้อปออนไลน์กับสินค้าคุณภาพดี จากหลากหลายแบรนด์ดัง ช๊อปออนไลน์กับร้านแนะนำของเรา ช้อปรับส่วนลดมากมาย มีคูปอง การชำระเงินที่ปลอดภัย ส่งด่วน มีโปรจัดส่งฟรี
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ ซอสหอยนางรม  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง ซอสหอยนางรม  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
หากคุณกำลังมองหาซอสหอยนางรมพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมซอสหอยนางรมชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ ซอสหอยนางรม ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ ซอสหอยนางรม ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

“ซอสหอยนางรม” หรือเราเรียกติดปากกันว่า น้ำมันหอย หนึ่งในเครื่องปรุงที่คนไทยรู้จักกันดี เพราะแทบจะอยู่ในทุกเมนูผัด ไม่ว่าจะคะน้าผัดน้ำมันหอย, ข้าวผัดหรือผัดผัก เรียกได้ว่าไม่รู้จะปรุงอะไรก็ใส่ซอสหายนางรมไปก่อนเลย เดี๋ยวก็อร่อยเอง แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่าบางสูตรเขาไม่ได้มีไว้ผัดนะคะ แต่ใช้เป็นซอสราดบนอาหารต่างหาก เอาล่ะสิ ตอนนี้ทุกคนคงกำลังคิดว่าที่ผ่านมาเราใช้ผิดหรือเปล่านะ ถ้าพลาดไปแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ เราซื้อใหม่ได้ วันนี้ผู้เขียนเลยนำ “วิธีการเลือก” มาให้อ่านกัน จะได้ไม่พลาดซื้อผิดสูตรมาอีก

หลังจากนั้นมาดู “7 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบระหว่างคุณสมบัติ, ราคาและรีวิว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อ ซึ่งทั้งหมดจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลยค่ะ
เกริ่นกันไปพอสมควรแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เห็นซอสหอยนางรมแต่ละยี่ห้อมีสีน้ำตาล หน้าตาเหมือน ๆ กันอย่างนี้ ใช่ว่าเขาจะมีรสชาติอร่อยและตอบโจทย์การใช้งานของเราได้เหมือนกันไปซะหมดนะคะ แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันพอสมควรเลย ซึ่งเวลาเลือกซื้อ เราควรคำนึงถึงรายละเอียดอย่างไรบ้าง ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
ในบรรดาเครื่องปรุงทั้งหลายที่อยู่คู่กับครัวไทย ซอสหอยนางรมจัดเป็นเครื่องปรุงที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ แทบทุกบ้านจะต้องมี และแน่นอนว่าไม่มีใครไม่เคยทานอาหารที่ปรุงด้วยซอสนี้ แต่เพื่อน ๆ รู้ประวัติของซอสนี้กันไหมเอ่ย คงไม่เคยอ่านกันใช่ไหมคะ วันนี้เรามาทำความรู้จักเขากันหน่อยดีกว่า
ซอสหอยนางรมหรือน้ำมันหอย ทำมาจากหอยนางรมและปรุงด้วยส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความกลมกล่อม มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้มและค่อนข้างข้น ถูกคิดค้นเมื่อปีค.ศ. 1888 โดย “Lee Kum Sheung” เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในฮ่องกง ซึ่งเขาได้สูตรมาด้วยความบังเอิญ เพราะเดิมตั้งใจจะต้มซุปหอยนางรม แต่เคี้ยวนานเกินไปจนลืม สุดท้ายเลยงวดเป็นซอสอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วประเทศจีนและขยายมาถึงประเทศไทยนั่นเองค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วคนไทยนิยมใช้ซอสหอยนางรมปรุงอาหารประเภทผัดและราดบนเมนูอาหารต่าง ๆ แต่นอกเหนือจากนี้ยังสามารถนำไปปรุงรสชาติน้ำซุปราเมนได้ด้วยนะคะ ใครที่หลงรักการทานอาหารญี่ปุ่น อย่าลืมไปลองทำกัน
อย่างที่เรากล่าวไป ซอสหอยนางรมแต่ละยี่ห้อมีรสชาติไม่เหมือนกัน บางรุ่นเค็มไป ในขณะที่บางรุ่นกลับหวานเกินไป ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้เองที่ทำให้เหมาะกับปรุงอาหารที่ต่างกัน รุ่นที่มีสีเข้มข้นและรสค่อนข้างเค็มเหมาะกับการราดซอส ในขณะที่รุ่นที่มีรสออกหวาน สีอ่อนหรือเหลวกว่าเหมาะกับการผัด เพราะจะได้สีที่สวยกว่าและรสชาติที่ไม่จัดเท่า อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ
ตอนนี้สิ่งที่หลายคนสงสัย คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารุ่นนั้น ๆ มีรสชาติอย่างไร เพราะไม่สามารถชิมได้ วิธีแก้ปัญหานั้นไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เราดูอัตราส่วนของวัตถุดิบต่าง ๆ นำมาเปรียบเทียบกันหลาย ๆ ยี่ห้อ เพียงเท่านี้ก็พอจะไกด์ไลน์เราได้แล้ว ถ้าใครต้องการรสเค็มหรือได้ความเป็นหอยนางรมมากหน่อย แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีอัตราส่วนของหอยนางรมมากกว่ารุ่นอื่น ๆ ในทางกลับกันถ้าชอบรสหวานให้เลือกรุ่นที่มีอัตราส่วนของน้ำตาลเยอะกว่าแทนนะคะ
ไม่ได้หมายความว่าเลือกรุ่นที่ปริมาณเยอะแต่ราคาถูกอย่างเดียวนะคะ แต่หมายถึงปริมาณที่คุณสามารถใช้หมดได้ภายในระยะไม่นานด้วย เพราะวันเวลาที่ระบุไว้ที่ขวดคืออายุของซอสหอยนางรมเมื่อไม่เปิดขวดเท่านั้น แต่ถ้าเปิดแล้ว อากาศจะสัมผัสกับซอส ทำให้เสียเร็วขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นใครที่กลัวว่าจะซอสจะเสียหรือหมดความอร่อย แนะนำให้แช่ตู้เย็นไว้นะคะ
หลายคนคงสงสัยว่าหลังจากเปิดขวดแล้วซอสจะอยู่ได้นานเท่าไร ข้อนี้ไม่สามารถระบุได้แน่นอนนะคะ ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการเก็บรักษาของแต่ละคน แต่ตามปกติแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน หรือถ้าใครเก็บรักษาดี ๆ อาจนานถึง 6 เดือนเลย โดยควรเลิกใช้เมื่อรสชาติของซอสจืดจางไปค่ะ
ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วว่าลักษณะของซอสหอยนางรมที่เหมาะกับการทำอาหารของตัวเองเป็นอย่างไร คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีซอสรุ่นไหนที่ตอบโจทย์ของเราได้บ้าง ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มต้นกันด้วยซอยหอยนางรมจากแบรนด์ที่เจ้าของร้านอาหารตามสั่งหลายร้านเลือกใช้ เพราะมีไซซ์ใหญ่ให้เลือกซื้อ ราคาย่อมเยาและคุณภาพยังคุ้มค่ากับราคา ผลิตจากหอยนางรมคุณภาพดี ผ่านกรรมวิธีที่สะอาดและปลอดภัย ได้รับมาตรฐานอย.การันตีส่วนผสมที่ใช้และตราเปิบพิสดารรับประกันรสชาติ ปัจจุบันมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ ตอบโจทย์ได้ทุกนักปรุงเลยค่ะ ซอสมีสีน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอม รสชาติไม่เค็มมาก เหมาะกับการผัดมากกว่าใช้เป็นซอสราด ผัดแล้วได้สีสวยน่ารับประทาน ไม่ดำเข้มจนเกินไป แต่แนะนำให้ใส่เยอะสักนิดนึงนะคะ เพราะรสชาติยังไม่เข็มข้นเท่าไรนัก
อีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจค่ะ โดยขวดนี้ผลิตมาจากหอยนางรมแท้ 100% คัดสรรมาเฉพาะตัวใหญ่ที่มีคุณภาพดีจากจ.ตราด แหล่งน่านน้ำที่กรมประมงรับรองว่าปลอดภัยจากสารไบโอท็อคซิน ก่อนจะนำไปรมควันด้วยเปลือกไม้สักเพื่อให้ได้กลิ่นหอม แล้วนำไปสกัดด้วยไอน้ำบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง โดยไม่ปรุงแต่งสารสังเคราะห์ใด ๆ เพิ่มเติม ก่อนจะถูกบรรจุลงในขวดแก้วและห่อหุ้มด้วยฉลากกันรังสี UV ที่จะทำปฏิกิริยากับซอส ได้รับมาตรฐาน GMP & HACCP ซอสมีสีน้ำตาลเข้ม กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เหมาะกับการผัด ได้สีสวย และที่สำคัญยังปลอดภัยต่อสุขภาพเพราะปราศจากผงชูรสและสี แต่ข้อเสียเล็กน้อย คือ ราคาค่อนข้างแพง
นอกจากจะมีซีอิ้วที่ครองใจคนไทยหลายคนแล้ว แบรนด์นี้เขาก็มีซอสหอยนางรมที่น่าสนใจด้วยนะคะ ซึ่งสูตรนี้ถูกคิดค้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้รสชาติหอยนางรมที่เข้มข้นขึ้น โดยผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย ได้รับมาตรฐานอย. นอกจากนี้ยังมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อ ไม่ว่าเจ้าของร้านอาหารหรือคนทั่วไปก็สามารถหาขนาดที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้ ซอสมีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ กลิ่นหอยนางรมชัดเจนและมีรสชาติเข้มข้น เหมาะกับการใช้เป็นซอสหรือหมักมากกว่าจะผัด แต่ถ้าใครไม่ชอบ แนะนำให้ลองใช้อีกรุ่นที่เป็นสูตรดั้งเดิมดูนะคะ
แมกกี้ เขาไม่ได้มีดีแค่ซอสแมกกี้นะคะ เขายังมีผลิตภัณฑ์ซอสหอยนางรมอีกด้วย ผลิตจากหอยนางรมแท้ 100% ที่คัดสรรมาจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังปราศจากคอเลสเตอรอล สามารถใช้ทำอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผัด หมัก สตูว์ หรือผสมกับเครื่องปรุงอื่น ๆ เพื่อให้ได้รสชาติอูมามิมากยิ่งขึ้น ซอสมีสีน้ำตาลเข้ม มีความข้นพอประมาณ มีกลิ่นหอมจากหอยนางรม นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายฮาลาลรับรอง สำหรับชาวมุสลิมหรือใครที่ทานหมูไม่ได้ หมดกังวลได้เลยค่ะ เพราะสามารถใช้ซอสหอยนางรมสูตรนี้ปรุงอาหารได้อย่างมั่นใจ
ใครที่รู้สึกว่าอันดับก่อนหน้านี้เข้มข้นมากเกินไป อยากได้ซอสที่เหมาะกับการผัดหรือปรุงน้ำซุปมากกว่า แนะนำให้ลองซื้อสูตรนี้ดูค่ะ เพราะไม่เข้มข้นเท่า โดยทำมาจากหอยนางรมแท้ 100% ผสมกับเครื่องปรุงอื่น ๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม ผ่านการสกัดที่สะอาดและปลอดภัยและมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อ ซอสสีน้ำตาลทอง ไม่ข้นมากนัก มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และรสชาติกลมกล่อมออกหวาน ผัดแล้วไม่ต้องปรุงเยอะ และยังได้สีที่สวยงามน่ารับประทานอีกด้วย ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจทีเดียว
ก่อนอื่นต้องบอกว่าลีกุมกี่มีซอสหอยนางรมหลายสูตรเลยนะคะ แถมแต่ละสูตรยังมีตราบนขวดต่างกันไป เวลาซื้อต้องระวังตรงจุดนี้ด้วย โดยรุ่นนี้เป็นสูตรสำหรับผัด สกัดมาจากหอยนางรมมากถึง 40% คลุกเคล้าเข้ากับน้ำตาล 20% และเพิ่มความเค็มด้วยเกลืออีก 8% นอกจากนี้ยังปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อ ซอสสีน้ำตาลเข้ม กลิ่นหอยนางรมชัดเจน เนื้อหนืดต้องเจือจางด้วยน้ำอุ่น รสชาติเข้มข้นออกเค็ม เวลาผัดไม่ต้องใช้เยอะถึงจะปรุงอาหารแล้วได้สีน่ารับประทาน
ตัวนี้สำหรับสายคลีนโดยเฉพาะ เพราะเป็นสูตรลดโซเดียม 60% โดยใช้เกลือโปแตสเซียม (เกลือชนิดเดียวกับที่พบในผักและผลไม้) ให้รสเค็มแทน พร้อมใช้ซอร์บิทอลทดแทนน้ำตาล และผลิตจากหอยนางรมแท้ ๆ ซึ่งสูตรนี้ถูกคิดค้นโดยสถาบันโภชนาการ ม.มหิดล เพื่อน ๆ จึงมั่นใจได้ว่าทานไปแล้วจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคความดันโลหิตสูง อัมพาตและหัวใจขาดเลือด นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย รุ่นนี้มีสีที่ค่อนข้างเข้ม เนื้อข้น กลิ่นหอมน่าทานและมีรสชาติกลมกล่อม เหมาะกับการใช้ราดซอสและหมักอาหาร อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะดูปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อนนะคะว่าโรคนั้น ๆ ที่คุณเป็นอยู่สามารถทานเกลือโปแตสเซียมได้หรือไม่
มาถึงซอสหอยนางรมอันดับ 1 ที่คนไทยหลายคนเลือกซื้อ เพราะมีราคาถูกและรสชาติถูกปาก สกัดมาจากหอยนางรมแท้ 30% พร้อมปรุงรสด้วยซีอิ๊ว 28.80% น้ำตาลอีก 10.10% และส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความน่ารับประทานและยืดอายุ เหมาะกับการผัดอาหาร นอกจากนี้ยังมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อ ตอบโจทย์ทั้งครัวเรือนและร้านอาหาร หลายคนที่ใช้จริงต่างบอกว่าซอสมีสีน้ำตาลทอง ค่อนข้างใส หนืดเล็กน้อย รสชาติออกหวาน เวลาปรุงต้องใส่เยอะนิดนึงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ และต้องปรุงเพิ่มอีกเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมถูกปากคนทาน
คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้ซอสหอยนางรมปรุงอาหารประเภทผัดอย่างเดียว แต่เครื่องปรุงชนิดนี้สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายมากกว่าที่คุณคิดนะคะ โดยมีอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลย
เริ่มต้นกันด้วยการทำอาหารที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ซอสหอยนางรมมักใช้ปรุงอาหารประเภทผัดผักทั้งหลาย แต่น้อยคนเหลือเกินที่จะปรุงได้อร่อย เคล็ดลับอยู่ที่การเหยาะซอสหอยนางรมแทนซีอิ๊วเล็กน้อยและเติมเกลือลงไปนิดหน่อย ส่วนใครที่อยากได้รสชาติแบบอาหารจีน แนะนำให้ใส่กระเทียมลงไป โดยมีขั้นตอนการทำอย่างละเอียดดังนี้เลยค่ะ

  1. ลวกผักให้พอสุกแล้วสะเด็ดน้ำพักไว้

  2. ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่กระเทียมลงไป

  3. เทผักที่ลวกไว้ลงไปแล้วผัดให้สุกกว่าเดิมเล็กน้อย

  4. ใส่ซอสหอยนางรม เกลือและน้ำตาลตามความชอบ

  5. คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วตักขึ้นเสิร์ฟ

เคล็ดลับการเลือกชนิดผัก : ไม่ใช่ผักทุกชนิดจะผัดน้ำมันหอยอร่อยนะคะ โดยชนิดที่เหมาะกับการผัด ได้แก่ มะเขือม่วง, ผักกาดหอม, ฟักทอง, บร็อคโคลี่, มันฝรั่ง, กระหล่ำปลี, แครอท, พริกไทย และหัวหอม
นึกไม่ถึงเลยใช่ไหมคะ แต่ซอสหอยนางรมสามารถใช้ปรุงอาหารประเภทย่างได้ด้วยเหมือนกัน อย่างในประเทศไทยจีนจะนิยมใช้ปรุงรสเต้าหู้ย่างเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ถ้าใครไม่ชอบทานหรือไม่ถนัดย่างเต้าหู้จะเปลี่ยนไปย่างไก่แทนก็ได้นะคะ โดยวิธีทำง่ายนิดเดียว แค่ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่ปีกไก่ที่หมักเกลือแล้วเรียบร้อยลงไป จากนั้นปรุงด้วยซอสหอยนางรมและน้ำมันงา ทิ้งไว้สักพักให้ซอสซึมเข้าเนื้อไก่ แค่นี้ก็ตักเสิร์ฟได้แล้วค่ะ
นอกจากจะเป็นพระเอกในเมนูผัดต่าง ๆ แล้ว ซอสหายนางรมยังเป็นเครื่องปรุงช่วยชูรสชาติ เพิ่มความอร่อยให้กับเมนูอื่น ๆ อีกด้วยนะคะ ไม่ว่าจะสุกี้ แกงกะหรี่ หรือเนื้อสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะการหมักอาหาร เพราะไม่ว่าจะทำเมนูอะไรก็อร่อย เช่น ปีกไก่ทอด, หมูปิ้งหรือสเต็ก
เวลาไปทานร้านอาหารจีน หนึ่งในเมนูยอดฮิตที่หลายคนสั่ง คือ “คะน้าผัดน้ำมันหอย” ซึ่งแตกต่างจากผัดผักทั่วไปตรงที่ใช้วิธีลวกคะน้าให้พอสุก จากนั้นราดด้วยซอสหอยนางรม ช่วยเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น และนอกจากผักคะน้าแล้วยังมีผักอื่น ๆ อีกที่เข้ากับซอสได้ดี เช่น กวางตุ้ง ดังนั้นใครที่เบื่อการทานผักต้มแบบเดิม ๆ ลองไปทำทานกันดูนะคะ
จบจากบทความนี้ไป หลายคนคงรู้จักและเข้าใจลักษณะของซอสหอยนางรมมากขึ้น ทำให้เลือกซื้อรุ่นที่เหมาะกับการปรุงอาหารของตัวเองได้ถูก ซึ่งแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่รสชาติอาหารที่กลมกล่อมก็สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนทานได้ ทำให้อาหารมื้อนั้นกลายเป็นความทรงจำสุดพิเศษ
สำหรับวันนี้ผู้เขียนคงต้องลากันไปก่อน ต้องรีบไปสั่งคะน้าผัดน้ำมันหอยที่ร้านอาหารตามสั่งแถวบ้านแล้วค่ะ เพราะท้องชักเริ่มจะร้องแล้ว สงสัยนั่งเขียนบทความนี้นานเกินไปหน่อย สุดท้ายนี้ใครที่ชื่นชอบบทความนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านกันต่อ ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ